• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - PostDD

#3221



นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัท อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม จากปัจจุบัน ได้ลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ ซึ่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.ปี 2562 และปัจจุบันการดำเนินงานในโรงไฟฟ้าดังกล่าวก็เป็นไปด้วยดี และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานยุโรป อีกทั้งยังสะอาด ไม่มีกลิ่น และบริษัท คาดหวังให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโชว์รูมต้นแบบที่ตั้งอยู่กลางนิคมฯ แล้วเป็นที่ยอมรับของชุมชนในพื้นที่

ดังนั้น หากภาครัฐมีนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม บริษัทก็พร้อมที่จะขยายการลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมด้านที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าเดิมที่ยังสามารถขยายเพื่อรองรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมประเภทโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก หรือ VSPP ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ หรือ ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ต่อแห่ง ซึ่งจะก่อสร้างได้อีกอย่างน้อย 4 แห่ง หรือ มีกำลังการผลิตรวมไม่เกิน 40 เมกะวัตต์

บริษัทมั่นใจว่า พื้นที่ตรงนี้มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เพราะมีระบบสาธารณูปโภค มีสายส่ง และกระแสการตอบรับจากชุมชนก็ไม่มีปัญหา อีกทั้งโครงการที่ผ่านมาก็ทำได้ดี จึงคากว่าจะพัฒนาได้อีกหลายโครงการ



"เราเตรียมที่ไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอนโยบายรัฐบาลเปิดรับซื้อเพิ่ม อย่างน้อยพื้นที่รองรับได้อีก 4 โรงแต่จะเกิดได้จริงเท่าไหร่ ยังต้องรอดูนโยบายและปริมาณขยะในพื้นที่ด้วย"


นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ภาครัฐเตรียมทบทวนอัตราเงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed-in-Tariff) หรือ FiT สำหรับเชื้อเพลิงขยะว่า ปัจจัยดังกล่าวก็จะต้องนำมาคำนวณความเป็นไปได้ในการลงทุนในอนาคตด้วย เพราะหากปรับลด FiT ลงแล้ว ต้นทุนค่าก่อสร้างเป็นอย่างไร มีความคุ้มค่าในการลงทุนหรือไม่ ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะ ปกติแล้วจะมีรายได้จาก 2 ส่วน คือ รายได้จากการขายไฟฟ้า และรายได้จากค่ากำจัดขยะ โดยข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณาต่อไป


"จริงๆแล้วที่ผ่านมา การใช้ FiT ของภาครัฐ ก็คำนวณมาจากการลงทุนของภาคเอกชน เฉพาะหากรัฐจะปรับ FiT ลงก็มีความเป็นไปได้ เพราะต้นทุนเทคโนโลยีก็มีแนวโน้มลดลง แต่ก็เชื่อว่ารัฐจะพิจารณาอย่างรอบครอบ เพราะหาก FiT ต่ำไปก็จะไม่เอื้อให้เกิดการลงทุน"

สำหรับเม็ดเงินลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบัน คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ซึ่งจะสูงกว่าการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงประเภทอื่น เพราะจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงเพื่อดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม


ทั้งนี้ ในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ เป็นการลงทุนร่วมระหว่าง บริษัทดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) และ บริษัทสุเอซ (SUEZ) เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2560 กำลังการผลิตขนาด 8.63 เมกะวัตต์ ตามข้อตกลงการซื้อขายพลังงาน (power purchase agreement- PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่าการลงทุนในโครงการนี้ อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท หรือประมาณ 57 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ตามแผนพัฒนากาลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580. 12. ฉบับปรับปรุงครั้งที่1 (PDP2018 Revision 1) ทางกระทรวงพลังงาน กำหนดเป้าหมายจะรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม เพิ่มเติมอีก 44 เมกะวัตต์ จากแผน PDP เดิมมีการรับซื้อไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมไปแล้ว 31 เมกะวัตต์ หรือ รวมปลายแผนปี 2580 ประเทศไทยจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม รวมอยู่ที่ 75 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันนั้น ทางกระทรวงพลังงาน ยังไม่มีการประกาศนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม
#3222



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด ที่ได้ลงทุนในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น "ลินเดน โคเจน" ในสหรัฐอเมริกา ได้บรรลุข้อตกลงในการรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจนจากบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า

บริษัท ลินเดน ทอปโก้ จะปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซของโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ให้สามารถรองรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน จากโรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ (Bayway Oil Refinery) ของบริษัท ฟิลิปส์ 66 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อนำมาผสมเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่ใช้อยู่เดิม การปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 ส่งผลให้โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 สามารถรองรับการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมที่มีไฮโดรเจนผสมอยู่ได้สูงสุดถึง 40% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ปลดปล่อยปกติในแต่ละปี

ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานและเชื้อเพลิง อย่างบริษัท เจร่า อเมริกา จำกัด (JERA Americas Inc.) ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัท ลินเดน ทอปโก้ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ปยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงกังดง ในเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน การลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ทั้งโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน และโรงไฟฟ้ากังดงนั้น เอ็กโก กรุ๊ปมีเป้าหมายที่จะสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศของบริษัทในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีด้านนี้พัฒนาเต็มที่

"เอ็กโก กรุ๊ป เป็นบริษัทลำดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ส่งเสริมและสนับสนุนแผนการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าของประเทศ บริษัทมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงสะอาดมาผลิตไฟฟ้าและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง" นายเทพรัตน์กล่าว
#3223



ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เผยภาคภูมิใจหลังโชว์ฟอร์มในศึกโอลิมปิก ได้อย่างเด็ดขาดจนเข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้ายเป็นครั้งแรก พร้อมตั้งความหวังปราบนักชกคิวบา เพื่อเอาเหรียญทองแดงมาคล้องการันตีไว้ก่อน

รอบนี้ ฉัตร์ชัยเดชา เจอกับ เมียร์โก เจฮีล คูเอลโญ่ จากอาร์เจนติน่า ปรากฏว่านักชกไทยโชว์ประเคนหมัดได้อย่างเหนือชั้น ก่อนที่กรรมการตัดสินให้กำปั้นตัวเก๋าชนะ 4-1 เสียง ทำให้ ฉัตร์ชัยเดชา เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปเจอกับ ลาซาโร่ อัลบาเรซ จากคิวบา ดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิกที่ลอนดอน 2012 กับ ริโอ 2016 ซึ่งหากกำปั้นไทยเอาชนะได้อีกไฟต์ จะการันตีเหรียญทองแดงไปคล้องคอก่อนแล้ว

หลังจบไฟต์ กำปั้นไทยวัย 36 ปี เผยว่า "ถือว่าชกได้ตามเป้าที่วางไว้ เขาเป็นมวยไฟต์เตอร์ ชกระยะใกล้ได้ดี เราเลยใช้วิธีคือพยายามชกระยะห่าง และระวังศรีษะไว้แต่ก็มีพลาดจนได้ ถือว่าพอใจกับผลการแข่งขัน"

"ไฟต์ต่อไปชิงเหรียญทองแดง เจอกับนักชกจากคิวบา เป็นมวยซ้าย ชกยาว จังหวะฝีมือก็ดี เราก็ต้องคุยกับสตาฟฟ์เพื่อหาวิธีการชก รวมถึงไปแก้เกมบนเวที น่าจะสนุกครับ"

"โอลิมปิกครั้งนี้ก็ถือว่าดีที่สุดที่เคยชกเพราะที่ผ่านมามาถึงแค่รอบ 16 คน แต่ก็ยังหวังลึกๆ ว่าจะได้เหรียญรางวัลกลับบ้าน บอกเลยว่า 36 ยังแจ๋วครับ" เจ้าสด กล่าวด้วยรอยยิ้ม
#3224




เชื้อโควิด-19 โผล่อาละวาดในเมืองหนันจิง มณฑลเจียงซูทางภาคตะวันออกจีน โดยถือเป็นแหล่งแพร่ระบาดในจีนที่พบการติดเชื้อภายในท้องถิ่นมากที่สุด และดันจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศดีดตัวสูงในรอบครึ่งปีมานี้โดยล่าสุดในวันที่ 27 ก.ค. ผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวน 86 ราย

สำหรับการระบาดที่เมืองหนันจิง เริ่มพบเคสติดเชื้อในวันที่ 20 ก.ค.ที่สนามบินนานาชาติลู่โข่วโดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนงานทำความสะอาด อนึ่ง การฉีดวัคซีนของคนทำงานทั้งหมดกว่า 9,000 คนในสนามบินลู่โข่วมีอัตราครอบคลุมถึง 90.87 เปอร์เซนต์แล้ว

หนันจิงได้ลุยตรวจโควิด-19 ขนานใหญ่ ก็พบผู้ป่วยในท้องถิ่นมากขึ้นๆจาก 30 กว่ารายในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. เพิ่มเป็น 47 รายในวันที่ 27 ก.ค. หน่ำซ้ำยังเป็นเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าซึ่งมีลักษณะเด่นคือเป็นเชื้อที่ติดง่ายและรวดเร็วฉับไว นอกจากนี้การระบาดยังแพร่ไปอีกสี่มณฑลอย่างอย่างรวดเร็วราวติดจรวด ได้แก่ กว่างตง เสฉวน เหลียวหนิง และอันฮุย ในวันอาทิตย์(25 ก.ค.)ที่ผ่านมา หนันจิงได้ขยายเป็นการตรวจเชื้อฯผู้อาศัยในเมืองทั้งหมด 9.3 ล้านคน

การระบาดโควิดภายในเมืองหนันจิงช่วง 8 วันมานี้มีผู้ป่วยสะสมรวม 153 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ป่วยอาการเบา 81 ราย ผู้ป่วยอาการทั่วไป 68 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก 4 ราย ตัวเลขต่างๆเหล่านี้เมื่อเทียบกับยอดผู้ป่วยในประเทศอื่นๆถือได้ว่าต่ำมาก แต่ทว่า สิ่งที่ชาวจีนข้องใจและสงสัยกันมากที่สุด ก็คือกลุ่มผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดได้ฉีดวัคซีนกันไปแล้ว

"ทำไมคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ติดเชื้อฯได้"

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจีนได้ออกมาตอบข้อสงสัยดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่การวิจัยของศูนย์ควบคุมโรคระบาดแห่งจีน นาย เส้า อีหมิง ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน ว่าบทบาทหน้าที่ของวัคซีนแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่หนึ่ง คือป้องกันการติดเชื้อ คุ้มครองผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ให้ติดเชื้อโรค, ระดับที่สอง คือป้องกันหรือยับยั้งอาการป่วย ช่วยปกป้องผู้ป่วยอาการเล็กน้อยมีอาการทรุดหนักและเสียชีวิต, ระดับที่สาม คือหากเพิ่งมีสัญญาณการติดเชื้อโรค แต่ในร่างกายมีเชื้อในปริมาณน้อยมาก ก็ยากที่จะนำเชื้อไปติดผู้อื่น กล่าวคือเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อนั่นเอง

เส้า อีหมิง กล่าวว่า คุณค่าของวัคซีนจีนนั้นคือการป้องกันระดับที่สอง อัตราการคุ้มครองมุ่งไปที่การเกิดอาการป่วย ไม่ได้มุ่งไปที่การติดเชื้อ ดังนั้นจึงมีคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจำนวนหนึ่งที่อาจติดเชื้อได้



"จากการสังเกตการณ์เคสผู้ป่วยในกว่างตง รุ่ยลี่ ผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยรวมแล้วมีอาการเบาหรือเล็กน้อยเท่านั้น โดยโอกาสที่อาการจะทรุดลงไปเป็นอาการหนักนั้นมีอัตราที่ต่ำมากอย่างชัดเจน การดำเนินโรคมีระยะสั้นมาก ดังนั้นจึงพูดได้ว่าการฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพในการคุ้มครองอยู่" หยัง อี้ หัวหน้าแผนกผู้ป่วยอาการหนักของโรงพยาบาลจงต้า สังกัดมหาวิทยาตงหนัน

สื่อแดนมังกรอีกรายอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าวถึงการระบาดภายในท้องถิ่นหนันจิงซึ่งผู้ติดเชื้อกว่า 90 เปอร์เซนต์ฉีดวัคซีนแล้วว่า ขณะที่อัตราการคุ้มครองของวัคซีนไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์แต่ก็สามารถป้องกันผู้ติดเชื้อมีอาการทรุดหนักและป้องกันการเสียชีวิต อีกประการหนึ่งคือเชื้อที่ระบาดเป็นสายพันธุ์เดลต้ายิ่งทำให้ความสามารถในการคุ้มครองของวัคซีนลดลง

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ในเดือนก.ค.ปีที่แล้วที่มีการอนุมัติใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินนั้น การฉีดวัคซีนในจีนได้สั่งสมประสบการณ์ก้าวหน้าไปมาก แต่ยังไม่ไม่ถึงขั้นสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ขณะที่การแพร่ระบาดในหลายประเทศขยายวงกว้างไม่หยุดหย่อน ความคุ้มครองจากวัคซีนจึงเป็นที่ต้องการอยู่ ที่สำคัญคือไม่ว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดก็ตาม ผู้ที่อยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากและในสถานที่ปิด ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
#3225



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์   รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้  ผู้ประกอบการด้านขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ส่งออก ว่า  ขณะนี้การส่งออกมังคุดข้ามแดนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสบปัญหารถบรรทุกผลไม้ไทยติดค้างที่ด่านเวียดนามก่อนเข้าจีน ที่ด่านโหยวอี้กว่าน หลาย 100 คันเป็นเวลาหลายวัน จึงมีผลกระทบต่อการส่งออกมังคุดไปยังประเทศจีน ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วหลังจากทูตเกษตร-ทูตพาณิชย์ได้เจรจากับทางการจีนและร่วมกันแก้ปัญหาทำให้การจราจรเริ่มดีขึ้น

ทั้งนี้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกผ่าน"ด่านโหยวอี้กว่าน "  ซึ่งด่านนี้มีศักยภาพจำกัดเพราะมีช่องทางผ่านเต็มที่แค่ 67 ช่องทาง ทางการจีนประสงค์ให้ไทยไปใช้บริการที่ด่านตงซิงและด่านรถไฟผิงเสียงมากขึ้น หากไปใช้อีก 2 ด่านมากขึ้นจะได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำการอำนวยความสะดวกให้ เพราะ"ด่านตงซิง"ซึ่งเป็นด่านรถบรรทุกมีรถของไทยไปใช้บริการแค่วันละ 10-20 คัน ยังมีศักยภาพรองรับอีกเป็นจำนวนมาก  ตนจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์คุยกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยและผู้เกี่ยวข้องในการหาลู่ทางใช้"ด่านตงซิง"กับ"ด่านรถไฟผิงเสียง"มากขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ส่วนปัญหาเรื่องล้งรับซื้อผลไม้กับแรงงานที่ไปกับล้ง  เนื่องจากล้งส่วนใหญ่รับซื้อผลไม้อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ขณะนี้หมดฤดูแล้วซึ่งจำหน่ายได้ราคาดีมากถึงกิโลกรัมละ 100-200 บาท แต่ช่วงเวลานี้มังคุดภาคใต้ออกเยอะกว่าหลายปีที่ผ่านมากับเกิดการล็อกดาวน์จากปัญหาโควิด ล้งจากจังหวัดจันทบุรีพร้อมแรงงานติดปัญหาในการเคลื่อนย้ายไปที่นครศรีธรรมราชและชุมพรไม่ได้ จึงได้หารือร่วมกันกับผู้ว่าจังหวัดจันทบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร พร้อมกันผ่านทางโทรศัพท์ (Phon in)  โดยทั้ง 3 จังหวัดได้รับทราบปัญหาแล้ว และได้มีการดำเนินการอนุญาตให้ล้งและแรงงานจากจันทบุรีสามารถเคลื่อนย้ายไปรับซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดชุมพรจังหวัดอื่นๆที่ต้องการได้โดยมอบหมายให้ จัดหางานจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดร่วมกันดำเนินการซึ่งภาคเอกชนพอใจมากและตัวแทนล้งรวมทั้งสมาคมล้งแจ้งให้ทราบว่าหลังการประชุมจะรีบประชุมล้งในการรีบเคลื่อนย้ายล้งไปเพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 100 ล้ง

ส่วนมาตรการอื่น ๆก็ได้มีการสนับสนุนให้ล้งที่ไปรับซื้อหรือกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมมังคุดกิโลกรัมละ 3 บาท และสำหรับผู้รวบรวมส่งออกกิโลกรัมละ 5  จัดทำกล่องบรรจุมังคุด 200,000  กล่องไปให้ไปรษณีย์กับกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการ และจะร่วมรณรงค์ให้คนไทยบริโภคมังคุดมากขึ้น พร้อมประสานงานกับห้างโมเดิร์นเทรด เช่น แม็คโคร บิ๊กซีเทสโก้ รวมทั้งปั๊มปตท.และบางจากเปิดพื้นที่รับมังคุดจากเกษตรกรมาจำหน่าย   ใช้เกษตรพันธสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้ผู้ส่งออกหรือผู้ค้ามังคุดทำสัญญากับเกษตรกรล่วงหน้ามีเป้าหมาย 20,000 ตันขณะนี้ทำสัญญาล่วงหน้าแล้ว 17,600 ตัน นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ. 5 รณรงค์ขายมังคุด ผ่านแพลตฟอร์ม Ohlala shopping  และให้เซลล์แมนจังหวัดระบายมังคุดไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีการระบายแล้วทั้งพิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ช่วงที่ผ่านมาถึง 200 ตันและมาตรการสุดท้าย ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสินิตย์ เลิศไกร นำคณะเดินทางไปในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับจังหวัดร่วมกับกลุ่มเกษตรกรช่วยคลี่คลายปัญหา
#3226



นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ของภาครัฐที่เริ่มต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการนำร่องดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาที่เกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามติดอันดับโลก ซึ่งนอกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในภาคอื่นๆ ในพื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน โดยพฤกษาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาแล้วหลายโครงการ เพื่อสนองนโยบายของภล่าสุดจัดแคมเปญ "ลด! ช็อคทั้งเกาะ น็อคทุกค่าย"สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้าน รับลดสูงสุดถึง 700,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน, ฟรี!ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอนฯ และฟรีบริการ Internet AIS Fibre 1 ปี

สำหรับโครงการพฤกษาวิลล์พร้อมเข้าอยู่ 2 ทำเล ได้แก่ โครงการพฤกษาวิลล์ ถลาง-เทพกระษัตรี ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน สไตล์ Contemporary Modern สเปคเทียบเท่าบ้านเดี่ยว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งาน Flexi – Multi Space ได้อย่างอิสระ โดดเด่นด้วยทำเลติดเมืองถลาง ห่างจากถนนเทพกระษัตรี เพียง 900 เมตร ใกล้สนามบิน โลตัส, แม็คโคร, โฮมโปร ถลาง เพียง 15 นาที อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card และระบบประตูล็อก 2 ชั้น Check Point สะดวก ปลอดภัย ด้วยระบบ Card Scan กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่

โครงการพฤกษาวิลล์ เจ้าฟ้า-เทพอนุสรณ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์บาหลี รองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวด้วยแบบบ้านใหม่ 4 ห้องนอน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงสวนส่วนกลางที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบประตูระบบล็อก 2 ชั้น CCTV ตลอดทางเข้าหลักของโครงการ พร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน และ Security Guard ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองภูเก็ตเพียง 10 นาที ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอ่าวฉลอง หาดราไวย์ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง อาทิ คิงพาวเวอร์, เซ็นทรัลเฟสติวัล, อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์
#3227



นางสาวสภัทร์พร ธรรมาภรณ์พิลาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เข้าร่วมมาตรการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้กับลูกหนี้ตามความเหมาะสมเพื่อร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อ "พิโกไฟแนนซ์" มีจำนวนผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ  "พิโกไฟแนนซ์" และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 985 ราย ใน 75 จังหวัด ได้แก่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (579 ราย)
ภาคกลาง (161 ราย)
ภาคเหนือ (126 ราย)
ภาคตะวันออก (67 ราย)
ภาคใต้ (52 ราย)
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่ "กระทรวงการคลัง" ได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 553,974 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 12,698.10 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 22,921.83 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

เผยอดีตอันแสนเลวร้ายของผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศไทย...
BKK Delivery
ภารโรงได้เงินถึง 45 ล้าน เพราะเจอสิ่งนี้ในโถส้วม...
BKK Delivery
อื้อฉาว!หญิงวัย 58 มีใบหน้าเหมือนเด็ก นี่คือสิ่งที่เธอทำตอนกลางคืน
Women'sbeauty

(1) สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น885 ราย ใน 74 จังหวัดและมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 847 รายใน 74 จังหวัดโดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

นครราชสีมา (79 ราย)
กรุงเทพมหานคร (67 ราย)
ขอนแก่น (51 ราย)
(2) สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 156 รายใน 49 จังหวัดและมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 138 ราย ใน 45 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด3 อันดับแรก ได้แก่


นครราชสีมา (20 ราย)
อุดรธานี (9 ราย)
อุบลราชธานี และกรุงเทพมหานคร (จังหวัดละ 8 ราย)
(3) ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 198,217 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 4,233.97 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1 - 3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 27,432 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 627.87 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.83 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 32,440 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 748.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.67 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม


นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังคงดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาคีแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายซึ่งนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนสะสม 9,596ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2564 จำนวน 244 ราย

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมายได้โดยตรงที่


• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน1599
• ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567
• ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359
• ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) โทร.025753344
#3228



ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง 2021 พร้อมเผยถึงความก้าวล้ำของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ชี้ให้เห็นชัดว่ารูปแบบใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

งาน Samsung Galaxy Unpacked เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา ดร. ทีเอ็ม โรห์ ได้นำเสนอกลยุทธ์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบสมาร์ทโฟนอันทรงประสิทธิภาพแก่ผู้คนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราต้องการเทคโนโลยีที่ดีเพื่อการดำเนินชีวิตที่สะดวกและง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ โลกกำลังขับเคลื่อนไปในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมองหาอิสรภาพและโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอันแข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ลื่นไหลไร้รอยต่อ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวและความฉลาดล้ำยิ่งกว่าที่เคย และเชื่อว่าการสร้างระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) จะเป็นทางเดียวที่จะเร่งกระบวนการการสร้างนวัตกรรม ให้ผู้คนมีอิสระในการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด


ครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิม โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง


"ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทุกท่านจะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง" ดร.ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

เปิดประตูสู่โลกใหม่ด้วยซัมซุง กาแลคซี่

เขา บอกว่า โลกในปัจจุบันต้องการเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายและง่ายดายยิ่งขึ้น "ผู้คน" คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่แบรนด์ทำ เรารับฟังทุกความคิดเห็นของผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าดีไวซ์รุ่นใหม่เป็นนวัตกรรมที่มีความหมาย และเติมเต็มการใช้ชีวิตด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น กล้องระดับมืออาชีพ หน้าจอที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน หรือแม้กระทั่งระบบการรักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง ที่สะท้อนให้เห็นได้ว่า ซัมซุงมุ่งเน้นที่จะมอบสิ่งที่ผู้คนต้องการอย่างแท้จริง

ระหว่างทางของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เราได้ค้นพบมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ อย่าง Samsung Galaxy Fold โดยหลังจากการส่งรุ่นแรกสู่ตลาด เราไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะเรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ดังที่ทุกคนคงได้เห็นใน Galaxy Z Fold2 และ Galaxy Z Flip ที่มาพร้อมจำนวนหน้าจอที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงฟีเจอร์อันหลากหลายที่ผู้ใช้รักและชื่นชอบ โดยทางซัมซุงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ของซัมซุงในเจเนอเรชันที่ 3 นี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่ของการใช้งานแบบมัลติทาส์กกิ้ง (Multitasking) ที่มาพร้อมกับความแข็งแรงทนทานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

ดินหน้าขยายพันธมิตรเพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์

การร่วมมือกับพันธมิตร คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในโลกแห่งการเชื่อมต่อที่หลายคนมองหาระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) ที่มาพร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัย สำหรับซัมซุงแล้ว นโยบาย "การเปิดกว้าง" และ "ความปลอดภัย" เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ

การจับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google และ Microsoft ช่วยให้สามารถส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการใช้งานในโลกที่เชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลา โดยซัมซุงยังคงเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัย เพื่อทำหน้าที่ดูแลอุปกรณ์และข้อมูลของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการแอปพลิเคชัน ข้อมูล และความเป็นส่วนตัว เพื่อออกแบบประสบการณ์ในแบบฉบับของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

การได้ร่วมงานกับพันธมิตร ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลทฟอร์มบนอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับ Google ซึ่งนอกจากแอปพลิเคชันที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Samsung Health และ SmartThings แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกมากมายบน Google Play Store อีกทั้งอินเทอร์เฟซบนหน้าปัดของ One UI Watch ใหม่นี้ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในตระกูลกาแลคซี่ เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างกาแลคซี่วอทช์และสมาร์ทโฟนซัมซุง

ที่สำคัญ เรายังร่วมงานกับ Google เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ด้วยแอปพลิเคชันและบริการยอดนิยม ทั้งนี้ สำหรับ Galaxy Z เจเนอเรชันที่ 3 เราได้รวบรวมแอพพลิเคชันมากมายจากเหล่าพันธมิตรที่จะช่วยดึงประสิทธิภาพอันรอบด้านของรูปทรงสมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลแบบแฮนด์ฟรีผ่าน Google Duo การดูวิดีโอด้วย Flex Mode บน YouTube หรือการมัลติทาส์กกิ้งใน Microsoft Teams เพื่อผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่เหนือชั้นและราบรื่นกว่าที่เคย

ยุคใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนมาถึงแล้ว

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold ที่กำลังจะเผยโฉมในครั้งนี้ ได้ผสานสุดยอดนวัตกรรมที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่อย่างสิ้นเชิง พลิกโฉมรูปแบบการทำงาน การเชื่อมต่อสื่อสาร และการสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมดีไซน์ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันและทนทาน ด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เราเชื่อว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยียุคใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทโฟน

เราได้สร้างมาตรฐานใหม่และบุกเบิกโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับผู้ใช้จำนวนมากขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Z และแชร์โมเมนต์ที่น่าทึ่งร่วมกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกของปากกา S Pen ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการนำฟีเจอร์อันโดดเด่นของ Galaxy Note มาสู่อุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ของซัมซุง แทนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Note รุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้
#3229



สืบมาไม่ใช่อย่างนั้นไม่เข้าข้างใครขอพูดเป็นกลาง หลังจาก เต๋า ทีวีพูล โพสต์เปิดประเด็นความแตก น้ำ มิสแกรนด์ แฉ ณวัฒน์ ติดเชื้อโควิดจากสตูดิโอดัง หลังโดนตลก ต. ชวนให้ไปออกรายการ แคปชั่นว่า คาดติดเกิอบ40รายแต่ปิดข่าว พร้อมทั้งยังคอมเมนต์ตอบคนในโพสต์รัวๆ อาทิ ใครพูดว่าติดโดนออก , ช่องที่ลุงดูก็ติดโควิดนะลุง ข่าวนี้คนสงสัยมานานแล้ว ลุงแก่ๆควรพัก นั้น

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่า ส่วนตัวที่ผมรู้มา ได้ยินมามันไม่ใช่ มุมของผมกับมดดำ (คชาภา) เห็นด้วยเหมือนกันว่าไม่น่าใช่ที่จะเป็นอย่างนั้น พอทราบข่าวผมก็เช็คข่าว ก็สืบมาก็ไม่ใช่อย่างนั้น


ในนั้นไม่ได้เอ่ยว่าตุ๊กกี้ติด แต่เขาบอก ดาราตลก ต. เป็นคนชวนไป ถามจริงๆ ตุ๊กกี้ (ชิงร้อย) จะชวนไปได้ยังไง มันไม่ใช่ พูดตรงๆ พี่ณวัฒน์ (อิสรไกรศีล) ก็ไปขายของ พูดเป็นกลางจริงๆเลยนะ ตุ๊กกี้จะชวนพี่ณวัฒน์ไปขายของที่นั่นเหรอ ก็ไม่ใช่ ตุ๊กกี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องผ่านเอเจนซี่ พูดแบบนี้ไม่ชัด ไม่น่าใช่

ถ้าเขาพูดมาแบบนี้ก็ต้องรอดูหลักฐาน ต้องเอาหลักฐานมาว่ากันว่าจริงหรือเปล่า เรื่องแบบนั้นพูดลอยๆไม่ได้นะ มันมีเรื่องความเสียหายองค์กรเขา เสียหายไปอีกหลายคน มันไม่ใช่มาพูดว่าที่นี่ที่นั่น เราพูดเป็นกลางที่สุดไม่ได้ข้างใดข้างหนึ่ง เราตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแบบนี้

ด้าน มดดำ กล่าวว่า ไม่เห็นมีใครติด ตุ๊กกี้ก็ไม่ติด พูดกันตรงๆ เวิร์คพอยท์ตรวจทุกวัน ตรวจหนักกว่าเราอีก ทั้งแรพิดฯ ทั้งพีซีอาร์ถามว่าบริษัททุกที่มีคนติดกันทั้งนั้น ใครติดก็แยกรักษา แต่ติดคลัสเตอร์ 40 คนต้องมีข่าวหรือเปล่า ดาราติดคนหนึ่งมีใครไม่รู้บ้าง องค์กรเขาเป็นตลาดหลักทรัพย์เขาฟ้องได้นะ
#3230



เมื่อวันที่ 26 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสมาพันธ์นิสิตนักศึกษานานาชาติแห่งประเทศไทย (International Federation of Medical Students' Associations : IFMSA) จัดงานประกาศผลการตัดสินการประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ภายใต้โครงการ Thailand Youth Policy Initiative (TYPI) เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเยาวชนและวัยทำงาน อายุ 16-30 ปี เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 120 คน ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดรวม 30 ผลงาน สำหรับประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาและตัดสินอย่างรอบคอบ โดยผู้ได้รับรางวัล Best Innovation ได้แก่ ทีม People Matter (PM 4.0 ) ชื่อผลงานแพลตฟอร์มดิจิทัลสาธารณะ เพื่อการจัดการมาตรการ PM2.5 แบบชี้เป้า และรางวัลชนะเลิศ 3 รางวัล ได้แก่ 1.ทีมDustsappear 2. ทีมAirtopia และ3.ทีมทางของฝุ่น


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ เนื่องจากมีการก่อสร้างพัฒนาเมืองตลอดเวลา รวมถึงการเผาไหม้ของรถบนท้องถนน จากข้อมูลการประมาณการณ์ความเสียหายจากฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปี 2563 พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องฟอกอากาศ ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว และค่าเสียโอกาสของภาคธุรกิจ การประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งนี้ ผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดทุกคน ถือเป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับโอกาสต่อยอดผลงานถูกนำไปใช้งานได้จริง และขยายผลต่อไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ต้นเหตุ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนได้ในระยะยาว


ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษา30ทีมที่เข้าร่วม และนำเสนอนวัตกรรมวันนี้ เชื่อว่าเราจะได้นโยบายสาธารณะที่ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ได้จากการช่วยกันคิดนวัตกรรมของคนหลายวัย หลายสาขาจะเป็นประโยชน์กับประเทศ รวมถึงขอให้มีการศึกษาวิจัยเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากคือการนำโนยายสาธารณะที่เป็นสากลของประเทศตะวันตกมาใช้นั้นต้องเรียนว่าใช้ได้เพียงเล็กน้อย เพราะบริบทของประเทศไทยกับตะวันตกมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการทำนโยบายสาธารณะจะต้องมีการศึกษาบริบท วัฒนธรรมของประเทศเราเองด้วย เช่น นโยบายสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวกับ PM 2.5 ต้องทราบว่าส่วนหนึ่งมาจากการเผาไหม้ทางการเกษตรในพื้นที่ชนบท รวมถึงเกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ที่เราต้องเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และให้ประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้


ศ.พิเศษ ดร.เอนก กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของช่วงวัย (Generation) ซึ่งตนยินดีต้อนรับคนรุ่นใหม่เสมอ ดังนั้น การที่เราได้ตระหนักว่าเราอยู่ในวัยไหนแล้วรู้ว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร แล้วนำมาปรับเข้าหากันเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยก็พัฒนาขึ้นมากจากเมื่อก่อน มีเป้าหมายต่อจากนี้ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับบน ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เช่นอีกไม่นานประเทศไทยก็จะผลิตวัคซีนป้องกันโควิดได้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ไม่ได้แตกต่างกับที่ต่างประเทศทำอยู่


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดค่ามาตรฐานของฝุ่น PM2.5 ที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพอยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในประเทศไทยกลับพบฝุ่น PM2.5 ที่ 50-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามากกว่ามาตรฐานเกือบ 2 เท่าตัว กลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศต้นเหตุสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินทางใจ สสส. ตระหนักถึงผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 มุ่งขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ต้องเร่งแก้ไขแบบองค์รวม ทั้งการปลูกจิตสำนึกส่วนบุคคล การสร้างความสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมของคนในสังคม เพื่อร่วมแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นการออกกฎ ระเบียบบังคับใช้เท่านั้น


ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า สสส. สนับสนุนการสร้างเมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพจากพลังคนรุ่นใหม่ที่สำคัญของประเทศ เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้เป็นรูปธรรม และขยายผลไปสู่การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ผ่านมา สสส. แก้ปัญหาฝุ่นควันภายใต้แนวคิด 3 ข.คือ 1.เขย่า คิดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมธงสุขภาพ สีฟ้า เขียว เหลือง ส้ม แดง ใช้คู่กับเครื่องวัดค่าฝุ่น แจ้งเตือนให้คนในพื้นที่รู้ระดับคุณภาพอากาศ ดำเนินการใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งลดเสี่ยงต่อสุขภาพ 2.ขยับ นำสิ่งใหม่ที่คิดไปปรับใช้จริงตามบริบทของแต่ละพื้นที่และ 3.เขยื้อน ขยายผลจากระดับปัจเจกหรือระดับพื้นที่ นำไปสู่การผลักดันนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วน โดย สสส. ร่วมกับสภาลมหายใจ 8 จังหวัดภาคเหนือ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทำงานอย่างทุ่มเท สามารถแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดความร่วมมือและเปลี่ยนแปลงค่านิยมในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ หากทุกพื้นที่นำแนวคิด 3 ข. ไปปฏิบัติได้สำเร็จสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในพื้นที่ได้.
 
#3231



สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในฐานะนักแสดงที่ก้าวไปสู่ระดับฮอลลีวู้ดอีกหนึ่งคน สำหรับ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล พระเอกชื่อดังที่ก่อนหน้านี้ได้ไปสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ในประเทศจีน จนมีชื่อเสียงโด่งดังมาแล้ว


ล่าสุด ไมค์ พิรัชต์ มีโอกาสได้ร่วมเป็นหนึ่งในแสดงนำของภาพยนตร์ THE MISFITS พร้อมกระทบไหล่ดาราแถวหน้าอย่าง เพียร์ซ บรอสแนน หรือ เจมส์บอนด์ 007 ในตำนานที่คนไทยรู้จักกันดี วันนี้ ไมค์ เปิดใจกับทาง "ข่าวสดบันเทิงออนไลน์" ถึงเส้นทางและผลงานเรื่องแรกในระดับฮอลลีวู้ด พร้อมอัพเดตผลงานที่จีน และวางแผนเรื่องเงิน น้องแม็กซ์เวลล์ ในอนาคต

หนัง The Misfits เข้าฉายที่อเมริกามาได้หนึ่งเดือนกว่าๆ แล้ว ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง? "ตอนนี้น้องสาวผมอยู่ที่อเมริกาก็ไปดูมา เขาก็บอกว่าฟีดแบ็กก็ค่อนข้างดี แล้วก็ที่ทีมงาน The Misfits ส่งมาก็มีบางที่ที่ตั๋วหมดแล้วคือจองเต็ม แล้วก็ตามพวก Video on Demand พวกอเมซอนอะไรพวกนี้ก็มีขึ้นอันดับหนึ่งด้วย"



โล่งใจหรือใจชื้นขึ้นมาเลยไหม? "จริงๆ ก็โล่งใจประมาณหนึ่ง ที่ตรงนั้นเขาเปิดได้ทันเวลาพอดี พอหนังเข้าปุ๊บคนเขาก็คงอาจจะไม่ได้ไปโรงหนังนานก็เลยเข้าไปดูกัน แต่คืออย่างของที่ไทยตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าโรงฉายเมื่อไหร่ เพราะต้องดูสถานการณ์ต่อไปก่อน"

คาแร็กเตอร์ในภาพยนตร์เรื่อง The Misfits เป็นอย่างไร? "ตัวละครตัวนี้ชื่อว่า "วิค" เขาเป็นฝ่ายเทคโนโลยีของกลุ่มนี้ เป็นคนประดิษฐ์ระเบิดและเขาก็เป็นคนที่ชอบทำอะไรเกี่ยวกับระเบิด"



ส่วนตัวพอใจมากน้อยแค่ไหน? "ถือว่าดีเลย พอใจในระดับหนึ่ง แล้วก็คิดว่ามันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเปิดตลาดใหม่ด้วยครับ (ถ้าไม่ติดโควิด ต้องไปโปรโมตหนังที่อเมริกาด้วยไหม?) ที่คุยกับทางทีมเขาไว้ก็คือว่าถ้ามีการเดินพรมแดงหรือเปิดตัวหนังเขาก็อยากให้ไป แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ก็คือไม่สามารถไปไหนได้เลย แอบเสียดาย จริงๆ 2ปีที่ผ่านมามีหลายโอกาสที่เสียไปค่อนข้างเยอะ"

ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเบิกทางที่สวยงามของตัวเองไหม? "ใช่ครับ เป็นเหมือนกับการเปิดประตูใหม่ๆ ให้กับโอกาสทางการงานของไมค์ด้วย แล้วก็การได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับท็อปๆ ของฮอลลีวู้ดก็ทำให้ตลาดนี้เปิดกว้างขึ้นด้วย"



เคยท้อบ้างไหม? "ท้อเป็นเรื่องปกติ แต่แค่ไม่ยอมแพ้เท่านั้นเอง มันท้อหลายๆ เรื่องอยู่แล้วครับ ทั้งเรื่องของตัวเองด้วย ทั้งเรื่องของการงาน ทั้งเรื่องของหลายๆ อย่าง แต่โดยส่วนตัวคิดว่าตราบใดที่เรายังไม่ยอมแพ้ยังไงมันก็ต้องมีวันหนึ่งที่มันเป็นวันของเรา"

ความยากที่สุดในหนังเรื่องนี้? "ด้วยความที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องแรกที่เป็นหนังพูดภาษาอังกฤษของไมค์ ความยากคือเรื่องภาษานี่แหละ เพราะมันไม่ใช่ภาษาแม่ของเราด้วย เราอาจจะไม่ได้ชิ้นลิ้นเพราะเราไม่ได้เกิดหรือโตที่โน่น มันก็อาจจะต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะหน่อยในการที่จะให้สำเนียงไปได้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ"



นักแสดงที่ต้องเข้าฉากด้วย ตัวเราตื่นเต้นแค่ไหน? "ตื่นเต้นมากครับ ตอนที่ไปเจอครั้งแรกคือเหมือนเราได้เห็นนักแสดงอย่าง เพียร์ซ บรอสแนน เขาคือเจมส์ บอนด์007 ที่เราเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก แล้วพอได้ไปเจอตัวจริงมันก็เหมือนกับเป็นความฝันของเราที่อยากจะร่วมงานกับดาราฮอลลีวู้ดคนนี้ด้วย พอได้ไปเจอเราก็ตื่นเต้น จำได้เลยว่าตอนจับมือเราก็มือสั่นๆ นิดหน่อย"

ถือเป็นรางวัลของความไม่ท้อของตัวเอง? "ใช่ๆ มันอาจจะใช้เวลานานหน่อย คือจริงๆ มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก ซึ่งมันก็กลายเป็นเป้าหมายของเราในชีวิต แล้วพอเราทำให้มันเกิดขึ้นมันก็กลายเป็นความจริงของเรา ซึ่งเราก็ได้ไปถึงจุดนั้น แล้วก็คาดว่าก็คงอยากจะไปต่อในอนาคต"




ได้เข้าบทกับใครมากที่สุด? "เพียร์ซ บรอสแนน ครับ ในกองจะพูดคุยกันค่อนข้างเยอะ เพราะเราไปถ่ายกันที่ดูไบด้วย จะมีไปแฮงเอาต์กันด้วย ซึ่งในแต่ละวันค่อนข้างเร็ว เลยจะมีช่วงเวลาที่แต่ละคนสามารถไปแฮงเอาต์"

เพียร์ซมีทาบไมค์ร่วมงานในครั้งต่อไปไหม? "อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าเขามาชวนก็ยินดีแน่นอน เพราะอย่างเรื่องนี้เขาก็เป็นเอ็กเซ็กคูทีฟ โปรดิวเซอร์ด้วย"



เก็บเกี่ยวประสบการณ์อะไรจาก เพียร์ซ บรอสแนน มาบ้าง? "ด้วยความที่ได้เข้าฉากกับเขาค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวผมเองค่อนข้างเกร็ง เขาเลยค่อนข้างให้กำลังใจ เป็นคนที่ให้พลังบวกกับกองถ่ายเยอะ เวลาเขาอยู่ใกล้ๆ ทำให้เราเกิดความมั่นใจมากขึ้น ทำให้การแสดงของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น และเกร็งน้อยลง"

ไมค์คาดหวังหรือวางเส้นทางในวงการฮอลลีวู้ดไว้อย่างไรบ้าง? "ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังเลยครับ ผมเชื่อว่าถ้าทำไปเรื่อยๆ ผลลัพธ์ของการกระทำของเรามันก็จะพาเราไปสู่จุดที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ เราตั้งเป้าไว้แค่นี้แต่มันอาจจะไปได้ไกลกว่านั้น อยู่กับปัจจุบัน และพยายามทำต่อไป"



เขินไหมเวลาที่คนเรียกเราว่าเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด? "โดยส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้ขนาดนั้น ผมรู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น ซึ่งยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะไปต่อในเส้นทางไหน"

แล้วงานในประเทศจีนตอนนี้ยังมีอยู่ไหม? "จริงๆ มีอยู่เรื่อยๆ คือว่าผมไม่ได้กลับจีนมาประมาณ 2 ปีแล้ว จริงๆ แพลนไว้ว่าปลายปีที่แล้วจะกลับไปรับงานที่เมืองจีน แต่เพราะติดงานเลยยังกลับไม่ได้ บวกกับเรื่องสถานการณ์หลายๆ อย่างมันก็กลับไม่ได้ เอาจริงๆ 2 ปีนี้ เสียโอกาสไปค่อนข้างเยอะมากเลย เนื่องจากมีงานใหม่ๆ ที่ต้องปฏิเสธไปเพราะไปไม่ได้"



วันเกิดแม็กซ์เวลล์ที่ผ่านมาเห็นโอนเงินไปให้น้องด้วยหลายคนชมคุณพ่อว่าน่ารัก? "คือผมแค่มองว่าตอนนี้สถานการณ์มันเป็นแบบนี้มันไม่มีอะไรการันตีว่าในอนาคตมันจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นเราก็ไม่มีวันรู้หรอกว่าในอนาคตงานเราจะยังเป็นแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า คือมันจะยังดีแบบนี้อยู่หรือเปล่า หรือเราจะมีงานทำต่อหรือเปล่า"

"ผมเลยต้องการันตีด้วยตัวเองว่า ในอนาคตลูกผมเนี่ยจะต้องมีเงินตรงนี้ไว้สำหรับการศึกษาของเขา การใช้ชีวิตของเขา เนื่องในวันเกิดของเขาเนี่ยก็เลยเอาเงินฝากเข้าไปอยู่ในบัญชีที่ผมฝากประจำอยู่แล้วของแม็กซ์เวลล์ การันตีว่าในอนาคตเนี่ยต่อให้ผมไม่มีงานแล้ว ต่อให้ผมรายได้น้อยลงหรืออะไร เงินตรงนี้ยังเป็นเงินที่สามารถที่จะทำให้เขาไปต่อได้ในอนาคตครับผม"



หลายคนชื่นชมว่าในสถานการณ์ตอนนี้เราก็ไม่ได้มีรายได้เยอะ แต่เราก็ยังนึกถึงลูก? "คือจริงๆ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนแทบไม่ค่อยใช้เงินกับเรื่องจุกจิกอยู่แล้วครับ ช็อปปิ้งก็ไม่ค่อยเรื่องกินก็นานๆ ทีถึงจะกินที่แพงๆ เลยคิดว่าเงินเราตอนนี้ก็คือนอกจากเงินบริษัทจ่ายทีมงานแล้วมันก็ไม่ได้ใช้ทำอะไรมากมาย เลยคิดว่าช่วยอะไรได้ก็ช่วยไป"

"เงินส่วนไหนที่เก็บได้เซฟได้เผื่ออนาคตก็เซฟไปครับ เงินส่วนลงทุนก็เป็นอีกก้อนหนึ่งก็ต้องแบ่งและบริหารเรื่องการเงินให้ดีๆ เพราะว่าเงินก็ไม่ได้หาง่ายๆ เราก็ยิ่งสถานการณ์แบบตอนนี้เรายิ่งควรต้องระมัดระวังในการใช้เงินด้วย ผมก็เลยต้องวางแผนในระยะยาวเอาไว้แบบนี้"



ฝากผลงาน? "ฝากหนังด้วยแล้วกันนะครับผมถ้ามันเข้าฉายก็ฝากด้วย เผื่อใครเครียดๆ ก็ไปดูหนังคลายเครียดได้ The Misfits ก็เป็นหนังที่ค่อนข้างตลกแล้วก็เอนเตอร์เทนใช้ได้พอสมควร ยังไงก็ฝากด้วยครับ"
#3232
น้ำมันว่านสาวหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยมให้ทุกขวด  ขวดละ 299 บาท
เป็นว่านสาวหลงที่ทรงคุณค่าในทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงสุด ถือกันว่าเป็นสุดยอดของว่านทางเสน่ห์มหานิยม ที่ไม่สามารถหาว่านชนิดอื่นใดมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว ถ้าผู้ใดมีว่านนี้ปลูกไว้ในบ้านเรือนก็จะเป็นสิริมงคลเป็นยอดเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้นๆ ด้วย ท่านให้เอารากของว่านนี้มาฝนหรือบดผสมกับสีผึ้ง หรือแช่น้ำมันจันทน์ หรือเพียงแต่เอารากของว่านนี้ถือติดตัวไป ผู้คนทั้งปวงก็จะพากันงวยงงหลงรักใคร่ในผู้ที่มีว่านหรือทาน้ำมันหรือสีผึ้งที่เข้าว่านจนหมดสิ้นคาถา กำกับมะอะอุ พุทธะสังมิ จิเรรุนิ นะชาลิติ ปิยังมะมะ(ท่องเจ็ดจบ แล้วอธิษฐาน)ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

  ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย
หรือติดต่อได้ที่ โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า   
https://www.lazada.co.th/products/-i1867990020-s5770410635.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store&mp=3
#3233
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#3234


"อีอีซี"เปิดเวทีเสวนาระดมความคิดจากกูรูด้านเศรษฐกิจระดับตำนานชั้นแนวหน้าไทย และบิ๊กเอกชน ร่วมถอดแนวคิด "อีสเทิร์นซีบอร์ด"ต่อยอดสู่ความสำเร็จ "อีอีซี"กับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก หวังดันการลงทุนปีละ 6 แสนล้านบาท หนุนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2572

เมื่อเร็วๆนี้สำนักงำนคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "จาก ESB สู่ EEC กับ การเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ระดับโลก" ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) นำโดย ดร.เสนาะ อูนากูล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธามูลนิธิเสนาะอูนากูล และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

โดยมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูง จากภาคเอกชน นักธุรกิจชั้นนำใน เมืองไทย เช่น นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธาน คณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BDMS นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการเสวนามากกว่า 70 คน

การจัดเสวนา ฯ ครั้งนี้ ฉายภาพแนวคิดของการพัฒนาโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" (ESB) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 – 2529) ซึ่งเป็นช่วงการพัฒนาประเทศที่สำคัญของไทย โดยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในสมัยนั้น และได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกว่า 30 ปีก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีความต่อเนื่องมายังแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 9.3%

ซึ่งแนวคิดจากแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบสำคัญเพื่อเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งพบผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใกล้เคียงกับในอดีต

นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ในปัจจุบัน ยังได้นำแนวคิด และต่อยอดเพิ่มสิ่งที่ได้รับจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่สำคัญ ๆ เช่น แนวคิดให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยการมี พ.ร.บ. และสำนักงานอีอีซี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบินอู่ตะเภา ขยายท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง ลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและเงินกู้ ด้วยสัญญา PPP ที่โปร่งใส รัดกุม และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น 5G ระบบโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างงานให้เยาวชนในพื้นที่
มีรายได้ดี รวมทั้ง ทำงานกับท้องถิ่น กลุ่มสตรี เยาวชน เพื่อให้โครงการอีอีซีอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


พร้อมกันนี้ อีอีซีจะปรับแผนทำงานให้หนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปจากโควิด ทั้งนี้ จากการประมาณการ พบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนอีกปีละ 6 แสนล้านบาท เพื่อดึงเศรษฐกิจให้ขยายตัว 4.5 – 5% ให้ไทยก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาได้ในปี 2572

สำหรับการเสวนาดังกล่าว ภาคเอกชน และนักธุรกิจชั้นนำ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ และการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ที่ อีอีซี พร้อมดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว


ทั้งนี้การสรุปข้อมูล และการถอดบทเรียนที่ได้รับจากการเสวนาฯ ในครั้งนี้ สกพอ. จะได้นำข้อมูล ชุดความรู้ที่ได้รับประกอบการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์เขตพัฒนาพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกประเทศไทย (EEC Learning Center /EEC Museum) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก และพร้อมจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจได้ศึกษาถึงความเป็นมาของ อีสเทิร์นซีบอร์ด และการพัฒนาอีอีซี ที่จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาประเทศ ต่อไป
#3235
ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ผลิตและก็จัดจำหน่ายลูกชิ้นภายในจังหวัดพิษณุโลกมานานกว่า 50 ปี เป็นลูกชิ้นหมูและ ลูกชิ้นเนื้อวัว เป็นธุรกิจ รุ่นสู่รุ่น ที่ นาย ย้งจุ้ย แซ่โต๋ว นำสูตรจากเมืองโผวเล้ง ประเทศจีน มาทำลูกชิ้นขายที่เมืองพิษณุโลกจนกระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดัง ของเมืองพิษณุโลกเป็นอย่างดี โดยนำวัตถุดิบท้องถิ่น มาแปรรูปเป็นสูตรดั้งเดิม กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาวพิษณุโลกยอมรับในเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มไม่เป็นแป้ง และก็รสที่ดี จึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางด้านเนื้อสัมผัส และรสชาติที่กลมกล่อม ใช้เนื้อสัตว์ที่สดใหม่ จึงเป็นที่มาของ สด ใหม่ ดั่งเดิม เมืองพิษณุโลก



 ลูกชิ้นหมูทอด ลูกชิ้นเนื้อทอด สูตรสำหรับทอด มีส่วนผสมเนื้อหมูแท้ๆเนื้อวัวแท้ๆกว่า 95% กรอบ นุ่ม ไม่เป็นแป้ง ไม่มีสารเจือปน ไร้สารบอแร็กซ์ ผลิตภัณฑ์ OTOP มีมาตรฐาน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มผช. สด ใหม่ดั้งเดิมเมืองสองแคว เจ้าตำรับสูตรโบราณ 50 ปี สามารถทอดโดยใช้ กระทะไร้น้ำมัน ลูกชิ้นหมูปิ้ง/ลวก ลูกชิ้นเนื้อปิ้ง/ลวก สูตรสำหรับปิ้ง/ลวก ต้มใส่ในกวยเตี๋ยว มีส่วนผสมเนื้อหมูแท้ๆเนื้อวัวแท้ๆ100% นุ่ม ไม่เป็นแป้ง โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ไร้สารเจือปน ไม่มีสารบอแร็กซ์ สินค้า OTOP มีมาตรฐาน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มผช. สด ใหม่เริ่มแรกเมืองสองแคว เจ้าตำรับสูตรโบราณ 50 ปี





น้ำจิ้มลูกชิ้นสมุนไพร สูตรมะขาม ใช้สมุนไพรรวมทั้งวัตถุดิบในท้องถิ่น มีรสชาติ เปรี้ยวหวาน กลมกล่อม ไม่เหมือนใคร นอกเหนือจากที่จะนำไปจิ้มกับเนื้อสัตว์ได้ทุกประเภท ยังสามารถนำไปทำเป็นซอสผัดไทยได้อร่อยกลมกล่อมละมุนละไม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อีกด้วย



 แฟรนไชส์ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า แฟรนไชส์ลูกชิ้นดังเมืองสองแคว ทุนน้อย ก็สามารถทำธุรกิจได้ แฟรนไชส์ลูกชิ้นขายง่าย ขายคล่อง กำไรดี คืนทุนเร็ว โรงงานของลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า มีการผลิตโดยใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน ความปลอดภัย ความสะอาด และก็ ถูกหลักอนามัย โรงงานลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ได้รับการรับรองเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานจาก GMP Codex
#3236


    นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า หลังจากมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ที่รุนแรงขึ้นและมีมาตรการล็อกดาวน์เข้มขึ้น  ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมช่วงครึ่งหลังปี 2564 ยังคาดการณ์ได้ยากจากครึ่งแรกปี 2564 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 

     ทั้งนี้ บริษัทได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่นสอดคล้องกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาและเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ปีก่อน ขณะเดียวกันด้านสภาพคล่องของบริษัทมีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์เช่นนี้ต่อไปได้ถึงสิ้นปีหน้า ด้วยกระแสเงินสดที่อยู่ในระดับสูง และมีหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับต่ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 จึงไม่น่ากังวล  

     "เรายังคงทำธุรกิจด้วยความหวังว่า หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเริ่มลดลง มีวัคซีนทางเลือกเข้ามาและกระจายฉีดวัคซีนสร้างภูมิกันหมู่ได้  มียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลง ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในระยะข้างหน้า ซึ่งเราปรับแผนและเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเมื่อเปิดประเทศ"  

นายพชระ เลิศวิราม นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า  แนวโน้มธุรกิจโรงแรมในปี2564คาดยังคงมีผลขาดทุน แต่จะขาดทุนลดลงจากปีก่อน เนื่องจากโรงแรมมีการปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายมาต่อเนื่อง     

      ทั้งนี้คาดว่าธุรกิจโรงแรมจะกลับมามีกำไรได้ในช่วงกลางปี2565  หากสามารถคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19ระลอก 3 ได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งน่าเป็นจุดต่ำสุดของผลดำเนินงานธุรกิจโรงแรม เพราะหากมีการกระจายวัคซีนได้ ทำให้จำนวนยอดผู้ติดเชืื้อลดเริ่มลดลงในไตรมาส 4 ปีนี้ เริ่มเปิดเมือง มีการเดินทางของคนภายในประเทศและเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมาได้คาดว่า่ในปี2566 จะกลับมาเท่าก่อนโควิดในปี 2562 จะส่งผลดีต่อกำไรของธุรกิจโรงแรมในระยะข้างหน้า   

    " คาดว่าสถานการณ์โควิด-19ในต่างประเทศน่าจะฟื้นตัวได้ดีและเร็วกว่าในไทย ส่งผลดีการฟื้นตัวของ MINT และการสร้างรายได้จากต่างประเทศถึง 70%"      

    อย่างไรก็ตาม ทางด้านฐานะการเงินธุรกิจโรงแรมยังแข็งแกร่ง สภาพคล่องไม่น่าห่วง ยังรองรับผลกระทบจากโควิด-19ได้ถึงสองปี  โดย ณ ไตรมาส 1 ปี 2564  พบว่า CENTEL มีเงินสดและเงินกู้ 9,700ล้านบาท รองรับทำธุรกิจได้48เดือน,ERW มีเงินสดและเงินกู้6,500 ล้านบาท รองรับรับทำธุรกิจได้ 26 เดือน ,MINT มีเงินสดและเงินกู้43,000ล้านบาท รองรับทำธุรกิจได้30กว่าเดือน 

       
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า กำไรของกลุ่มธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 3  ปีนี้ คาดยังมีผลขาดทุนอยู่ แต่ปรับตัวลดลง จากช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ คาดการณ์CENTEL ขาดทุน 507 ล้านบาท ERW ขาดทุน 578 ล้านบาท และMINT ขาดทุน6,521 ล้านบาท

      "คาดไตรมาส 3ปีนี้น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของธุรกิจโรงแรม โดยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งสูงสุดราวกลางเดือน ต.ค. และในไตรมาส 4ปีนี้ คาดว่าน่าจะดีขึ้นหากมีวัคซีนทางเลือกเข้ามามีการกระจายวัคซีนมากขึ้น ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงในบางพื้นที่ จนสามารถเริ่มเปิดเมืองโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ได้ จะสนับสนุนธุรกิจโรงแรมกลับมาฟื้นตัว 

        ดังนั้น มองว่า MINT  ที่มีสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรป  ที่มีพัฒนาการฟื้นตัวจากโควิด-19อย่างต่อเนื่องและยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่งจากการขายโรงแรมในต่างประเทศ และเช่ากลับมา
#3237


จากกรณี นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาพยาบาลอาการโรคโควิด 19 ในถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ออกไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีช่วงหนึ่ง ระบุว่ามีแพทย์โทรมาบอกว่า ให้ย้ายออกจากโรงพยาบาลให้ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทั้งที่ตนเองยังไม่หาย ได้ยายังไม่ครบโดส แต่หมออ้างว่าเปลี่ยนแผนการรักษาได้ ให้ไปรักษาที่บ้าน โดยให้อยู่โรงพยาบาลต่ออีก 24 ชั่วโมง นั้น


นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลดังกล่าวได้ชี้แจงข้อมูลในเบื้องต้นว่า ในส่วนของคุณณวัฒน์ฯ นั้น ทางโรงพยาบาลได้ประเมินแล้วว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่อาการพ้นวิกฤต และมีอาการดีขึ้นอยู่ในระยะพักฟื้น (Step Down) ทางโรงพยาบาลจึงดำเนินการให้ผู้ป่วยไปพักฟื้นที่สถานพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) หรือให้กลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่อง โดยวิธีกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ตามแนวทางการรักษาแบบ Step-down care ซึ่งจะทำได้โดยความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อจัดเตียงให้กับผู้ป่วยโควิด 19 รายอื่นซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้เตียงรักษาตัวในสถานพยาบาล 

และเมื่อผู้ป่วยเข้าพักที่ Hospitel หรือกลับไปที่พักที่บ้านแล้ว สถานพยาบาลเองก็จะมีการติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทุกวันผ่านระบบ Video Call หรือ Teleconference มีอุปกรณ์วัดไข้และออกซิเจนส่งไปให้ มีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน หากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงก็จะมีการรับตัวผู้ป่วยกลับไปรักษา ณ สถานพยาบาลโดยทันที ซึ่งในกรณีของคุณณวัฒน์ฯ ได้ครองเตียงผู้ป่วยมาแล้วเป็นเวลา 22 วัน ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการประเมินแล้วว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ จึงมีการแจ้งให้ผู้ป่วยทราบแต่อาจจะด้วยการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ จึงทำให้คุณณวัฒน์ฯ เกิดความเข้าใจผิดว่าทางโรงพยาบาลให้ออกจากโรงพยาบาลทั้งที่อยู่ระหว่างการรักษา 

ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับคุณณวัฒน์ฯ แล้วว่าขั้นตอนดังกล่าวเป็นกระบวนการรักษาตามแนวทาง Step-down care ที่ใช้กับผู้ป่วยทุกราย มิได้เลือกปฏิบัติเฉพาะกับคุณณวัฒน์ฯ แต่อย่างใด รวมทั้ง ขณะนี้คุณณวัฒน์ฯ ก็ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยกรม สบส.ก็ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ติต่อขอข้อมูลจากคณณวัฒน์ฯ ต่อไป

นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยและญาติพี่น้อง รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ตนจึงอยากฝากให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเอกชนทุกราย ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด 19 ดำเนินการด้วยความทุ่มเท เสียสละ ทั้งในด้านของการรักษาพยาบาล รวมถึงการสื่อสารกับผู้ป่วยหรือญาติ ก็จะต้องมีความชัดเจนถึงกระบวนการรักษา และมีการชี้แจงถึงความจำเป็นในกรณีที่ต้องให้ผู้ป่วยรักษาตัว ณ ที่พัก เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยและญาติเกิดความวิตกกังวล และขาดความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุข
#3238


"ประกันสังคม" เข้มมาตรการรัฐ ขอประชาชนงดเดินทางติดต่อตรง ต้องติดต่อรับสิทธิประกันสังคมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขสำคัญอะไรที่ต้องทำความเข้าใจ เช็ค!

ภายหลังสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ศบค. ประกาศยกระดับล็อกดาวน์ ให้ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มเติมคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง 3 จังหวัดดังกล่าวเคยถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 

ทั้งนี้คำประกาศศบค. เมื่อ 9 กรกฎาคม ได้ประกาศจังหวัดเขตสีแดงเข้ม แค่ 10 จังหวัด เท่านั้น ได้แก่  จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสงขลา ทำให้พื้นที่สีแดงเข้ม มียอดรวมจังหวัดทั้งสิ้น 13 จังหวัด และจำกัดการเดินทาง
ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน งดการมาติดต่องานหรือทำธุรกรรม ณ สำนักงานประกันสังคมในช่วงนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th แทนนั้น

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมช่องทางการติดต่อ "ประกันสังคม" และดูขั้นตอนการกรอกข้อมูล และข้อควรรู้ต่างๆ ดังนี้


ติดต่อ "ประกันสังคม" ผ่านระบบ "SSO e-Service" หรือออนไลน์ www.sso.go.th 

กรณีผู้ประกันตน ขอรับประโยชน์ทดแทน

  • กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และชราภาพ
  •  
  • สามารถรับแบบขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่ช่องทาง download แบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทนใน www.sso.go.th
  •  
  • ส่งแบบพร้อมเอกสารได้ที่ไปรษณีย์ลงทะเบียน (AR ตอบรับ) โทรสาร (Fax) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) แอพพลิเคชั่น (Line)
  •  
  • รายละเอียดของแต่ละหน่วยงานท่านสามารถเข้าดูได้ที่ www.sso.go.th
  •  
  • มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคมสามารถติดต่อสอบถามที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
  •  
  • ผ่านช่องทาง E-mail : info@sso1506.com
  •  
  • Webboard (กระดานสนทนา) Live Chat
  •  
  • Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
กรณีนายจ้างขอทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ให้นายจ้างเข้าช่องทาง e-Service ในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th

ในหัวข้อบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอ User สถานประกอบการ และ Password เพื่อการนำส่งข้อมูลเงินสมทบ แจ้งผู้ประกันตน เข้า - ออก จากงาน หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน

พร้อมชำระเงินสมทบของผู้ประกันตน ผ่านระบบ e-payment ได้ตลอดเวลา

กรณีการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้ประกันตน"

สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตนส่งเงินสมทบยอดเงินชราภาพ และการรับสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทุกกรณี

สามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่

  • ช่องทางระบบสมาชิกผู้ประกันตนในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
  •  
  • สามารถดาวน์โหลด Application SSO Connect
  •  
  • สอบถามผ่าน facebook Messenger ของ สำนักงานประกันสังคม
  •  
  • โทรสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า กรณีเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส) แท้จริงแล้วเว็บไซต์ไม่ได้ล่ม เพียงแต่สำนักงานประกันสังคมได้ปิดปรับปรุงเว็บไซต์ 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับประกาศ ศบค.ที่จากเดิมกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 6 จังหวัดและเพิ่มเติมเป็น 10 จังหวัด

รวมทั้งขยายประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือจากเดิม 4 เป็น 9 ประเภทกิจการ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับข้อมูล ผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 ที่มีรายชื่อทั้งหมดอยู่ในระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"อาชีพอิสระ" สมัครได้หลายช่องทาง

นางเธียรรัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีที่สำนักงานประกันสังคมให้ผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและต้องการรับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท ได้สมัครมาตรา 40 นั้น ในเรื่องการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สามารถมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ

  • ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมให้ได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยการออมในระยะยาวเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิต
#3239


หลัง ครม. มีมติให้ช่วยเหลือและ "เยียวยา" ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการ "ล็อกดาวน์" ของรัฐบาล ในการป้องกันและควบคุมการระบาดของ "โควิด-19" ที่ระบาดหนักใน 10 จังหวัดที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม

โดยในหลักการณ์เบื้องต้น จะมีการช่วยเหลือกลุ่ม "อาชีพอิสระ" และพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ในพื้นที่ 10 จังหวัดด้วย โดยจะได้รับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท แต่ต้องมีการสมัคร "ประกันสังคม" มาตรา 40 ภายในวันที่ 31 ก.ค. นี้ให้เรียบร้อยก่อน 

ล่าสุด "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 40 จาก "สุชาติ ชมกลิ่น" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงงาน ได้ความคืบหน้าดังนี้


 1. อาชีพอิสระสามารถยังสมัครได้เรื่อยๆ ถึงวันที่ 31 ก.ค. 64 

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่มีหลายคนเดินทางไปยังประกันสังคมแล้วได้รับแจ้งว่ายังไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้เนื่องจากยังไม่ได้รับคำสั่ง

รมว.แรงงาน ให้คำตอบในประเด็นนี้ว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระทุกอาชีพสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนในประกันสังคมมาตรา 40 ได้เลย ซึ่งปัจจุบันมีผู้สมัครเข้ามาแล้วราว 2 แสนราย

โดยช่องทางที่สามารถสมัคร มาตรา 40 ได้ มีดังนี้

1. สมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่
2. สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506
3. เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขา
4. ธนาคาร ธกส. ทุกสาขา
5. Big c ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
6. เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ
7. สมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม (https://www.sso.go.th)


 2. ยืนยัน ต้องมีพร้อมเพย์ผูกเลขบัตรประชาชนเท่านั้น 

สุชาติ อธิบายว่าสาเหตุที่ต้องผูก "พร้อมเพย์" สำหรับผู้ประกันตนมาตรา33 ในสัดส่วนของกระทรวงแรงงานในระบบมีการเยียวยา 50% สามารถโอนเงินเข้าบัญชีให้กับลูกจ้างที่กรอกมาในระบบอีเซอร์วิสได้เลย

แต่เงินในส่วนที่รัฐบาลจะสมทบลูกจ้าง 2,500 บาท หรือนายจ้าง 3,000 บาท รวมถึงมาตรา 39 และ มาตรา 40 จำเป็นต้องผูกพร้อมเพย์ เพื่อแยกยอดเงินว่าส่วนไหนคือส่วนเงินเยียวยาจากรัฐบาล หรือส่วนไหนคือของประกันสังคม


 3. อาชีพอิสระที่สมัคร ม.40 ได้เงินเยียวยาเมื่อไร ? 

สุชาติ ชมกลิ่น อธิบายว่าสำหรับกลุ่ม "อาชีพอิสระ" ที่จะต้องสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 รายใหม่ จะต้องใช้เวลาในการหารือและตรวจสอบซึ่งจะ รอความชัดเจนหลังการหารือกับสภาพัฒน์ และต้องรอมติจาก ครม. ซึ่ง คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ก.ค. 64 นี้

ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีชื่ออยู่ในระบบแล้วสามารถให้การช่วยเหลือได้เลยเนื่องจากมีชื่ออยู่ในระบบอยู่แล้ว 

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิ "โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33" ได้ ผ่านทางเว็บไซต์ประกันสังคม https://www.sso.go.th/eform_news/
#3240


นับจากข้อตกลงปารีส หรือ "COP 21" ในปี 2558 ที่มีเป้าหมายลดภาวะโลกร้อนทำให้หลายประเทศให้ความสำคัญกับการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประกาศการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเ และในการประชุม "COP 26" ในปีนี้ไทยจะประกาศเป้าหมาย Zero Carbon เช่นกัน

เป้าหมายปีที่จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศให้เหลือ 0 หรือ "Zero Carbon" หรือ "Carbon neutral" นโยบายดังกล่าวถือว่าเป็นเทรนด์สำคัญที่ประเทศไทยจะต้องนำเอามากำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ รวมไปถึงนโยบายเปิดรับการลงทุน เพราะในการเลือกประเทศที่จะเข้ามาลงทุนของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จะพิจารณาถึงการให้ความสำคัญต่อนโยบายด้านนี้ด้วย ประเทศไทยจึงต้องมการปรับนโยบายของประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลก

การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติปี 2564 หรือที่เรียกว่า "COP26"ซึ่งสหประชาชาติจะจัดประชุมร่วมกับสมาชิกที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 12 พ.ย.ที่จะถึงนี้ถือว่ามีความสำคัญในการประกาศจุดยืนเรื่อง Zero Carbon ของประเทศไทยในเวทีระดับโลก

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยระหว่างการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"Restart เศรษฐกิจไทยฝ่าภัยโควิด" จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)เมื่อเร็วๆนี้ว่าประเทศไทยจะใช้เวทีการประชุมระดับโลกดังกล่าวประกาศเป้าหมายปีที่จะสิ้นสุดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์โดยอยู่ระหว่างช่วงปี ค.ศ.2065 - 2070 ซึ่งขณะนี้กำลังหารือกันถึงปีที่แน่นอนที่จะมีการประกาศต่อประชาคมโลก โดยจะเร็วขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ในปี ค.ศ.2100 30 – 35 ปี ส่วนปีที่ประเทศไทยจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในจุดสูงสุดคือปี ค.ศ.2030 และจะลดลงสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอน เป็นศูนย์ในที่สุด

ทั้งนี้การที่ประเทศไทยกล้าที่จะขยับเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้รวดเร็วขึ้นจะมาจากแรงสนับสนุนเรื่องเทคโนโลยี และแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากญี่ปุ่นซึ่งประเทศ G7 มอบหมายให้ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว 

"สุพัฒนพงษ์" ระบุว่าเป้าหมายดังกล่าวของประเทศไทยเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่หนดทิศทางเศรษฐกิจของไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศตามแนวทางนโยบาย "4D" โดยเน้นในส่วนที่ไทยมีโอกาสและศักยภาพที่จะเติบโตได้แก่

 1.ยกระดับการพัฒนาดิจิทัล (Digitalization)

2. การมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และมลภาวะ (Decarbonization)

3.โมเดลเศรษฐกิจที่ใช้ประโยชน์จากการกระจายฐานการผลิตของบริษัท และอุตสาหกรรมชั้นนำที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง (Decentralization )

และ 4.โมเดลลดความเสี่ยงในเรื่องของการซื้อที่อยู่อาศัยในต่างประเทศ โดยเราจะดึงดูดให้ผู้มีรายได้สูง และทักษะสูงในกลุ่มอาชีพต่างๆมาอยู่ในไทยในระยะยาว (D-risk)

ทั้งนี้นโยบาย "Decarbonization" จะถือเป็นนโยบายสำคัญที่ช่วยให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทยจากบริษัทชั้นนำที่มาจากกลุ่มประเทศพัฒนา  แล้วอย่างกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งมีทั้งเม็ดเงินลงทุนมหาศาล และมีองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ประเทศไทยต้องการให้เข้ามาลงทุนและช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อช่วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในอนาคต

โดยในการประชุมของกลุ่มประเทศ G7 ล่าสุดนั้นให้ความสำคัญในเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจากในกระบวนการผลิต ทำให้บริษัทชั้นนำจากประเทศในกลุ่มนี้ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศอื่นๆ รวมทั้งลงทุนในไทยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน หากมีการประกาศเป้าหมายและมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะผลักดันเรื่องนี้จะช่วยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยให้เติบโตได้มากขึ้น 

ทั้งนี้มีหลายๆนโยบายเริ่มมีการขับเคลื่อนไปสู่นโยบายดังกล่าว เช่น นโยบายการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของภูมิภาค นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพโดยใช้โมเดล BCG ที่เน้นเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ทั้งพลังงานหมุนเวียน และพลังงานทดแทน ที่ไม่ได้สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่จะต้องทำควบคู่กันไปเพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมด้านอื่นๆที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนธุรกิจ อุตสาหกรรมมีแหล่งพลังงานที่สะอาดใช้อย่างพอเพียง 

การขับเคลื่อนนโยบาย Zero Carbon นั้นจึงมีความสำคัญต่อทิศทางการพัฒนาประเทศหลังโควิด รวมทั้งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนของประเทศไทย สามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ มีการสร้างงาน อาชีพใหม่ เป็นแนวทางที่จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้ในอนาคต