• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - fairya

#3441



ริมถนนนักลงทุน เสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ ยกให้ บรรยากาศลงทุน 'ตลาดหุ้น-ทองคำ' ที่นิยามสัปดาห์หน้า 'หุ้นร่วง & ทองคำพุ่ง' หลังปัจจัยโควิด-19 กลับมากดดันอีกครั้ง บ่งชี้ผ่านตัวเลขผู้ติดเชื้อทะยานขึ้นทั้งในและตปท.
๐ บรรยากาศลงทุนใน 'ตลาดหุ้นไทย' รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหุ้นไทยถูก 'กดดัน' จากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลักหมื่นรายต่อวันต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญ 1,530 จุด ! โดยเคลื่อนไหวมาปิดตลาด (30 ก.ค.) ดัชนี SET Index ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,521.92 จุด ปรับลง15.85 จุด หรือคิดเป็น 1.03% มูลค่าซื้อขายรวมทิ้งสิ้น 87,717.66 ล้านบาท

๐ ดังนั้น ในรอบสัปดาห์หน้า (วันที่ 2-6 ส.ค.) ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหว 'ผันผวน' ต่อเนื่อง แต่ที่ต้องลุ้นและติดตามใกล้ชิดท่าทีรัฐบาลจะมีมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมหรือไม่ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดยังแนวโน้มสูงขึ้น เรียกว่าปัจจัยดังกล่าวกำลังส่งผลกดดันตัวเลข 'จีดีพี' ปีนี้ และกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสปรับตัว 'ลดลง' ทำให้เม็ดเงินต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลออกต่อเนื่อง...

๐ ฟากสินทรัพย์เสี่ยต่ำอย่าง 'ทองคำ' มีทิศทางกลับสดใส 'กูรู' ประเมินหลังปัจจัยบวกหนุนเพียบทั้งธนาคารกลาง (เฟด) ไม่รีบไม่ร้อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย- จีดีพีสหรัฐฯ แย่กว่าคาดการณ์-สกุลเงินดอลล์อ่อนค่า-โควิด-19 กลับมาระบาดหนักในสหรัฐฯ และทั่วโลกอีกครั้ง ด้าน YLG ลุ้นหากราคาผ่าน 1,833 ดอลลาร์ได้จะทะยานสู่ 1,872 ดอลลาร์ แนะหาจังหวะเก็บแถวแนวรับ 1,815-1,830 เหรียญ ส่วนทองคำในไทยมีลุ้นเห็น 29,150 บาท !!

 
๐ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทในเครือ ปตท. รายล่าสุด บมจ. ไทยออยล์ หรือ TOP ประกาศปิดดีลซื้อกิจการระดับ 'หมื่นล้าน' การเข้าซื้อหุ้น 15.38% ใน 'PT. Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP)' ธุรกิจปิโตรเคมีรายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียและอาเซียน ด้วยวงเงินลงทุน 39,116 ล้านบาท โดยมีแผนระดมเงินลงทุนทั้งจากการขายหุ้น GPSC กู้เงินจาก PTT และมีแผนเพิ่มทุน ส่งผลให้ราคาหุ้น TOP เมื่อวันศุกร์ร่วงแรง 8.51% หลังนักลงทุนกังวลแผนเพิ่มทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระดมเงินซื้อหุ้น

๐ เป็นช่วงกอบโกยจริงๆ ของ บมจ. เอ็กโซติค ฟู้ด หรือ XO ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรส น้ำจิ้ม รวมทั้ง เครื่องแกง เครื่องประกอบอาหารไทย 'จิตติพร จันทรัช' นายใหญ่ XO แย้มสถานการณ์ส่งออกไตรมาส 2 ปี 64 ผลงานผ่านฉลุยจากการขยายตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีออเดอร์ในมือที่รอส่งมอบราว 450 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถส่งออกได้ตามแผน สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี 

๐ 'นายใหญ่XO' บอกว่า แม้ระหว่างทางประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่ปัจจุบันบริษัทได้ตู้ครบถ้วนและส่งออกได้ตามแผนแล้ว สนับสนุนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานจะสามารถทำ All Time High ตามเป้าหมายได้อีกครั้ง !! ทั้งนี้ จากทิศทางครึ่งปีแรกอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ก็มีโอกาสเสนอที่ประชุมบอร์ดพิจารณาการจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราที่สูงต่อเนื่อง

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952057
#3442



ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหนหรือไม่มีแดดเลยก็ควรต้องทาเพื่อป้องกันไม่ให้ผิว หน้าโดนทำร้ายจากแสงและยังช่วยปกป้องผิวจากสัญญาณทั่วไป เช่น ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ริ้ว รอย ดังนั้นขั้นตอนการทาครีมกันแดดไม่อาจละเลยได้ ซึ่งครีมกันแดดนั้นไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อื่น ๆ เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ หรือ เซรั่ม ที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวภายในไม่กี่วินาที หลายคนมีปัญหาทาครีมกันแดดทุกวันแต่ทำไมผิวหน้าแอบไหม้ นั้นแปลว่าคุณกำลังทาครีมกันแดดผิดวิธี

ถึงครีมบำรุงจะมีส่วนผสมของเอสพีเอฟ แต่ก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดด ปัจจุบันแม้มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟมากมาย แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่ากับครีมกันแดด ถ้าสาว ๆ เห็นผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟก็อย่าชะล่าใจให้นำมาใช้ควบคู่กับครีมกันแดดจะดีที่สุด โดยเกลี่ยครีมกันแดดให้ทั่วหน้าแล้วรอให้ซึมเข้าสู่ผิว การทาครีมกันแดดให้ทั่วหน้าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่า หน้าจะได้รับการป้องกัน อย่างเต็มที่ ทาครีมให้ทั่วใบหน้า คอ หู และริมฝีปากแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจากนั้นรอให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก่อนสัก 20 นาที หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าต่อได้เลย หรือในวันสบาย ๆ ไม่อยากแต่งหน้าก็แค่ทาครีมกันแดดแล้วรอสัก 20 นาที ก็พร้อมออกจากบ้านได้เลย


ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เมื่อต้องอยู่กลางแจ้งทั้งวัน! สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ต้องอยู่กลางแจ้งและโดนแสงแดดโดยตรง จำเป็นมากที่ต้องทาครีมกันแดดซ้ำ ทุก 2-3 ชั่วโมง แต่ก็มีไม่กี่คนหรอกที่จะทากันแดดระหว่างวันจริงมั้ย? เพราะจะไปทำลายเครื่องสำอางของเรา แต่มีตัวเลือกที่สามารถทาครีมกันแดดระหว่างวันได้โดยไม่ทำร้ายเครื่องสำอางคือ การใช้สเปรย์กันแดด หรือสาว ๆ คนไหนที่แต่งหน้าหนาก็ให้ใช้แป้งฝุ่น ที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟแทนก็ได้นะ เห็นอย่างนี้แล้วการทาครีมกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่ต้องใช้เวลาให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก่อน

ถ้าอยากมีผิวที่สวยก็ต้องใจเย็นกันนะคะสาว ๆ

https:// www.dailynews.co.th/news/112279/
#3443



การประชุมคณะกรรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติระยะที่ 2 โดยกำหนดโควตาให้นำเข้าในปี 2564 จำนวน 4.8 แสนตันต่อปี ส่วนปี 2565 นำเข้าได้ 1.74 ล้านตันต่อปี และปี 2566 นำเข้าได้ 3.02 ล้านตันต่อปี

เมื่อภาคนโยบายกำหนดปริมาณการนำเข้าที่ชัดเจนตามข้อสั่งการของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมเชื้อแพลิงธรรมชาติ และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT พิจารณากำหนดปริมาณการนำเข้า LNG ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และให้ กกพ. บริหารความสามารถของ LNG Terminal และทบทวนความเหมาะสมของ TPA Regime และ TPA Code 

ทั้งนี้ ให้ กกพ. เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการพิจารณาการดำเนินงานให้เป็นไปตามรูปแบบการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า การนำเข้า LNG ของผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper)รายใหม่ จะดำเนินการได้ทันภายในไตรมาส 3 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมในหลายเรื่อง เช่น การประชุม กบง. และกพช.นัดถัดไป ซึ่งก็ต้องลุ้นว่า จะเกิดขึ้นในไตรมาส 3นี้ หรือไม่ จากเดิมกำหนดจะประชุมในไตรมาส 2 รวมถึง แผนบริหารจัดการนำเข้า LNG ของ กกพ. หลัง กบง. อนุมัติโควตาช่วง 3 ปีแล้ว จะสามารถจัดทำวิธีการปฏิบัติได้เสร็จทันหรือไม่

หลังได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า ขณะนี้ กกพ. ประสานขอตารางการจอง LNG Terminal ที่ว่างอยู่ ของ ปตท. เพื่อจัดส่งให้ Shipper พิจารณาเลือกคิวที่ต้องการโดยเร็วที่สุด รวมถึง กกพ.จะส่งเอกสารให้ Shipper แต่ละราย ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการใช้สิทธิ์โควตานำเข้าในปริมาณเท่าไหร่ และห้ามมีเงื่อนไขโดยเด็ดขาด ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้เสร็จภายในกลางเดือน ส.ค.นี้ เพื่อจะได้มีเวลานำเข้า LNG ได้ทันโควตาในปีนี้


"เท่าที่ทราบ บอร์ด กกพ. เมื่อเร็วๆนี้ ยังไม่อนุมัติให้ผู้ Shipper รายใด นำเข้า LNG ตามโควตา 4.8 แสนตันในปีนี้ เพราะ Shipper บางรายตั้งเงื่อนไข เช่น จะนำเข้า LNG หากราคาอยู่ในระดับที่ต้องการ หรือจะนำเข้า LNG ก็ต่อเมื่อจอง LNG Terminal จาก ปตท. ได้ก่อน ทำให้ กกพ.ต้องเข้มหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อป้องกันกรณี Shipper ไม่นำเข้า LNG ตามจริง ซึ่งอาจทำให้ประเทศประโยชน์ได้"


แหล่งข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ระบุว่า สำนักงาน กกพ. อยู่ระหว่างเตรียมส่งเอกสารถึง Shipper ทั้ง 7 ราย อีกครั้ง เพื่อให้ยืนยันปริมาณความประสงค์ที่จะนำเข้า LNG และจัดส่งตารางจอง LNG Terminal พร้อมใบเสร็จชำระค่าจองใช้ LNG Terminal ที่ชัดเจนมายังกกพ. ก่อนที่จะอนุมัติสิทธินำเข้าในปีนี้

ส่วนปี 2565 ที่มีโควตานำเข้า อยู่ที่ 1.74 ล้านตัน ทาง กกพ. เตรียมพิจารณาออกบทลงโทษหาก Shipper ยื่นขอใช้สิทธิแต่ไม่นำเข้ามาจริง เช่น หาก Shipper ไม่สามารถจัดหา LNG มาส่งให้กับลูกค้าโรงไฟฟ้าได้ ขั้นแรกต้องไปยืม LNG จาก Shipper รายอื่น แต่หากยังไม่สามารถยืมได้ และจะหันมาซื้อก๊าซฯ จาก ปตท. ในระบบ จะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่ม เป็นต้น โดยการกำหนดบทลงโทษนี้ จะเสนอ กพช. พิจารณาอนุมัติใช้ในการประชุมนัดถัดไป

สำหรับ Shipper ทั้ง 7 ราย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.),บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน),บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด,บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด,บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป, บริษัท PTT Global LNG Company Limited หรือ PTTGL และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG


นางราณี โฆษิตวานิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันว่า กฟผ.มีความพร้อมที่จะนำเข้า LNG ในปีนี้ ตามปริมาณที่เคยแจ้งต่อ กกพ.ไปแล้ว อยู่ที่ ประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งในส่วนของการจอง LNG Terminal นั้น ในส่วนของ กฟผ.ได้ดำเนินการจองคลังก๊าซฯภายใต้โควตา 1.5 ล้านตันไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นในส่วนของประเด็นนี้สำหรับกฟผ.ไม่น่าจะมีปัญหา

"กฟผ.เราพร้อมมาก หาก กกพ.อนุมัติปริมาณนำเข้า และ กบง.เห็นชอบแล้ว ทาง กฟผ.ก็พร้อมออก TOR เปิดประมูลจัดหาฯ LNG ทันที ซึ่งปริมาณนำเข้า 3 แสนตัน น่าจะมีมูลค่าราว 4-5 พันล้านบาท"

อย่างไรก็ตาม ตามแผนเดิมนั้น กฟผ.จะเริ่มทยอยนำเข้า LNG ตั้งแต่เดือน ส.ค. ถึงเดือน ต.ค.ปีนี้ แต่ขณะนี้กระบวนการอนุมัติจากภาครัฐยังไม่เกิดขึ้น ฉะนั้น คาดว่า เดือน ส.ค.นี้ คงนำเข้า LNG ไม่ทัน และน่าจะเริ่มนำเข้าได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ เป็นต้นไป ก็อาจส่งผลให้ปริมาณนำเข้า LNG ปีนี้ ลดลงจากแผนบ้าง ส่วนปีหน้าก็ยังคาดหมายที่จะนำเข้าในปริมาณ 1.2-1.3 ล้านตันต่อปี

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951931
#3444



ซัมซุงแนะนำ Galaxy Tab S7 FE แท็บเล็ตรุ่นใหม่ ที่รวมฟีเจอร์สุดโปรดของเหล่าแฟนๆ จากแท็บเล็ตรุ่นแฟลกชิปไว้ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 12.4 นิ้ว ปากกา S Pen ในกล่อง "ไม่ต้องซื้อเพิ่ม" และ "ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรีให้เสียเวลา"


S Pen เพื่อชีวิต Multi-Tasking
S Pen เพิ่มความสะดวกในการเรียนออนไลน์ ทำโปรเจค เอกสาร ด้วยฟีเจอร์ Samsung Notes ที่ช่วยเปลี่ยนการจดด้วยลายมือให้กลายเป็นข้อความตัวพิมพ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษแบบเรียลไทม์

ทั้งนี้ สามารถจัดระเบียบบันทึกต่างๆ ด้วยแท็กอัตโนมัติ และการค้นหาอัจฉริยะเพื่อการใช้งานโน้ตที่ต้องการได้ทันที รวมถึงฟีเจอร์ Multi-Active Window เพื่อการใช้งานหลายหน้าต่างพร้อมกัน และฟีเจอร์ Multi instance เพื่อจับคู่แอพพลิเคชั่นและสร้าง Shortcut ให้สามารถทำงานพร้อมกันได้ถึงสามแอพพลิเคชั่นในหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะท่องอินเทอร์เน็ต จดโน้ต หรือแม้แต่การรับชมวีดิโอสตรีมมิ่งในเวลาเดียวกัน

พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปอีกขั้น ด้วยการเปลี่ยนให้ Galaxy Tab S7 FE เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนตัวผ่าน Samsung DeX ที่ทำงานร่วมกับ Tab S7 FE Keyboard Coverทำให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น พร้อมการแชร์ไฟล์ผ่าน Quick Share ตลอดจนการคัดลอกและวางข้อความหรือรูปภาพจากสมาร์ทโฟนตระกูลกาแลคซี่สู่ Galaxy Tab S7 FE

เต็มที่ทั้งเรื่อง เล่น เรียน ทำงาน

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับกล้องหน้าตำแหน่งตรงกลางจอความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และระบบเสียงอันคมชัดจาก Dolby Atmos พร้อมไมโครโฟนสามตำแหน่ง ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้เหมาะกับการ VDO Conference เพื่อการเรียนหรือทำงานออนไลน์

รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว พร้อมขอบจอบางเฉียบให้ภาพที่ละเอียดคมชัดเต็มตา พร้อมใช้งานได้ยาวนานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ขนาด 10,090 mAh ที่ให้ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอได้ต่อเนื่องถึง 13 ชั่วโมงรวมถึงการรองรับระบบ Super-Fast Charging สูงสุด 45W

ด้วย Galaxy Ecosystem เมื่อใช้งานผ่านหูฟัง Galaxy Buds Pro ผู้ใช้จะสามารถเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนจากซัมซุงได้ง่ายดายและลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยการตั้งค่าใดๆ โดยมีฟีเจอร์ Auto Switch ทำหน้าที่ช่วยหยุดวีดิโอชั่วคราว แล้วสลับไปรับสายโทรศัพท์ผ่าน Galaxy Buds Pro ให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย ก็จะสลับกลับมาเล่นวีดิโอบนแท็บเล็ตได้อย่างต่อเนื่อง


-ใช้งาน Clip Studio Paint แอพพลิเคชั่นวาดภาพระดับโปร ฟรี 6 เดือน
-ใช้งาน Canva Pro แอพพลิเคชั่นออกแบบงานกราฟฟิกและสื่อต่างๆ ฟรี 30 วัน
-ใช้งาน Noteshelf แอพพลิเคชั่นเพิ่มประสิทธิภาพการจดโน้ต ฟรี
-รับสิทธิ์ YouTube Premium ดูวีดิโอแบบไม่มีโฆษณาคั่น ฟรี 4 เดือน
-รับสิทธิ์ Galaxy Butler Silver บริการช่วยเหลือหลังการขายแบบพิเศษสำหรับอุปกรณ์กาแลคซี่ อาทิ ฟรีบริการเครื่องสำรองหลังซ่อม ผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง ฯลฯ


Galaxy Tab S7 FE มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี ประกอบด้วย Mystic Green, Mystic Pink, Mystic Silver, และ Mystic Black โดย Galaxy Tab S7 FE LTE วางจำหน่ายใน ราคา 19,990 บาท
#3445


หลังจากประเทศไทยปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และอนุญาตให้นำไปใช้ในทางการแพทย์ "น้ำมันกัญชา" ได้กลายเป็นรูปแบบยาประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากมีประโยชน์และสรรพคุณที่ช่วยรักษาโรคบางชนิดได้ แต่การจะใช้น้ำมันชนิดนี้ได้อย่างปลอดภัย ก็ควรศึกษาข้อมูลและวิธีใช้ที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ

ทำความรู้จัก "น้ำมันกัญชา" คืออะไร?
ไลฟ์สไตล์ติดตาม
31 ก.ค. 64
วิธีทำข้าวคลุกกะปิ สูตรอร่อยเด็ด อิ่มอร่อยแบบง่ายๆ

30 ก.ค. 64
ข้อสอบใบขับขี่ 2564 สำหรับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

30 ก.ค. 64
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย เหนียวนุ่มน่ากิน ทำง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน

ดูทั้งหมด 
น้ำมันกัญชา คือ สารสกัดเข้มข้นจากต้นกัญชา ที่นำมาทำให้เจือจางเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในรูปแบบยาทางการแพทย์ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลิตเป็นยารักษาโรค มีการนำไปผสมกับส่วนผสมต่างๆ ให้เหมาะแก่การรักษาในแต่ละประเภท เช่น นำไปหยดใต้ลิ้น นำไปทาบนผิวหนัง เป็นต้น

ทั้งนี้ น้ำมันกัญชาทุกรูปแบบที่นำไปรักษาโรคและเกี่ยวข้องกับการรักษาสุขภาพ จะต้องผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง อยู่ภายใต้การดูแลและได้รับคำแนะนำถึงวิธีการใช้อย่างปลอดภัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งบางคนอาจมีความเชื่อว่าน้ำมันกัญชาคือ "ยาสารพัดโรค" ทำให้มีการนำไปใช้รักษาอาการต่างๆ เอง ยกตัวอย่างเช่น

น้ำมันกัญชา สำหรับหยอดหู หยอดตา
แน่นอนว่าหากจะใช้น้ำมันชนิดนี้ไปหยอดหูเพื่อรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับหู หรือนำไปหยอดตา ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะไม่ได้หมายความว่าน้ำมันกัญชาทุกประเภทจะใช้งานเหมือนกัน โดยเฉพาะการใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อหิน เป็นการรักษาที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ หรือแม้กระทั่งหยอดตาเพื่อลดความดันลูกตา ก็ถือเป็นวิธีที่อันตรายและไม่ควรทำด้วยตนเอง

น้ำมันกัญชา สำหรับรักษาสิว
แม้ว่าน้ำมันกัญชาจะสามารถใช้รักษาโรคทางผิวหนังบางชนิดได้ ทำให้หลายคนนำไปใช้รักษาสิว หรือผิวหน้าที่มีผื่นแดง แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาด้วยว่าน้ำมันกัญชามีส่วนผสมใดบ้าง และสิวนั้นเป็นสิวประเภทใด เพราะไม่เช่นนั้นแทนที่จะช่วยลดอาการอักเสบ อาจทำให้มีอาการผิวหนังอักเสบมากกว่าเดิม จะเห็นได้ว่าทุกกระบวนการใช้น้ำมันกัญชาเพื่อรักษาอาการต่างๆ นั้น จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนนำไปใช้เสมอ


สรรพคุณน้ำมันกัญชาในทางการแพทย์ รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
ประโยชน์และสรรพคุณของน้ำมันกัญชาถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ เพื่อรักษาอาการและโรคบางชนิด เช่น ใช้บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง บำรุงสุขภาพ รวมถึงคลายอาการวิตกกังวล แต่อย่างไรก็ตามหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป หรือผู้ใช้มีอาการแพ้น้ำมันกัญชาก็อาจส่งผลเสีย ทำให้มีผลข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย ท้องเสีย เป็นต้น

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุถึงคุณสมบัติของน้ำมันกัญชา 3 ประเภท ที่ได้รับการยอมรับในฐานะสารสกัดน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ ประกอบไปด้วยกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ที่พบในพืชกัญชา ได้แก่ 

1. น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ สูตร THC
ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ใช้หยอดใต้ลิ้นตามแพทย์สั่ง

2. น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ สูตร CBD
ใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมชักที่รักษายาก หรือดื้อต่อการรักษา ใช้หยอดใต้ลิ้นตามแพทย์สั่ง

3. น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ สูตร THC : CBD 
ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ใช้หยอดใต้ลิ้นตามแพทย์สั่ง


ใครสามารถปลูกกัญชา และปรุงยาจากกัญชาได้บ้าง?
แม้ประเทศไทยจะปลดล็อกกัญชาแล้ว แต่ในปัจจุบันก็เปิดให้ยื่นขออนุญาตปลูกกัญชาได้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ระบุว่า ผู้ที่สามารถปลูกกัญชาได้ มีดังนี้

หน่ายงานของรัฐ
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่มีการสอน วิจัย ทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์
ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น สหกรณ์การเกษตร, วิสาหกิจชุมชน, วิสาหกิจสังคม ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษา
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (เภสัชกรรม ทันตกรรม การแพทย์แผนไทย หรือหมอพื้นบ้านตามกฎหมาย) 
การขออนุญาตปลูกกัญชา
สำหรับผู้ที่ต้องการจะขออนุญาตเพื่อปลูกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องประกอบไปด้วย 3 ข้อ ได้แก่
1. มีคุณสมบัติเป็นผู้ที่สามารถปลูกกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 หรือมีสถานะเป็นวิสาหกิจชุมชน และไปร่วมกับหน่วยงานของรัฐ
2. มีแผนโครงการ แผนกระบวนการผลิต และรายละเอียดการใช้ประโยชน์อย่างชัดเจน 
3. มีสถานที่ปลูกกัญชา ที่มีเอกสารสิทธิครอบครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย


ผู้ที่สามารถปรุงยากัญชาได้
สำหรับผู้ที่จะนำกัญชาไปปรุงยาได้นั้น จะต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้ตำรับยาที่มีกัญชาผสม จากหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุข

ส่วนการจำหน่าย หรือสั่งจ่ายยา ไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้สถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนก็ได้ แต่ต้องเป็นตำรับยาที่ได้รับการยอมรับแล้วเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามเรื่องกัญชาทางการแพทย์ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันกัญชาได้ที่ info@medcannabis.go.th

ที่มา : คณะกรรมการขับเคลื่อนประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
#3446



กุนซือทีมขุนค้อนพร้อมยื่นข้อเสนอราว 20 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาของปราการหลังชาวฝรั่งเศส เพื่อหวังดึงเข้ามาเติมเต็มแนวรับในฤดูกาลหน้า

สำหรับ เคิร์ต ซูมา ย้ายจากแซงต์ เอเตียน มาร่วมทีมเชลซีตั้งแต่ปี 2014 แต่กลับไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง โดยลงสนามไปเพียงแค่ 150 เกมเท่านั้น จาก 5 ฤดูกาลในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แถมยังเคยโดยปล่อยให้ สโต๊ก ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งานอีกด้วย

กระทั่งล่าสุด เดลี เมล์ รายงานว่า เดวิด มอยส์ หวังคว้าตัว ซูมา เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของทีม "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า โดยพร้อมทุ่มเงินราว 20 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาที่เหลือ

ขณะที่แนวรับวัย 26 ปี ก็ต้องการที่จะค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกต่อไปเช่นกัน และไม่ต้องการเป็นตัวแถมในข้อเสนอของเชลซี เพื่อใช้ลดค่าตัวของ ฌูลส์ กุนเด จากเซบีญาในช่วงซัมเมอร์นี้

นอกจากนี้ นายใหญ่ของทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่า ต้องการซื้อขาด ซูมา ด้วยเงินสดเท่านั้น โดยไม่ต้องได้มาเป็นตัวแถม ในดีลของ ดีแคลน ไรซ์ อย่างแน่นอน.

https:// www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2153110
#3447



ถึงเวลาวงร็อกหัวมัน POTATO ปั๊บ, โอม, หั่ง, กานต์ และ อั้ม ลุกขึ้นมาปลุกอะดรีนาลินด้วยซิงเกิลที่ 3 "อีกไม่ช้า (SOON)" หนึ่งในเพลงจากอัลบั้มชุดที่ 8 "Friends" ที่ชักชวนเพื่อนร่วมวงการดนตรีอย่าง Slot Machine มาทำเพลงร่วมกันเป็นครั้งแรก

โดย ปั๊บ เล่าว่า "อีกไม่ช้า (SOON)" เป็นมุมมองที่เล่าถึงเรื่องของพระอาทิตย์-พระจันทร์ ที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็มีช่วงเวลาที่ทั้งสองได้พบกัน (ช่วงโพล้เพล้) ผีตากผ้าอ้อม โดยมีเรื่องของแสงที่เชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด เปรียบเสมือนคนที่ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็จะมีเวลาที่เราได้มาพบปะกับผู้อื่นแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ข่าวแนะนำ

ซึ่งการที่เราได้พบกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดีก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำทั้งสิ้น ถ้าโลกนี้ยังหมุนอยู่เรายังจะได้พบกันเพื่อบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทำเพลงกับพี่ๆ Slot Machine เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ทำงานด้วยกันไม่มีรูปแบบและขอบเขตทั้งเนื้อร้อง-ทำนอง ภาษาที่เล่าในเพลงของเราจะมีภาษาเพลงที่ต่างกันทั้งของโปเตโต้และ. แมชชีน แต่สื่อสารเป็นสิ่งเดียวกันรวมถึงภาคดนตรี


ที่สำคัญเพลง "อีกไม่ช้า" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า SOON ซึ่งมาจาก Sun + Moon ขอขอบคุณ พี่ปู๋-ปิยวัฒน์ สำหรับเนื้อเพลงนี้ ส่วนมิวสิกวิดีโอเราใช้คำว่า Official Visualiser ร่วมงานกับ พี่ต้น-เรืองฤทธิ์ แห่ง DuckUnit เป็นผลงานสุดจินตนาการ"


ด้าน "เฟิด Slot Machine" บอกว่า "รู้สึกตื่นเต้น แล้วก็ดีใจ ทั้งในฐานะศิลปินที่เจอกันบ่อยมากๆและในฐานะแฟนเพลงที่โตมากับทุกยุคของโปเตโต้ เป็นการร่วมงานกันที่อบอุ่นเป็นกันเอง ฝากแฟนๆของพวกเรา หยินและหยาง เอ๊ย! โปเตโต้และ. แมชชีน กับเพลงอีกไม่ช้า ไว้เป็นอีก 1 พลังใจดีๆจากพวกเรา ชม Official Visualiser ได้แล้ววันนี้!
#3448



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป โดย บริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู บริษัทย่อยที่ เอ็กโก    ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งได้ลงทุนในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น "ลินเดน โคเจน" ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ในสหรัฐอเมริกา ได้บรรลุข้อตกลงในการรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจนจากบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า

ทั้งนี้ บริษัท ลินเดน ทอปโก้ จะปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซของโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ให้สามารถรองรับก๊าซ    ที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน จากโรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ (Bayway Oil Refinery) ของบริษัท ฟิลิปส์ 66 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อนำมาผสมเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่ใช้อยู่เดิม การปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 สามารถรองรับการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมที่มีไฮโดรเจนผสมอยู่ได้สูงสุดถึง 40% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ปลดปล่อยปกติในแต่ละปี


ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานและเชื้อเพลิง อย่างบริษัท เจร่า อเมริกา จำกัด (JERA Americas Inc.) ซึ่งเป็นพันธมิตรของเราในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง

นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงกังดง ในเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน การลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ทั้งโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน และโรงไฟฟ้ากังดงนั้น เอ็กโก กรุ๊ป มีเป้าหมายที่จะสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศของบริษัทในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีด้านนี้พัฒนาเต็มที่


"เอ็กโก กรุ๊ป เป็นบริษัทลำดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่ส่งเสริมและสนับสนุนแผนการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าของประเทศ บริษัทมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงสะอาดมาผลิตไฟฟ้าและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง" นายเทพรัตน์ กล่าว


สำหรับ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 1-5 กำลังผลิตรวม 800 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 172 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้แก่ตลาดซื้อขายไฟฟ้า พีเจเอ็ม พีเอส นอร์ธ (PJM PS North) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ทั้งโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์กและตลาดซื้อขายไฟฟ้าพีเจเอ็ม พีเอส นอร์ธ เป็นตลาดไฟฟ้า 2 แห่งที่มีความต้องการไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าสำรองสูงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา

ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ยังขายไอน้ำและไฟฟ้าภายใต้สัญญาระยะยาวแก่โรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ ที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน โดยโรงกลั่นฯ เป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66)

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ยังมีความได้เปรียบด้านการจัดหาเชื้อเพลิง เนื่องจากตั้งอยู่ในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเข้าถึงแหล่งก๊าซธรรมชาติได้หลายแห่ง ผู้ถือหุ้นของบริษัท ลินเดน ทอปโก้ ประกอบด้วย JERA Americas (50%) เอ็กโก กรุ๊ป (28%) DBJ (12%) และ GS-Platform Partners (10%)
#3449

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ โพสต์คลิปวิดีโอของ ป๋าเทพ หรือ เทพ โพธิ์งาม บางช่วงกล่าวถึง กระแสการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รวมถึงการออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื้อหาในบางช่วง ป๋าเทพ กล่าวว่า

"ผู้ใหญ่บางคนที่แก่ๆ กันแล้ว ก็ควรแนะนำเด็กๆ ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง เด็กๆ บางคนสร้างประโยชน์ สร้างความดี สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่บางคนกลับทำลายประเทศ หยุดกันสักทีเถอะ ตอนนี้รักษาเอาไว้ สักวันก็ต้องตาย อย่ามาคุยเก่ง ใครคิดทำให้ชาติไขว้เขวไปไม่รอด ทำให้คนส่วนใหญ่ลำบาก แล้วมาสร้างปัญหา ต้องเห็นใจคนทำงาน ผู้นำต้องแข็งแกร่ง มองไปข้างหน้า เค้าว่าอะไรก็อย่าไปสวน"

"พวก-ึงทำอะไรกันมีความคิดบ้าง พูดเก่ง พูดกันเก๊งเก่ง แต่ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ไม่เคยเห็นประเทศไทยมีแบบนี้เกิดขึ้น เกิดมา 71 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นใครมาด่าทอ"

"คนรุ่นใหม่ หน้าตาหล่อๆ ดีๆ ความคิดยิ่งกว่าคนรุ่นเก่า มาพูดมาด่าคนทำงานอยู่นั่นแหละ มาช่วยกันสิ มาช่วยหมอสิ มาช่วยคนทำงานดีกว่า จะเบื่อใครก็แล้วแต่ จะเกลียดหรือชอบก็อยู่ได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็เป็นไปตามกรรม ตอนนี้อึดอัดมากแล้ว มาช่วยกันออกความคิดกันดีกว่า ไม่ใช่มาด่าทอกัน -ูว่า-ูโง่แล้ว แต่เห็นคนโง่กว่า-ูอีก ไม่น่าเชื่อ"


"มาเถียงกันต้องเอาความจริง พวกผู้ใหญ่ ที่เป็นดอกเตอร์กันเนี่ย แก่มาแล้วหัวล้านแล้ว หัวหงอกแล้ว เป็นอาจารย์คนแล้วมาสอนให้คนแตกแยกกันเนี่ย อยุธยาแตกก็เพราะพวก-ึงนี่แหละ เป็นก๊กเป็นเหล่า มันต้องร่วมใจกันสิ"

"การที่-ึงพูดออกไป พวก-ึงรู้รึเปล่าว่ามันแรงสะเทือนไปถึงขนาดไหน มันทำบ้านเมืองวุ่นวายทำไมช่วงนี้ คิดบ้างว่าวิกฤติขนาดนี้-ึงต้องรวมใจกันแล้วไอ้ค-ย รวมใจกันสิไอ้-ัส มาเกลียดชังกันอะไร เค้ารักษากันมาขนาดนี้แล้ว -ูว่าระบบเมืองไทยเนี่ยดีที่สุดในโลกแล้วไอ้ค-ย -ึงจำไว้"

"เห็นไหมว่าตั้งแต่ยุคไหนมา เคยมีเรื่องปัญหาอะไรมากมายเหมือนประเทศอื่นเค้าไหม คิดซะบ้างอย่าคิดแต่ชีวิตพวก -ึงมองชีวิตข้างๆ บ้าง ต้องขออภัยที่ต้องพูดไอ้-ัส ไอ้เ-ี้ยบ้าง แต่เพราะมันอัดอั้น แต่ปล่อยไปก็จะเลอะเทอะกันใหญ่"

"พูดให้มีสาระจะไม่ว่า แต่บอกแต่จะให้ออกไป ออกไป พูดเหมือนคนปัญญาอ่อน พูดแล้วไม่คิดบ้างว่าจะเป็นยังไงต่อ จะเอาคนที่ไม่ดีเข้ามาอีกหรือ เด็กรุ่นหลังคิดแบบนี้แล้วประเทศจะอยู่ได้อย่างไร จะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร ต้องมีเหตุผล"

"ผู้นำไม่ต้องไปสนใจ เราทำงานให้ประเทศเดินไปได้ ไอ้คนนั้นอ่ะ ดีที่สุดที่ตั้งแต่เห็นมา ผู้นำประเทศคนนี้พอได้นะ เรื่องการปกครองคน ต้องให้เป็น ไม่ใช่เอาใครก็ได้มาปกครอง ในสภาดูที่พูดกันซิ พูดอะไรกัน เป็น ส.ส.มาได้อย่างไร จะมาดูแลบ้านเมือง พี่น้องคนไทย แบบนี้ได้หรือ คนไหนไม่ดีคนไหนดี -ูดูออก ถึงจบ ป.4 แต่ก็วิเคราะห์ได้เพราะ-ูติดตามไง"

"จะเชียร์ใครจะทำอะไรดูเหตุผลด้วย ไม่ใช่เอาแต่มันอย่างเดียว บ้านเมืองนะ ไม่ใช่บ้านของ-ึง เป็นบ้านคนอื่นด้วย บ้านของคน 70 ล้านคน จะมาแสดงความเห็นคนเดียวหรือ ต้องเห็นความเป็นส่วนมากเข้าไว้ นี่คือมนุษย์ไม่ใช่จิงโจ้"

หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น
#3450



"ณวัฒน์" ประกาศลาออกทุกรายการหน้าจอ เตรียมยื่นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์ ขอค่าทำขวัญจาก "ปัญญา นิรันดร์กุล" ฐานที่ทำให้ชีวิตมีความเสี่ยงและเสียขวัญ ปกปิดพนักงานติดโควิด เสียแรงเคยรัก "แทค-ตุ๊กกี้" หลังจากนี้ขอตัดขาด เตือน "หนุ่ม กรรชัย" ไม่ต้องโทร. มา อย่าคิดว่าเจ๋ง วงการบันเทิงดับแล้ว 

ออกมาไลฟ์สดระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจทุกวันจริงๆ สำหรับ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" แต่วันนี้เจ้าตัวมาพร้อมหลักฐานการแชต และเปิดหัวว่าจะเป็นการแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เกี่ยวข้องกับช่องเวิร์คพ้อยท์ ซึ่งครั้งนี้ไลฟ์ยาวกว่า 40 นาที ประเด็นหลักคือหลักฐานแชตคุยกับทีมการตลาดในวันที่เจ้าตัวเข้าไปทอล์กขายสินค้า ซึ่งที่เป็นประเด็นเมาท์ต่อมาว่าเจ้าตัวเป็นต้นเหตุให้เกิดคลัสเตอร์ในเวิร์คพ้อยท์นั่นเอง

"เนื่องจากมีหลายคนสอบถามถึงรายละเอียดกันค่อนข้างเยอะ และมีคนโทร.เข้ามากวนผมค่อนข้างเยอะมาก ผมไม่รับโทรศัพท์ใครนะครับ โดยเฉพาะคุณหนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) คุณโทร.มาเยอะมากเกินไปแล้วนะครับ ผมไม่รับสายใครเลย ต้องขออภัยด้วย ไม่ว่าจะเพื่อนฝูงหรือใครก็ไม่ได้รับ เพราะเป็นนโยบายความปลอดภัยของผมก็เลยไม่รับ

หลายๆ คนก็มาถามผมถึงเรื่องเวิร์คพ้อยท์ จะได้เข้าใจค่อนข้างเร็วขึ้น ประเด็นแรกที่หลายคนถามว่าเกี่ยวอะไรกับน้องตุ๊กกี้ (สุดารัตน์ บุตรพรม) โทร.มาหรือเปล่า อันนั้นผมว่าน่าจะเป็นเพราะน้องน้ำ (พัชรพร จันทรประดิษฐ์) พูดแล้วอาจจะมีความสั้นไปนิดนึง จริงๆ แล้วคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ผมถามว่าวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผมจะไปมีตุ๊กกี้มาไหม แต่ไม่ได้ถามกับตุ๊กกี้ ผมถามกับการตลาด และได้รับการยืนยันว่ามา เพื่อให้รู้ว่าพิธีกรคือตุ๊กกี้คอนเฟิร์มว่ามา (โชว์หลักฐานการแชต) มีการคอนเฟิร์มกลับมาวันที่ 8 มิ.ย. ผมกำลังจับพิรุธอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ก็เลยสแกนว่าพิธีกรอยู่ไหม เมื่อได้รับการคอนเฟิร์มว่าตุ๊กกี้อยู่ ก็มีการส่งมาตามนี้ คือรายการ ห้องข่าวเวิร์คพ้อยท์

เราคุยกันวันที่ 8 พอวันที่ 9 ผมก็ไปและเอาตัวสว็อป เทส ไปด้วย แต่พอไปถึงไม่มีตุ๊กกี้ ก็คิดว่าถูกหลอกหรือเปล่า เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมพูดไม่ได้ เพราะมีการพูดกันต่อๆ ว่าห้ามพูด ถ้าใครพูดอาจจะถูกโน่นนี่นั่น ก็แอบถามทีมงานว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอารมณ์ที่เป็นพิธีกรคู่ก็ไม่มา ทีมงานเขาก็บอกว่าโควิดเลยไม่มา เขาก็บอกให้ผมไปนั่งคนเดียวก่อน เดี๋ยวจะหาใครขึ้นมาคนนึง แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งแทนซึ่งผมไม่รู้จัก ผมก็แอบกระซิบถามทีมงานคนนึง แล้วเขาก็เมตตาตอบผม ปรากฏว่าตุ๊กกี้สตรีมมิ่งมาจากที่บ้าน สามารถไปหาหลักฐานดูได้ ชื่อรายการ ห้องข่าวเวิร์คพ้อยท์ ออกอากาศ วันที่ 9 มิ.ย. เวลาเกือบ 9 โมง ผมรู้แน่ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเกิดโควิดเต็มไปหมดแล้ว แต่ให้ผมไป ไปถึงไม่มีตุ๊กกี้และไม่มีอาร์ม ซึ่งผมเซอร์ไพรส์มาก ผมไปทำงาน ผมเอาเงินไปจ่าย แต่ได้แบบนี้ ผมก็ทำงานจนเสร็จ สรุปตุ๊กกี้กักตัวอยู่บ้านหนีโควิดกันหมดแล้ว"

บอกมีอิทธิพลบางอย่างห้ามทุกคนไม่ให้พูด
"พอออกมาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนมีอิทธิพลบางอย่างที่ไม่ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ก็ยอมๆ เฉยๆ ไป ปรากฎว่าผมมีคิวจะไปต่อวันที่ 14 มิ.ย. ผมซื้อผ่านเอเจนซี่ จะไปขายเซรั่มนางงาม (โชว์หลักฐานการแชต) หัวกระดาษขึ้นวันที่ 10 ว่าจองห้องข่าวบันเทิงเวิร์คพ้อยท์ พบว่ามีคนติดเชื้อโควิด จะมีการบิ๊กคลีนนิ่ง แต่มีขอยกเลิกการบันทึกเทปรายการออกไปก่อน เอเจนซี่แจ้งผมวันที่ 10 หมายความว่าวันที่ผมถูกหลอกไปนั่งในสตูดิโอคนเดียว แล้วตุ๊กกี้สตรีมมิ่งมาจากบ้าน แสดงว่าทางเวิร์คพ้อยท์แจ้งกับเอเจนซี่เมื่อวันที่ 9 และคนของเวิร์คพ้อยท์ได้ออกมายืนยันกับเอเจนซี่บางส่วน และเขาได้กำชับกับทุกคนว่าห้ามพูด นี่คือหลักฐาน เพราะฉะนั้นวันที่ผมไปแล้วตุ๊กกี้ไม่มา เป็นวันเดียวกับที่เขาส่งข่าวให้กับเอเจนซี่ และกำชับว่าขอให้เป็นความลับ แต่บังเอิญว่ามันต้องไม่ลับครับ เพราะนี่คือคุณณวัฒน์

ฉะนั้นหลักฐานทั้ง 3 แผ่นเป็นหลักฐานที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นในเวิร์คพ้อยท์ว่าพยายามปกปิดเรื่องของการระบาดโควิด สามารถไปเสิร์จหาดูเทปรายการห้องข่าวเวิร์คพ้อยท์วันที่ 9 มิ.ย. ได้ เทปนั้นจะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมผมไปอยู่ตามลำพัง ทั้งที่พิธีกรทั้งคู่หนีโควิดออกจากสตูฯ ไปแล้ว และตอกย้ำด้วยไลน์ ซึ่งเจ้าของพร้อมเป็นสักขีพยานให้อยู่แล้วล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเขาเป็นเอเจนซี่ใหญ่ที่ผมซื้อโฆษณาเขา ทุกครั้งที่ผมไป ผมไปจ่ายเงินคุณ ไม่ได้ไปขอเงินคุณ คุณพาผมไปเสี่ยง แล้วคุณก็ปกปิดทุกอย่าง

เหตุการณ์ก็ยังเงียบ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่เวิร์คพ้อยท์จะออกมาประกาศว่ามีคนติดโควิด เพราะขณะนั้นทางศบค.เขาให้ทุกคนช่วยกันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีขึ้น แต่ด้วยกฎตอนนั้น ผมว่าถ้าเป็นวันนี้ผมพูดไปแล้วล่ะ แต่วันนั้นผมไม่กล้าพูด เนื่องจากทุกคนก็ไม่กล้าพูด เพราะมีการกึ่งบังคับไม่ให้พูดอยู่ตลอดเวลา ถ้าพูดอาจจะผิดกฎหมาย ถ้าพูดอาจจะถูกฟ้องได้ มันก็เลยเป็นการช่วยกันปิดเพื่อโควิดระบาดมากขึ้น นี่คือข้อเท็จจริง ชัดเจนด้วยหลักฐานทุกประการ"

บอกรายการแฉก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่สำคัญของตน
"กลับไปที่อีกหนึ่งหลักฐานแน่ชัด คุณมดดำ (คชาภา ตันเจริญ) น้องรัก คุณน็อต (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) คุณบุ๊คโกะ (ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล) ทั้ง 3 คนนี้เป็นคนที่รู้ ให้กลับไปดูรายการแฉ วันที่ 15 มิ.ย. ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง อยู่ในมือถือของ 3 คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ 3 คนนี้เป็นคำตอบสุดท้ายที่อึดอัดทุกคนพูดไม่ได้

กลับมาที่เวิร์คพ้อยท์ อยู่ๆ หลังวันที่ 15 มิ.ย. ในรายการแฉ พอวันที่ 16 มิ.ย. ผมก็ไปอัดรายการ ผู้หญิงทำมาหากิน ซึ่งผมไม่เจอดาราผู้หญิงคนนั้น แล้วผมก็ไม่เจอเขาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ด้วย ผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น อยู่ๆ วันที่ 16 มิ.ย. ทางเวิร์คพ้อยท์ถึงยอมคายคำตอบออกมาว่ามีการติดโควิด มีเพียงจดหมายใบเล็กๆ ฉบับเดียว ที่ใช้รูปพิธีกรชื่อกาลเวลา กับธนพัฒน์ คู่กับตึกเวิร์คพ้อยท์ สวัสดีพี่ตานะครับถ้าดูอยู่ แล้วเขียนประกาศอย่างเป็นทางการแค่ 3 บรรทัด ลงประกาศวันที่ย้อนหลังข้างล่างเป็นวันที่ 9 มิ.ย. วันที่ 15 มิ.ย.ยังไม่ได้ประกาศสู่สาธารณะ แต่เมื่อถูกสื่อมวลชนรายล้อมมาเยอะ คุณประกาศด้วยเอกสารฉบับเล็กๆ ฉบับเดียว และเทคนิคของคุณคือลงวันที่ 9 มิ.ย. และผมรู้ว่าคนในนั้นติดเท่าไหร่ เพราะมีเมียเพื่อนอยู่ในนั้น ประเด็นคือระบาดในนั้นมานาน แต่ปกปิด และพาผมไปเสี่ยง มันอันตรายต่อชีวิตผม เพราะสายพันธุ์ที่ผมโดนเป็นสายพันธุ์ละแวกนั้น ที่เร็วและแรงมาก ผมรู้สึกส่วนตัวว่าผมเจอสายพันธุ์เดียวกัน แต่คนละสายพันธุ์กับคุณโก๊ะตี๋ อารามบอยนะครับ

ผมรู้สึกว่าสถานีโทรทัศน์เป็นสื่อสารมวลชนที่ต้องใช้จรรยาบรรณสูงมากในการทำงาน เปรียบเสมือนการประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ปกปิดจนมันเละแบบนี้ นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเรียกร้องว่ามันไม่เหมาะ ก็ต้องออกมารับผิดชอบ ผมก็ไม่เรียกร้องอะไรหรอกครับประเด็นนี้"

ตัดขาดสัมพันธ์ "แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม" และ "ตุ๊กกี้ สุดารัตน์"
"อีกประเด็นที่สำคัญคือพนักงานในช่อง นำโดยคุณดาว ผมหยิกๆ ที่ดูแลศิลปินทั้งหมด เมื่อผมติดโควิดก็ได้แชตในกรุ๊ปส่วนตัว เป็นกรุ๊ปที่รุมด่าผม ด่าโดยมีหลักฐานทุกประการ ด่าแบบน่าเกลียดมาก ต่อให้ไม่ลงชื่อ แต่พูดถึงผม ทำให้ผมรู้ว่าคนในวงการบันเทิงเป็นคนที่ไม่น่าคบเลย ผมเห็นหมดแล้วว่าใครอยู่ในนั้น มีดาราหลายคน มีแทค ภรัณยูอยู่ในนั้น ผมถามแทค ภรัณยูครับว่า พี่น่ะเอ็นดูน้องมาตลอด ทำไมน้องจะต้องมีปฏิกิริยาแบบนั้นกับพี่ด้วยในกรุ๊ปนั้น ถึงแม้ตุ๊กกี้ก็เถอะ พี่คิดว่าพี่ก็เมตตาหนูมากนะ ตลอดเวลาที่พี่เจอหนูนับครั้งไม่ถ้วน พี่เป็นเด็กบ้านนอกคนนึง แล้วพี่ก็เมตตาเด็กบ้านนอก เจอกันทำอะไรก็ได้ เพราะพี่รู้สึกว่ามันง่าย และพี่ก็จริงใจกับทุกคน พี่ก็เลยเผลอจริงใจ

แต่วันที่พี่เป็นโควิดตุ๊กกี้โพสต์ถึงพี่แบบนั้น ต่อให้ไม่ลงชื่อ ก็เหมือนตุ๊กกี้เอาตีนถีบหน้าพี่ แต่พี่ไม่โกรธนะ พี่รู้จักตุ๊กกี้ดีขึ้น ก็แค่ไม่ต้องรู้จักกันอีกต่อไป ก็แค่นั้นเอง ส่วนแทค ภรัณยูก็ไม่ต้องรู้จักกันอีกต่อไปแค่นั้นเอง ส่วนดาราอีกหลายคนที่อยู่ในกรุ๊ปปิด โดยที่คุณดาวนำแชตด่า เห็นแล้วหลายคน เป็นดาราที่เคยเอิงเอยด้วยอะไรด้วย ก็เอาเป็นว่าทั้งหมดที่อยู่ในแชตประมาณ 30 หน้า ผมจะให้กับคุณตา ปัญญาโดยตรงเท่านั้น ก็ไม่ต้องคบกัน เกิดเป็นดาราหัดมีศักดิ์ศรีในการทำมาหากิน แต่เข้าใจนะ เพราะคุณดาวเธอมีอิทธิพลนี่ คุณดาวเธอเป็นคนแจกงาน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องสอพลอเป็นเรื่องปกติ

เพราะฉะนั้นเคสนี้ผมพูดให้คุณดาวสามช่า ฉายาเขา ผมไม่ทำอะไรทางกฎหมายกับคุณ เพราะคุณปิดไว้สำหรับห้องด่าส่วนตัว ด่าผมล้วนๆ คุณไม่ได้เปิดสาธารณะ ผมไม่เอาโทษโกรธเคืองคุณ แต่ผมเอาความรับผิดชอบว่าคุณปัญญา นิรันดร์กุลจะทำอะไรกับพวกคุณ ประโยคนึงที่เป็นประโยคที่เลวมาก ว่าจะไม่ให้ผมผ่านมาเหยียบที่เวิร์คพ้อยท์อีกเลย ยังมีอีกหลายคำในนั้นที่มันสาหัสเหลือเกิน นำโดยคุณดาว ผมไม่เอาโทษอะไรคุณ เหลือที่วินัยเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณปัญญา นิรันดร์กุลจะทำอะไรกับคุณ หรือไม่ทำอะไรกับคุณ หรือเป็นการกระทำที่คุณปัญญา นิรันดร์กุลทราบแล้วอยากให้ทำก็เท่านั้นเองครับ ผมก็อยากจะรู้ ไม่ได้ว่าอะไรเลย"

เตรียมยื่นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์ และขอค่าทำขวัญจาก "ปัญญา นิรันดร์กุล"
"ผมถามนิดนึง บริษัทเวิร์คพ้อยท์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธรรมมาภิบาลมีไหม ด่าลูกค้าแบบนี้ดีไหม การด่าลูกค้าว่าจะไม่ให้กลับไปเหยียบอีกเลยในอาณาจักรเวิร์คพ้อยท์ ผมมีหลักฐานหมด คุณดาว คุณเป็นคนทำลายธรรมาภิบาลของเวิร์คพ้อยท์ ผมไม่รู้ คุณปัญญา นิรันดร์กุล อาจไม่ได้เกี่ยวข้อง ขออนุญาตยกเว้นแกไว้ก่อน สิ่งหนึ่งที่ผมจะคือทำหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วยตรวจสอบข้อธรรมาภิบาล และการใช้นโยบายกับลูกค้า ผมเป็นลูกค้า ผมเป็นคนเอาเงินไปให้ แล้วบริษัทปิดห้องด่าผม แล้วบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ผมอยากจะถามว่าแบบนี้จะคิดอย่างไร ผมอยากจะถามกสทช.ว่า ถ้าสถานีโทรทัศน์มีพฤติกรรมที่เป็นการแพร่ระบาดโควิด และทำให้เข้าสู่ข้อมูลเท็จ เกิดการสุ่มเสี่ยง กสทช.ลงโทษอย่างไร ผมอยากรู้

สุดท้ายเรื่องส่วนตัวของผม คุณณวัฒน์ก็มีราคา มีคุณค่า เกิดมาเป็นมนุษย์ผมก็มีคุณค่าในตัวผม แต่บริษัทเวิร์คพ้อยท์ทำให้ผมมีความทุกข์ ทำให้ผมรู้สึกสูญเสีย รู้สึกย่ำแย่ คุณปัญญา นิรันดร์กุลมีอะไรจะปลอบขวัญผมไหม สักเท่าไหร่ เพราะผมเสียขวัญ แต่ผมไม่ได้ไปขอร้องทางกฎหมายนะ ผมต้องการดูน้ำใจ ปัญญา นิรันดร์กุล กับชีวิตณวัฒน์ ให้เท่าไหร่ คำถามที่ฝากเอาไว้มีเพียงเท่านี้"

ชวน "หนุ่ม กรรชัย" มาทำโหนกระแสคู่กับตนจะดีกว่า
"คุณกรรชัยดูอยู่ไหม เวลาคุณเล่าข่าวเอาเนื้อเยอะๆ อย่าเอาแต่เกาเหลาโหรงเหรง พวกคุณบอกว่ารู้จริง ผมเตือนคุณกรรชัย ก็เป็นน้องที่ผมสนิทนะ บางทีที่คุณโทร.ไปหาเขาน่ะ มันคือนักแสดง เหมือนที่ผมเจอ ให้ใจแต่ไม่เคยให้อะไรกลับมา คุณอย่าคิดว่าคุณได้ข้อมูลมาเจ๋งที่สุดแล้ว วงการบันเทิงมันดับแล้ว คุณกรรชัยโชว์ตัวหน่อย ผมลำบากขนาดไหนที่ผมต้องวิ่งไปหาคุณที่รายการโหนกระแส ไปซื้อโฆษณาคุณลำบากเหลือเกิน ไอ้นั่นไอ้นี่ก็พูดไม่ได้ กสทช.ไม่ให้พูด เอาเงินไปให้คุณครั้งนึงตั้งหลายแสน ต้องไปนั่งรอคุณกว่าจะได้ทอล์ก 3 นาที นั่นนี่ก็ไม่ให้พูด กรรชัยมาทำโหนกันนี่ มาโหนแบบดังๆ นี่ โหนอันเซ็นเซอร์เลย"

ประกาศลาออกจากทุกรายการหน้าจอทีวี
"สุดท้ายก่อนจากกัน ผมมีเรื่องอยากจะบอกอย่างเป็นทางการอีกครั้งนึง ผมขออนุญาตลาออกอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับรายการทูเดย์โชว์ ซึ่งผมได้คุยเรียบร้อยแล้ว ก็จะไม่มีผม ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีกแล้ว และรายการเพชรรามา ทางอมรินทร์ทีวีก็ไม่มีผมแล้ว แต่จะยังมีรายการอยู่จนถึงสิ้นเดือนกันยายน ตามสัญญาที่เซ็น แต่จะเป็นคนอื่นเป็นพิธีกร ก็จะเป็นการล้างหน้าผมออกจากทีวี 100% ณ วินาทีนี้เป็นต้นไป ไม่ใช่เฉพาะครัวคุณต๋อยนะครับ

ฝากความรักและปรารถนาดีไปถึงน้องสุดที่รักของผมก็คือโก๊ะตี๋ เพราะผมไม่ได้ติดสายพันธุ์เดียวกับคุณ และโก๊ะตี๋เป็นน้องที่ผมรักมาก เป็นน้องที่ผมโคตรรักมันเลย และขอบคุณเอ๊าะ (กีรติ เทพธัญญ์) ด้วย น้องรักอีกหนึ่งคน คนนี้ก็จะวิตกจริตไปเรื่อย ก็โคตรรักเหมือนกัน เรารักกันจริงๆ และสุดท้ายก็ต้องขอบคุณ (พนมมือ) พี่ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์ นะครับ อันนี้ต้องขอบคุณพี่ต๋อยจริงๆ พี่ต๋อยคือไอดอลของผม เป็นพี่ชายที่แสนดีในทุกเวลาที่มีความสุขหรือมีความทุกข์ พี่ต๋อยเป็นคนๆ นึงที่ผมบอกได้เลยว่าผมรักพี่ต๋อยด้วยความบริสุทธิ์ใจ และผมจะรักแบบนี้ตลอดไป และวันที่ปิดสถานีไอทีวีเราอยู่ด้วยกันจนวินาทีสุดท้ายตอนจอมันดับ เราเคยผ่านทุกข์กันมานับครั้งไม่ถ้วน ในวันนั้นารากร ติยายน เป็นผู้อ่านจนวินาทีสุดท้าย และจอดับไป เราหันมาถามกันว่าชีวิตเรามืดไปทางไหนต่อ เราพากันมาส่งหลายที่แล้ว ผมก็ขออนุญาตขอบคุณพี่ต๋อย ไตรภพ จากก้นบึ้งหัวใจ เป็นที่สุดหนึ่งเดียวในวงการบันเทิงของผมครับ"
#3451



อเมริกันชนที่วัคซีนต้านโควิด-19 ครบแล้ว ควรกลับไปสวมหน้ากากอีกครั้งยามอยู่ในสถานที่สาธารณะในร่ม ตามภูมิภาคต่างๆที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยเฉพาะตัวกลายพันธฺุ์เดลตากำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาบังคับลูกจ้างรัฐฉีดวัคซีน เชื่อเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์อีกรอบ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) ยังแนะนำให้นักเรียนทุกคนและครูสอนตามโรงเรียนอนุบาลจนถึงเกรด 12 สวมหน้ากากโดยไม่พิจารณาว่าฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ ขณะที่ซีดีซีเชื่อว่าเด็กๆน่าจะกลับคืนสู่ชั้นเรียนในห้องเรียนและเต็มเวลา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภายใต้ยุทธศาสตร์การป้องกันอย่างเหมาะสม

การกลับลำคำแนะนำจากที่เคยแถลงเมื่อเดือนพฤษภาคมของทางซีดีซีในครั้งนี้ กระตุ้นประชาชนชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องควานหาหน้ากากปกปิดใบหน้าตนเอง

สหรัฐฯเป็นชาติลำดับต้นๆที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงที่สุดในโลก คิดเป็น 1 เคสในทุกๆ 9 เคสที่ทั่วโลกรายงานในแต่ละวัน เวลานี้ค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อรายใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ที่ 57,126 ราย แต่ยังเป็นแค่ 1 ใน 4 ของช่วงพีคสุดของการระบาด

"ตามพื้นที่ต่างๆที่มีการแพร่ระบาดสูง ซีดีซีแนะนำคนฉีดวัคซีนแล้วสวมหน้ากากยามอยู่ในสถานที่สาธารณะในร่ม เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาและปกป้องคนอื่นๆ" ซีดีซีระบุ พร้อมเผยว่าในบรรดาเคาน์ตีต่างๆของสหรัฐฯ มีราว 63% ที่มีอัตราการแพร่กระจายเชื้อในระดับสูง ซึ่งจำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาด

ในเดือนพฤษภาคม ซีดีซีเคยออกคำแนะนำว่าบุคคลที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากยามอยู่กลางแจ้ง และสามารถหลีกเลี่ยงสวมหน้ากากยามอยู่ในร่มเกือบทุกสถานที่ โดยภายใต้คำแนะนำครั้งนั้น ซีดีซีบอกว่ามันเป็นการเปิดทางให้วิถีชีวิตเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ



นายแพทย์เดวิด ดัวดี นักระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปปินส์ ระบุว่าคำแนะนำล่าสุดของซีดีซี มีแรงจูงใจจากลักษณะการแพร่ระบาดที่เปลี่ยนแปลงไป "เรากำลังเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก 10 วันหรือมากกว่านั้น"

คำแนะนำใหม่ของซีดีซีไม่ได้ผลผูกพันและอเมริกันจำนวนมาก โดยเฉพาะในรัฐต่างๆที่มีความโน้มเอียงฝักใฝ่รีพับลิกัน อาจเลือกไม่ปฏิบัติตาม ในขณะที่เวลานี้มีรัฐต่างๆอย่างน้อย 8 แห่ง ห้ามสถาบันการศึกษาบังคับสวมหน้ากาก

เมื่อวันจันทร์(26ก.พ.) ทำเนียบขาวยืนยัน ยังไม่ยกเลิกมาตรการห้ามคนต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ เนื่องจากกังวลกับการระบาดรุนแรงของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่ทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียและนครนิวยอร์ก รวมทั้งกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกสั่งให้ลูกจ้างรัฐต้องฉีดวัคซีนหรือตรวจหาเชื้อเป็นประจำ

หน้ากากกลายเป็นประเด็นทางการเมืองในสหรัฐฯ ครั้งอยู่ภายใต้การบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขัดขืนบังคับสวมหน้ากาก ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อ้าแขนรับมาตรการสวมหน้ากากและออกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากตามศูนย์กลางด้านการขนส่งต่างๆ ไม่กี่วันหลังเข้ารับตำแหน่ง

ไบเดน ระบุในวันอังคาร(27ก.พ.) ว่าสวมหน้ากากและเพิ่มจำนวนผู้ฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากตัวกลายพันธุ์เดลตา คือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์แบบเดียวที่ประเทศแห่งนี้ต้องประสบเมื่อปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน ไบเดน บอกับผู้สื่อข่าวด้วยว่ารัฐบาลของเขากำลังพิจารณาบังคับลูกจ้างรัฐของรัฐบาลกลางวัคซีน ตามอย่างรัฐแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก "ตอนนี้มันอยู่ภายใต้การพิจารณา" ประธานาธิบดีสหรัฐฯระบุ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์(26ก.ค.) เจน ซากี เลขานุการด้านสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว เปิดเผยว่ารัฐบาลยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะถึงขั้นต้องออกกฎหมายบังคับลูกจ้างรัฐของรัฐบาลกลางฉีดวัคซีนหรือไม่ ในขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯคือนายจ้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศ

(ที่มา:รอยเตอร์)
#3452




ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติไทย แห่งสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ศึกฟุตบอลเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ออกมายอมรับว่ามีอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักเตะไทย พลาดโอกาสไปค้าแข้งต่างแดน

โดย ชนาธิป วัย 27 ปี กล่าวระหว่างไลฟ์สดพูดคุยกับ ธงชัย สุขโกกี กุนซือนครปฐม ยูไนเต็ด ผ่านช่องยูทูป ทีมชาติไทย สไตล์นิชิโนะ_ โค้ชธง นครปฐม

"ค่าตัว ของนักฟุตบอลไทย มันแพงไปหรือเปล่า และใครจะมาเอา เพราะถ้ามันแพง มันก็อยากที่เขาจะมาเอา ถูกมั้ยครับ? อย่างของผม เอาแบบตรงๆ ก็การตลาดด้วยแหละ เขาก็เสี่ยงเลย และผมต้องไปพิสูจน์ตัวเอง เขาถึงซื้อผม หรืออย่าง มูซาชิ ไปเมืองนอก (เบียร์ช็อต วิลไรจ์ก - ลีกเบลเยียม) ก็แค่ 30 ล้านบาท ซึ่งผมว่านักฟุตบอลไทย ควรที่จะประมาณ 10 ล้าน ผมว่าโอเคเลย"

สำหรับ ชนาธิป สรงกรสินธ์ กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร โดยลงเล่นในญี่ปุ่นไปแล้ว 113 นัด ยิงได้ 15 ประตู ทำ 18 แอสซิสต์ รวมถึงยังเคยได้รับเกียรติติดทีมผู้เล่นยอดเยี่ยมเจลีก 2018 อีกทั้งยังเคยคว้าตำแหน่งรองแชมป์ลูวาน คัพ มาแล้วอีกด้วย
#3453



สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (Global Compact Network Thailand – GCNT) ได้จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง "บทบาทภาคเอกชนไทยในการส่งเสริมการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน" เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 เพื่อยกระดับการจัดการด้านระบบอาหารที่ยั่งยืนจากภาคธุรกิจเอกชนไทยสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบการประชุมสุดยอดด้านระบบอาหารของสหประชาชาติ

โดยข้อสรุปจากเสวนาครั้งนี้จะรวบรวมเป็นข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจไทยสู่การประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก (UN Food Systems Summit 2021) ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อพัฒนาระบบอาหารโลกให้เกิดความแข็งแรงและยั่งยืน โดยในงานมีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 100 คน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ประสานงาน UN Food System Summit National Convener กล่าวว่า ภาคเอกชนมีส่วนสำคัญในการเสนอแนวทางการพัฒนาการจัดระบบอาหารโลกให้ยั่งยืน โดยข้อเสนอแนะจากงานเสวนานี้จะนำไปเชื่อมโยงกับข้อเสนอจากผู้ที่มีบทบาท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการผลิตในแต่ละภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อนำไปเป็นแนวทางและข้อเสนอจัดทำนโยบายแผนงานการปฏิรูประบบอาหารและการเกษตรอย่างมั่นคงในการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก UN Food Systems Summit 2021 เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี 2573

โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบความมั่นคงและเป็นจุดเปลี่ยนทางด้านอาหารโลกที่หลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก จะต้องนำประสบการณ์การจัดการระบบอาหารของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 3 S คือ Safety, Security และ Sustainability ของภาคเกษตรและระบบอาหารให้มีความยั่งยืน ผู้ประกอบการทางด้านภาคเกษตรจะต้องปรับตัวนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ต่อกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเน้นไปสู่รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ โดยมุ่งเป้าหมายด้าน Zero Waste ลดขยะให้เป็นศูนย์เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน พร้อมกับการพัฒนาอาหารในอนาคต Future Food ที่จะต้องเน้นในเรื่องของการพัฒนาสมุนไพรไทย และการพัฒนาอาหารจากพืช รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการอาหารสัตว์ ซึ่งจะเป็นการจัดการทั้งระบบของอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน


นายนพปฏล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในฐานะเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจเอกชนต่างๆได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ดำเนินการตามแนวทางพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน หรือ Food Systems Sustainability ภายใต้กรอบของสหประชาชาติที่มีความท้าทายในเรื่องการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนต่อประชากรทั้งโลก 9 พันล้านคนภายในปี 2050 โดยมีความท้าทายตั้งแต่การผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการจำนวนมาก

ตลอดจนการผลิตและจัดการอาหารให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้มากที่สุด ซึ่งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้โลกจะพัฒนาด้านความยั่งยืนดีขึ้นหลายด้านตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะประเทศไทยที่ได้พัฒนาตามแนวทาง SDGs เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ในลำดับต้นๆของเอเชีย แต่การจะบรรลุสู่เป้าหมาย SDGs ในปี 2030 ไม่ใช่เรื่องง่าย และขณะนี้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนต่างๆถดถอย อาทิ

เป้าหมายที่ 2 ของ SDGs คือ No Hunger ที่ผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนประชากรโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสหประชาชาติได้พยายามสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนที่เป็นระบบมากขึ้นผ่าน UN Food Systems Summit ที่กำลังจะมีการจัดประชุมเร็วๆนี้ และเล็งเห็นว่าประเด็นการจัดการอาหารโลกที่ยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญระดับโลกเช่นเดียวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ


ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภาพรวมของกระบวนการ UN Food Systems Summit ซึ่งเป็นการประชุมที่เน้นให้ความสำคัญการร่วมมือของทุกภาคส่วนในการร่วมกันจัดการระบบอาหารโลกตลอดห่วงโซ่อุปทานให้เกิดความยั่งยืน โดยเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ เป็นกลุ่มภาคเอกชนที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือและข้อเสนอแนะจากประเทศไทยสู่การประชุมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นภายใต้กรอบแนวทางการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนทั้ง 5 แนวทางที่จะเป็นแนวทางสร้างเครือข่ายความร่วมมือยกระดับการเติบโตของภาคเกษตร การจัดการระบบอาหารไทยสู่ระบบอาหารโลกให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มธุรกิจจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนางสาวอินทิรา พฤกษ์รัตนนภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักพัฒนาและประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 1 :อิ่มถ้วนหน้า ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ โดยกล่าวว่า เครือซีพีและซีพีออลล์ให้ความสำคัญกับระบบอาหารที่ยั่งยืนทำให้ประชากรเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อช่วยลดอัตราการป่วยจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามยังมีประชากรบางกลุ่มประสบปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งการสร้างสุขภาพและสุขภาวะประชากรที่ดีต่อประชาชนในแต่ละประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศนั้นๆ ประเทศไทยในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเกษตรในภูมิภาคนี้จึงมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้ประเทศพัฒนา ซึ่งนโยบายของเครือซีพีและซีพีออลล์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราร่วมสร้างระบบอาหารโลกที่ยั่งยืนตั้งแต่การสร้างสรรค์สินค้าที่มีโภชนาการที่ดี เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย และสร้างความมั่นคงอาหารให้ประเทศไทย โดยนำนวัตกรรมที่ได้ศึกษามาต่อยอดสร้างอาหารที่ถูกหลักโภชนาการมีความปลอดภัยตลอดจนร่วมสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยการบริหารจัดการคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

นางสาวศิรภัสสร สกุลวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 5: อิ่มทุกเมื่อ เสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของระบบอาหาร กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารมาโดยตลอดตามแนวทางอาหารมั่นคง สังคมมั่นคง ดินน้ำป่าคงอยู่ โดยเฉพาะการสร้างแหล่งอาหารให้ชุมชนที่ดำเนินการมากว่า 30 ปี โดยการสร้างองค์ความรู้ให้ชุมชนมีศักยภาพผลิตอาหารได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้

นอกจากนี้ยังได้นำองค์ความรู้เข้าสู่ชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาระบบอาหารยั่งยืนผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน โครงการอิ่มสุขปลูกอนาคต โดยสร้างองค์ความรู้ให้เยาวชนได้เข้าใจการผลิตอาหารที่ถูกโภชนาการได้ด้วยตัวเอง และร่วมรักษาเสถียรภาพความมั่นคงในระบบห่วงโซ่อุปทาน แบ่งปันและถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับเกษตรกรรายย่อยโดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ
#3454



บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขออภัยผู้ใช้บริการกรณีสิ่งของฝากส่งอาจล่าช้า เนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบให้ต้องปิดที่ทำการฯบางแห่งชั่วคราว พร้อมย้ำ ไปรษณีย์ไทยจะแจ้งข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และไม่ปิดบังข้อมูลกรณีพบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ และได้มีมาตรการในการบริหารจัดการสิ่งของฝากส่งมิให้ตกค้าง พร้อมกับเข้มงวดมาตรการด้านสุขอนามัยในการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงการระบาดของ เชื้อ COVID-19 ที่ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยติดเชื้อ และไปรษณีย์บางแห่งต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อนั้น กรณีดังกล่าวได้มีเจ้าหน้าที่บางส่วนต้องทำการรักษาและกักตัวชั่วคราว แต่ไปรษณีย์ไทยซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ให้บริการด้านขนส่งและการสื่อสารภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังคงต้องให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะวิกฤต จึงอาจมีการจัดส่งสิ่งของล่าช้าในบางพื้นที่

โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีปริมาณไปรษณียภัณฑ์และพัสดุด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 8 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งจากการระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญในการไม่ให้งานตกค้าง โดยได้มีการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง และแนวทางดำเนินงานรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดังนี้

1. แบ่งเจ้าหน้าที่นำจ่ายออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกำหนดให้ทำงานเหลื่อมเวลากัน

2. นำเจ้าหน้าที่จากไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้เคียงมาปฏิบัติหน้าที่ในการนำจ่ายแทนเจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราว

3. ปรับเปลี่ยนเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ศูนย์ไปรษณีย์ที่ใช้ในการคัดแยกปลายทางซึ่งเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดพื้นที่ปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

4. กำชับให้เว้นระยะห่างเพื่อลดความเสี่ยง แยกกันรับประทานอาหาร ห้ามสูบบุหรี่ร่วมกัน และห้ามจับกลุ่มคุยกันอย่างใกล้ชิด

5. ไปรษณีย์ที่มีพื้นที่ปฏิบัติงานหลายจุดให้กำหนดเป็นพื้นที่ปฎิบัติงานสำรอง ในกรณีที่จุดใดจุดหนึ่งต้องปิด

6. ปรับสถานที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นำจ่ายให้มีระยะห่างกันเพิ่มมากขึ้น

"นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย จะไม่ปกปิดข้อมูลหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อและจะรายงานให้ผู้ใช้บริการทุกท่านทราบผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของไปรษณีย์ไทยอย่างตรงไปตรงมา แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบให้การนำจ่ายสิ่งของในช่วงนี้อาจล่าช้าบางพื้นที่ จึงต้องขออภัยผู้ใช้บริการมา ณ ที่นี้"

อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด คือ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งต้องคัดกรองผู้ใช้บริการก่อนเข้าที่ทำการอย่างเคร่งครัด ให้บริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ตั้งแต่เข้าที่ทำการ ระหว่างใช้บริการ และหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมจัดระยะห่างทั้งเคาน์เตอร์ให้บริการ เก้าอี้พักรอใช้บริการ และทำความสะอาดจุดสัมผัสในที่ทำการ เช่น จุดกดบัตรคิว มือจับประตู เคาน์เตอร์ให้บริการทุกๆ 20 นาที

ด้านเจ้าหน้าที่ให้บริการของไปรษณีย์ไทยเองก็มีการคัดกรองก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และงดการพูดคุยระหว่างให้บริการ และเจ้าหน้าที่นำจ่ายต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ระหว่างนำจ่ายสิ่งของให้ลูกค้าทุกครั้ง ศูนย์ไปรษณีย์มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนพัสดุทุกชิ้น สำหรับผู้ใช้บริการที่ไม่ต้องการลงนามรับสิ่งของ สามารถแจ้งให้บุรุษไปรษณีย์บันทึกชื่อ-นามสกุล แทนการลงนามได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัส
#3455



จากความคืบหน้าของโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่เริ่มต้นไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมาซึ่งในด้านของการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น แม้จะยังไม่ชักเจนมากนัก แต่ล่าสุด พล.เอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังคงยืนยันการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพงัน และ เกาะเต่า จังหวัดกระบี่ ในพื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง และ ไร่เล และจังหวัดพังงา ในพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ส.ค.64 นี้

จังหวัดพังงา เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับภูเก็ตโดยมีสะพานสารสินเชื่อมเกาะภูเก็ตทำให้ง่ายต่อการตั้งด่านคัดกรองนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างจังหวัด ทั้งนี้ภายหลังการเปิดภูเก็ตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้ จังหวัดพังงานเริ่มีการเตรียมการสู้โควิดด้วยแนวคิด "พังงาพร้อม" เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เข้ามาพักอยู่ในภูเก็ตแล้ว 14 วัน ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวไทยที่ฉีดวัคซีนครบ หรือมีใบรับรองครบถ้วนตามมาตรการสาธารณสุขสามารถเดินทางเข้ามาได้ โดยไม่ต้องกักตัว แต่การเดินทางเข้ามายังเปิดให้เฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ และต้องปฏิบัติตัวตามหลักท่องเที่ยวแบบ New Normal

สำหรับจังหวัดพังงา เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่ต้องมาหยุดชะงักเพราะสถานการณ์โควิด -19 แต่ภายหลังการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เริ่มต้นขึ้น ชาวพังงา ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ประกาศรวมพลังต่อสู้กับโรคโควิด 19 ภายใต้แนวคิด "พังงาพร้อม" ด้วยการรณรงค์ให้ชาวพังงาเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ให้ได้ 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเป็นการเดินตามรอยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โดยหวังจะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวได้อีกครั้ง



ทั้งนี้ กำหนดการเปิดจังหวัดพังงาจะเริ่มขึ้นในวันที่1 ส.ค.64 ทำให้ขณะนี้จังหวัดพังงา เร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการยกระดับ10 กิจการ ที่ได้มาตรฐานSHA : Amazing Thailand Safety & Health Administration ซึ่งมีอยู่ประมาณ140 แห่งไปสู่SHA Plus+ อันเป็นมาตรฐานที่รับรองว่าสถานประกอบการมีมาตรการทางสุขอนามัยในการควบคุมโรคโควิด -19 อีกทั้งมีพนักงานในสถานประกอบการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ2 เข็มแล้วเกินกว่า70% เพิ่มขึ้นให้มากที่สุดเพื่อให้ทันการเปิดเมืองพังงา

โดยเฉพาะหลังการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มต้นทำแล้วใน2 พื้นที่นำร่อง คือจังหวัดภูเก็ต และสุราษฎร์ธานีผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล ซึ่งขาดอีกไม่กี่วันโครงการPhuket Sandbox ซึ่งเป็นเฟสแรกของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะครบ1 เดือน ซึ่งจากการประเมินความก้าวหน้าของโครงการ Phuket Sandbox พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 – 21 ก.ค. รวม9,358 ราย ขณะที่ยอดการจองห้องพักตามมาตรฐานSHA+ สะสมระหว่างเดือนก.ค.- ก.ย. อยู่ที่244,703 คืน คิดเป็นอัตราการเข้าพัก10.12% สร้างรายรับการท่องเที่ยว 534.31 ล้านบาท


นายคาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ก่อนเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนถึง90% ของรายได้ของภาคการท่องเที่ยวในภูเก็ต จึงไม่น่าแปลกใจที่ความต้องการเข้าพักโรงแรมตกลงอย่างมาก ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในภูเก็ตค่อยๆเปลี่ยนไปจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ไปสู่ชาวจีน ที่ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด และชาวรัสเซีย ณ ช่วงครึ่งปีแรก 64 จีนยังไม่เปิดประเทศสำหรับต่างชาติ ซึ่งมีผลมาตั้งแต่เดือนม.ค.63 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ดังนั้น แผนการเปิดประเทศในรูปแบบของ'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนก.ค.นี้อาจมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากภูเก็ตพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นความพยายามที่ภูเก็ตจะกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่จำเป็นต้องกักตัว14 วัน ซึ่งโมเดลนี้ถือเป็นการปูทางที่จะเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น พังงา สุราษฎรธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขรรธ์รวมไปถึง จังหวัด ระยอง และชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ขณะเดียวกัน รัฐบาลตั้งเป้าที่จะกระจายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสให้เข้าถึง70% ของประชาชนทั้งหมดภายในสิ้นปี64 ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ การกระจายการฉีดวัคซีนต้องดำเนินการให้เร็วขึ้น เนื่องจากมีเพียง 3% ของประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน ณ สิ้นเดือนมิ.ย.64 ขณะที่ประชาชนกว่า60% ในจังหวัดภูเก็ตได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในประเทศไทย เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วโดยไม่จำเป็นต้องกักตัว ภายใต้ โครงการแซนด์บอกซ์ ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.ค.64 แต่ถึงอย่างนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็ยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่น ๆ เช่น การเข้าพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ โดยมีการรับรองSHA+ และตรวจRT-PCR หลายครั้งก่อนและหลังเดินทางมาถึงภูเก็ต

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมต่างก็คาดหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง 64 ด้วยอัตราการเข้าพักเป็นตัวเลขสองหลัก แต่รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพียง 100,000 คนภายใต้โครงการแซนด์บ็อกซ์ในไตรมาส3 ปี64 ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสำหรับโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก และอาจคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 20% ต่อไป ในขณะเดียวกัน ราคาเฉลี่ยรายวัน (ADR) ยังคงจะอยู่ในระดับต่ำตลอดเดือนที่เหลือของปีนี้หรืออาจนานกว่านั้น เนื่องจากโรงแรมที่เปิดอยู่จำเป็นต้องแข่งขันด้านราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนโรงแรมใหม่ที่ถูกเลื่อนเปิดตัวมาและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เริ่มทยอยกลับมาเปิดบริการมากขึ้น



"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นโครงการนำร่องในการพยายามที่จะกลับมาเปิดประเทศรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยจะขยายไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ หากภูเก็ตประสบความสำเร็จ แต่ความเสี่ยงอยู่ตรงที่ว่าอาจมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้มาตรการและข้อจำกัดด้านการเดินทางมีผลบังคับใช้อีกครั้ง และทำให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทยถือว่ามีความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดระดับหนึ่ง ด้วยอัตราการติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งตรงนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้โครงการ 'แซนด์บอกซ์' ในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว"

สำหรับสถานการณ์ธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ณ ปัจจุบัน พบว่าโรงแรมที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณหาดป่าตอง ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลเป็นหลัก โดยคิดเป็น24% ของจำนวนโรงแรมที่เปิดให้บริหารในภูเก็ต รองลงมา คือ หาดกะรน15% หาดบางเทา14% หาดกะตะ13% และหาดกมลา10% ขณะที่ความต้องการเข้าพักโรงแรมยังคงลดลงอย่างมาก โดยในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่8% สำหรับโรงแรมระดับลักลักซูรี่และระดับอัพสเกล มีอัตราการทเข้าพักลดลง30% ปีต่อปี อัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในเดือนพ.ค.และมิ.ย. ซึ่งอยู่ที่3% เนื่องจากการระบาดระลอกที่3 ในจังหวัดสมุทรปราการในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวได้ส่งผลต่อราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) ของโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลลดลงไป 39% ปีต่อปี อยู่ที่2,342 บาท ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุด เนื่องจากภูเก็ตไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ โรงแรมต่าง ๆ จึงต้องเสนอส่วนลดต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความต้องการภายในประเทศที่มีจำกัด แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก64 จะไม่มีโรงแรมระดับลักชัวรี่และระดับอัพสเกลเปิดใหม่และจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ซับพลายสะสมโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีจำนวนห้องพักรวมอยู่ที่22,824 ห้องในภูเก็ต มีโรงแรมใหม่กว่า 20 แห่งที่วางแผนจะเปิดตัวในช่วงปี63 และ64 แต่นื่องจากความไม่แน่นอนในการกลับมาของนักท่องเที่ยวโรงแรมที่วางแผนจะเปิดตัวจำต้องชะลอการเปิดตัวออกไปถึงช่วงครึ่งปีหลัง64 และปี65 มีเพียงโรงแรมวี วิลล่า ภูเก็ต บาย เอ็มแกลเลอรี (24 ห้อง) เปิดตัวในภูเก็ตในช่วงครึ่งปีแรก64 ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมระดับซูเปอร์ลักซูรี่


นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า แม้จะมีโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แต่ผุ้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังมีความกังวลอยู่ว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวของภูเก็ตนั้นจะเป็นความหวังในแง่ดีหรือร้าย ทั้งนี้ในกลุ่มของผู้ประกอบการอสังหาฯ และการท่องเที่ยวภูเก็ต มีความกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ1. จำนวนนักท่องเที่ยวไทยจะลดลลงหลังเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะแม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการฉีดวัคซีนครบ2 โดสแล้ว แต่ก็ไม่การันตีว่าจะป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็น 2.หลังเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากอย่างที่หวังหรือไม่ เพราะหลายๆประเทศมองไทยมีการแพร่ระบาดในระดับสูง ซึ่งอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามามีจำนวนน้อยกว่าที่คาดการณ์ ผลที่จะตามมาคือภูเก็ตจะต้องประสบปัญหามากขึ้น

" ต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตหลักๆ คือ จีน อินเดีย รัสเชีย ซึ่งในปัจจุบันนี้อินเดียมีการระบาดหนักมาก ขณะที่จีนก็ยังไม่เปิดประเทศเดินทางเข้าไทยได้ รัสเซียเองก็ยังไม่เปิดประเทศดังนั้นทั้งสามประเทศนี้ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในระยะแรกจะยังไม่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามการเปิดภูเก็ตถือเป็นโครงการนำร่องที่จะทำให้ไทย สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้ดังนั้นผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องยอมให้มีการเปิดภูเก็ตใช้เป็นพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศขณะเดียวกันในช่วงสามเดือนแรกนี้ผู้ประกอบการเองก็หวังว่าการควบคุมการแพ่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้นและการฉีดวัคซีนมากกว่า70% นั้นจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ตามที่เราหวังไว้ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะทยอยกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น แต่ในส่วนของอสังหาฯ นั้นจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าทำให้ยอดซื้อขายในช่วงปลายปีขยายตัวได้ไม่มากนัก"

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยข้อมูลตลาดอสังหาฯในงานสัมมนาออนไลน์ "Thailand Resort Real Estate Update" ที่จัดขึ้นโดย ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คสบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโรงแรมและอสังหาฯ และ เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ ผู้ให้บริการด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมการบริการการท่องเที่ยว และอสังหาฯ พบว่าในช่วง18 เดือนในระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19คนไทยมีความต้องการที่พักตากอากาศปรับตัวมากขึ้น ทำให้ยอดการซื้อ "บ้านตากอากาศ" หรือ "บ้านหลังที่สอง" เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ "ฟาสวาส" (FazWaz) เว็บไซต์อสังหาฯ รายงานว่าพื้นที่รีสอร์ทชายทะเลยอดนิยมของ "หัวหิน" กลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้มีการสอบถามข้อมูลทางออนไลน์มากขึ้นในแต่ละปี โดยนายเบรนแนน แคมป์เบล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟาสวาส กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลตั้งแต่ไตรมาส2 ปี63 ถึงกลางปี64 พบว่า แรงจูงใจในการซื้อบ้านพักตากอากาศ หรือ เพื่อการลงทุน มีการเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้ซื้อมากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ต เกาะสมุย และพัทยา โดยยอดซื้อขายสูงที่สุด อยู่ในพื้นที่หัวหินคิดเป็น64% ของธุรกรรมมาจากตลาดในประเทศ

ขณะที่บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัดได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ โครงการภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ในฐานะต้นแบบสำหรับการเปิดประเทศของไทย แต่โครงการนี้กลับมาพร้อมกฎเกณฑ์หลายประการ ซึ่งถ้าการปฎิบัติและผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ภาครัฐกำหนดไว้โครงการก็จะถูกยกเลิก ทั้งนี้ ข้อกำหนดที่มีความซับซ้อนสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา เช่น การขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ ขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องวัคซีน และข้อกำหนดในการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ที่ต้องตรวจหลายครั้ง อาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาลดลง

นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดินแหล่งพักตากอากาศ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ประจำภูเก็ตกล่าวว่า โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นโครงการที่ทำให้เกิดความหวังในกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตและเกาะอื่น ๆ ที่กำลังเฝ้าติดตามโครงการนี้อย่างใกล้ชิด โดยแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี รายงานว่ามีธุรกิจมากกว่า 300 แห่งเข้าร่วมโครงการ SHA Plus โดยที่ SHA คือการรับรองว่าธุรกิจมีมาตรการด้านสาธารณสุข และPlus หมายถึงพนักงานมากกว่า70% ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการขยายระยะเวลากักตัวจาก 7 วันเป็น14 วัน ผู้ประกอบการในท้องถิ่นจึงมองว่าโครงการ มีศักยภาพน้อยลง และกังวลว่าการที่ต้องพำนักอยู่นานขึ้นอาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาภูเก็ตลดลง รวมทั้งโรงแรมบางแห่งจะชะลอการกลับมาเปิดให้บริการจนกว่าจะถึงเดือนส.ค.

แม้ข่าวล่าสุดจะรายงานว่ามีผู้ยื่นขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศเกือบ8,000 ราย แต่น่าเสียดายว่าก่อนที่โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์จะเริ่มต้นขึ้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากได้ยกเลิกเที่ยวบินและการจองโรงแรมเนื่องจากการขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศและกระบวนการอื่นๆ มีความล่าช้า โดยก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่านักท่องเที่ยวมากกว่า 100,000 คนจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตในช่วง3 เดือนแรกของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าความสมดุลระหว่างมาตรการด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามโครงการได้จริง ตลอดจนการจัดการขั้นตอนการต้อนรับอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากขณะนี้ไทยยังอยู่ใน "รายชื่อประเทศที่ต้องระมัดระวังในการเดินทาง" ของหลายๆประเทศทำให้ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจากนี้ไปจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามคาดการร์หรือไม่
#3456



นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ได้รับแจ้งจากบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทถือหุ้นทางตรง และ ทางอ้อมรวมเป็นจำนวน 35% ว่า เตรียมรับเงินค่าชดเชยจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นเงินกว่า 1.6 พันล้านบาทภายในเดือนส.ค.นี้ โดยทั้งสองฝ่ายได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงและยื่นต่อสำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองเรียบร้อยแล้ว

ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชำระเงิน 1,654,604,627.54 บาท ให้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี นับจากวันฟ้องจนถึง 10 เม.ย. 2564 ต่อจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็น 3% บวกเงินเพิ่มอีก 2% จนถึงวันชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วัน ตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น


โดยที่ประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากได้มีมติชำระหนี้กรณีสัญญาจ้างบริการระบบเกมสลากให้แก่ ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค ดังนี้ 1. ชำระหนี้จำนวน 1,654,604,627.54 บาท ภายในเดือนสิงหาคม 2564

2. ชำระดอกเบี้ยจำนวน 444,745,338.27 บาท ภายในปีงบประมาณ 2565 โดยชำระงวดแรกภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 งวดที่สองภายในวันที่ 4 มกราคม 2565 งวดที่สามภายในวันที่ 1 เมษายน 2565 และงวดที่สี่ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยแบ่งจ่ายงวดละเท่า ๆ กัน
#3457



เป็นสัปดาห์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ , ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล, มีมี่-พิมพ์มาดา ตั้งสี, รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ, ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา, เก๋-พรรณิภา วงษาชัย และ ตาล-สุดารัตน์ วงษ์กล่ำ อย่างมาก เพราะที่ผ่านมา สมาชิกชั่วคราวแต่ละคน สามารถป้องกันตำแหน่งของตัวเองจากผู้ท้าชิงมาต่อเนื่อง 6 แมตช์ติดต่อกันเข้าให้แล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาสมาชิกชั่วคราวต่างก็แอบลุ้นว่าวีคนี้ใครจะเป็นผู้ถูกเลือก และจะสามารถสร้างสถิติใหม่รักษาตำแหน่งของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น 7 ครั้งต่อเนื่องได้หรือไม่?


เปิดเวทีด้วยพิธีกร น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เชิญผู้ท้าชิงคนที่ 11 อาย-ฐิติรัตน์ ละลี อดีตสมาชิกวงไอดอลชื่อดังจากภาคเหนือ SY51 สู่เวทีเพื่อเลือกสมาชิกชั่วคราวที่อายต้องการท้าชิง ซึ่งอายประกาศอย่างมุ่งมั่น ขอเปิดศึกกับสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา โดย อาย-ฐิติรัตน์ ได้พาพิธีกรและคณะกรรมการอย่าง สอง พาราด็อกซ์, แพท เคลียร์, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ และ ติ๊ก เพลย์กราวนด์ ย้อนไปสัมผัสกลิ่นอายในอดีตกับเพลง "รักครั้งแรก" ของวง "ชาตรี" ด้าน ซีโมน-ปุณณาสา ที่ต้องแบกรับภาระการรักษาสถิติเอาไว้ ก็โชว์ในเพลง "นักมายากล" ของวง "พาราด็อกซ์" อย่างสนุกสนาน สลัดความกังวลและโฟกัสกับหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี


และแล้วก็ถึงคราวที่กรรมการต้องตัดสิน เมื่อทางรายการประกาศให้กรรมการที่จับลูกบอลหมายเลข 3 ต้องรับหน้าที่ชี้ชะตาผู้ท้าชิงและสมาชิกชั่วคราว งานนี้ฟ้ากำหนดให้ สอง พาราด็อกซ์ เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเจ้าตัวเลือกให้ ซีโมน ไปครองตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ต่อไป ด้านกรรมการท่านอื่นก็พร้อมใจเทคะแนนให้ ซีโมน เช่นกัน สร้างความดีใจให้กับ ซีโมน เป็นอย่างมากที่สามารถสร้างสถิติที่สมาชิกชั่วคราวสามารถรักษาตำแหน่งได้ต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง


หลังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ซีโมน เปิดใจว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่หนูถูกท้าชิง หนูภูมิใจกับโชว์นี้มาก ๆ ค่ะ มันจะมีความจิต ๆ หนูชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว เลยทำให้หนูเก็ทกับมันมากขึ้น แต่พี่อายก็ทำได้ดีมาก ๆ เลย พอโชว์มันแตกต่างกันคนละขั้ว ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของกรรมการแล้วค่ะ ถามว่าครั้งนี้กดดันกว่าครั้งก่อนไหม คือเราอยู่กันมาได้ 6 สัปดาห์แบบครบเลย ก่อนโชว์ก็กดดันมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งหน้าที่ของหนูก็คือต้องโชว์ออกมาให้ดีที่สุด หนูรู้สึกดีใจมากที่คนเอ็นจอยกับโชว์นี้ ทำให้มีกำลังใจที่ครีเอทโชว์ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ"


จากนั้นมาถึงคิวของผู้ท้าชิงคนที่ 12 พรีม-ปฐมาภรณ์ ศรีวานิชภูมิ สาวน้อยผู้กล้าก้าวข้ามคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ฝึกฝนทักษะการร้องเต้นที่เธอไม่เคยทำ โดยสาวพรีมเลือกแข่งขันกับผู้ท้าชิงหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย ซึ่งเป็นการประเดิมเวทีครั้งแรกของเก๋ในรายการ "Last Idol Thailand" เพราะที่ผ่านมาเก๋ยังไม่เคยถูกท้าชิงมาก่อน พรีม-ปฐมาภรณ์ เลือกร้องเพลง "จริง ๆ มันก็ดี" ของ จีน่า เดอซูซ่า ด้วยเสียงหวาน ๆ ของพรีมเปลี่ยนให้เพลงแสบซ่ากลายเป็นเวอร์ชั่นสดใสมองโลกบวกขึ้นมาทันที ทำให้กรรมการชุดใหม่อย่าง โบ ไทรอัมพ์ คิงดอม, หนึ่ง อีทีซี, ณัฐ เคลียร์ และ แทน ลิปตา อดยิ้มไปกับการแสดงของเธอไม่ได้

เมื่อผู้ท้าชิงคนที่ 12 สาดพลังบวกให้ผู้ชมขนาดนี้ เก๋-พรรณิภา จะเรียกความสนใจจากกรรมการให้เทคะแนนให้กับเธอด้วยเพลงอะไร? รอให้กำลังใจเก๋กันต่อในวันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. เวลา 12.30-13.30 น ทางช่อง 7 HD
#3458



อัปเดต ศึก ONE: BATTLGROUND มีการเปลี่ยนแปลงตัวนักกีฬาในช่วงโค้งสุดท้ายอย่างกะทันหันด้วยเหตุสุดวิสัยหลายประการ แต่รับรองว่าการสลับจับคู่ใหม่ไม่ทำความมันลดน้อยถอยลงแน่นอน

เริ่มที่คิกบ็อกเซอร์ตุรกี "ไทฟุน ออสแคน" ซึ่งเดิมมีนัดฟาดปากกับคิกบ็อกเซอร์ขวัญใจชาวไทย "สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง" ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึก ONE:BATTLEGROUND ซึ่งกำหนดถ่ายทอดสด ศุกร์ 30 ก.ค.นี้ จำต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันในนัดเปิดตัว เนื่องจากได้รับอุบัติเหตุข้อมือหักก่อนเดินทางไปสิงคโปร์

คู่นี้จึงถูกแทนที่ด้วย "เรียวโตะ ซาวาดะ" นักสู้ดาวรุ่งจากแดนซามูไร จะพิสูจน์ฝีมือกับอดีตนักมวยปล้ำโอลิมปิกไซส์มินิชาวคิวบา "กุสตาโว บาลาร์ต"

ด้าน "เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์" ซึ่งจ่อคิวฉะเดือดกับ "ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม" ในฐานะคู่เอกศึก ONE:BATTLEGROUND III ซึ่งกำหนดออกอากาศเทปการแข่งขัน ศุกร์ 27 ส.ค.นี้ จำเป็นต้องออกจากการแข่งขัน เนื่องด้วยเทรนเนอร์มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ส่งผลให้ เสมาเพชร ซึ่งเป็นผู้อยู่ใกล้ชิดไม่สามารถแข่งขันได้ตามมาตรการความปลอดภัยในสถานการณ์ไวรัส

สิทธิชัย และ ตะวันฉาย ซึ่งตกอยู่ในสถานะไร้คู่แข่งด้วยกันทั้งคู่ จึงตัดสินใจโคจรมาเจอกันในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (70.3 กก.) ซึ่งถือเป็นหวนคืนสังเวียนมวยไทยในรอบหลายปีของ สิทธิชัย และจะได้สวมนวม MMA ชกเป็นครั้งแรกในชีวิต ส่วน ตะวันฉาย ก็ขยับรุ่นจากเดิม 65.8 กก. มาเป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งผู้ชนะในไฟต์นี้อาจนำไปสู่การชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวตกับเจ้าบัลลังก์อย่าง "เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี" ก็เป็นได้

รับชมศึก ONE: BATTLRGROUND ได้ทาง ONE Super App , YouTube ของ ONE Championship 19.30 น. , AIS Play 19.30 น. และไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30 น.
#3459


คอหวยไม่พลาดแห่ซื้อเลขยอดเงินทำบุญ "แม่น้ำหนึ่ง"ที่ร่วมซื้อที่ดินถวายวัดป่าปฐม ขอนแก่น

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.คอหวยถึงกับออกอาการเศร้าไปตามกัน หลังจากที่ น.ส.ภิรดา ธนโชติจินดา หรือ แม่น้ำหนึ่ง ออกมาไลฟ์สด ประกาศงดจุดธูปปู่ 1 งวด หลังก่อนหน้าใช้แนวทางทำคนถูกหวยมาแล้วหลายงวดติด แต่เริ่มเจอดราม่าเยอะขึ้นเมื่อ 2 งวดที่ผ่านมา


แต่อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีเลขธูปก็เหมือนเจ้าตัวจะบอกเป็นนัยยะกับแฟนคลับ ล่าสุดแม่น้ำหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า ทำบุญร่วมซื้อที่ดินถวายวัดป่าปฐม ( ครูบาไก่ ) อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ขอเชิญลูกเพจ ผู้ติดตาม ลูกศิษย์พระครูบาไก่ (หลวงลุง) เจ้ากรรมนาย และสัมภเวสีทั้งหลาย จงมาร่วมอนุโมทนาบุญนี้ร่วมกันนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ พร้อมกับโชว์ยอดเงินบริจาคทำบุญ เป็นเงินจำนวน 88,888 บาท ขณะที่คอหวยต่างนำเลขยอดทำบุญไปเสี่ยงโชค
#3460


นักวิจัย มหาวิทยาลัยศิลปากร นำนวัตกรรมระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ "พาราโบลาโดม" แก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าการผลิตเมล็ดกาแฟอบแห้ง วิสาหกิจชุมชน จ.แม่ฮ่องสอน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สามารถใช้งานบนพื้นที่สูงอย่างมีประสิทธิภาพ

การอบแห้งเมล็ดกาแฟของเกษตรกรบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือ นิยมใช้วิธีการตากแห้งแบบดั้งเดิม จึงประสบปัญหาเรื่องฝนตก แมลงรบกวน ขนาดพื้นที่ที่จำกัดและระยะเวลาการตากแห้งหลายสิบวัน จนเกิดเชื้อรา ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ ขายได้ราคาถูก ซึ่งในแต่ละปีจะมีผลผลิตเมล็ดกาแฟเกิดขึ้นในพื้นที่จำนวนมาก


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรากรณ์ มหาโยธี ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าว่า พาราโบลาโดม ถูกใช้อย่างกว้างขวางกับผลิตภัณฑ์อบแห้งหลากหลายชนิด สำหรับการอบแห้งเมล็ดกาแฟ นักวิจัยได้ใช้พาราโบลาโดมมาตรฐานขนาดเล็ก ขนาดพื้นที่ฐาน 6.0 x 8.2 ตร.ม. และพาราโบลาโดมขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่จำกัดบนดอย คือ ขนาดพื้นที่ฐาน 3.0 x 6.2 ตร.ม. ติดตั้งใน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านห้วยไม้ดำ กลุ่มเกษตรกรบ้านหนองขาวกลาง และวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบ้านหนองขาวเหนือ ตำบลห้วยปูลิง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาและต่อยอดผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟได้ดี



"จุดเด่น คือ ได้ผลลัพธ์ของกาแฟอาราบิกาคุณภาพพิเศษ ที่เรียกว่า Honey Process และใช้เวลาอบแห้งเพียงแค่ 3 วัน ลดลงจากเดิมถึง 3 เท่า สามารถรักษารสชาติของกาแฟไว้ได้เป็นอย่างดี และขายได้ในราคาที่สูงกว่าเดิมหลายเท่า เป็นการส่งเสริมเกษตรกรที่ปลูกกาแฟแบบ Shade-Grown Coffee ซึ่งเป็นการทำเกษตรแบบอนุรักษ์ป่าอีกทางหนึ่ง นวัตกรรมมีกระบวนการไม่ซับซ้อน ตามแบบนวัตวิถี เหมาะต่อการใช้งานของเกษตรกร โดยวางเป้าหมายการขยายผล ด้านการเผยแพร่ความรู้ไปยังเกษตรกรบนพื้นที่สูงมากยิ่งขึ้น หากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ก็จะสามารถร่วมกันอบรมต่อยอดนวัตกรรมนี้ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ เกษตรกรเกิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์อื่นตามมา เกิด Local Enterprise และการซื้อขายที่เป็นธรรมต่อเกษตรกร สร้างโมเดลภาคธุรกิจชุมชนที่มั่นคงต่อไป"ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรากรณ์ กล่าว

ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ มีโครงสร้างแบบเรือนกระจก (Greenhouse) เป็นรูปพาราโบลา ปิดคลุมด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนต เพื่อให้เกิดหลักการเรือนกระจก คือ เมื่อรังสีดวงอาทิตย์ผ่านแผ่นโพลีคาร์บอเนต ไปยังผลิตภัณฑ์ในชั้นวาง บางส่วนจะตกกระทบพื้นของระบบอบแห้ง ทำให้ภายในระบบอบแห้ง มีอุณหภูมิสูงขึ้น รังสีอินฟราเรดในแสงแดดถูกเก็บกักไว้ภายในระบบอบแห้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านแผ่นโพลีคาร์บอเนตออกไปได้ อุณหภูมิภายในระบบจึงสูงขึ้น น้ำในผลิตภัณฑ์จะระเหยออกมา และถูกพัดลมดูดอากาศด้านหลังของระบบดูดออกไปภายนอก อากาศภายนอกจะไหลเข้ามาแทนที่ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์แห้งเร็วกว่าการตากแดดตามธรรมชาติ ประหยัดเวลา ช่วยป้องกันฝนและแมลงรบกวน



ด้านดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า วช. มีนโยบายสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาของไทยพัฒนานวัตกรรมในด้านต่างๆ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยหลายแห่งสามารถผลิตนวัตกรรมเพื่อตอบสนองการแก้ปัญหาด้านต่างๆ เช่น การแพทย์ การเกษตร สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ตามความเร่งด่วนของปัญหาที่เกิดขึ้น นวัตกรรมหลายประเภทสามารถผลิตออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ และอีกหลายโครงการเป็นการวางรากฐานงานวิจัยของไทยให้เกิดความเข้มแข็งในระยะยาวต่อไป เช่นเดียวกับ นวัตกรรมพาราโบลาโดมนี้ ที่ช่วยแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ให้กับวิสาหกิจชุมชนด้านการทำการเกษตร ซึ่งเป็นฐานรากทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอีกด้านหนึ่ง