• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jenny937

#3341


เรียกได้ว่ายังเป็นกระแสอยู่พอสมควรสำหรับกีฬาสุดฮิตอย่าง Surfskate อาจด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ทั้งความสนุก ท้าทาย เล่นง่ายกว่าสเก็ตบอร์ดชนิดอื่น และแน่นอนว่าความสวยงามและเสน่ห์ของอุปกรณ์ "Surfskate" ที่หลากหลาย ก็เป็นอีกปัจจัยให้กีฬานี้ยังเรียกความสนใจจากนักไถหน้าใหม่ได้เสมอ

ในความแฟชั่นของ "Surfskate" กำลังผสมผสานกับความยั่งยืน อันเกิดจากไอเดียต่อยอดมาจาก Earth Day การรวมตัวกันระหว่าง Surfskate, การอนุรักษ์ และความคิดสร้างสรรค์ กลายเป็นโครงการ Waste Surfer โปรเจคแปลงร่างขยะให้กลายเป็น "เซิร์ฟสเก็ต"



Surfskate จาก Waste สู่ Wave
จากไอเดียเก๋ๆ ของ 'เจน' กัลยา โกวิทวิสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง FabCafe Bangkok ที่อยากลองนำขยะและวัสดุเหลือใช้มาใส่ไอเดียให้เป็นแผ่น "Surfskate" เพื่อสร้างมูลค่าและอาจเป็นโอกาสเติบโตของผู้ผลิต "เซิร์ฟสเก็ต" ในไทย

เธอจึงเปิดรับขยะและวัสดุเหลือใช้หลายชนิดเพื่อทดลองผลิตเป็นแผ่น "Surfskate" หรือที่เรียกกันว่า Deck ทว่าการนำขยะมาใช้คือความท้าทาย จึงเปรียบเสมือนการทำวิจัยร่วมกันระหว่าง FabCafe Bangkok และผู้ร่วมโครงการ

"เราคัดเลือกในทีแรกได้วัสดุมาประมาณ 10 ชนิด และคนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนหนึ่งก็มีหลายวัสดุ ตอนนี้เลยมีประมาณ 20 วัสดุได้ เราก็ทำงานกับ Material Connexion Bangkok ของ TCDC (Thailand Creative Design Center) เขาเป็นคนมาดูว่าวัสดุไหนน่าสนใจ เสร็จแล้วคนที่ได้รับคัดเลือก ก็จะมาแข่ง Hackthon มี ผศ.ดร. ประสิทธิ์ พัฒนะนุวัฒน์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาให้ความรู้เกี่ยวกับการขึ้นรูปแบบ Cold Press เป็นแม่พิมพ์แบบเย็น แล้วบีบอัดขึ้นมา

พอเรียนเสร็จ ทุกคนก็จะต้องทำชิ้นทดลองขึ้นมา เพราะถ้าไม่เวิร์คก็จะกลายเป็นแค่ขยะชิ้นเล็กพอ ถ้าลงมือทำชิ้นใหญ่แล้วพลาดก็จะกลายเป็นขยะที่เยอะมาก เมื่อผ่านด่านนี้แล้วเขาถึงจะไปทำเป็นแผ่นใหญ่ และให้คนที่เล่นเซิร์ฟสเก็ตมาทดสอบ โดยดูเรื่องการผลิต, ความแข็งแรง, ความยืดหยุ่น และเรื่องน้ำหนัก เพราะบางอันหนักมาก"

กระดานไถเท่ๆ จากวัสดุเก๋ไก๋
หากนับระยะเวลาที่ "Surfskate" เติบโตในประเทศไทย ก็ไม่น้อยกว่า 2 ปีแล้ว "เซิร์ฟสเก็ต" จึงไม่นับว่าเป็นของใหม่นัก แต่ความแปลกใหม่ของ "Surfskate" ในโปรเจค "Waste Surfer" คือวัสดุต่างๆ ที่หลายอย่างแทบจะนึกไม่ถึงว่าจะทำเป็นแผ่นสเก็ตได้

เจนยกตัวอย่างวัสดุที่กำลังได้รับการพัฒนา ได้แก่ เสื่อกก, ใยบวบ, รองเท้าแตะ, ไม้ไผ่, พรมนิทรรศการ, ลังกระดาษ, กากกาแฟ, E waste, แหอวน, Bubble wrap, หนัง, ผ้า, เมล็ดชมพู่น้ำดอกไม้ และ เซลลูโลสเปลือกทุเรียน

"ถ้าเอาความแปลกเป็นหลัก คิดว่าวัสดุจากทีมสวนลัคกี้ฮิลล์ป่าละอูค่อนข้างแปลก คือใช้เมล็ดชมพู่น้ำดอกไม้กับเซลลูโลสเปลือกทุเรียน แต่ในแง่ความแข็งแรงอาจจะต้องพิจารณาอีกที ต่างกับวัสดุบางอย่างเช่น แหอวน พวกนั้นต่างประเทศก็มีคนทำ มันแข็งแรงด้วยตัวของมันเอง

ในแง่ของความเบา รองเท้าแตะเอามาทำได้เบาที่สุด ในแง่ของคนสนใจ ทีมที่เอาขยะจักสานพวกเสื่อมาทำ อันนี้สวยสุด หลายคนบอกว่าอันนี้น่าจะมีคนอยากได้"

ซึ่งคนกลุ่มนี้ที่นำเสนอไอเดียและลงมือทดลองทำล้วนแต่เป็นคนที่สนใจเรื่องการลดปริมาณขยะอยู่เป็นทุนเดิม โดยที่ไม่ว่าจะใช้วัสดุใดก็ต้องไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือเพื่อใช้งานจริงได้ เพียงแต่วัสดุต่างๆ มีตัวแปรแตกต่างกัน เช่น ผ้าไม่มีทางแข็งแรงได้ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องแทรกวัสดุอื่นเข้าไป เป็นต้น

"กุญแจสำคัญของเราคือทำอย่างไรให้ขยะพวกนี้ถูกแปรรูปเป็นสิ่งที่คนต้องการ เพราะถ้าเรารณรงค์เรื่องลดขยะ แล้วเอาไปทำพวงกุญแจ สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นขยะอยู่ดี อย่างโปรเจคที่เราทำนี้ จะมีตัวชี้วัดสองตัวคือ 1.มูลค่าที่เพิ่มขึ้น ถ้าเกิดมูลค่าลดลงเราจะไม่ทำ 2.ช่วงชีวิตของมันต้องนาน ถ้านานได้เกิน 3-5 ปีจะเยี่ยมมากเลย เพราะมีบางคนเอาขยะไปทำเป็นแฟชั่น แต่วงจรชีวิตมันต่ำ เราเลยมองว่า "Surfskate" มันเก็บได้ยาวๆ เพื่อเป็นการยืดอายุขยะ ไม่ให้มันกลับไปเป็นขยะอีกรอบหนึ่ง"

หลายต่อหลายครั้งที่ไอเดียเพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นเพียงอีเวนท์ซึ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ (แป๊บเดียว) แล้วดับไป แต่ความพยายามของโปรเจค "Waste Surfer" ไปไกลกว่านั้น คือ จากขยะในถัง จะไปโลดแดล่นทั้งในลานสเก็ต และบนเชลฟ์ของ Skate Shop

ถึงตอนนี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่เจนได้พูดคุยกับพาร์ทเนอร์ร้านสเก็ตหลายแห่ง เตรียมที่ทางให้ผลิตภัณฑ์ได้ไปต่อ ทั้งในแง่การเป็นแหล่งรวบรวมวัสดุเหลือใช้ แหล่งผลิต และจำหน่าย

"ถ้ากระแสเซิร์ฟสเก็ตมันลดฮวบลง อย่างน้อยก็ยังมีสนามหรือกลุ่มคนที่เล่นอยู่ ถ้าเราเอาเครื่องผลิตแผ่น Surfskate จากวัสดุเหลือใช้ นอกจากคุณเรียนรู้การเล่น คุณยังเรียนวิธีการสร้างด้วย ถ้าเป็นเรื่ององค์ความรู้ก็จะไปได้เรื่อยๆ เลยไม่ค่อยห่วงว่ามันจะหายไป

เครื่องที่เราพัฒนาขึ้นมาคือแม่พิมพ์ จะไปตั้งอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น ร้านสเก็ต สมมติคุณจะผลิต Deck จากฝาขวดพลาสติก ก็รวบรวมฝาขวดให้ได้ตามจำนวน เช่นใช้ 300 ฝา พอครบก็ไปร้านที่มีเครื่องนี้ ไปแปรรูปออกมา"


เจนเล่าว่าเครื่องผลิตแผ่นสเก็ตจากขยะมีอยู่สองแบบ คือ แบบ Cold Press กับแบบ Heat Press สำหรับแบบ Cold Press คือการบีบอัดด้วยแรงดันสูงให้วัสดุขึ้นรูปเป็นแผ่น โดยมีตัวประสานเช่นกาว เรซิ่น เป็นต้น ส่วนแบบ Heat Press เป็นการใช้ความร้อนบวกกับการบีบอัดด้วยแรงดันสูง วิธีนี้อาจต้องมีสถานที่พิเศษสักหน่อย เนื่องจากความร้อนจะทำให้กาวหรือพลาสติกกลายเป็นสารระเหยที่มีพิษ ดังนั้นหากมีระบบดูดอากาศ หรือระบายอากาศจะเหมาะสมกว่า

แต่ไม่ว่าจะลักษณะพิเศษของเครื่องจะเป็นแบบใด สถานที่ของแต่ละร้านเป็นแบบไหน สิ่งที่ทุกคนในห่วงโซ่ของ "Waste Surfer" ต้องมีเหมือนกันคือหัวใจที่ต้องการอนุรักษ์ ลดปริมาณขยะ โดยใช้ไอเดียสร้างสรรค์ให้กีฬากระแสอย่าง "Surfskate" เป็นส่วนหนึ่งในความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
#3342


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทขยายความร่วมมือใหม่ ในกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ด้วยการร่วมทุนกับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น ในสัดส่วน 51:49 เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส "วันพญาไท" มูลค่า กว่า 3,600 ล้านบาท

"โตคิว แลนด์ เอเชีย เป็นพันธมิตรรายใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับเราในการพัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร เพื่อสร้างอีโคซิสเท็มแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค"

นายมาซาโอกิ คาเนมัตซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนพัฒนาโครงการวัน พญาไท เป็นการเข้ามาลงทุนในไทยเป็นครั้งแรกของบริษัทหลังจากพิจารณามองหาพันธมิตรที่เหมาะสมและมีชื่อเสียงในไทยมายาวนาน บริษัทหวังว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน และเป็นรากฐานสำคัญสู่โอกาสสร้างความร่วมมือในธุรกิจด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตในอนาคตในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างประเทศไทย

โครงการวัน พญาไท เป็นโครงการมิกซ์ยูส สูง 31 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 1-3-0 ไร่ ตั้งอยู่ติดกับโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่พาร์ค ออริจิ้น พญาไท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด 'ONE STEP JOURNEY' เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตจากส่วนคอนโดที่พักอาศัย ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส และแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีพญาไทย 200 เมตร

และยังเป็นโครงการแรกในไทยที่จะมีแบรนด์โรงแรมระดับโลก 2 แบรนด์ภายในอาคารเดียวกัน คือ โฮเทล อินดิโก โรงแรมในแนวคิดบูทีคโฮเทล มีห้องพัก 210 ห้อง และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส มีห้องพัก 202 ห้อง โดยทั้ง 2 แบรนด์ภายใต้เครือ IHG Hotels & Resorts จะช่วยตอบสนองความต้องการที่แตกต่างให้กับทั้งนักเดินทางที่มาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจย่านใจกลางเมือง

นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าและอาคารสำนักงาน 2,200 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 26,880 ตารางเมตรโดยจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดว่าสถานการณ์โควิด-19 น่าจะคลี่คลายแล้ว

สำหรับโตคิว แลนด์ เอเชียเป็นบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯ จากประเทศญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ 67 ปี ภายใต้การดำเนินธุรกิจของโตคิว ฟูโดซัง โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งติดหนึ่งในบริษัทดัชนี นิกเคอิi 225 มีมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นปีงบการเงินล่าสุดของญี่ปุ่น (31 มี.ค.2564) ประมาณ 2,652,000 ล้านเยน หรือราว 790,000 ล้านบาท
#3343


 นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB เปิดเผยว่า บริษัทฯได้พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ปกครองและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยการให้ส่วน"ลดพิเศษในอัตรา 5 - 15% ของค่าเทอม"สำหรับเทอม 1 ของปีการศึกษา 2564/2565 และตรึงค่าเทอมตลอดทั้งปีการศึกษา 2564/2565 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อผู้ปกครองและนักเรียน รวมทั้งได้ปรับเวลาการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษาใหม่ (ปี 2564/2565) เป็นวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

  ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย บริษัทฯ คาดการณ์ยังคงการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อความต่อเนื่องทางการศึกษา และรอให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติ รวมทั้งยังมีนโยบายที่จะรักษาการจ้างงาน สำหรับบุคลากรทุกระดับ ตั้งแต่ ครู ผู้ช่วยครู พนักงานธุรการ พนักงานแผนกครัว พนักงานทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการดูแลความปลอดภัยและสุขภาพ โดยการให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับบุคลากรของโรงเรียนทั้งครู และพนักงานทั่วไปทุกแห่ง โดยปัจจุบันบุคลากรของ SISB ได้รับวัคซีคแล้วกว่า 90% (เข็มแรก)

 
 " SISB มุ่งมั่นต้องการสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน และผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในโรงเรียน ขณะเดียวกันจะดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยของบุคลากร และพนักงานทุกคนให้ปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยปัจจุบันบริษัทฯมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านไว้แล้ว และพร้อมที่จะเปิดรับปีการศึกษาใหม่ได้เป็นอย่างดี"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่าแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง SISB มีนโยบายที่ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขัน และ การดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งยังคงเดินหน้าขยายกิจการ "โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี" Phase II แม้จะเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2564   

ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างโรงเรียนในจังหวัดนนทบุรี บนที่ดิน 14.8 ไร่ ได้มีการทำพิธีลงเสาเข็มก่อสร้าง ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2564  ที่ผ่านมา ซึ่งการก่อสร้างแบ่งเป็นสองเฟส ในเฟสแรกสำหรับระดับเนอสเซอรี่-อนุบาล ถึงระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาจะเป็นการก่อสร้างเฟสที่สอง คาดว่าเฟสแรกจะพร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
#3344


ประชุม ศบค.สั่งเข้มเพิ่มล็อกดาวน์อีก 1 เดือน พร้อมเพิ่มเป็น 29 จังหวัด จากเดิม 13 จังหวัด เคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 3 ทุ่ม-ตี 4 งดบริการขนส่งข้ามจังหวัด แต่ปรับให้เปิดแคมป์ก่อสร้าง กทม.-ปริมณฑล ส่วนร้านอาหารในห้างกลับมาขายเดลิเวอรีได้อีกครั้ง

วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานในที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีการเสนอยกระระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จากเดิม 13 จังหวัดปรับเพิ่มเป็น 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มประกอบด้วย กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จากเดิม 53 จังหวัด ปรับลดลงเป็น 37 จังหวัด ประกอบด้วย กาพสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ

ขณะที่พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 10 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 12 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิม 1 จังหวัดเป็นศูนย์ และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) คงเดิมคือศูนย์จังหวัด

สำหรับมาตราการป้องกันการควบคุมโรคโควิด-19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรนั้น พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จะเพิ่มมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น งดให้บริการขนส่งข้ามเขตจังหวัด และตั้งด่านสกัดระหว่างเขตจังหวัดเพื่อเป็นการจำกัดการเดินทาง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 5 คน ส่วนศูนย์การค้า คอมมูนิตีมอลล์ ห้างสรรพสินค้า หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดบริการได้เฉพาะร้านอาหาร เครื่องดื่มให้บริการผ่านระบบเดลิเวอรี และร้านยา เวชภัณฑ์เปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬายังปิดให้บริการทั้งหมด ขณะที่สถานศึกษาทุกระดับ และสถาบันกวดวิชาห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ยังคงมาตรการเดิม ทั้งนี้ เบื้องต้นจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 -31 ส.ค.นี้

อสังหาฯ เฮ! ศบค.ผ่อนปรนเปิดแคมป์คนงานได้แล้ว

สำหรับในสถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน แคมป์แรงงานบริษัทจะต้องควบคุมในรูปแบบการป้องกันควบคุมโรคเฉพาะพื้นที่ หรือ Bubble and Seal ส่วนแคมป์ก่อสร้างเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑลให้ดำเนินกิจการได้ภายใต้มาตรการ Bubble and Seal หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปิดการดำเนินการ ทั้งนี้ การยกระดับและผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวจะมีประเมินใน 2 สัปดาห์หลังออกประกาศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แคมป์คนงานก่อสร้าง เป็นหนึ่งในคลัสเตอร์ที่เกิดการระบาดของเชื้อไวโควิด-19 จนทำให้ ศบค.ได้ออกมาตรการปิดแคมป์คนงานชั่วคราวตลอดเดือน ก.ค. ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากในบางโครงการอยู่ในระหว่างตกแต่งห้องชุดหรือที่อยู่อาศัยแนวราบเพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกค้า การชะลอและหยุดโครงการตลอดเดือน ก.ค.ส่งผลให้รายได้ของบริษัทอสังหาฯ ลดลง

โดยการปิดแคมป์ครั้งนี้ (ก.ค.) หากประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตัวเลขมูลค่าตลาดอสังหาฯ ทั้งแนวราบและแนวสูงในประเทศไทยปีละ 9 แสนล้านบาท หารด้วย 12 เดือน เดือนหนึ่งตกประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการหยุดการก่อสร้าง ที่ยังไม่รวมถึงอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำที่ต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075245
#3345


บอร์ด ทอท.เคาะขยายเวลาก่อสร้างสุวรรณภูมิ 3 สัญญา "APM-สายพานและเครื่องตรวจระเบิด" โควิดนำเข้าอุปกรณ์ไม่ได้ คำสั่งปิดแคมป์หยุดก่อสร้างหมด มั่นใจไม่กระทบบริการ ชี้ใช้ SAT-1 เมื่อเกิน 50 ล้านคน คาดอุตสาหกรรมการบินฟื้น มี.ค. 66

แหล่งข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่มี นายสราวุธ เบญจกุล เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลางานจ้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จำนวน 3 สัญญา ได้แก่ 1. ขยายระยะเวลาสัญญางานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัทพระราม 2 จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 6 มิ.ย. 2562 มูลค่าสัญญา 871.888 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีกจำนวน 231 วัน จากเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 2563 เป็นวันที่ 2 ส.ค. 2564

2. อนุมัติขยายระยะเวลาสัญญางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Movew : APM) ให้แก่นิติบุคคลร่วมทำงานไออาร์ทีวี ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท แบคเคอร์ อินดัสทรี จำกัด และ บริษัท วิวเท็กซ์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 20 พ.ย. 2560 มูลค่าสัญญา 2,999.90 ล้านบาท ขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีก 330 วัน จากเดิมวันที่ 3 ก.ย. 2563 เป็นวันที่ 30 ก.ค. 2564

โดยสัญญางานระบบ APM ระยะเวลาก่อสร้างเดิม 870 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 2560-วันที่ 7 เม.ย. 2563 ต่อมามีการขยายระยะเวลาอีก 149 วัน จากวันที่ 7 เม.ย. 2563-วันที่ 3 ก.ย. 2563 และล่าสุดขยายอีก 330 วัน นับรวมระยะเวลาดำเนินงาน 1,019 วัน

3. อนุมัติขยายระยะเวลางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) ให้กับนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 1 ก.พ. 2561 มูลค่าสัญญา 3,646.560 ล้านบาท โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จจำนวน 214 วัน จากเดิมวันที่ 6 ส.ค. 2564 เป็นวันที่ 8 มี.ค. 2565

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า บอร์ด ทอท.มีการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 3 สัญญา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ตามกำหนด และคาดว่าในภาพรวมอาจจะต้องมีการพิจารณาปรับขยายระยะเวลาสัญญาอีกครั้งเนื่องจากมาตรการรัฐบาลที่ให้ปิดแคมป์ก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้งานก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ต้องหยุก่อสร้างทุกสัญญาในขณะนี้ ยกเว้นงานที่อยู่ในความดูแลของวิศวกร เช่น การทดสอบระบบที่ยังทำได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะขยายระยะเวลาสัญญา แต่ในขณะนี้โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) เสร็จแล้ว แต่ ทอท.วางแผนในการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ต่อเมื่ออาคารผู้โดยสารหลักมีปริมาณผู้โดยสารเกิน 50 ล้านคน/ ปี จึงจะเปิดใช้อาคาร SAT-1 เพื่อลดความแออัดของอาคารหลัก แต่หากอาคารหลักยังไม่แออัดก็ไม่จำเป็นเร่งเปิดใช้ SAT-1 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 300 ล้านบาท/เดือน

แต่จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับมาในช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2566 (ประมาณเดือน มี.ค. 2566) ซึ่งยังมีเวลาเพียงพอในการก่อสร้างและทดสอบระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสุวรรณภูมิเฟส 2
#3346
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#3347


"ทีมพี่เลี้ยง" 2 หัวหอกสหภาพแรงงานฯ แท็กทีมเครือข่ายเชิงพื้นที่ผนึก กสศ.ฉุดเยาวชนแรงงานสู้วัฎจักรเหลื่อมล้ำทางการศึกษาก้าวข้ามกับดักความยากจน

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. เป็นองค์กรแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษาด้วยการนำเสนอ "โครงการนำร่อง" เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาและแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา เบื้องต้นมีหลักฐานบ่งชี้ว่าภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ รวมถึงชุมชนสามารถเข้าถึง ค้นหาและสนับสนุนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาได้ในฐานะเกาะติดในพื้นที่ จึงเกิดความร่วมมือระหว่าง กสศ. กับ โครงการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา โดยเครือข่ายเชิงพื้นที่ : ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี

จังหวัดปราจีนบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่ทำงานที่ กสศ. ต้องการสนับสนุน "เยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษา" อายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี ในเขตนิคมอุตสาหกรรมให้สามารถฝ่าข้ามสถานการณ์เศรษฐกิจอันเปราะบางจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด – 19 อาจทำให้เกิดปัญหาว่างงานได้ในอนาคตและเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เนื่องจากการศึกษาเชิงพื้นที่พบว่า วัฏจักรแห่งความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจากรุ่นสู่รุ่น คือ "ติดกับดักค่าจ้าง" จากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ , ค่าล่วงเวลา หรือ โอที ,โบนัสประจำปี และเบี้ยขยันขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานมากน้อยเพียงใด



ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจครอบครัว จำเป็นต้องงทำงานหนักอันเป็นผลพวงจากการศึกษาต่ำ จึงทำให้โอกาสในการเลือกประกอบอาชีพที่มีรายได้สูงย่อมแคบลง ประกอบกับปัญหาครอบครัวและหนี้สินสะสม จำเป็นต้องทนทำงานเป็นเวลายยาวนานเฉลี่ย 12 ถึง 14 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างน้อย จึงส่งผลให้ไม่มีเวลาดูแลครอบครัวและบุตรสุ่มเสี่ยงหลุดนอกระบบการศึกษาได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังไม่มีเวลาในการศึกษาหรือพัฒนาทักษะใหม่ และ ปัญหาสุขภาพจากการทำงานในระยะยาวต้องแบกต้นทุนการดูแลสุขภาพจากโรคเรื้อรังรุมเร้าในช่วงบั้นปลายชีวิต

ในการขับเคลื่อนงานเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษา "ปัญญา ตลุกไธสง" ประธานสหภาพแรงงานฮิตาชิแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกลุ่มสหภาพแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ถือเป็นหัวหอกคนสำคัญในการนำ "ทีมพี่เลี้ยง" จำนวน 20 คน ร่วมกับชุมชนทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่ โดยกลุ่มสหภาพแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี มีบทบาทเป็นแหล่งค้นหากลุ่มเป้าหมาย ประชาสัมพันธ์และสื่อสารภายในสมาชิกสหภาพฯ ที่ทำงานในโรงงาน 9 แห่ง พร้อมเก็บข้อมูลเบื้องต้น ประสานครอบครัวและชุมชนให้มาเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงอำนวยความสะดวกสถานที่จัดกิจกรรม ทั้งยังผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานปราจีนบุรี , สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานปราจีนบุรี และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี เข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้ หลักสูตรและวิทยากร ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาร่วมจัดฝึกอบรมทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ



ทั้งนี้ กสศ. ได้สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ "ทีมพี่เลี้ยง" ให้เข้ามาช่วยดูแลเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยเฉพาะแกนนำสหภาพแรงงานจังหวัดปราจีนบุรีที่แต่ละสหภาพฯมีความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพที่ตนเองถนัดตามศักยภาพเข้ามาร่วมจัดพื้นที่การเรียนรู้ใหม่ที่เหมาะสมกับเยาวชนแรงงานและสภาพพื้นที่ อาทิ เพิ่มทักษะอาชีพเสริม หรือ ต่อยอดอาชีพเดิม เช่น ตัดผมเสริมสวย อัดกรอบพระ เบเกอรี่อาหารเครื่องดื่ม หรือ สนับสนุนทุนและทักษะอาชีพแบบรายกลุ่มที่สอดคล้องกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของโรงงานที่เยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษาทำงานอยู่นำมาจัดจำหน่าย หรือ ให้บริการภายในชุมชน อาทิ "ฮิตาชิ" และ "ไฮเออร์" โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ตู้แช่ ปั๊มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ สนับสนุนให้เกิดอาชีพบริการ "ช่างชุมชน" หารายได้เสริมระหว่างทำงานในโรงงานในช่วงวันหยุด

เช่นเดียวกับ "ธีระพงษ์ อุ่นฤดี" แกนนำสหภาพแรงงานซันโยแห่งประเทศไทย หรือ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด อีกหนึ่งแนวหน้าที่เข้ามาร่วมหนุนเสริม เพราะเห็นว่าโครงการฯ กสศ. สอดคล้องกับปัญหาและสถานการณ์เชิงพื้นที่ โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจครอบครัวผู้ใช้แรงงานอย่างมาก เนื่องจากรายได้หลักเกินครึ่งหนึ่งมาจากการทำงานล่วงเวลา หรือ โอที แต่พอเกิดสถานการณ์โควิด รายได้จากโอทีหดหาย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเริ่มใช้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทนแรงงานไทยมากขึ้น ดังนั้นแรงงานไทยต้องพัฒนาฝีมือแรงงานอยู่เสมอไม่เช่นนั้นตกงาน



ยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น เริ่มมีสัญญาณไม่ดี ลดค่าจ้าง ลดโอที หรือ บางแห่งถึงขั้นปิดโรงงานลอยลอยแพพนักงานจากวิกฤตโควิด จึงทำให้สถานะทางเศรษฐกิจครอบครัวของเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษาเปราะบางมาก ดังนั้นการมีอาชีพเสริม หรือ อาชีพทางเลือกระหว่างทำงานประจำในโรงงาน จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงต่อเศรษฐกิจครอบครัว จึงกลายเป็นความร่วมมือระหว่าง กสศ.กับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด

"แรงงานที่ติดโควิด ทั้งเพราะไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวว่าติดแต่ก็ไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวถูกนายจ้างไล่ออกจากงาน เพราะงานที่ทำอยู่รายได้ก็ไม่พอกินอยู่แล้ว หากติดโควิดหรือต้องกักตัวก็ขาดรายได้แล้วจะอยู่ได้อย่างไร" แกนนำสหภาพซันโยฯ กล่าวถึงผลกระทบวิกฤตโควิดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน แนวทางการดำเนินการต่อไปที่ภาคีเครือข่ายในพื้นที่นำเสนอแนะว่า ควรเน้น "ขยายความร่วมมือ" เพิ่มกับโรงงานอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในพื้นที่ มุ่งเน้น "เข้าถึงชุมชน" ในพื้นที่โดยรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของครอบครัวผู้ใช้แรงงานโดยดึงผู้นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมสำรวจ ค้นหาและสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษา พร้อมกับสนับสนุนควรจัดตั้ง "ศูนย์ประสานภาคีความร่วมมือการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยมีชุมชนเป็นฐาน" โดยยึดหลักไม่เน้นจัดตั้งเป็นองค์กร แต่เน้นสร้าง "ภาคีความร่วมมือ" และ "การมีส่วนร่วม" จากทุกภาคส่วนในพื้นที่มาทำงานหรือจัดกิจกรรมร่วมกับ กสศ. เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างยั่งยืนต่อไป

https:// m.mgronline.com/politics/detail/9640000075266
#3348



ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดีด้านการพัฒนานิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จุฬาฯ จะลดค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาให้นิสิตไทยทุกคณะทุกระดับการศึกษาตามแนวทาง 50++ โดย ลดค่าเล่าเรียน ให้นิสิต 50% สำหรับค่าเล่าเรียน 50,000 บาทแรก       

ส่วนที่เกิน 50,000 บาทจะให้ส่วนลดเป็นขั้นบันไดคือ 30% สำหรับ ค่าเล่าเรียน ตั้งแต่ 50,001-100,000 บาท และลด 10% สำหรับค่าเล่าเรียนตั้งแต่ 100,001 บาทขึ้นไป


'ลดค่าเทอม'เพิ่มมาตรการช่วยเหลือนิสิตตามแนวทาง50 ++ 
นอกจากนี้ จุฬาฯ ยังมีมาตรการให้ความช่วยเหลือนิสิตเพิ่มเติมตามแนวทาง 50 ++ ประกอบด้วย 

- ให้ทุนสนับสนุนการศึกษา  ประกอบด้วย ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวนกว่า 2,000 ทุน ทุนนิสิตช่วยงาน โดยเน้นงานที่ทำออนไลน์ ค่าตอบแทนชั่วโมงละ 100 บาท ไม่เกิน 500 บาทต่อวัน

​- ให้ทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ประกอบด้วย ทุนสงเคราะห์สวัสดิภาพนิสิต หรือทุน COVID-19 เพื่อลดภาระด้านการเงินของนิสิตทั้งที่เคยได้รับแล้วและรายใหม่


เริ่มต้นให้การช่วยเหลือนิสิตรายละ 5,000 – 10,000 บาท รวมทั้งสวัสดิการนิสิตหอพัก เปิดให้ขอทุนยกเว้นหรือลดหย่อน ค่าธรรมเนียม หอพักให้กับนิสิตหอพักในช่วงมหาวิทยาลัยปิดทำการหรือนิสิตเรียนออนไลน์ที่บ้าน


จัดซิมอินเทอร์เน็ตให้ยืมอุปกรณ์ 'เรียนออนไลน์'
​- ซิมอินเทอร์เน็ตฟรี 3,000 ซิม เพื่อให้นิสิตสามารถ เรียนออนไลน์จากที่พักอาศัยได้อย่างสะดวก

- ให้บริการนิสิตยืม Laptop หรือ Tablet กลับไปใช้ที่บ้านได้

​- ทำประกัน COVID-19 สำหรับนิสิตทุกคน ทุกระดับการศึกษา มากกว่า 37,000 คน

นิสิตจุฬาฯ สามารถแจ้งความประสงค์ในการขอรับความช่วยเหลือเข้ามาได้ที่ฝ่ายกิจการนิสิตของแต่คณะ หรือผ่านระบบ CU NEX รวมถึงแจ้งผ่านเว็บไซต์ของสำนักบริหารกิจการนิสิต จุฬาฯ www.sa.chula.ac.th
#3349



นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการเตรียมส่งออกข้าวไทยจำนวน 44,000 ตัน ไปยังอิรักเป็นครั้งแรก ในรอบ 7 ปี เรียกคืนความเชื่อมั่นข้าวไทยในตลาดอิรัก โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันภาคเอกชน และผู้ส่งออกไทย เปิดตลาดข้าวไทยในประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมจาก 3 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดพรีเมียม ตลาดทั่วไป และตลาดเฉพาะ ซึ่งการส่งออกข้าวไปอิรักครั้งนี้ ยังจะส่งผลดีแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีกด้วย

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ข้าวขาว 100% ของไทยจำนวน 44,000 ตัน ซึ่งจะส่งออกไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นข้าวไทยล็อตแรกที่ถูกส่งออกไปยังตลาดอิรักในรอบ 7 ปี หลังจากที่อิรักได้ระงับการนำเข้าข้าวจากไทย ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ ผู้ส่งออกไทยจะสามารถส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักได้ต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยทำการตลาดสินค้าเกษตรไทยในประเทศเอเชีย ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประชาสัมพันธ์ข้าวและสินค้าเกษตรไทย เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลก ทดแทนความต้องการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952147
#3350



รัฐบาลเวียดนามเปิดเผยว่า เวียดนามเตรียมขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ออกไปอีก 2 สัปดาห์ในนครโฮจิมินห์ และ 18 เมืองและจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศนับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 ส.ค.นี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งเลวร้ายที่สุด

รายงานระบุว่า เวียดนามกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีการบังคับใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนที่ในพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศ จนถึงขณะนี้ เวียดนามมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 145,000 ราย และเสียชีวิต 1,306 ราย

รัฐบาลเวียดนามระบุในแถลงการณ์ว่า "เจ้าหน้าที่ของนครโฮจิมินห์และจังหวัดอื่นๆ ต้องกระตุ้นให้ประชาชนอยู่ที่บ้าน และปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด"

นายอู๋ ดึ๊ก ดาม รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ระบุว่า "การใช้มาตรการควบคุมในภูมิภาคดังกล่าวคือการสร้างเข็มขัดนิรภัยรอบนครโฮจิมินห์ และไม่ปล่อยให้การแพร่ระบาดกระจายวงกว้างไปมากกว่านี้"

"อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจนกว่าจะควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้" รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวเสริม

ทั้งนี้ นครโฮจิมินห์กลายเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยมียอดผู้ติดเชื้อคิดเป็น 64% ของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดภายในประเทศ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952179
#3351
ป้ายไฟวิ่ง LED ดิจิตอล 2 รูปแบบ กันน้ำ 100% - รับประกัน 1 ปี

**** Single color ****** ราคา 2,900 .- 

**** FULL color ****** ราคา 4,200 .-

- กันน้ำ 100% - รับประกัน 1 ปี










#3352



นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียได้รับผลกระทบการระบาดหลายระลอกจากวิกฤติโควิด-19 มานานกว่า 1 ปีครึ่ง โดยเฉพาะการระบาดระลอก 4 ส่งผลให้ไทยแอร์เอเชียประกาศหยุดทำการบินเส้นทางในประเทศชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.-8 ส.ค.นี้

ล่าสุดทางไทยแอร์เอเชียได้ออกมาตรการระยะสั้นเพื่อควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย เพื่อเลื่อนและแบ่งจ่ายเงินเดือนพนักงาน โดยสายการบินฯได้ขอความร่วมมือจากพนักงานเพิ่มเติม สำหรับเดือน ก.ค.2564 ดังนี้

พนักงานระดับผู้จัดการขึ้นไป รวมถึงผู้บริหารระดับสูง เลื่อนการจ่ายเงินเดือนทั้งหมดไปในเดือน ก.ย. 2564

พนักงานระดับปฏิบัติการขึ้นไปที่ Active (ปฏิบัติงานอยู่) จ่ายเงินเดือน 50% และเลื่อนการจ่าย 50% ที่เหลือไปในเดือน ก.ย.2564

พนักงานที่ Inactive (ไม่ได้ปฏิบัติงาน) เลื่อนการจ่ายเงิน 25% ไปในเดือน ก.ย.2564

หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐ เมื่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศระงับทำการบินขนส่งผู้โดยสารเข้าออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) เป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายธรรศพลฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าแนวโน้มตลอดเดือน ส.ค.นี้ ไทยแอร์เอเชียจะยังคงหยุดทำการบินเส้นทางในประเทศเป็นการชั่วคราวตลอดทั้งเดือน ถึงแม้ว่ารัฐบาลยังไม่ประกาศล็อกดาวน์เกี่ยวกับระงับเที่ยวบินชั่วคราวเพิ่มเติม ณ ปัจจุบัน แต่จากการประเมินแนวโน้มและสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อในไทยที่พุ่งสูงแล้ว น่าจะล็อกดาวน์ต่อ ถึงอนุญาตให้ทำการบิน สายการบินก็คงทำการบินกันน้อยมาก เพราะไม่คุ้มทุน มีเพียงการเดินทางตามความจำเป็น ทำธุระ หรือค้าขาย ยังไม่สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ

"อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูประกาศของรัฐบาลอีกที แต่ดูแนวโน้มแล้วน่าจะล็อกดาวน์ต่อ ไม่สามารถทำการบินได้ เพราะฉะนั้นในเดือน ส.ค.นี้ทำให้สายการบินไทยแอร์เอเชียมีรายได้เป็นศูนย์ และอาจจะไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานเลย โดยจะยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานประกันสังคมให้ช่วยจ่ายรายได้ชดเชยแก่พนักงานของไทยแอร์เอเชียซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 5,000 คน"

สำหรับแผนการปรับโครงสร้างกิจการเพื่อมุ่งเสริมสภาพคล่องของไทยแอร์เอเชียที่ประกาศเมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา น่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย.นี้ เงินทุนก้อนแรกน่าจะเข้ามาเสริมสภาพคล่องแก่ไทยแอร์เอเชียในเดือนดังกล่าว แล้วนำมาจ่ายเงินเดือนพนักงานย้อนหลังที่ติดค้างไว้

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952173
#3353


วันที่ 30 ก.ค.64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมประชุมใช้ระบบ conference โดยมีนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เข้าร่วมด้วย ภายหลังจากการประชุม นายจุรินทร์ เผยว่า มีประเด็นสำคัญ 5 ประเด็น คือ

1. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อย ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท จำนวน 100 บาทและมีรายได้ 30,000 ถึงไม่เกิน 100,000 บาท เป็นจำนวน 50 บาท สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยที่ผ่านมาได้มีการค้างการจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เป็นเวลา 4 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2563 วันนี้ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินย้อนหลังให้กับผู้สูงอายุที่ค้างจ่ายอยู่จำนวน 4,700,000 รายทั่วประเทศและมีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2564 โดยให้จ่ายเป็นเวลา 1 ปี รวม 6 งวด โดยจ่ายเดือนเว้นเดือน ซึ่งมีอยู่จำนวน 4,700,000 ราย

2. การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนซึ่งเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ สำหรับผู้สูงอายุที่รับเงินไปแล้วจะทำอย่างไร ได้มีการถามไปยังกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้วว่าให้สามารถดำเนินการได้ ถ้าผู้สูงอายุท่านใดจ่ายเงินกลับคืนมาให้จ่ายกลับไปยังผู้สูงอายุโดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องจ่ายเงินคืนไปให้ผู้สูงอายุ สำหรับการดำเนินการกรณีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในอนาคตได้มีการตั้งอนุกรรมการชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 1 เดือนตามที่กฤษฎีกาแนะนำมาเบื้องต้น จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่รับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนมีอยู่ 15,000 ราย

3. ก่อนหน้านี้มีการจัดโครงการชำระหนี้ให้กับผู้สูงอายุที่เป็นหนี้กองทุนผู้สูงอายุและจะครบกำหนดวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ประชุมมีมติให้ต่ออายุพักชำระหนี้ผู้สูงอายุไปอีกหกเดือนจนถึงเดือนมีนาคมปี 2565

4. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการผู้สูงอายุระยะยาวตั้งแต่ปี 2566-2580 ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

และ ประเด็นที่5 ที่ประชุมขอให้ตนเรียนให้ผู้สูงอายุทั่วทั้งประเทศได้รับทราบว่าคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นห่วงเป็นใยผู้สูงอายุทุกคนโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้สูงอายุทุกท่านขอความกรุณาให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิดกรุณาอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุที่เข้าไปขอรับบริการเป็นกรณีพิเศษด้วย
#3354

  

แรงบันดาลใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคน หรือสร้างอนาคตให้ใครสักคน อาจมีที่มาหลากหลายแหล่ง หนังสือสักเล่ม เพลงสักเพลง หรือหนังสักเรื่อง เช่นเดียวกับแรงบันดาลใจที่ทำให้เด็กชายคนหนึ่งเติบโตมาเป็นศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ของโลก มาจากฉากเดียวในหนังดังเรื่องหนึ่ง

จอห์น เมเยอร์ ในวัย 8 ขวบ หลงใหลเสน่ห์ของกีตาร์จากการดู ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ ในบท มาร์ตี แม็คฟลาย เล่นกีตาร์ในหนัง Back to the Future แต่กว่าจะได้จับกีตาร์จริงจังก็ตอนอายุ 13 ปี และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เริ่มฟังเพลงบลูส์จากศิลปินระดับตำนาน อย่าง บี.บี. คิง, บั๊ดดี กาย, อัลเบิร์ท คิง, โอทิส รัช, เฟร็ดดี คิง, ไลก์ทนิน' ฮ็อปกินส์ จนถึง สตีวี เรย์ วอห์น

เมเยอร์ เริ่มเรียนกีตาร์พื้นฐานจากเจ้าของร้านขายกีตาร์ในบริดจ์พอร์ท, คอนเนตทิคัต บ้านเกิด และเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ดิ่งลึกกับดนตรี เขาตั้งวงเล่นดนตรีร็อกกับเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยม ก่อนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีเบิร์คลี แต่เพียง 2 ภาคเรียน เมเยอร์ ก็ตัดสินใจทิ้งการเรียนมุ่งหน้าสู่อาชีพดนตรีเต็มตัว

หลังจากตระเวนเล่นหาเลี้ยงชีวิตตามผับบาร์ เมเยอร์ ก็ได้ทำผลงานชุดแรกเป็นอีพี.ออกขายอิสระชื่อ Inside Wants Out ซึ่งเป็นที่มาของการได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ โคลัมเบีย เรคคอร์ดส์ ในเวลาต่อมา

Room for Squares เป็นอัลบั้มแรก ออกในปี 2002 ไม่เพียงเป็นอัลบั้มขายดี ยังได้รับคำวิจารณ์เชิงบวก และทำให้ เมเยอร์ ได้รางวัล แกรมมี่ สาขานักร้องชายยอดเยี่ยมจากเพลง "Your Body Is a Wonderland"

Heavier Things อัลบั้มที่ 2 ออกในปีถัดมา แม้ยอดขายจะไม่เท่าอัลบั้มแรก แต่ผลลัพธ์ด้านอื่นเหนือกว่าทุกด้าน ติดอันดับ 1 บนตาราง บิลล์บอร์ด 200, คำวิจารณ์บวกจากสื่อยักษ์ใหญ่ทุกแห่ง และเพลง "Daughters" ได้รางวัลใหญ่สุดของ แกรมมี่ คือรางวัลเพลงแห่งปี

เมเยอร์ ไม่เพียงได้การยอมรับจากผู้ฟัง บรรดาศิลปินอาวุโสในทางบลูส์และแจ๊ซมากมายก็ให้ความชื่นชมเขา โดยเฉพาะในฐานะมือกีตาร์ฝีมือเยี่ยม ทำให้ เมเยอร์ ได้ร่วมเล่นกับศิลปินเหล่านั้นมากมาย ขณะเดียวกันเขาเองก็ขยายขอบเขตดนตรีของตนด้วยการร่วมงานกับศิลปินร่วมรุ่นต่างแนวทาง ทั้งป็อป, ร็อค, ฮิป-ฮอป ฯลฯ



ในปี 2005 เมเยอร์ ตั้งวง จอห์น เมเยอร์ ทริโอ เพื่อออกตระเวนทัวร์คอนเสิร์ต เป็นวงที่ฮือฮากันมากเพราะสมาชิกอีก 2 คนนั้น จัดเป็นสุดยอดนักดนตรีที่ฝากฝีมือไว้ในการบันทึกเสียงให้ศิลปินนับพันๆ นั่นคือ พิโน พาลลาดิโน มือเบส และ สตีฟ จอร์แดน มือกลอง ทั้งสามออกอัลบั้มแสดงสด Try! มาชุดหนึ่งก่อนแยกย้ายกัน

เมเยอร์ ยังคงทำงานต่อเนื่อง ออกอัลบั้ม, ออกทัวร์ และรับเชิญไปบันทึกเสียงหรือขึ้นคอนเสิร์ทจากเพื่อนศิลปินมากหน้าหลายตา อัลบั้มที่ตามติดมา Continuum (2006), Where the Light Is (2007) และ Battle Studies (2009) ยังรักษาระดับความสำเร็จทุกด้านไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่ศิลปินดนตรีจะรักษาความต่อเนื่องได้ขนาดนี้

หลังจากอัลบั้ม Born and Raised ออกในปี 2012 เมเยอร์ ก็ประสบปัญหาส่วนตัว ซึ่งมีผลทำให้ต้องยกเลิกการทัวร์ทั้งหมด แต่ระหว่างที่หยุด เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย เพราะกลางปี 2013 เขาออกอัลบั้มใหม่ Paradise Valley ซึ่งพลิกแนวดนตรีไปเป็นโฟล์ค-ร็อคและคันทรี่-ร็อค จากนั้นก็ออกทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มทั้งสองควบกัน ยาวไปจนถึงปี 2015

ปี 2016 ขณะที่เริ่มทำเพลงสำหรับอัลบั้มใหม่ เมเยอร์ ก็ไปรวมตัวกับอดีตสมาชิกวง เกรทฟูล เดด ตั้งวงขึ้นมาเพื่อออกแสดงคอนเสิร์ทในนาม เด๊ด แอนด์ คอมพานี ซึ่งมีเป็นระยะๆจากปี 2016-2018 ระหว่างช่วงเวลานี้ เมเยอร์ ก็ออกอัลบั้ม The Search for Everything (2017)

และกลางเดือนกรกฎาคม 2021 นี้ เมเยอร์ ออกอัลบั้มล่าสุด Sob Rock เป็นอัลบั้มจากสตูดิโอชุดที่ 8 ของเขา โดยพลิกแนวอีกครั้งไปเป็นซอฟท์-ร็อคแบบเวสต์โคสต์ที่นิยมกันในทศวรรษ 1970-1980

เมเยอร์ ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพและด้านจิตใจตั้งแต่วัยรุ่น แต่มีคนไม่น้อยพยายามวิเคราะห์ถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของเขา ถ้ามองภาพกว้างๆจะพบว่า เมเยอร์ มีคุณสมบัติครบเครื่องของการเป็นดารา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา, ทักษะทางดนตรีชั้นเลิศ และเสียงร้องที่ไพเราะ

แต่ถ้ามองลึกลงไป เพลงของ เมเยอร์ จับความรู้สึกของผู้ฟังได้ดี เขาไม่พยายามเขียนเพลงที่เข้าถึงยากเกินไป เป็นอารมณ์ที่มีอยู่ในคนทั่วไป และที่สำคัญ ผลงานทุกชิ้นของเขาไม่ถูกปล่อยผ่านออกมาสู่สาธารณะอย่างลวกๆ ผ่านกระบวนความคิดที่แน่นอนมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในแนวร็อคอเมริกัน, บลูส์ หรือคันทรี่-ร็อค และด้วยท่วงทำนองฟังไม่ยาก นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เปิดกว้างกับการรับดนตรีแนวต่างๆ และพร้อมหาประสบการณ์จากการร่วมงานกับคนอื่นๆทุกครั้งที่พร้อม

ยิ่งกว่านั้น ใครที่ติดตามมาพอสมควรและช่างสังเกต จะพบว่า จอห์น เมเยอร์ ใช้สื่อเก่งมาก โดยที่ไม่เสียความเป็นตัวของตัวเอง

ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ https:// siamrath.co.th/n/266350
#3355



หลังจากจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศออกคำสั่งล่าสุด 3 ฉบับเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้แก่ 1.ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค.นี้ 2.มาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-12 ส.ค.2564

และ 3.การปิดสถานที่หรืองดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง โดยมีมาตรการปิดสถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด หรือโต๊ะพูล, ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์, โรงเรียนสอนมวย และโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกประเภท รวมถึงสระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการประชาชนเป็นการทั่วไปทั้งในส่วนของราชการและเอกชน ส่วนมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายกลางแจ้ง สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะโล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ และผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

วันนี้ (30 ก.ค.) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผ่านช่องทางออนไลน์ระบบ ZOOM ว่า ทางจังหวัดฯขอยืนยันว่าการออกมาตรการดังกล่าว "ไม่มีผลกระทบ" ต่อการดำเนินโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาเที่ยวภายในภูเก็ตอย่างน้อย 14 คืน จึงจะสามารถออกไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่นภายในประเทศไทยได้

"จุดประสงค์ของการออกคำสั่งภูเก็ตล่าสุดนี้คือต้องการเซฟภูเก็ต เซฟภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย ด้วยการยกระดับมาตรการเริ่มจากเบาไปหนัก เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ และสามารถเดินหน้าเศรษฐกิจได้ด้วย"

สำหรับหนึ่งในหลักเกณฑ์ของแผนเผชิญเหตุโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คือจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯเมื่อพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ใน จ.ภูเก็ต มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ โดยหลังจากเริ่มโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าสัปดาห์ที่ 1 (1-7 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 25 ราย, สัปดาห์ที่ 2 (8-14 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 48 ราย, สัปดาห์ที่ 3 (15-21 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 69 ราย และสัปดาห์ที่ 4 (22-28 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 185 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 148 ราย ผู้ติดเชื้อที่คัดกรองพบจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 6 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 19 ราย และโครงการรับคนกลับบ้านอีก 11 ราย

"ในช่วงวันที่ 22-28 ก.ค.ที่ผ่านมา พบจำนวนผู้ติดเชื้อ 185 รายต่อสัปดาห์ เมื่อเกิน 90 รายต่อสัปดาห์ตามหลักเกณฑ์ จึงได้ประกาศมาตรการ 3 ฉบับล่าสุดเพื่อลดการเดินทางเข้าภูเก็ต ลดและงดการจัดกิจกรรมเพื่อควบคุมโรค อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นร่วมแล้ว เช่น อัตราการครองเตียงซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 249 เตียง คิดเป็น 36% ของจำนวนทั้งหมด 694 เตียงในภูเก็ต ยังอยู่ในภาวะที่รับมือและดูแลได้ จึงพิจารณาไม่ปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"

ทั้งนี้ในช่วง 4 สัปดาห์แรกของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้าโครงการฯ พบว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.มีจำนวนรวม 12,599 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อจากในกลุ่มนี้ 30 คนเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนน้อยมากที่ 0.2% และเป็นการติดเชื้อมาจากนอกประเทศอยู่แล้ว โดยมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 400 กว่าคนต่อวัน จำนวนการจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.นี้อยู่ที่ 298,858 คืน แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 192,403 คืน เดือน ส.ค. 98,735 คืน เดือน ก.ย. 7,720 คืน และเมื่อรวมจำนวนการจองห้องพักในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือน ต.ค.2564-ก.พ.2565 อีก 6,586 คืน จะมีจำนวนการจองห้องพักโรงแรมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ 305,444 คืน

"คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มากขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป ในช่วงนี้จึงถือเป็นการทดสอบระบบของโครงการฯ เมื่อมีการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ย่อมมีแรงงานเข้ามาทำงาน และอาจนำเชื้อเข้ามา ทางจังหวัดจึงยกระดับมาตรการเพื่อควบคุมโรค เพราะภาพที่เราอยากเห็นคือสามารถควบคุมโรคได้ด้วย และเดินหน้าเศรษฐกิจได้ด้วย ไม่อยากเห็นการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้วต้องมาปิดภายหลัง" นายณรงค์กล่าว

ด้านนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ยอดจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตช่วง 3 วันที่ผ่านมาหลังพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น พบการชะลอตัวจากก่อนหน้านี้เติบโต 15% ต่อวัน เหลือเติบโตที่ 10% ต่อวัน

นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ประเมินว่านักท่องเที่ยวใช้จ่ายคนละ 60,000 บาทต่อทริป ทำให้ภูเก็ตมีรายได้ด้านการท่องเที่ยวกว่า 800 ล้านบาทแล้ว โดย ททท.ต้องประชาสัมพันธ์เชิงรุกในต่างประเทศต่อไปเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนี้มีเอเย่นต์ทัวร์ของอังกฤษเริ่มขายแพ็คเกจเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว

ส่วนข้อจำกัดด้านการเดินทางภายในประเทศขณะนี้ ภายหลังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีคำสั่งระงับเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารเข้าออกจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการช่วยจัดหารถบริการพิเศษรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบางส่วนที่ต้องการเดินทางออกจากภูเก็ตเพื่อมาขึ้นเครื่องบินกลับที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายสุนทร ศักดาสาวิตร รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเขตการบิน ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวเสริมว่า  ตามคำสั่งของจังหวัดภูเก็ตล่าสุด ส่งผลให้สายการบินนกแอร์จำเป็นต้องหยุดให้บริการเส้นทางบิน ภูเก็ต-อู่ตะเภา ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์สต้องหยุดให้บริการเส้นทางบิน ภูเก็ต-สมุย ซึ่งมีเป้าหมายเชื่อมการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สู่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไว้ก่อนเช่นกัน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค.นี้

นายศิริปกรณ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การหยุดให้บริการเส้นทางบิน ภูเก็ต-สมุย ไม่ใช่เพราะเรื่องของระเบียบข้อบังคับที่ทางจังหวัดภูเก็ตเพิ่งประกาศ หรือเพราะดีมานด์ของนักท่องเที่ยว แต่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยเป็นหลัก ซึ่งอาจจะมีจำนวนเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุยไม่เพียงพอ
#3356



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศยกเลิกเกมอุ่นเครื่องกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ในวันเสาร์นี้ หลังมีรายงานว่านักเตะและสตาฟฟ์โค้ช รวม 9 คน มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก

ขุนพลทีม "ปีศาจแดง" มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยทีมลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ราว 30,000 คน และผลการแข่งขันจบลงที่ผลเสมอ 2-2

ซึ่งการทดสอบหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นหลังเกมดังกล่าว โดยมีการตรวจเจอผลเป็นบวกในการทดสอบหาเชื้อครั้งแรก และพวกเขาได้ทำการ PCR เพื่อยืนยันอีกครั้ง สรุปว่ามีผู้ติดเชื้อ 9 คนจริง ทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช

โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มีการฝึกซ้อมกันในช่วงเช้าที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน แต่หลังจากมีข่าวดังกล่าวพวกเขาได้หยุดซ้อมทันที และนักเตะทุกคนถูกส่งตัวกลับบ้านในช่วงบ่ายสองเพื่อทำการกักตัว ก่อนจะมีการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดกันอีกครั้ง
#3357



นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้ทรีนีตี้เองมีลูกค้าที่ปรึกษาในการระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในมือ อยู่ราว 7-9 บริษัท และช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทรีนีตี้ได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ให้กับ 3 บริษัท  คือ บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเชีย (AMR) บมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) และบมจ.เบริล 8 พลัส (BE8)

ทั้งนี้ ทิศทางธุรกิจการให้บริการด้านวาณิชธนกิจ ถือเป็นธุรกิจที่สำคัญและมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษาในการระดมทุน นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในธุรกิจที่ได้ประโยชน์หรือไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยตรง ซึ่งบริษัทเหล่านี้ยังคงต้องการระดมเงินทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ เช่น ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ธุรกิจด้านพลังงาน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตาม "วิถีชีวิตใหม่"

ขณะที่บางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและอาจจะชะลอแผนการระดมทุนเข้าตลาดหุ้นออกไป  คาดว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายในปีหน้าก็น่าจะทยอยกลับเข้ามาได้ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เพราะตลาดทุนคือแหล่งเงินทุนที่สำคัญ ทำให้ธุรกิจให้บริการด้านวาณิชธนกิจยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก


นายดิถดนัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาในการออกและเสนอขายหุ้น IPOนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งของทีมวาณิชธนกิจของทรีนีตี้ โดยนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจวาณิชธนกิจแล้ว ยังทำให้ลูกค้าของบริษัทได้มีโอกาสลงทุนในหุ้น IPO ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีด้วย

โดยปี 2563 บริษัทได้รับรางวัลยอดเยี่ยม หรือ Deal of the Year ด้านการระดมทุนในฐานะที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เสนอขายหุ้น IPO ให้กับ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ในงาน SET Awards ปี 2020 โดยช่วง 3 ปีที่่ผ่านมาบริษัท  ได้เป็นที่ปรึกษานำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 4 บริษัท และมีมูลค่าระดมทุนรวมราว 10,000 ล้านบาท


บริษัท มีบริการที่ปรึกษาทางการเงิน และงานวาณิชธนกิจครบวงจร หรือ "ONE STOP SERVICE" ครอบคลุมด้านการระดมทุนผ่านตราสารทุนและตราสารทุนหนี้ การควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ตลอดจนต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยได้มีการจัดตั้งบริษัท ทรีนีตี้ อินเทลลิเจนส์ พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จะเข้าไปวางระบบการควบคุมภายใน หรือการตรวจสอบภายในให้แก่บริษัทที่กำลังเตรียมความพร้อม

โดยให้บริการลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำและเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับบริษัทในการสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาธุรกิจให้มีมาตรฐาน มีโครงสร้างและระบบการบริหารจัดการที่ดีขึ้น รวมทั้งมีระบบการควบคุมภายในที่ดี เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ว่าบริษัทนั้นจะมีเป้าหมายในการระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือไม่ก็ตาม เพราะถือว่าเราได้มีส่วนสำคัญในการเข้าไปพัฒนาและยกระดับมาตรฐานธุรกิจให้ลูกค้าและหากลูกค้ามีเป้าหมายที่่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็ถือเป็นการส่งต่อบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีคุณภาพให้กับตลาดหุ้นไทยอีกด้วย    
#3358



นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ครึ่งปีแรก ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2564ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีทั้งสิ้น 3,445 ราย เพิ่มขึ้น 6.07% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทุนจดทะเบียนรวม 8,146.46 ล้านบาท 68.41% สวนใหญ่อยู่ใน จ.ชลบุรี  2,357 ราย รองลงมาเป็น จ.ระยอง และ จ .ฉะเชิงเทรา

 
ประเภทธุรกิจที่มีการจดทะเบียนสูงสุด3อันดับแรก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างอาคารทั่วไป และขนส่ง ขนถ่ายสินค้า รวมถึงผู้โดยสารมีการจัดตั้งใหม่ที่ ปัจจุบันพื้นที่ 3 จังหวัด มีนิติบุคคลคงอยู่ ณ 30 มิ.ย. 2564 รวม 75,682 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1.99 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น จ.ชลบุรี 54,829 ราย คิดเป็น 72.45% จ.ระยอง 14,638 รายคิดเป็น 19.34%และจ.ฉะเชิงเทรา 6,215 ราย คิดเป็น 8.21%

ส่วนการลงทุนของต่างชาติในนิติบุคคลที่จัดตั้งในไทยมีมูลค่า 817,810 ล้านบาท คิดเป็น 40.95%ของทุนทั้งหมด โดยญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนมากสุด 384,682 ล้านบาทคิดเป็น 47.04% รองลงมาคือ จีน97,084 ล้านบาท คิดเป็น 11.87%และสิงคโปร์44,541ล้านบาท คิดเป็น 5.45% ส่วนใหญ่อยู่ในจ.ระยองสูงสุด 430,733ล้านบาท คิดเป็น 52.66%



สำหรับปัจจัยที่ทำให้การจัดตั้งธุรกิจใหม่ในอีอีซีเพิ่มขึ้น มาจากภาคการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก โดยในเดือนม.ค. -7 มิ.ย.2564 มีมูลค่า 4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.59 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ลดลง คาดว่าครึ่งปีหลัง การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในพื้นที่อีอีซีจะอยู่ที่ประมาณ 2,900 – 3,000 ราย และตลอดทั้งปี อยู่ที่ 6,300 – 6,500 ราย

                
"ความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้มากยิ่งขึ้น เช่น การส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดของการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงในเดือนก.ย. และแผนการขยายท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่มีความก้าวหน้าอย่างมากและจะสร้างงานได้มากกว่า 3,000 ตำแหน่งในอนาคต "
#3359


ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์ไทย และสมุนไพร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลน ยาฟ้าทะลายโจร แบบชนิดแคปซูลในท้องตลาด เพราะประชาชนนิยมนำมารับประทาน เพื่อรักษาโควิด บางคนคิดว่าเป็นการป้องกัน เลยเกิดการกักตัว ทำให้สินค้าไม่มีในท้องตลาด จึงอยากชี้แจงและทำความเข้าใจว่า ความจริงแล้วสินค้าไม่ได้หมดไปจากท้องตลาด ทุกอย่างยังคงผลิตตามปกติ แต่ทั้งนี้ ประชาชนควรทำเข้าใจว่า ไม่ควรมีการกักตุน เพื่อเพิ่มทางรอดให้กับคนอื่นที่จะเป็นต้องใช้ยา และไม่ควรสนับสนุนการซื้อหายาที่มีราคาแพงไม่สมเหตุสมผลด้วย


"การใช้ฟ้าทะลายโจร ควรใช้เมื่อมีอาการเท่านั้น อีกทั้งพบว่า การจำหน่ายยาฟ้าทะลายโจรในท้องตลาด ในร้านขายยาขนาดใหญ่ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นร้านขนาดเล็ก มีการแยกขาย เริ่มพบการบรรจุผงยาตัวอื่นลงไปในแคปซูลแทน มี ทั้ง สะเดา บอระเผ็ด และใบบัวบก ซึ่งประชาชนไม่สามารถแยกออกด้วยตาเปล่า ทำได้อย่างเดียว คือ การดึงแคปซูลออกแล้ว ชิมผงยา ที่ผ่านมาก็มีคนส่งตัวอย่างแคปซูล มาให้รพ.ตรวจสอบก็พบว่าเป็นใบบัวบก ซึ่งคนทำเช่นนี้ เท่ากับ ทำร้ายคนอื่น"ภญ.ผกากรองกล่าว


ภญ. ผกากรอง กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีการขาดแคลนยาฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลนี้ ประชาชนหรือชุมนมสามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกฟ้าทะลายโจรเอง ปลูกง่ายไม่ยาก เพียงเวลา 2-3 เดือนก็สามารถเก็บใบฟ้าทะลายโจรมากต้มรับประทานได้ ใช้ดอกและใบ โดยสัดส่วนของฟ้าทะลายโจร ใช้เพียงมื้อละ 10 ใบ รับประทานแบบทานยา 4 มื้อ ในการดื่มควรนำใบมาเคี้ยวด้วย เพื่อให้รับสารสำคัญอย่างครบถ้วน ไม่จำเป็นต้องรอการใช้ยาในรูปแบบของแคปซูลเท่านั้น เพื่อให้ได้ สารแอนโดรกราโฟไลด์เพียงอย่างเดียว รสชาดที่คมของใบฟ้าทะลายโจร มีส่วนช่วยทั้งลดไข้ แก้ไอ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานร่วมกับการทางกระชาย หรือ น้ำขิง เพราะสมุนไพร 2 ชนิดนี้มีฤทธิ์ร้อน หากทางร่วมกันทั้งหมด อาจทำให้การรักษาไม่ได้ประสิทธิผลที่เท่าที่ควร ส่วนการเก็บใบฟ้าทะลายโจร นั้นควรเก็บใบน้ำมาตากให้แห้ง แต่ต้องไม่ตากแดดโดยตรง ให้อยู่ในที่ร่ม ตากจนใบแห้งไม่มีไอระเหยของน้ำ ใช้ เวลา 3 วัน ทดสอบได้จากการบรรจุในถุงซิปล็อกยา หากไม่มีไอน้ำขึ้นมาแสดงว่าตากอย่างถูกต้องจากนั้นสามารถนำไปต้มดื่มได้ทันที การติดฟ้าทะลายโจร ควรรับประทาน แค่ 5 วัน จากนั้นหยุดพัก 1 วัน ในวันที่ 6 หากอาการไม่ดีขึ้นให้รับประทานต่อ ในวันที่ 7 พร้อมกันนี้ ยังสนับสนุนให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำฟ้าทะลายโจรไปให้ชุมชนปลูกเพื่อเป็นยาสมุนไพรคู่ครัวเรือน ใช้รับประทานเมื่อมีอาการไม่สบายเท่านั้น
#3360
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1