• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#8371


เดมบา บา กองหน้าชาวเซเนกัล ประกาศแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอดีตกองหน้า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ เชลซี เพิ่งเซ็นสัญญาย้ายไปค้าแข้งกับ เอฟซี ลูกาโน ทีมในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยสัญญา 1 ปี

ทว่า เดมบา บา ในวัย 36 ปี ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด แม้เพิ่งย้ายร่วมทีมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ตาม

สำหรับ เดมบา บา รายนี้เคยสร้างรอยแผลใจครั้งใหญ่ให้กับ สตีเวน เจอร์ราร์ด และสโมสร ลิเวอร์พูล เมื่อเขาฉก.จากความผิดพลาดของอดีตกัปตัน 'หงส์แดง' ที่ลื่นจนเป็นภาพติดตา เข้าไปยิงประตู พร้อมกับส่งทีม ลิเวอร์พูล ที่กำลังลุ้นแชมป์ลีก ให้จบเพียงตำแหน่งรองแชมป์ ส่วนแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013/14 ตกเป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

หลังจบเกมดังกล่าว บา ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ ว่า เขาไม่ได้รู้สึกสงสารหรือเสียใจกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด แต่อย่างใด

'ผมไม่รู้สึกเสียใจกับเขาเลย'
'ผมไม่ใช่แฟน.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือมีความสุขที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีก'
'มันเป็นส่วนหนึ่งของเกม'
'ผมแค่ทำงานของผม และผมทำไปเพื่อชัยชนะ'
#8372


นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เวลานี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และในไตรมาสสี่ไทยจะกลับมาเปิดประเทศ ทางอินเด็กซ์จึงพร้อมจัดงานอีเวนต์รวมกว่า 7 งาน ภายใต้งบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท โดยไม่รอสปอนเซอร์ แต่เป็นการจอยต์เวนเจอร์กับเจ้าของสถานที่ มั่นใจว่าซื้อหวยออนไลน์รายได้จะทำได้ดีกว่าต้นทุนก็ถือว่าประสบความสำเร็จในสถานการณ์นี้

แผนการจัดงานอีเวนต์ในครั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยดันรายได้ในปี 2564 นี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 64% ขึ้นไป หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 669 ล้านบาท มาจาก 3 ส่วนหลัก คือ 1. มาร์เกตติ้งเซอร์วิส 248 ล้านบาท 2. ครีเอทีฟ บิสิเนสดีเวลลอปเมนต์ 343 ล้านบาท และ 3. โอนโปรเจกต์ 78 ล้านบาท



การจัดงานอีเวนต์ทั้ง 7 งานนั้นจะเป็นรูปแบบอีเวนต์เอาต์ดอร์ประเภท SPORT AND LIFESTYLE แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ 1. อีเวนต์ ACTIVITY PARK, SKATEPARK ในชื่อ สเก็ตนคร, RUNNING EVENT และ SKATE EVENT ซึ่งทั้งหมดจัดขึ้นที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ และ 2. เฟสติวัล ได้แก่ FOREST OF ILLUMINATION ที่คีรีมายา เขาใหญ่, งาน "Thailand International Lantern & Food Festival" เทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ ที่เมืองโบราณสมุทรปราการ และงานเมืองโบราณ ไลท์ เฟส ทั้งนี้ ทุกงานจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป

"แผนการจัดอีเวนต์ในครั้งนี้มีการวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี เดิมตั้งใจจัดขึ้นตั้งแต่ช่วง ก.ย. แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้มีการเลื่อนการจัดงานออกไป จนมั่นใจได้จากแผนการเปิดประเทศ จึงพร้อมทยอยจัดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งหากทุกอย่างคลี่คลายลงก็พร้อมนำเสนออีเวนต์ใหม่ๆอีกหลายงาน" นายเกรียงไกรกล่าว

ทั้งนี้ ภาพรวมอีเวนต์ไตรมาสสี่ปีนี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เชื่อว่าจะทยอยกลับมา ซึ่งอีเวนต์เอาต์ดอร์จะเป็นอีเวนต์แรกที่มาก่อน พร้อมๆ กับการฟื้นตัวของท่องเที่ยว จากนั้นกลุ่มอีเวนต์งานแฟร์จะค่อยๆ ฟื้นตามมา ส่วนกลุ่มงานประชุมสัมมนาน่าจะกลับมาได้ยาก เหตุเพราะปรับไปเป็นประชุมออนไลน์กัน และกลุ่มอีเวนต์เอนเตอร์เทนเมนต์จะกลับมาเป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งการที่อีเวนต์จะกลับมาแบบ 100% ได้นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ที่อยากให้เปลี่ยนมายด์เซตของ ศบค.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ด้วยการให้ค่าของการฉีดวัคซีน จากปัจจุบันคนไทยฉีดวัคซีนไปกว่าครึ่ง จึงควรปลดล็อกมาตรการการเฝ้าระวังต่างๆ เพื่อให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามเดิม ไม่ใช่ยังต้องปฏิบัติตนและเฝ้าระวังเหมือนตอนยังไม่มีวัคซีนแบบช่วงเจอโควิด-19 ใหม่ๆ
#8374
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#8375


วันนี้ (14ก.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) เพื่อใช้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้าง สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50 หรือ 1.5 เท่า ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึง 31 มีนาคม 2565 นี้ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ หลังวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ศบค. ได้ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านนวด (เฉพาะนวดเท้า) และสนามกีฬา สามารถเปิดให้บริการได้ ประกอบกับในที่ประชุม ศบค. ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 10 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางตามนโยบาย ศบค. ที่จะเพิ่มการตรวจ ATK ในประชากรโดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน กระทรวงการคลังจึงได้ออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจ โควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้มีส่วนร่วมกับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 ช่วยบรรเทาภาระภาษี สำหรับประชาชน ก็จะช่วยป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยลดผลกระทบต้องเศรษฐกิจและสังคมด้วย
#8377


วันที่ 14 กันยายน 2564 สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. พบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอน และการจัดกิจกรรมสำหรับการส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กระดับการศึกษาปฐมวัย ด้วยการจัดกิจกรรมและบทเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน และผู้ปกครองผ่านการนำผลการประเมินไปปรับใช้ พร้อมเปิดผลการประเมินคุณภาพภายนอกครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 การศึกษาปฐมวัย พบว่ามีศูนย์พัฒนาเด็กกว่า 73% อยู่ในระดับดี โดยจากการประเมินคุณภาพภายนอกพบศูนย์พัฒนาเด็กปรับตัวได้ค่อนข้างดี สำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนที่เหมาะสมและปรับใช้ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้นั้นมีดังนี้ การประสานงานกับผู้ปกครองและชุมชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำกับผู้ปกครองเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านร่างกาย ทดสอบความจำของเด็กด้วยการกำหนดหัวข้อประจำสัปดาห์ และจัดกิจกรรมผ่านการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองโดยจะต้องพยายามหาวิธีการที่จะช่วยให้ผู้ปกครองสอนเด็ก ๆ ได้ง่ายและสะดวกที่สุด เช่น ฝึกให้เด็กทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง เป็นต้น



ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของศูนย์พัฒนาเด็ก (ศพด.) ทั่วประเทศ ทำให้ต้องงดกิจกรรมการเรียนการสอน เนื่องจากทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเรียนรู้ และพัฒนาการตามวัยของเด็ก อีกทั้งเด็กในวัยนี้ไม่สามารถเรียนออนไลน์ หรือทำกิจกรรมออนไลน์ได้เหมือนกับผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และภายใต้วิกฤตที่เกิดขึ้นอาจเป็นตัวแปรที่ทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา เช่น ความรู้และทักษะตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร พัฒนาการทางด้านจิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา เป็นต้น



สำหรับประเด็นดังกล่าว สมศ. ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยจากการประเมินคุณภาพภายนอกในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 นี้ สมศ. พบว่าศูนย์พัฒนาเด็กได้พยายามปรับตัว และปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในระยะนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้การเรียนรู้ของเด็กในวัยนี้หยุดชะงักไป โดยเบื้องต้นกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลและกำกับศูนย์พัฒนาเด็ก ได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนโดยการปรับรูปแบบการทำกิจกรรม ให้หน่วยงานต้นสังกัดและชุมชนเข้ามามีบทบาทในการร่วมจัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ของเด็ก โดยที่ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กจะทำหน้าที่แนะนำและเป็นผู้ช่วยให้ผู้ปกครองเรียนรู้วิธีการที่จะช่วยสอนเด็กเมื่อเด็กอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตามจากการประเมินคุณภาพภายนอก ทำให้ สมศ. พบ 3 แนวทางสำหรับพัฒนาการเรียนการสอนของศูนย์พัฒนาเด็กที่เหมาะสม และสามารถเป็นแบบอย่างให้ศูนย์พัฒนาเด็กอื่นๆ นำไปใช้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ในปัจจุบัน
#8378


ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับนายกสมาคมฟินเทค ประเทศไทย ไม่ผิดโผทุกคนต่างเทคะแนนให้กับ คุณนึก-ชลเดช เขมะรัตนา และ ทีมบอร์ดบริหารสุดแข็งแกร่ง ที่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในด้าน Fintech ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คุณท๊อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ที่มีความถนัดเรื่องซื้อหวยออนไลน์ Digital Asset คุณมิล-อมฤต ฟรานเซน ที่ทำงานด้าน Insurtech มาหลายปี คุณโย่-ภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ที่ปัจจุบันได้คลุกคลีอยู่ในวงการ Lending และสุดท้าย คุณเอก-เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Crowdfunding โดยทางคุณชลเดช ผู้สวมหมวกนายกสมาคมคนใหม่ล่าสุดนั้น ปัจจุบันเป็นผู้บริหารในบริษัท Wealth Tech ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกยอมรับจากทั้งวงการฟินเทค และแวดวงตลาดทุนในบ้านเรามากที่สุดคนนึง

ชลเดช เขมะรัตนา เผยแผนปั้นสมาคมฟินเทคประเทศไทย ให้เป็นศูนย์รวมของผู้มีส่วนได้เสียทุกหน่วยงานเพื่อร่วมกันใช้ฟินเทคพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ โดยผู้ที่มีส่วนได้เสียไม่ได้มีแค่เฉพาะสตาร์ทอัพอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงธนาคาร บล. บลจ. บริษัทประกัน หรือผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ หน่วยงานกำกับดูแล และประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ

ตั้งต้นด้วยการปรับโฉม สร้างความเข้าใจใหม่สู่การเป็น "สมาคมของทุกคน"

เราต้องปรับภาพลักษณ์ให้สมาคมเข้าถึงได้ง่าย เป็นสมาคมของทุกคน ทั้งคนไทยและต่างประเทศที่เข้ามาตั้งธุรกิจในประเทศไทย โดยสมาคมฟินเทคประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับสมาคมฟินเทคในต่างประเทศแล้ว ซึ่งเริ่มจากการหาความร่วมมือกับประเทศที่เป็น Global Fintech Hub ก่อน เช่น อังกฤษ จีน สิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากนี้ สมาคมฟินเทคยังได้ Rebranding โดยการเปลี่ยนโลโก้ให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเรียกสมาคมภาษาอังกฤษเป็น TFA ย่อมาจาก Thai Fintech Association

ความท้าทาย 52 สัปดาห์แรก แห่งการสร้าง Networking และ Infrastructure

ความท้าทายแรก คือ ต้องปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งหมดให้สำเร็จโดยไว โดย TFA แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ 52 สัปดาห์แรก และ 52 สัปดาห์หลัง ในส่วนแรกจะเน้นขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งวางโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแรง การมี Networking ที่ดีจะช่วยให้ผู้ประกอบการด้านฟินเทคเข้ามาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ในหลายแง่มุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวกับระเบียบและกฎเกณฑ์ทางการ เพราะประเทศไทยมีหน่วยงานกำกับดูแลหลายหน่วยงาน ดังนั้น TFA จึงมีความตั้งใจที่จะช่วยประสานงานกับผู้ประกอบการฟินเทคและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มการประชุมเป็นประจำทุกเดือนกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กลต. และสำนักงาน คปภ. เพื่อวางแผนและทำงานร่วมกันในการพัฒนาวงการฟินเทคในประเทศไทย โครงสร้างพื้นฐานที่ TFA อยากผลักดันให้เกิดขึ้นคือ API Exchange โดยการอาสาเป็นเจ้าภาพในการพัฒนา Market Place สำหรับเผยแพร่และแลกเปลี่ยน API เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาบริการด้านฟินเทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องทำงานซ้ำซ้อนกัน ใครทำเรื่องอะไรได้ดีก็ให้ทำออกมาในรูปแบบ API ให้หน่วยงานอื่นสามารถนำไปใช้ต่อได้แล้วค่อยมาแบ่งรายได้หรือจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริง ซึ่งในปัจจุบันมีหน่วยงานที่ทำเรื่อง Open API ได้ดีอยู่แล้ว TFA จึงสามารถร่วมงานกับหน่วยงานดังกล่าวเพื่อกำหนดรูปแบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และวาง API Roadmap สำหรับการขยายฐานผู้ใช้งาน API Exchange ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมต่อกับ API Exchange อื่นที่มีอยู่ในต่างประเทศ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเปิดตลาดไปยังต่างประเทศได้ และให้ผู้ประกอบการต่างประเทศมาลงทุนทำธุรกิจด้านฟินเทคในประเทศไทยได้เช่นกัน

52 สัปดาห์หลัง ต่อยอดฟินเทคสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเสริมช่องทางความรู้ด้านฟินเทค และดึงความสนใจจาก VC ต่างชาติ

ใน 52 สัปดาห์หลังจะเป็นการต่อยอดจากในส่วนแรก ด้วยการสร้างความร่วมมือกับสตาร์ทอัพ และสถาบันการเงิน ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมใช้ Networking ทั้งหมดที่หามาสร้างให้อุตสาหกรรมฟินเทคในประเทศไทยสามารถอยู่ได้แบบยั่งยืน ซึ่งการทำให้ยั่งยืนนั้นเราต้องเริ่มตั้งแต่รากฐานก็คือการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ Fintech ให้แก่คนในประเทศ แต่ในไทยเรายังขาดช่องทางที่หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องฟินเทคและการเงินการลงทุนทั่วไป หรือหากมีข้อมูลดังกล่าวก็อาจจะไม่ครบถ้วน หรือดูยากเกิน ดังนั้น TFA จึงอยากจะช่วยเหลือในส่วนนี้ โดยการทำให้ผู้บริโภคเข้าใจฟินเทคมากขึ้น และรู้ว่าตนเองกำลังจะใช้บริการทางการเงินอะไร มีวิธีการและขั้นตอนรวมไปถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์จากการใช้บริการทางการเงินนั้นๆ อย่างไรบ้าง TFA จึงได้มีการวางแผนจัดทำคอร์สด้านการเงินและฟินเทค โดยวิทยากรจะมาจากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Fintech ทั้งในและต่างประเทศ โดยกรรมการบริหาร TFA ก็จะเป็นวิทยากรเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะมีโควตาสำหรับสมาชิกให้สามารถร่วมเรียนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้เรายังวางแผนจัดทำหลักสูตรและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินทั่วไปและฟินเทค ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าเราไปสอนเด็กที่เรียนบริหารฝั่งการเงิน และฝั่งเทคโนโลยีให้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการเงิน และ ฟินเทค เราก็จะได้คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจสินค้าทางการเงิน มีภูมิคุ้มกันตัวเองมากขึ้น โดนหลอกได้ยาก รู้จักลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ และสามารถกลายเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในวงการฟินเทค ประเทศไทยในอนาคตได้

ส่วนการสร้างแรงดึงดูดความสนใจจาก VC ต่างชาตินั้น ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศยังไม่รู้จักฟินเทค ในประเทศไทยมากนัก TFA จึงอยากทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมฟินเทค ประเทศไทยให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ด้วยการจัดงาน Roadshow กับทางต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเป็นในรูปแบบออนไลน์ไปก่อน โดยงานดังกล่าวจะเป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ของแต่ละประเทศ และเป็นการทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามารู้จักกับสตาร์ทอัพที่เป็นฟินเทคในไทยมากขึ้น นอกจากนี้เราจะมีการจัดทำ Database บริษัทฟินเทค ในประเทศไทยโดยแบ่งตามกลุ่มธุรกิจและรอบการระดมทุน เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกลงทุนกับสตาร์ทอัพในไทยก่อนด้วย

ตั้งเป้าผลักดันประเทศไทย สู่ Top 5 ฟินเทคฮับ ในเอเชีย ภายใน 2 ปี

TFA ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับคนไทยทุกคนด้วยการเป็นศูนย์กลางด้านฟินเทค เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและเข้าใจบริการด้านฟินเทคอย่างถ่องแท้มากขึ้น พร้อมมุ่งให้ผู้ประกอบการมีช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในวงการฟินเทคได้มีระบบ API ที่มีมาตรฐานให้สามารถนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องทำใหม่ขึ้นมาเอง และยังสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็น Talent ด้านการเงิน และฟินเทคโดยเฉพาะ รวมไปถึงการได้เข้าถึงนักลงทุนในระดับต่างประเทศ ผ่านตัวกลางอย่าง TFA โดยเราตั้งเป้าให้ประเทศไทยติดอันดับ Top 5 ฟินเทคฮับในเอเชียภายใน 2 ปี ผ่านแผนกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวมาโดยมีผู้ส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมการเงินและฟินเทคเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาฟินเทค ประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก
#8379


พลพรรคแข้งฟุตซอลทีมชาติไทย ออกสตาร์ทศึกชิงแชมป์โลกที่ลิธัวเนีย ด้วยความพ่ายแพ้หลังถูก โปรตุเกส ยิงชนะไป 4-1 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก เมื่อคืนวันที่ 13 กันยายน 2021

ศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 'ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์ คัพ 2021' รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกที่ลิธัวเนีย ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์อาเซียน 8 สมัย ประเดิมสนามนัดแรกของกลุ่ม C เจอกับ โปรตุเกส แชมป์ยุโรป ปี 2018

ทีมฟุตซอล 'ช้างศึก' ประเดิม 5 ตัวจริง ประกอบด้วย คฑาวุฒิ หาญคำภา, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ, กฤษดา วงษ์แก้ว กัปตันทีม และกองหน้าตัวเก่ง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง

เริ่มเกม 5 นาที โปรตุเกส ทักทาย ฟาบิโอ เซซิลิโอ วิ่งมาง้างซัดแถวสองแต่ คฑาวุฒิ หาญคำภา ยกมือเซฟทัน ขณะที่ นาที 6 ทีมไทยตอบโต้ รณชัย จูงวงษ์สุข ได้.หน้ากรอบแต่ยิงติดเซฟ เบเบ้

เกมแลกกันสนุกจน นาที 17 ทีมไทยทะลวงประตูสำเร็จ .โด่งจากฝั่งซ้ายตกใส่เท้า จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ตะบันขวาเสียบเสา 1-0 แต่นาที 19 ฝอยทองตีเสมอจากลูกตั้งเตะ ริคาร์ดินโญ่ สะกิดให้ บรูโน่ คูเอโล่ ซัดตุง 1-1 และจบครึ่งแรกที่ผลนี้

ครึ่งหลัง นาที 23 ทีมไทยพลาดเม็ดสอง นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ ได้.ด้านซ้ายแต่ยิงหลุดเสานิดเดียว ต่อมา นาที 27 โปรตุเกส ตัด.กลางสนาม เอริค ลากขึ้นมาซ้าย ล็อกหนึ่งจังหวะแล้วหวดเต็มที่.เข้าประตูแซงนำ 2-1

นาที 30 ฝอยทองกดเม็ดสาม ชิกกี้ พลิก.ออกซ้ายแล้วยิงหักข้อไม่เหลือ 3-1 จากนั้น นาที 32 โปรตุเกส ทะลวงลูกสี่ ปานี พา.ตัดเข้าขาวแล้วกดเต็มข้อทิ้งห่างเป็น 4-1 และเป็นประตูส่งท้ายให้ โปรตุเกส ประเดิมชัยชนะ 3 แต้มไปก่อน

สำหรับทีมไทย จะมีโปรแกรมลงเตะนัดสองเจอกับ โมร็อคโก ที่ถล่มหมู่เกาะโซโลมอน 6-0 วันที่ 16 กันยายน ส่วน โปรตุเกส ปะทะ หมู่เกาะโซโลมอน วันเดียวกัน
#8380
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804  หรือ www.mmee2000.com
#8381
ถมที่ ขุดสระ จัดสวน วางท่อ ติดต่อ 080-022-3804
www.mmee2000.com ทำจริงไม่ทิ้งงาน
#8382
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#8383


 "ttb analytics" คาดหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง 93.0% ในสิ้นปี 64 เพิ่มจากไตรมาส 1 /64 ที่ 90.2% และสิ้นปี 62 ที่ 80% เหตุโควิดยืดเยื้อรุนแรงขึ้น ดันหนี้เพื่อการบริโภคสูงขึ้น หวั่นกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ ชี้ทางออก เร่ง"ปรับโครงสร้างหนี้"ตรงจุดและ"รวบหนี้" แก้ไขปัญหาระยะยาว

หนี้ครัวเรือนไทยปัจจุบันอยู่ในภาวะเปราะบาง ด้วยสัดส่วนหนี้เพื่อการบริโภคที่สูงขึ้นจึงเป็นปัญหากระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ ทางออกคือการปรับโครงสร้างหนี้ให้ตรงจุดและเน้นการรวบหนี้เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว

สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยปัจจุบันโดยเปรียบเทียบกับต่างประเทศ

นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 หนี้ครัวเรือนของไทยมีการปรับตัวสูงมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 80% ของจีดีพี ณ สิ้นปี 2562 เป็น 90.5% ของจีดีพี ณ ไตรมาส 1/2564 และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศระลอกสามที่ลุกลามยืดเยื้อมาจนถึงครึ่งหลังของปี 2564 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ  ttb analytics คาดการณ์ว่า ระดับหนี้ครัวเรือนของไทยอาจเพิ่มขึ้นไปถึง 93.0% ณ สิ้นปี 2564

โดยปริมาณหนี้ครัวเรือนของไทยต่อจีดีพี ที่เร่งขึ้นเร็วในช่วงวิกฤตนี้เกิดจาก 1. ความจำเป็นในการก่อหนี้เพิ่ม เนื่องจากขาดหรือมีสภาพคล่องในครัวเรือนไม่เพียงพอกับรายจ่าย หลังจากที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติในช่วงล็อกดาวน์ การถูกปรับลดเงินเดือนบางส่วนลง รวมถึงการถูกเลิกจ้าง 2. รายได้ที่ลดลงมากเมื่อเทียบกับหนี้ที่เพิ่มขึ้นเร็ว สะท้อนจากหนี้ครัวเรือนไทย ณ ต้นปี 2564 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.6 จากระยะเดียวกันกับปี 2563 ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะซบเซา


ทั้งนี้ สังเกตได้ว่า ในหลายประเทศก็ประสบปัญหาการปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของหนี้ครัวเรือนเช่นเดียวกัน โดยเกาหลีใต้มีหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจาก 93.9% ของจีดีพี เป็น 103.8% ณ ต้นปี 2564 และมาเลเซียที่เพิ่มจาก 82.7% เป็น 93.2% ในปัจจุบัน โดยไทยมีปริมาณหนี้ครัวเรือนอยู่อันดับที่ 17 ของโลก ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน คือ เกาหลีใต้และมาเลเซีย ซึ่งอยู่อันดับที่ 9  และ 14 ตามลำดับ แต่สูงกว่าหนี้ครัวเรือนของสิงคโปร์ซึ่งอยู่อันดับที่ 26 ของโลก  

จึงเห็นได้ว่านอกจากหนี้ครัวเรือนของไทยและประเทศเพื่อนบ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ยังถือว่ามีปริมาณภาระหนี้สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย ดังนั้น การบริหารจัดการหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ศูนย์วิเคราะห์ฯ ทีทีบี ชี้พิษโควิดดันหนี้ครัวเรือนไทยปีนี้พุ่งแตะ 93.0%


ประเมินความเสี่ยงหนี้ครัวเรือนไทยเทียบต่างประเทศ

ด้านประเภทของหนี้ครัวเรือนไทยประกอบไปด้วย สัดส่วนหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 47% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด อาทิ หนี้บ้านและรถยนต์ และสัดส่วนหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 35% อาทิ หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป รวมถึงหนี้เพื่อการศึกษา และส่วนที่เหลืออีก 18% เป็นหนี้รายย่อยเพื่อธุรกิจครัวเรือน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูงในระดับโลกใกล้เคียงกันกับไทยเพื่อให้เห็นภาพรวม โดยคำนวณเฉพาะหนี้บ้านต่อหนี้ครัวเรือนทั้งหมด (ไม่รวมหนี้ยานพาหนะ เพราะมีข้อจำกัดของการเข้าถึงข้อมูลสินเชื่อรถยนต์ในบางประเทศ) พบว่า ในต่างประเทศครัวเรือนส่วนใหญ่เป็นประเภทหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในระดับสูงกว่าไทย อาทิ เกาหลีมีสัดส่วนหนี้บ้านสูงถึง 56% ขณะที่สิงคโปร์และฝรั่งเศส นอกจากจะมีหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีต่ำกว่าไทยแล้ว ยังไม่มีสัดส่วนหนี้อสังหาฯ สูงกว่าด้วย ยกเว้นมาเลเซียที่มีสัดส่วนหนี้บ้านใกล้เคียงกับไทย สะท้อนให้เห็นว่า หนี้ครัวเรือนของไทยมีความเสี่ยงต่อความเปราะบางทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศอื่นที่มีอันดับหนี้ในระดับต้นๆ ของโลกใกล้เคียงกัน

ศูนย์วิเคราะห์ฯ ทีทีบี ชี้พิษโควิดดันหนี้ครัวเรือนไทยปีนี้พุ่งแตะ 93.0%

 

คุณภาพหนี้ครัวเรือนที่แท้จริง และประสิทธิภาพการช่วยเหลือแก้ไขหนี้

ในส่วนของคุณภาพหนี้ครัวเรือนนั้น เป็นผลโดยตรงมาจากสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ที่รุนแรงและลากยาวนับแต่ปลายปี 2563 ส่งผลซ้ำเติมปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนที่มีอยู่แล้วในระดับสูง โดยเมื่อดูข้อมูลหนี้รายย่อยที่ได้ขอเข้าโครงการรับการช่วยเหลือ (รวม SFI) ณ เดือนมิถุนายน 2564  พบว่ามีปริมาณสูงถึง 11% ของจีดีพี ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องชี้วัดสำคัญ คือ หนี้ stage 3 หรือเอ็นพีเอล ที่มีอยู่ไม่ถึง 1% ของจีดีพี และหนี้ใน Stage 2 หรือสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิต ที่มีอยู่เพียง 2.2% ของจีดีพี สะท้อนให้เห็นว่า คุณภาพหนี้ครัวเรือนของไทยในความเป็นจริงแย่ลงมากกว่าที่สามารถสะท้อนได้จากเครื่องชี้วัดหลักดังเช่น เอ็นพีเอล

 

เมื่อพิจารณาเป็นประเภทหนี้ที่มาขอรับความช่วยเหลือล่าสุด สำหรับลูกหนี้ของกิจการธนาคารพาณิชย์ กิจการไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non-bank) และธนาคารเฉพาะกิจ (SFI) ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 พบว่า อันดับแรกเป็นหนี้ที่อยู่อาศัยเป็นหลัก (ยอดขอความช่วยเหลือรวมอยู่สูงถึง 4.5% ของจีดีพี เทียบกับยอดเอ็นพีเอลที่ 0.6% ของจีดีพี) รองลงมาเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล (ยอดขอความช่วยเหลือรวม 5.3% เทียบกับยอดเอ็นพีเอล 0.2%) และอันดับสามเป็นหนี้รถยนต์ (มูลค่าขอความช่วยเหลือ 1.1% เทียบกับยอดเอ็นพีเอลที่ 0.1%) โดยกลุ่มลูกหนี้ที่มาขอความช่วยเหลือมักเป็นลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ในลักษณะเชิงป้องกัน (Pre-emptive) อย่างทันท่วงที จะส่งผลให้เกิดหนี้เสียเป็นวงกว้างและกระทบต่อเสถียรภาพการเงินและระบบสถาบันการเงินโดยรวมของไทยได้ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งเป็นหนี้ประเภทไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Unsecured loan) และมีสัดส่วนค่อนข้างใหญ่ในโครงสร้างสินเชื่อครัวเรือนของไทย

ศูนย์วิเคราะห์ฯ ทีทีบี ชี้พิษโควิดดันหนี้ครัวเรือนไทยปีนี้พุ่งแตะ 93.0%

การวางแผนแก้ไขหนี้ครัวเรือนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเน้นเพื่อช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวทางการเงินของลูกหนี้ในระยะสั้น และเพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การชำระหนี้ทั้งหมดได้ หลังการแพร่ระบาดยุติลงในระยะยาว โดยสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย (Tailor-made) และไม่ก่อให้เกิดแรงจูงใจเลี่ยงชำระหนี้อย่างไม่เหมาะสม (Moral hazard) เมื่อเปรียบเทียบแนวทางสำคัญในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของ ธปท. และประเทศอื่นในภูมิภาค พบว่ามีความสอดคล้องกันในหลายด้าน ได้แก่

การเติมสภาพคล่องให้ลูกหนี้รายย่อยเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ เช่น ธนาคารกลางเกาหลีได้ขยายกรอบวงเงินช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีและเจ้าของธุรกิจส่วนบุคคลรายย่อย ส่วน ธปท. ได้ขยายเพดานวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับลูกหนี้ที่มีความสามารถในการผ่อนชำระ
การลดภาระค่าผ่อนต่องวดลง ตามการเจรจาร้องขอของลูกหนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย (Tailor-made) อาทิ มาเลเซียที่ลดค่างวดตามสถานะการจ้างงานและรายได้ สิงคโปร์ที่ลดค่างวดสำหรับหนี้บ้านซึ่งมีสัดส่วนสูงในหนี้ครัวเรือน รวมถึงการช่วยเหลือเฉพาะหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ ธปท. ให้ส่วนลดดอกเบี้ยตามยอดชำระค่างวดใหม่ที่เลือก เพื่อเป็นแรงจูงใจแก้ลูกหนี้ที่เข้าโครงการแก้หนี้ ให้พยายามชำระหนี้ตามความสามารถ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี
การเร่งปรับโครงสร้างหนี้  ทั้งการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้จากระยะสั้นเป็นหนี้ระยะยาว ก่อนที่จะเกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้ได้ในอนาคต ซึ่งเป็นแนวทางทั่วไปที่สอดคล้องกันในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
การรวบหนี้ โดยเฉพาะการนำหนี้ไม่มีหลักประกันมารวมกับหนี้มีหลักประกัน และขยายระยะผ่อนชำระ จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย เพื่อรองรับการปรับโครงแก้ไขหนี้ระยะยาวอย่างยั่งยืน
 

สุดท้ายนี้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยในสถานการณ์โควิด นอกจากจะอาศัย ธปท. และภาคธนาคารให้การช่วยเหลือผ่านการลดภาระและปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงต้องดำเนินการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ  ปัญหาเศรษฐกิจที่จะยังคงซบเซาไปอีก 2 ปีข้างหน้า และการให้ความรู้ทางการเงินแก่ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะการทำอย่างไรที่จะให้การก่อหนี้กลับมาเป็นการสร้างประโยชน์ และสร้างโอกาสในการหารายได้ซึ่งจะช่วยปลดภาระหนี้ได้ในระยะยาว