• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#3321


ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 316 ล้านบาท ที่สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 รัฐนิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็นการชิงชัยในวันสุดท้าย

กำหนดการเดิมการแข่งขันต้องจบลงตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้ต้องเลื่อนการดวลวงสวิงในวันที่สี่ ออกมาเป็นวันจันทร์

ปรากฎว่า โทนี ฟีนัว โปรกอล์ฟอเมริกัน กับ คาเมรอน สมิธ จากออสเตรเลีย จบสกอร์สี่วันเท่ากันที่ 20 อันเดอร์พาร์ ต้องมาเล่นเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ชนะในหลุม 18 และสุดท้ายเป็น โทนี ฟีนัว ที่เอาชนะเพลย์ออฟไปได้ คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ทั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี และถือแชมป์อาชีพรายการที่ 3 ของ ก้านเหล็กวัย 31 ปี จากยูท่าห์ โดยเป็นแชมป์ระดับพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 2 ในชีวิต หลังจากเคยได้แชมป์ที่เปอร์โตริโก โอเพ่น เมื่อปี 2016

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟคนอื่นๆ ที่น่าสนใจ จอน ราห์ม จากสเปน เกือบจะมีโอกาสได้ลุ้นแชมป์ แต่ดันมาออกโบกี้ในหลุมที่ 15 และ 18 ทำให้เขาจบที่ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 3, จัสติน โธมัส จากสหรัฐฯ จบที่ 15 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 4 ร่วม, แซนเดอร์ ชัฟเฟล จากสหรัฐฯ จบที่ 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 16 ร่วม, ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ จบที่ 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 27 ร่วม, ไบรสัน เดอแชมบัว จากสหรัฐฯ จบที่ 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 31 ร่วม
#3322


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุในเดือนก.ค. ตัวเลขการส่งออกไทยยังคงขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 20.27%YoY ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 19.7% โดยใน 7 เดือนแรกของปี 2564 ตัวเลขส่งออกไทยเติบโตที่ 16.2% ซึ่งเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาคแต่ระดับของการเติบโตยังคงต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ที่สามารถขยายตัวได้มากกว่า 20% ทั้งนี้ เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธยุทธปัจจัย การส่งออกใน 7 เดือนแรกของปีขยายตัวได้ที่ 21.47% ซึ่งสะท้อนภาคเศรษฐกิจจริงที่เติบโตอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนที่รวดเร็วส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญของไทยหลายประเทศกลับสู่ภาวะปกติช่วยหนุนภาคการส่งออกของไทย โดยในเดือนก.ค. การส่งออกไปในประเทศคู่ค้าสำคัญเติบโตแข็งแกร่งในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ (+22.2%) ที่ขยายตัวได้ 14 เดือนต่อเนื่อง รวมถึงสหภาพยุโรป 28 (+20.4%) ขยายตัวได้ 5 เดือนติดต่อกัน ในฝั่งของเอเชียแม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะยังมีแนวโน้มยืดเยื้อแต่การส่งออกไปจีนขยายตัวได้ถึง 41.0% ด้านญี่ปุ่นแม้จะเผชิญกับการประกาศภาวะฉุกเฉินภายในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง แต่การส่งออกไปญี่ปุ่นยังสามารถขยายตัวได้ 9 เดือนติดต่อกันโดยในเดือนก.ค.ขยายตัวที่ 23.3% เมื่อพิจารณารายสินค้าพบว่าสินค้าหลักที่หนุนภาคการส่งออกยังคงเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เช่น ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์ติดเชื้อจากตลาดอาหารทะเลยังคงส่งผลกระทบการส่งออกต่ออาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป แต่ภาครัฐได้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยดำเนินนโยบายในการสร้างความเชื่อมั่นสินค้าไทยปลอดโควิด เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้านและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าได้กลับมาต่อเนื่องสะท้อนจากการขยายตัวของสินค้าสิ้นเปลืองที่มีราคาสูง เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ)

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2564 ภาคการส่งออกที่เป็นปัจจัยหลักในขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศที่เริ่มมีการเผชิญการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่มีแนวโน้มรุนแรง ขณะที่ปัจจัยในประเทศเองภาคการผลิตเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการแพร่ระบาดในโรงงาน โดยหากการแพร่ระบาดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้เกิดการปิดโรงงาน และมีผลต่อเนื่องไปยังห่วงโซ่การผลิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมายังภาคการส่งออกของไทย จากข้อมูลล่าสุดการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานมีการกระจุกตัวอยู่ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมโลหะ และอุตสาหกรรมพลาสติก อย่างไรก็ดี โครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) น่าจะเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้บ้าง อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และยุโรป ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า น่าจะยังส่งผลให้การส่งออกไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับประมาณการส่งออกของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12.4% จาก 11.5%
#3323


เป็นเหตุการณ์ที่ดุเดือดเลือดพล่านในเกม ลีก เอิง ฝรั่งเศส คู่ระหว่าง นีซ กับ โอลิมปิก มาร์กเซย เมื่อแฟน.เจ้าถิ่นปาขวดน้ำใส่ ดิมิทริ ปาเยต์ นักเตะของ มาร์กเซย ก่อนบานปลายกรูลงมาวิวาทกลางสนาม เมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา

เรื่องราวเกิดขึ้นในนาที 75 เมื่อ นีซ เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 จังหวะที่ ปาเยต์ แข้งทีมคู่แข่ง เอา.ไปเตรียมเตะมุม แต่กลับโดนจรวดมิสไซล์ที่ทำจากขวดน้องที่แฟน.เจ้าถิ่นปาลงมาจนบาดเจ็บ ก่อนเจ้าตัวจะปาขวดน้ำกลับคืน

และกลายเป็นเรื่องบานปลายทันทีเมื่อแฟน. นีซ กลุ่มใหญ่หลังอัฒจันทร์ รุมปาขวดใส่อีกครั้ง ก่อนวิ่งกรูลงมาในสนามเพื่อทะเลาะวิวาท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาแยกตัวนักเตะกับแฟน.ออกจากกัน โดยที่นักเตะสองทีมแยกย้ายกันเข้าอุโมงค์ไป

อย่างไรก็ตาม นักเตะของ มาร์กเซย ปฏิเสธกลับมาเล่นต่อเพราะรับความป่าเถื่อนของแฟน.เจ้าถิ่นไม่ได้ สุดท้ายเกมต้องยกเลิกไปโดยปริยาย ซึ่งจากนี้ ลีก เอิง จะทำการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และ นีซ มีสิทธิถูกปรับแพ้ 0-3 ถ้าทุกฝ่ายลงความเห็นว่าผิดจริง โทษฐานที่คุมแฟน.ไม่ได้
#3324


ความเคลื่อนไหวการแขังขันฟุต. เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่จะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 โดยมี 11 ชาติเข้าร่วม ประกอบไปด้วย ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา, สิงคโปร์, กัมพูชา, สปป.ลาว, บรูไน และ ติมอร์ เลสเต

ล่าสุด "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เปิดเผยว่ามีความประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาของแฟน.กลับคืนมาอย่างแท้จริง "ที่ผ่านมาได้รับทราบว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสนอให้ไทยเป็นเจ้าภาพซูซูกิ คัพ ในปลายปีนี้ เรื่องนี้แป้งเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยอย่างแรกคือถ้าเราได้เป็นเจ้าภาพเราไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องมีการกักตัว ส่งผลดีโดยตรงต่อสโมสรในไทยลีกที่นักเตะตัวหลักไม่ต้องพักนานจบจากทีมชาติสามารถกลับเข้าสโมสรได้ทันที"

"แฟน.ชาวไทย และคนไทยทุกคนต้องการเห็นแชมป์ฟุต.รายการนี้มากที่สุด และเราเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด ดังนั้นเราไม่มีทางเลือกอื่นคือต้องการกลับไปคว้าแชมป์ให้ได้ นอกจากนี้หากถึงช่วงปลายปีสถานการ์โควิด-19 ในประเทศเราเบาบางลง เราอยากเห็นแฟน.เข้าชมเกมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง"

"อยากวอนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการนำฟุต.รายการนี้มาจัดที่ไทยให้ได้ เพราะตอนนี้เราได้ทราบข่าวมาว่าทางกัมพูชาเตรียมพร้อมอย่างมากที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเช่นกัน หากเราต้องออกไปเล่นนอกประเทศคงไม่ใช่เรื่องดีในหลายมุม ดังนั้นเราต้องการเป็นเจ้าภาพฟุต.ซูซูกิ คัพ ในครั้งนี้"
#3325
ชิเซนเดอร์ คอร์มิน มอยส์เจอไรซิ่ง เซรั่ม
เซรั่มบํารุงผิวหน้า คืนความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน รวมทั้งต่อต้านริ้วรอย เพื่อสุขภาพผิวสำหรับคุณ





ผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวหน้า
เซรั่มบํารุงผิวหน้าจากนวัตกรรมเทคโนโลยีเอนแคปซูเลชันที่ได้รับการศึกษาวิจัยและก็พัฒนาจากห้องปฏิบัติการ สามารถช่วยกระชับรูขุมขน เพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิวพรรณ คืนความชุ่มชื้นแล้วก็ป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอวบอิ่ม อ่อนเยาว์ และยังช่วยฟื้นบำรุงผิวให้มีความยืดหยุ่นแข็งแรง ผสมด้วยสารสกัดที่ได้มาจากธรรมชาติจากขมิ้นและถั่งเช่าโมเลกุลขนาด 146-195 นาโนเมตรที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย รวมทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านี้ยังอุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์จากสารสกัดดอกดาวเรืองแล้วก็ดอกคาโมมายด์ที่ช่วยต่อต้านการอักเสบและก็ลดการระคายเคืองของผิว
- นวัตกรรมจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบรวมทั้งพัฒนานวัตกรรมด้วยเซลล์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- ผ่านการคัดสรรและก็พัฒนาจากอุทยานวิทยาศาสตร์
- ผ่านโครงการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- ผลิตด้วยโรงงานมาตรฐาน GMP และ ISO 9001:2015
- ขึ้นทะเบียนการค้า สามารถตรวจสอบใบอนุญาตได้
- ภายใต้บริษัทด้านสุขภาพครบวงจร (บริษัท ไซเอนซ์ อินโนเวทีฟ โปรดักส์ จำกัด)
สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลจากสารสกัดธรรมชาติ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีสำหรับคุณ

พวกเราอยากจะนำเสนอสิ่งดีๆสำหรับคุณ
"ด้วย 4 นวัตกรรมที่พวกเราต้องการที่จะให้คุณรู้จัก
ผสมผสาน 3 คุณประโยชน์สำหรับเพื่อการฟื้นฟูผิว
ควบคุมด้วย 2 คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
เพื่อการดูแลรักษาและบำรุงผิวพรรณใน 1 ขั้นตอน"





+++ 4 นวัตกรรมที่พวกเราอยากให้คุณรู้จัก ประกอบด้วย

1. สารสกัดถังเช่านาโน อุดมไปด้วย สารคอร์ไดซิปิน โพลีแซคคาไรด์ กรดอะมิโน โปรตีน วิตามิน (E, K, B1, B2 และ B12) และก็แร่ธาตุ ช่วยป้องกันจากแสง UVB ต่อต้านการอักเสบ รวมทั้งป้องกันผิวจากแสงอาทิตย์
2. สารสกัดขมิ้นนาโน อุดมไปด้วย สารเคอร์คูมิน เคอร์คูมินอยด์ วิตามินอี ช่วยกำจัดสิว ลดการอักเสบ ฝ้า กระ ริ้วรอย เสริมสร้างผิวให้แข็งแรง และลดอนุมูลอิสระ

>>หมายเหตุ: สารสกัดถังเช่านาโนรวมทั้งขมิ้นนาโน เป็นนวัตกรรมใหม่จากงานค้นคว้าวิจัยของบริษัทที่ได้พัฒนาขึ้นมา มีที่แรกที่เดียว เป็นสูตรของบริษัทโดยตรง

3. สารสกัดดอกดาวเรือง อุดมไปด้วย อุดมไปด้วย สารประกอบกลุ่ม ฟีนอล แล้วก็ฟลาโวนอยด์ ธาตุเหล็ก สังกะสี และแมงกานีส ปกป้อง ผิวหนังเหี่ยวย่น ลดริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น ลดผื่นแพ้ รวมทั้งต้านอนุมูลอิสระ
4. สารสกัดดอกคาโมมายล์ อุดมไปด้วย คูมารินส์และก็เทอร์พีนอยด์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สมานแผล ลดการอักเสบ ลดรอยแดงจากการระคายเคือง ลดสิว ผดผื่น รวมทั้งคงความอ่อนเยาว์

+++ ผสมผสาน 3 คุณค่าในการฟื้นฟูผิว
1. ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน ช่วยเพิ่มความเรียบเนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
2. สารสกัดเปปไทด์ ช่วยทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้น ผิวแลดูสดใส ผิวฉ่ำน้ำ ไม่แห้งตึง ผิวนุ่มชุ่มชื้น
3. หัวเชื้อพิเทร่า ช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง กระจ่างขาวสวยใส ลดเลือนริ้วรอย ลดจุดด่างดำ

+++ ควบคุมด้วย 2 คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
มาตรฐานคุณภาพโรงงาน GMP และก็ ISO 9001:2015

+++ เพื่อการดูแลรักษาและบำรุงผิวพรรณใน 1 ขั้นตอน
หลังชำระล้างผิวหน้า ทาเซรั่มบำรุงผิวหน้า เช้า-เย็น



 
#3326


โรเมลู ลูกากู ประเดิมซัดตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนาม พา "สิงห์บลูส์" เชลซี บุกเก็บชัยเหนือ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล 2-0 คว้าสามแต้มในศึกลอนดอนดาร์บีแมตช์

ศึกฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 เกมลอนดอนดาร์บีแมตช์ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ "สิงห์บลูส์" เชลซี

อาร์เซนอล ของกุนซือมิเกล อาร์เตต้า เกมที่แล้วบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด ทีมน้องใหม่ 0-2 เกมนี้นำทัพมาโดย นิโคลัส เปเป้, บูกาโย่ ซากา, เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี

ขณะที่ เชลซี ของเฮดโค้ช โธมัส ทูเคิล เกมที่แล้วทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 เกมนี้ โรเมลู ลูกากู หัวหอกเบลเยียม ประเดิมลงสนามให้ทีมเป็นนัดแรกตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมอีกครั้ง ประสานงานในเกมรุกร่วมกับ เมสัน เมาท์ และไค ฮาแวร์ตซ์

น.15 เชลซี ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ จ่ายออกขวาไปให้ รีซ เจมส์ ก่อนปาดเข้ากลางมาให้ โรเมลู ลูกากู วิ่งมาแท็บอินโล่งๆ ถือเป็นการทำประตูแรกของตัวเองในการประเดิมลงเล่นซีซันนี้ให้ เชลซี

น.35 เชลซี ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ จ่ายออกขวาไปให้ รีซ เจมส์ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ และยิงหนีมือ แบรนด์ เลโน่ เข้าไปตุงตาข่าย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล พยายามเปิดเกมบุกมากขึ้นเพื่อหวังทวงประตูคืนให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่เฉียบคมพอ ขณะที่ เชลซี อาศัยเกมโต้กลับเล่นงานแผงหลังของเจ้าถิ่นได้หลายครั้ง แต่ยังทำประตูไม่ได้เช่นกัน

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที อาร์เซนอล พ่ายคาบ้านให้กับ เชลซี 0-2 ทำให้ทีม "ปืนใหญ่" ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ด้วยการปราชัย 2 เกมติดต่อกัน ยังไร้แต้ม ขณะที่ "สิงห์บลูส์" มี 6 คะแนนเต็ม ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงร่วมกับ ลิเวอร์พูล

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : แบรนด์ เลโน่ (GK), เซดริค โซอาเรส, ร็อบ โฮลดิง, พาโบล มารี, คีแรน เทียร์นีย์, อัลเบิร์ต แซมบี โลกองกา, กรานิต ชากา, นิโคลัส เปเป้, เอมิล สมิธ โรว์, บูกาโย ซากา, กาเบรียล มาร์ติเนลลี

เชลซี: เอดูอาร์ด เมนดี (GK), รีซ เจมส์, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, อันเดรส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์, เมสัน เมาท์, โรเมลู ลูกากู
#3327


สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส2ปี 2564ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ส่วนใหญ่ประกาศออกมาแล้ว ซึ่งรอตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ประกาศอย่างเป็นทางการ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้ เผย กำไรไตรมาส2/64ของ บจ. (จำนวน 626 บริษัทจากทั้งหมด 650 บริษัทใน SET) อยู่ที่ 2.75 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น3% เมื่อเทียบกับไตรมาส1ปี2564 

ทั้งนี้หลายกลุ่มอุตสาหกรรมมีกำไรเติบโตสูง เพราะ ฐานกำไรไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่ต่ำมาก เพราะเจอการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ แต่กลุ่มที่ยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนอยู่คือ กลุ่ม TOURISM เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ และยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์   

สำหรับบจ.ที่มีกำไรสูงสุด 10 อันดับแรก "กรุงเทพธุรกิจ"ได้รวบรวมข้อมูลดังนี้

1.บมจ.พีทีที โกล. เคมิคอล(PTTGC) มีกำไรสุทธิ 25,034.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,398% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,670.74 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 61% อยูที่ 111,793 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี69,271 ล้านบาท เป็นผลมาจากราคาขายของทุกผลิตภัณฑ์ที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง รวมทั้กลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และฟีนอล จากอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ตามสภาพเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นและราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับเพิ่มขึ้น รับรู้กำไรสต็อกน้ำมัน และรายการพิเศษขายหุ้น บมจ. โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC)

2.บมจ.ปตท.(PTT) มีกำไรสุทธิ 24,578.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.91%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,053.29 ล้านบาท เนื่องจากปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 58,958 ล้านบาทหรือมากกว่าร้อยละ 100 โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวสูงขึ้นและธุรกิจการกลั่น ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจน้ำมัน มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

3.บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) มีกำไรสุทธิ 17,136.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.61% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,383.86 ล้านบาท สาเหตุหลักจากส่วนต่าง ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้น 39% สาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 39% สาเหตุหลักจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น


4.บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL) มีกำไรสุทธิ 8,339.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,332.62% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 153.51 ล้านบาท ซึ่ง ในไตรมาส 2/64 บริษัทมี Core EBITDA เท่ากับ 477 ล้านดอลลาร์ (ผลการดำเนินงานของ IVOL 18 ล้านดอลลาร์ถูกปรับปรุงไปยังรายการพิเศษ) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการกระจายตัวทั่วโลกขนาดและการเป็นผู้นำของบริษัท ในทั้งสามกลุ่มธุรกิจ รายได้จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของทุกภูมิภาค โดย Core EBITDA ของทวีปอเมริกาและยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เพิ่มขึ้น 59% ในครึ่งแรกของปี 64 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี2563 ในขณะที่ทวีปเอเชียเพิ่มขึ้น 15%.ในปี2563 ธุรกิจของบริษัทได้ผ่านบททดสอบความยืดหย่นต่อสถานการณ์ต่างๆ และในครึ่งปีแรกได้แสดงให้เห็นการสร้างมูลค่าจากแพลตฟอร์มของบริษัท


5.บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) มีกำไรสุทธิ 7,280.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 590.5% จากช่วงเดียวกันที่มีกำไรสุทธิ 1,054.35 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 164.7% มาอยู่ที่ 12,967.7 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 4,899.7 ล้านบาท 

6.บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีกำไรสุทธิ 7,139.60 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  4,322.86 ล้านบาท  เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 164.7% มาอยู่ที่ 12,967.7 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 4,899.7 ล้านบาท เพราะริมาณการขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 36%ประกอบกับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 21%


7.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) มีกำไรสุทธิ 7,040.82 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 0.6%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่กำไรสุทธิ 7,001.11 ล้านบาท   จากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.2% ขณะที่ต้นทุนการดำนเนินงานเพิ่มขึ้น 4.4%

8.บมจ.การบินไทย (THAI) มีกำไรสุทธิ 5,562.50 ล้านบาท

9. บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) มีกำไรสุทธิ 5,043.71 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 361%  จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  1,093.70 ล้านบาท  จากทั้งราคาขายและปริมาณการขายที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นตามการฟื้นตัว
ของเศรษฐกิจโลกและความต้องการในการบริโภคจากผู้ผลิตยางล้อ 

10. บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) มีกำไรสุทธิ 4,737.30 ล้านบาท  ลดลง21% จากช่วงเดียวปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,028.51 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายลดลง10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการเปลี่ยนสถานะจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมของบริษัท chia Tai Investment Co.,Ltd.(CTI) เมื่อเดือนธ.ค.2563 ทั้งนี้ หากไม่นับผลกระทบจากรายการดังกล่าว รายได้จากการขายในไตรมาส2ปี 2564 เพิ่มขึ้น 14% จากการขยยงานและราคาผลิตภัณฑ์ในหลายประเทศที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รวมถึง ประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และรัสเซีย เป็นต้น
#3328


นายวิรงค์ พัฒนกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทำให้สภาพตลาดประกันยังมีสภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขจากสมาคมประกันชีวิตไทย ในช่วงครึ่งปีแรกตลาดประกันชีวิตมีการขยายตัวเพียง 3% สำหรับช่องทางตัวแทนของอลิอันซ์ อยุธยา ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยตัวเลข 7 เดือนที่ผ่านมา สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยปีแรก (ANP) 1,271 ล้านบาท  เติบโตถึง 9 % ความสำเร็จที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เกิดจากการดำเนินกลยุทธ์ที่ถูกต้อง โดยปีนี้ เรามุ่งเน้นไปที่รูปแบบเฟรนไชส์ นำโมเดลที่ประสบความสำเร็จไปใช้พัฒนาตัวแทนกลุ่มอื่นๆ รวมถึงการมุ่งแบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจจากผู้ที่ประสบความสำเร็จ อีกทั้ง ยังมีการกระตุ้นการสร้างยอดด้วยกิจกรรมและการแข่งขันให้ตัวแทนพิชิตเป้าหมายซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเสมอ 


ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายดันเบี้ยปีแรกช่องทางตัวแทนแตะ 3,100 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้    ล่าสุด บริษัทได้จัดงาน  AL Seminar ACTIV 21 งานสัมมนาผู้บริหารตัวแทน รูปแบบออนไลน์ครั้งแรก มีผู้บริหารตัวแทนจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานกว่า 1500 คน มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดการสัมมนาให้มีความ Interactive มากขึ้น ทั้งในส่วนของแอปพลิเคชัน Activ 21 ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับความรู้จาก podcast ตอบquiz เพื่อเก็บคะแนนสะสมล่วงหน้าก่อนงานเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนในวันงาน เน้นหลักสูตรเพื่อการบริหารทีมงาน จุดประกายให้เห็นความสำคัญของการทำงานเป็นทีม การส่งเสริมทัศนะคติเชิงบวก มองถึงโอกาสดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

รวมถึงการให้ความสำคัญกับตัวแทนรุ่นใหม่ในการเติบโตอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า" โดย คุณก๊อต จิรายุ ตันตระกูล ดารานักแสดง นักคิดที่มีมุมมองการใช้ชีวิตอย่างชัดเจน สัมภาษณ์เจาะลึก โดย คุณสง่า พิชฌังกูร โค้ชผู้เปลี่ยนแปลงชีวิต งานครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากตัวแทน ได้รับคะแนนความพอใจจากผู้เข้าร่วมงานในระดับ 5 ดาว ถึง 4.7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการประกาศการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ นั่นคือ CAO Trip Challenge เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างผลงานของตัวแทนในทุกระดับ โดยการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันด้วยระยะเวลาทั้งสิ้น 5 เดือนเต็ม (ตั้งแต่ ส.ค. – ธ.ค. 64) โดยผู้พิชิตคุณวุฒิในการแข่งขันนี้ จะได้เดินทางร่วมทริปไปซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยบริษัทตั้งเป้าการเดินทางในปีหน้า ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระตุ้นการสร้างผลงานแล้วเพื่อพิชิตเป้าในปีนี้แล้ว ยังเป็นกำลังใจให้ทุกคนมองถึงอนาคตที่กำลังจะมีสิ่งดีดีเกิดขึ้น เมื่อวิกฤตการณ์ผ่านพ้นไป โดยรับชม VDO งานAL Seminar สัมมนาผู้บริหารตัวแทน รูปแบบออนไลน์ครั้งแรกได้ทางยูทูบ 
#3329


นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เปิดเผยว่า จากแนวทางนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการนำนวัตกรรม/เทคโนโลยีในภาคเกษตรกรรมของประเทศและของโลก มาถ่ายทอดให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการผลิตและการต่อยอดงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร จึงได้ร่วมกับสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย และ ครอปไลฟ์ เอเชีย จัดการฝึกอบรมหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทางการเกษตร (UAV) และ การประมวลผลภาพ (Image processing)" ขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในกฎระเบียบของเทคโนโลยี UAV ทางการเกษตรในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและปลอดภัยในระดับสากล โดยหลักสูตรการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมใน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่

- การศึกษาข้อบังคับและกฎหมายของการใช้โดรน ผู้ใช้โดรนจะได้ทราบขั้นตอนและวิธีการขึ้นทะเบียนโดรนเกษตร การขออนุญาตใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานไร้คนขับ และพ.ร.บ.วัตถุอันตรายทางการเกษตร

- การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Image Processing กับงานด้านอารักขาพืช เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชด้วยการใช้โดรนทางการเกษตร กรณีการศึกษาการเข้าทำลายของไรแดงแอฟริกันในทุเรียน ที่ถูกยกเป็นกรณีศึกษาให้ผู้เข้าอบรม

- การใช้งานและการประยุกต์ใช้ UAV ทางการเกษตร โดยการวางกฎระเบียบการใช้ โดรนด้านการเกษตร แลกเปลี่ยนมุมมองภาคอุตสาหกรรมต่อการพัฒนาโดรน และการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยจากประสบการณ์จริง

- การศึกษาเทคนิคการพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยโดรนการเกษตร เพื่อเป็นอาวุธลับให้เกษตรกรและผู้ใช้โดรน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย



อากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV เข้ามามีบทบาททางการเกษตรในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เป็นเครื่องมือที่เกษตรกร หรือนักวิจัย ใช้ในกระบวนการการผลิตและวิจัย เพื่อรองรับการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศไทย ในยุคที่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเข้ามาสร้างตลาดและมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร กรมวิชาการเกษตรพยายามขับเคลื่อนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาภาคการเกษตร อาทิการใช้เซนเซอร์ชนิดต่างๆ เช่น กล้อง RGB กล้อง MULTISPECTRAL เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแวดล้อม ตรวจวัดดิน/น้ำ พร้อมทั้งปรับรูปแบบของการบันทึกและการจัดเก็บข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบของ Digital Data บน Platform เดียวกัน เพื่อการเชื่อมโยงงานด้านการเกษตรเข้ากับงานด้านไอที และเครื่องจักรกลการเกษตร นำไปสู่การประมวลผลและสั่งการการทำงานของอุปกรณ์/เครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งการอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Transformation จากภาคการเกษตร สำหรับการเตรียมความพร้อมของนักวิจัย เกษตรกร ผู้ประกอบการ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้มีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก นายศรุต กล่าวสรุป



ด้าน นาย เจอริโก เบอนาบี แกสกอน นายกสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่ทำกินของคนในประเทศ และเป็นหัวใจหรือหลอดเลือดของเกษตรกร จากอดีตจนถึงปัจจุบันเกษตรกรมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากมาย มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เป็นตัวช่วยให้การทำงานรวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่ง จวบจนปัจจุบัน "โดรน" หรือ อากาศยานไร้คนขับ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรมเกษตร มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาผสมกับโลกการผลิตให้เป็นจริงในระดับประเทศ ในยุคของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดรนกลายเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถนำประโยชน์มาสู่เกษตรกรอย่างมากมาย เช่น การประหยัดแรงงาน ลดการสัมผัสของผู้ปฏิบัติงาน ลดต้นทุนของเกษตรกร มีความคุ้มทุน คล่องตัว รวดเร็ว ประหยัดเวลา รวมทั้งมีความแม่นยำและลดความสูญเสียได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ใช้โดรนอีกด้วย และในอนาคต "โดรน" อาจเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญของเกษตรกรไทย ที่ทำให้ทุกคนให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้งานได้อย่างมีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เป้าหมายในการฝึกอบรมดังกล่าว คือ ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบและการขึ้นทะเบียน ความปลอดภัย ตลอดจนการนำเทคโนโลยี และภาควิชาการของโดรนทางการเกษตรไปใช้ในทุกแง่มุม จำเป็นต้องเกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ครอปไลฟ์ เอเชีย กำลังผนึกกำลังกับรัฐบาลทั่วเอเชีย ในการเพิ่มความรู้และความเข้าใจในเทคโนโลยีทางการเกษตร ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นในการสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีโดรนให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เกษตรกร รวมทั้งนักศึกษาหรือผู้ว่างงานได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเสริมสร้างอาชีพ เกิดรายได้ พร้อมก้าวเข้าสู่การเป็น "เกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture)" อย่างมีประสิทธิภาพได้ในวงกว้าง นาย เจอริโก กล่าวทิ้งท้าย



สำหรับผู้สนใจหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนทางการเกษตร (UAV)" รวมถึงการขอข้อมูลเกี่ยวกับโดรนทางการเกษตรในงานด้านอารักขาพืช สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานวิจัยการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร 02-579-4115, 02-579-1061 ต่อ 162 หรือ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https:// web.facebook.com/PATRS.DOA/ และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https:// www.facebook.com/taitacroplifethailand
#3330


คืบหน้ามาตรการ "เยียวยาประกันสังคม" ม.33 แรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 16 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ประกอบด้วย  กาญจนบุรี,สมุทรสงคราม , สุพรรณบุรี,เพชรบุรี ,ประจวบคีรีขันธ์ ,ราชบุรี ,อ่างทอง ,นครนายก ,ปราจีนบุรี ,ลพบุรี ,ระยอง,สิงห์บุรี ,สระบุรี ,นครราชสีมา ,เพชรบูรณ์,ตาก ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ 

โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน www.sso.go.th  ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา ผ่านออนไลน์ คลิก  หากได้รับสิทธิ ต้องผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อรับการโอนเงิน  ซึ่งทางกระทรวงแรงงานมีกำหนดจะเริ่มจ่าย "เงินเยียวยา" จำนวน 2,500 บาท ให้ความช่วยเหลือ 1 เดือน เข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน วันที่ 20 ส.ค.64 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าล่าสุดวานนี้ (19 ส.ค.) สาเหตุที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ตกหล่นยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 2,500 บาท สาเหตุหลักๆ มาจาก

บัญชีธนาคารของท่าน ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ กับเลขบัตรประชาชน
มีบัญชีธนาคารพร้อมเพย์กับเบอร์โทรศัพท์แล้ว แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปผูกกับเลขบัตรประชาชน
บัญชีธนาคารขาดการใช้งานติดต่อนานเกินไป จนถูกปิดบัญชีหรือระงับบัญชีการใช้งานอัตโนมัติ
บัญชีธนาคาร ถูกยกเลิกหรือถูกอายัด
โดยสำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินให้ตามสิทธิจนกว่าจะได้ ขอให้ตรวจสอบบัญชีด้วย ทางกระทรวงแรงงานได้ประสานไปยังนายจ้างให้ประสานและตรวจสอบเพื่อรักษาสิทธิผู้ประกันตนด้วย โดยผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท และ 2,500 บาท ต้องผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น

ทั้งนี้ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 นี้ สำนักงานประกันสังคมจะเปิดให้ผู้ประกันตน ม.33 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th พร้อมแจ้งสาเหตุกลุ่มตกหล่นว่าเหตุใดจึงโอนเงินเข้าบัญชีไม่ได้

อ้างอิง : สำนักงานประกันสังคม 
#3331


เว็บไซต์นิคเคอิ เอเชีย รายงานวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า โตโยต้า ผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลก มีแผนผลิตรถ 5 แสนคันในเดือนหน้า ลดลงจากแผนเดิมซึ่งอยู่ที่ 9 แสนคัน

รายงานระบุด้วยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. เป็นต้นไป โตโยต้าจะระงับการดำเนินงานในโรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่น และลดขนาดการผลิตลงในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตา" ที่รวดเร็วและรุนแรงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ของโตโยต้าด้วย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

หลังมีรายงานของนิคเคอิ ปรากฏว่า ราคาหุ้นของโตโยต้าปิดตลาดวันนี้ ร่วงลง 4.42% มาอยู่ที่ 9,295 เยน


อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังไม่แสดงความคิดเห็นต่อรายงานนี้

ก่อนหน้านี้ บรรดาคู่แข่งของค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น จำเป็นต้องชะลอหรือระงับการผลิตรถชั่วคราว เนื่องจากขาดแคลนชิพ ซึ่งไมโครชิพเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับระบบไฟฟ้าในรถรุ่นใหม่ และประสบปัญหาขาดแคลนมาตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว

เดิมนั้น ปัญหาขาดแคลนชิพและปัญหาด้านซัพพลายเชนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่นของโตโยต้าต้องระงับการดำเนินงานไปก่อนแล้ว

ต้นเดือนนี้ โตโยต้ารายงานว่า มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลจากยอดขายรถอันแข็งแกร่งหลังฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดได้
#3332


นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกล. เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ PTTGC Drama-Addict แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท PTTGC International Private Limited (GC Inter) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้นร้อยละ 100 เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564

ทั้งนี้ได้มีมติอนุมัติให้ GC Inter เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นร่วมกับ Sime Darby Plantation Berhad (SDP) ในการขายหุ้นทั้งหมดของธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Emery Oleochemicals (M) Sdn. Bhd. (EOM) และ Emery Specialty
Chemicals Sdn. Bhd. (ESC) ให้แก่ Edenor Technology Sdn. Bhd. (ETSB) คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 38 ล้านริงกิตมาเลเซีย (หรือเทียบเท่า 302 ล้านบาท อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทยวันที่18 ส.ค.2564) โดยมูลค่าดังกล่าวอาจมีการปรับปรุงเพื่อให้อ้างอิงจากมูลค่าเงินทุนหมุนเวียนสุทธิและหนี้สินสุทธิของ EOM และ ESC ณ วันที่ รายการเสร็จสิ้น โดยสัญญาซื้อขายหุ้นได้ถูกลงนามแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564


EOM ESC และบริษัทย่อยของสองบริษัทดังกล่าว (รวมเรียกว่า กลุ่มบริษัท Emery) เป็นกลุ่มบริษัทที่ GC Interและ SDP ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50 โดยการขายหุ้นดังกล่าวมีเงื่อนไขให้ดำเนินการภายหลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มบริษัท Emery โดยแยกธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และธุรกิจในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป
ออกจากกัน


ทั้งนี้ภายหลังการปรับโครงสร้างดังกล่าว ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังคงอยู่ภายใต้ EOM และ ESC ซึ่งทั้งสองบริษัทจะถูกโอนให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหม่คือ ETSB ในขณะที่ธุรกิจในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปจะถูกโอนออกจากEOM ให้อยู่ภายใต้บริษัท Emery Oleochemicals UK Limited ซึ่งจะถือหุ้นทางตรงโดย GC Inter และ SDP ในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50


ETSB เป็นบริษัทร่วมค้าที่มีการถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50 ระหว่างบริษัท Mega First Corporation Berhad (MFCB) และบริษัท 9M Technologies Sdn Bhd (9M Technologies) ซึ่งตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้
#3333


"บล.กรุงศรี" คาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ส.ค.) แกว่งตัว 1,535-1,555จุด ปัจจัยบวกวลับลบ แม้มีแรงเฟดลดคิวอีในปีนี้ -ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลง-ม็อบไล่รัฐบาลยืดเยื้อกดดันแต่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเริ่มทรงตัว ฉีดวัคซีนเร่งตัว หวังผ่อนคลายล็อกดาวน์หนุน

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ส.ค.2564) คาดดัชนี SET แกว่งตัว 1,535 – 1,555 จุด จากปัจจัยบวกและลบที่คละเคล้าโดยภาวะตลาดมีแรงกดดันจาเฟด ส่งสัญญาณลดการใช้ คิวอีลงในปีนี้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงและการชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตามยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเริ่มทรงตัวรวมถึงการฉีดวัคซีนที่เร่งตัวขึ้นจึงคาดหวังการผ่อนคลาย ล็อกดาวน์ ซึ่งช่วยหนุนเศรษฐกิจและภาวะการลงทุน


กลยุทธ์การลงทุน แนะเลือกลงทุน ( Selective Buy) เช่น กลุ่มส่งออก HANA KCE TU CPF GFPT ASIAN EPG NER อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า ,กลุ่มเดินเรือ PSL TTA RCL แนวโน้มค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น และกลุ่มเปิดเมือง AOT CPN CRC HMPRO AAV BA MINT CENTEL AMATA WHA 

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ EPG (ปิด 12.6 ซื้อ/เป้า 16 บาท) แนวโน้ม 2Q22 (ก.ค.- ก.ย.) ยังแกร่งต่อจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้ง 3 ธุรกิจ คือ ฉนวนกันความร้อน, ชิ้นส่วนรถยนต์ และ Packaging ขณะที่วันนี้ได้ Sentiment บวกจากเงินบาทอ่อนค่าและน้ำมันดิบร่วงแรงหนุนมาร์จิ้นเพิ่ม

และTMT (ปิด 11 ซื้อ/เป้า 12.5) ดักซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 ส.ค. ให้เงินปันผล 0.6 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield 5.5% ขณะที่แนวโน้ม 3Q21 ยังดีต่อเนื่องจากราคาเหล็กยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงและคาดว่าตลาดจะทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์
#3334


รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้รับรายงานการได้มา หุ้นของ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG โดย นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564

จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 2.2821% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 6.1024% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนจำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาของกลุ่มคิดเป็น 2.2821% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาของกลุ่มคิดเป็น 6.1024% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ


ทั้งนี้ เป็นการทำธุรกรรมผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก่อนจะยื่นแบบรายงานต่อ ก.ล.ต.วันที่ 17 ส.ค. โดยจำนวนหุ้นที่ได้มาอยู่ที่ 65,400,000 หุ้น คิดเป็น 2.2821% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคาเฉลี่ย 9.95 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่า 650.73 ล้านบาท

ภายหลังการได้มาจะส่งผลให้ นายชูชาติ ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 ของ XPG จากข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 ก.ค.2564 รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก ได้แก่

1. บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) 403,379,000 หุ้น หรือ 14.08%

2. นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา 363,041,000 หุ้น หรือ 12.67%

3. ELEVATED RETURNS LLC 346,000,000 หุ้น หรือ 12.07%

4. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 268,918,000 หุ้น หรือ 9.38%

5. UBS AG SINGAPORE BRANCH 83,425,856 หุ้น หรือ 2.91%
#3335


เมื่อวันที่ 19 ส.ค.64 นางโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ในฐานะโฆษกกรม เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยถึงการช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของ "ลูกจ้าง" จำนวนมากที่ถูกบริษัทเลิกจ้าง ทั้งจากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ซึ่งอาจซ้ำเติมลูกจ้างหากยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ตามกฎหมาย จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งรัด ติดตามการช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของ "ลูกจ้าง" ที่รัฐบาล และกระทรวงแรงงานได้กำหนดเป็นนโยบาย และมาตรการให้ความช่วยเหลือคุ้มครองแรงงานตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน 

โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้จัดประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ครั้งที่ 10/2564 ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ซึ่งมีนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน ได้ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบอนุมัติเงินช่วยเหลือลูกจ้างจำนวน 47 คน เป็นเงินสงเคราะห์จำนวน 586,966 บาท ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงปัจจุบันคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้อนุมัติจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกจ้างแล้วจำนวน 1,504 คน เป็นเงินกว่า 15.7 ล้านบาท
 
โฆษก กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เป็นกลไกที่กระทรวงแรงงานจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ใช้แรงงานได้มีเงินค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ จากการถูกเลิกจ้าง ขาดรายได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งหากลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเลิกจ้างกรณีไม่ได้รับค่าชดเชย หรือสิทธิประโยชน์อื่น เช่น ค่าจ้าง ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี เป็นต้น  สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุนได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่
#3336


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมระบบแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่การส่งสินค้า อาหารและบริการต่างๆเข้ากับระบบโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล คาดว่า จะเริ่มนำมาใช้ได้ภายในเดือนต.ค.นี้ ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ในเฟสที่ 3


สำหรับผู้ประกอบการดิลิเวอร์รี่ที่คาดว่า จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 มีจำนวนประมาณ 6 ราย ประกอบด้วย ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า โรบินฮู้ด แกร็บฟู้ด โกเจ๊ก และช้อปปี้ฟู้ด ทั้งนี้ เมื่อสามารถเชื่อมโยงระบบด้วยกันได้แล้ว ทางกระทรวงการคลังจะเปิดให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้สมัครเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง

"เมื่อเราสามารถจัดการเชื่อมระบบของผู้ประกอบการดิลิเวอร์รี่กับคนละครึ่งได้แล้ว คาดว่า เราจะเปิดให้ใช้บริการได้ราวต้นเดือนต.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะทำการเติมเงินคนละครึ่งในรอบที่สอง"

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ผู้อำนวยการสศค.กล่าวว่า การดำเนินการเชื่อมระบบดังกล่าว จะเป็นช่องทางการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ร่วมโคงการคนละครึ่ง ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวก เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 ทำให้การจับจ่ายใช้สอยแบบเฟสทูเฟสมีความยากลำบาก เมื่อนำแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่มาใช้ ก็จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยมีความคล่องตัวมากขึ้น ก็จะทำให้ยอดการใช้จ่ายในโครงการเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ยอดการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งอยู่ที่จำนวน 5.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การใช้จ่ายผู้ร่วมโครงการ 2.92 หมื่นล้านบาท และ การเติมเงินของรัฐบาล 2.84 หมื่นล้านบาท


ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้นั้น มียอดการใช้จ่ายอยู่ที่ 1.25 พันล้านบาท ซึ่งถือว่า ยังมีจำนวนที่ไม่มากนัก ซึ่งเราก็เตรียมที่จะเชื่อมแพลตฟอร์มผู้ให้บริการดิลิเวอร์รี่สินค้าประเภทอาหารที่จดทะเบียนนิติบุคคลเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายของผู้ร่วมโครงการด้วย

สำหรับจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ ล่าสุด โครงการคนละครึ่งอยู่ที่ 26.7 ล้านราย ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้อยู่ที่ 4.67 แสนราย
#3337


มูลนิธิธนินท์-เทวี เจียรวนนท์, มูลนิธิอริยวรารมย์, มูลนิธิพุทธรักษา, โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์, MQDC, อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค และทีแอนด์บี มีเดีย โกล. ร่วมกับจิตอาสา CPF และซีพี อินเตอร์เทรด เปิดตัวโครงการ "ครัวปันอิ่ม" ส่งมอบอาหารอุ่นร้อนพร้อมรับประทาน เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กาแฟ และหน้ากากอนามัย ให้แก่ชาวบางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะวิกฤตโควิด รวมทั้งเป็นกำลังใจและแบ่งเบาภาระการจัดเตรียมอาหารแก่บุคลากรทางการแพทย์ รพ.สนามแสงแห่งใจ บางนา-ตราด

"ครัวปันอิ่ม" เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนกว่า 100 องค์กรพันธมิตรในการมอบข้าวกล่อง 2 ล้านกล่อง นาน 2 เดือน ใน 40 จุดทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภาระให้แก่ประชาชนในหลายชุมชนที่ขาดรายได้ในระหว่างกักตัว

โดยนำอาหารกล่องและสิ่งของจำเป็นที่ประกอบด้วย ข้าวกะเพรากุ้ง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กาแฟ และหน้ากากอนามัยซีพีไปมอบแก่ชาวบางพลีชุมชนบางแก้ว ชุมชนคลองอาจารย์เกตุ และโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ บางนา-ตราด เพื่อเป็นกำลังใจ แทนคำขอบคุณให้แก่บุคลากรทางการแพทย์
#3338


ไชน่าเดลี (17 ส.ค.) - อ้างรายงานสื่อการเงินจีน อี้ไฉว่า เซี่ยงไฮ้ เมืองหลวงทางการเงินของจีน ครองอันดับ 1 เมืองพลังบริโภคของประเทศในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

รายงานฯ ระบุว่า ยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ 9.04 แสนล้านหยวน ในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 30.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำนักสถิติของเมืองฯ ระบุว่าสินค้าอุปโภคบริโภคมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของการบริโภค

การขายปลีกทองคำ เงิน และเครื่องประดับเพิ่มขึ้น 72.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนเครื่องสำอางและอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มขึ้น 24% และ 19.2% ตามลำดับในแต่ละปี

ด้วยยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภครวม 7.22 แสนล้านหยวนในครึ่งปีแรก กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนคว้าอันดับสองในรายการ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สภาพจำกัดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การบริโภคได้กลายเป็นกลไกหลักในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอย่างมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจของจีนจะยังคงฟื้นตัวต่อไป และคาดว่าจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพการบริโภคได้มากขึ้นอีก

สำหรับ 10 อันดับเมืองการบริโภคของจีนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตามลำดับคือ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ฉงชิ่ง กวางโจว เฉิงตู เซินเจิ้น ซูโจว หนานจิง หังโจว และอู่ฮั่น
#3339


วันที่ 15 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ให้สัมภาษณ์ในรายการสุทธิชัยไลฟ์ ในหัวข้อ "มุมมอง ธนินท์ เจียรวนนท์ โควิดกับทางออกของประเทศไทย" โดยพิธีกร คือ นายสุทธิชัย หยุ่น เปิดประเด็นว่า ได้สัมภาษณ์บุคคลจากหลายภาคส่วน และ วันนี้จะเป็นการพูดคุยกับนายธนินท์ในบทบาทภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และ แนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทย


นายธนินท์ กล่าวว่า เป็นหัวเลี้ยว หัวต่อของประเทศไทย ซึ่งวิกฤตโควิดเป็นเหมือนสงครามโลก (โรค) ครั้งที่ 3 ก็ว่าได้ เพราะทุกประเทศในโลกได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่หากประเทศใดปรับตัวได้ ก็จะก้าวกระโดด แต่หากประเทศไทยขาดนโยบายที่มีความพร้อม และมีการเปลี่ยนแปลงไม่เร็วพอ ก็จะตกขบวน ตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ในสถานการณ์ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลง และยังไม่แน่ใจว่า ฟ้าจะกลับมาสว่างอีกครั้งเมื่อใด ทั้งนี้ นายธนินท์ ได้กล่าวถึง 4 ประเด็น ที่ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ 1) ปากท้อง 2) ป้องกัน 3) รักษา 4) อนาคต

ประเด็นแรก คือเรื่อง "ปากท้อง" โดยนายธนินท์กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน คนได้รับความลำบากมาก คนลำบากในต่างจังหวัด ยังพอมีญาติ มีอาหารมาแบ่งปัน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ยังพอประทังชีพได้ แต่คนมีรายได้น้อยในเมือง และคนที่มีภาระ เมื่อเจอเข้ากับวิกฤตที่ต้องกักตัว ไปทำงานไม่ได้ จะทำให้ลำบากมาก แม้กระทั่งอาหาร บางครั้งยังไม่เพียงพอ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ภาครัฐต้องมีมาตรการมาดูแล แต่ในส่วนของภาคเอกชน เราทำได้เพียงช่วยแบ่งเบาภาระ

โดยเครือซีพี มีโครงการครัวปันอิ่ม แจกอาหาร 2 ล้านกล่อง ในเวลา 2 เดือน ร่วมกับ 100 พันธมิตรอาสาสมัคร ไปแจกให้กับชุมชน โดยอาหารจำนวน 1 ล้านกล่องจากจำนวนทั้งหมด จะสั่งซื้อจากร้านอาหาร ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และ ขนาดจิ๋ว เป็นเป็นการช่วยเหลือจากปัญหาร้านถูกปิด เพื่อให้ร้านต่าง ๆ พออยู่ได้ และ ยังช่วยให้ชุมชนต่าง ๆ ที่ลำบาก เข้าถึงอาหาร และ หน้ากากอนามัย ที่แจกในคราวเดียวกัน นอกจากนี้ จะทำการคัดเลือกร้านที่สะอาด ปลอดภัย และช่วยโปร โมทร้านอาหาร พร้อมใส่เบอร์โทร หากใครสนใจก็สั่งซื้อจากร้านได้โดยตรงอีกด้วย


ประเด็นที่สอง คือ "ป้องกัน" โดยนายธนินท์ เน้นความสำคัญของวัคซีน ยิ่งฉีดได้ครอบคลุมรวดเร็วมากเท่าไหร่ ก็จะลดผลกระทบได้มากเท่านั้น ตัวอย่างมีให้ดูหลายประเทศ เช่น อังกฤษ พอฉีดได้จำนวนมาก ก็กลับมาเปิดประเทศ ถึงแม้ว่าจะติดเชื้อเพิ่ม แต่ก็ไม่ตาย ไม่เจ็บหนัก ก็จะทำให้ประเทศสามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งต้องตั้งเป้าหมายฉีดให้ครบ 100% ไปเลย โดยนำเข้าวัคซีนทุกยี่ห้อ

ในตอนหนี่งของการสัมภาษณ์ นายสุทธิชัย หยุ่น ได้ถามว่า นายธนินท์ หรือซีพี มีส่วนในการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคของรัฐบาลหรือไม่  ซึ่งนายธนินท์ ได้ตอบอย่างเคลียร์ชัดว่า ไม่เกี่ยวข้องแน่นอน เพราะการผลิตวัคซีนทั้งหมดของซิโนแวคต้องส่งให้กับรัฐบาลจีน และต่อให้เอกชนอยากซื้อก็ซื้อไม่ได้ พนักงานเครือซีพีในประเทศจีน ยังไม่สามารถซื้อซิโนแวคมาฉีดให้พนักงานได้เลย ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจีนทั้งหมด นายธนินท์กล่าวเสริมที่มาของประเด็นซิโนแวคว่า

ตอนที่บริษัทซิโนแวคตั้งต้นจะทำวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีเงินไม่พอ ต้องการระดมทุนเพิ่ม หลานชายซึ่งรู้จักกับหมอและนักวิจัยด้านยา ก็ได้รับเชิญชวนให้เข้าไปช่วยลงทุนในยามที่บริษัทนี้เงินไม่พอ ซึ่งต่อมาบริษัทนี้ซึ่งอยู่ในเครือฯของซิโนแวคก็ให้เป็นหุ้นบริษัทคืนแก่หลานชายในประเทศจีนมา 15% ในอัตราเท่ากับนักวิจัยที่มีหุ้นกันละ 15% ซึ่งในช่วงนั้น จริง ๆ เป็นการช่วยเหลือนักวิจัยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ  แต่ไปสั่งการอะไรไม่ได้ จะขอซื้อวัคซีนก็ทำไม่ได้แน่นอน ซึ่งในประเทศไทย ซีพียังต้องสั่งซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มมา 1 แสนโด้ส มาดูแลพนักงานของบริษัทเอง โดยซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะซื้อตรงก็ยังทำไม่ได้ เพราะวัคซีน ถูกควบคุมทั้งหมด

นอกจากนี้ วัคซีนทุกยี่ห้อ หากผู้ผลิต กล้าฉีดให้คนประเทศของเขา ก็มั่นใจได้ว่า มีความปลอดภัยระดับสูง โดยนายธนินท์เอง ก็ฉีดวัคซีน แอสตร้าซินิก้า เพราะคนอังกฤษฉีดกัน ยอดผู้ป่วยหนัก และ ผู้เสียชีวิตก็ยังน้อย ดังนั้น ต้องนำเข้าวัคซีนหลาย ๆ ยี่ห้อ เข้ามาฉีด ของทางอเมริกา ยุโรป ก็มีเทคโนโลยีที่ดี และประเทศเหล่านั้นได้ฉีดให้คนของเขาจำนวนมาก เราจะกลัวอะไร ยิ่งมีทางเลือกมาก ประชาชนก็มั่นใจ และ ฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น

ประเด็นที่สาม คือ "รักษา" โดยกล่าวถึง การรักษาที่ต้องเร็ว ถึงแม้ว่าผู้ป่วย 90% หายได้ด้วยการดูแลตัวเอง แต่การที่ผู้ป่วยต้องอยู่บ้านเป็น Home Isolation มากขึ้น ยังจำเป็นต้องดำเนินการคู่กับหมอทางไกล Telehealth และต้องเข้าถึงยาโดยเร็ว หากคนไข้ได้ปรึกษาอาการกับหมอ มีหมอออนไลน์ จะมีกำลังใจ นอกจากนี้นายธนินท์ได้ย้ำว่าเรื่องการเข้าถึงยามีความสำคัญอย่างมาก อย่ารอให้คนไข้มีอาการหนัก และควรกระจายยาอย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอน ยุคนี้ต้องเร็วและมีคุณภาพ

สำหรับเครือซีพี คงช่วยได้บ้างในเรื่องการปลูกฟ้าทะลายโจรในโครงการ ปันปลูก ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี 30 ล้านเม็ด ในพื้นที่ 100 ไร่ ใน 100 วัน เราจะปลูกเพื่อแจกจ่ายฟรี เพราะตอนนี้ฟ้าทะลายโจรขนาดตลาดมาก เป็นเพียงเข้าไปเสริมในตลาด ทำให้ผู้ประกอบการเดิมไม่กระทบ ดังนั้น เราเป็นการเติมซัพพลาย เข้าไปลดความขาดแคลนเท่านั้น โดยเป็นการแจกฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแน่นอน โดยจะปลูกโดยควบคุมเป็นแบบปลอดสารพิษทั้งหมด และจะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกร ชาวบ้าน โดยมีอิสระในการปลูก การขาย และขยายผล โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ การบริโภคฟ้าทะลายโจร ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสาธารสุข

ประเด็นที่ 4 คือ "อนาคต" ซึ่งนายนินท์ ชี้ประเด็นประเทศไทยเสี่ยงถดถอย หากภาครัฐไม่มีมาตรการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ธุรกิจขนาดจิ๋ว เล็ก กลาง ใหญ่ ล้วนได้รับผลกระทบ และหากต้องล้มหาย ตายจากไป หลังพ้นวิกฤต บริษัทที่จะจ่ายภาษีให้ประเทศได้จะมีจำนวนลดน้อยลง และเครื่องจักรเศรษฐกิจ เช่น ท่องเที่ยว ส่งออก จะใช้เวลาฟื้นตัวช้า หากมีการปิดกิจการไปแล้ว ดังนั้น ต้องดูแลให้ธุรกิจทุกระดับอยู่รอด และ ปรับตัวสู่ธุรกิจอนาคต โดยเฉพาะ ธุรกิจ 4.0 และที่สำคัญต้องเตรียมพร้อมเรื่องคน วันนี้ประเทศไทยแข่งเรื่องแรงงานราคาถูก กับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้แล้ว เพราะเรายังต้องใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

ดังนั้น ไทย ต้องขยับไปสู่ธุรกิจไฮเทค แต่ก็ตามมาเรื่องคน คนเราพร้อมหรือไม่ รัฐบาลพูดไป แต่ยังขับเคลื่อนได้ช้า เราต้องออกไปเชิญชวนการลงทุน มาเพื่อสร้างงานในประเทศไทย ดึงดูดนักลงทุน ให้มาลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย ไม่ใช่ไปประเทศเพื่อนบ้าน ทุกบริษัทระดับโลกด้านไฮเทค ล้วนเนื้อหอม ทุกประเทศอยากดึงบริษัทเหล่านี้ไปลงทุนในประเทศกันทั้งนั้น 

แล้วประเทศไทย จะมีมาตรการเชิงรุกอะไร ในการไปดึงบริษัทเหล่านี้เข้ามา ดึงคนเก่งทั่วโลก มาอยู่เมืองไทย มาใช้จ่ายที่ประเทศไทย มาจ่ายภาษีให้ประเทศไทย เหมือนเช่นอเมริกา ดึงคนยุโรป จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ไปอยู่อเมริกา หรือ คนสิงค์โปร์มีประชากรครึ่งหนึ่ง เป็นคนจากต่างประเทศที่เข้าไปลงทุน เศรษฐกิจใหม่ ก็จะเกิดขึ้น แต่ที่พูดมาทั้งหมด ต้องทำควบคู่กันทั้งหมด ยามมืดสุด ต้องคิดว่า เมื่อสว่างแล้ว ประเทศจะเป็นอย่างไร

 

ดังนั้น ทั้ง 4 ประเด็น ตั้งแต่ปากท้องที่ต้องดูแล ป้องกันโดยการหาวัคซีนให้มากและเร็วที่สุด หากเอกชนจะช่วยนำเข้า รัฐควรรีบสนับสนุน วัคซีนยี่ห้อไหนดี ต้องพยายามนำเข้ามาทั้งหมด การรักษาที่ต้องรวดเร็ว ต้องเข้าถึงยา อย่าปล่อยให้หนัก และสุดท้ายคือ ต้องมองเรื่องอนาคตควบคู่ ทั้ง 4 เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ต้องทำพร้อมกัน ในยามวิกฤต จะใช้ขั้นตอนแบบเดิมไม่ได้ ต้องรวดเร็วและมีคุณภาพ

นายธนินท์ ทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากวิกฤตครั้งนี้คือ ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง การปรับตัว หากใครไม่สามารถปรับตัวได้ก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้ ไม่ว่าบริษัทจะใหญ่หรือเล็ก ประเทศใดปรับตัวได้จะเป็นผู้นำใหม่ ประเทศที่เคยเป็นผู้นำ หากปรับตัวไม่ได้ ก็จะกลายเป็นผู้ตาม และนี่แหละ คือ สงครามโลก(โรค) ครั้งที่ 3 ที่ทุกหย่อมหญ้า ได้รับผลกระทบอย่างเท่าเทียม
#3340


พนักงานอัยการเปิดเผยว่ามีการตั้งข้อหา "คริส อู๋อี้ฟาน" อย่างเป็นทางการแล้ว ในคดีที่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมข่มขืนหญิงสาวหลายคน หลัง "คริส" ถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อน

อู๋อี้ฟาน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนควบคุมตัวมาตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยตอนที่ถูกจับยังไม่มีการตั้งข้อหา จนกระทั่งล่าสุดในวันนี้ (17 ส.ค.) พนักงานอัยการแห่งกรุงปักกิ่ง ได้แถลงอย่างเป็นทางการถึงการตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คดีฉาวที่สั่นสะเทือนวงการเป็นที่พูดถึงตั้งแต่เดือนก่อน เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งเขียนข้อความในโซเชียลมีเดียว่าเธอตกเป็นเหยื่อการข่มขื่นของศิลปินหนุ่มชื่อดัง

หญิงสาวที่ใช้ชื่อว่า ตู้เม่ยจู ยังอ้างว่าเธอไม่ใช่คนเดียวที่ตกเป็นเหยื่อของ คริส อู๋ แต่ยังมีหญิงสาวหลายคนที่ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเธอ โดยเขาจะหลอกล่อฝ่ายหญิงด้วยการหลอกว่าจะช่วยให้ได้เข้าวงการบันเทิง ก่อนที่จะลงมือ จนมีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อหลายคน สุดท้ายจึงนำมาซึ่งการสืบสวน และจับกุมตัวในที่สุด

ว่ากันว่า ตู้เม่ยจู ที่เป็นนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยสื่อสารมวลชนแห่งประเทศจีน มีอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น ซึ่งมีความผิดจริงอาจทำให้ อู๋อี้ฟาน วัย 30 ปี ติดคุกนาน 10 ปี เลยทีเดียว