• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#10081


คู่รักดาราในวงการบันเทิงหลายคู่ที่หลังแต่งงานแล้ว วางแผนอยากจะมีลูกน้อยมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่ทำทุกวิถีทางก็ยังไม่ท้องสักที จนต้องพึ่งกระบวนการทางการแพทย์ในการรักษาผู้มีบุตรยาก โดยการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ เรียกว่า อิ๊กซี่ (ICSI) บ้างคู่ทำอิ๊กซี่หลายครั้ง สูญเงินหลักล้าน เบบี๋ก็ยังไม่มาสักที แต่มีอีกหลายคู่ที่เคยมีปัญหามีบุตรยากและประสบความสำเร็จในการทำอิ๊กซี่ตั้งแต่ครั้งแรก เช่น คู่ของ "แอปเปิ้ล สีสะเหงียน – ฟลุค จิระ", "เจม กาลย์กัลยา - เชน ธนาตรัยฉัตร", "ครี-พัสวีพิชญ์ - ประเสริฐ เวชมัชฌิมาบุญ" , "บุ้ง ใบหยก - เวฟ สาริน", "บุ๋ม มินตยา -ต๊ะ บอยสเก๊าท์" และอีกคู่ที่เพิ่งประกาศข่าวดีว่าท้องแล้วไปเมื่อไม่นานมานี้ "บี มาติกา – กร กรกฤช" ซึ่งแต่ละคู่ต่างก็กระซิบบอกมาว่า ทำอิ๊กซี่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่ทำได้เพราะว่ามีที่ปรึกษาดี นั้นคือ "ครูก้อย -นัชชา ลอยชูศักดิ์" ภรรยาคนเก่ง "เจมส์ - เรื่องศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" ที่มีดีกรีเป็นถึงครูวิทยาศาสตร์ และเคยมีปัญหามีบุตรยากมาก่อน ผ่านการรักษาผู้มีบุตรยากมาแล้วทุกกระบวนการ จนเอ็กซ์เปิร์ทด้านผู้มีบุตรยากไปแล้ว



เพราะหลังจากที่ "ครูก้อย" ประสบปัญหามีบุตรยากจึงทำให้ครูก้อยหันมาศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับผู้มีบุตรยากและการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่กระบวนทางการแพทย์ทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์ โดยหันมาเน้นโภชนาการส่งเสริมภาวะเจริญพันธุ์ (Fertility Diet) หรือ เรียกว่า "คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" โดยเน้นทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ ซึ่งประกอบไปด้วย อาหารหมู่หลัก (Macronutrients) 70% และ วิตามินและแร่ธาตุ (Micronutrients) 30 % ภายใต้ 5 Keys to Success ในการเตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก ได้แก่ 1.เพิ่มโปรตีน 2.ลดคาร์บ 3.งดหวาน 4.ทานกรดไขมันดี5.เน้นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และเสริมด้วยวิตามินบำรุง ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำอิ๊กซี่ จนประสบความสำเร็จตั้งครรภ์ "น้องเมดา" และปัจจุบันยังมีตัวอ่อนคัดโครโมโซมผ่าน เหลืออีก 2 ตัว หญิง 1 ชาย 1 พร้อมใส่ตัวอ่อนต้นปีหน้า จึงทำให้ครูก้อย เข้าใจปัญหาของผู้มีบุตรยากเป็นอย่างดี พร้อมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ และมีตัวอย่างเคสผู้มีบุตรยากจำนวนมาก ผ่านทางเว็บไซต์ ยูทูป และเพจภายใต้ชื่อเดียวกันที่ babyandmom.co.th



โดย "แอปเปิ้ล สีสะเหงียน" ภรรยา "ฟลุค- จิระ" หนึ่งในคู่รักดาราที่มีบุตรยากได้เล่าว่า มาพบกับครูก้อย หลังจากผ่านการรักษาด้วยการทำ IUI แล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะไม่ได้บำรุงเตรียมตัวก่อนไปทำ ตอนนั้นแอปเปิ้ลอายุเพียง 30 ปี แม้อายุยังไม่เยอะมาก แต่เปิ้ลเป็น PCOS ไข่ใบเล็กจำนวนมากหรือถุงน้ำในรังไข่ และพบติ่งเนื้อในมดลูก พร้อมกับอยากมีลูกปีกุน ซึ่งหากช้ากว่านี้จะหลุดปีกุน จึงมาพบกับครูก้อยด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาก และก็เริ่มศึกษาวิธีการเตรียมตั้งครรภ์ก่อนทำอิ๊กซี่ ตาม "คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" ซึ่งเปิ้ลได้ความรู้จากครูก้อยเยอะมาก รวมถึงเข้าใจกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วมากขึ้น รู้ไปถึงระดับเซลล์เลยว่า แบบไหนเรียกว่าไข่สวย ตัวอ่อนหลังปฎิสนธิแบ่งตัวอย่างไร ทำให้เรารู้ว่า หลังเตรียมมาดี ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังการเตรียมตัวประมาณ 3 เดือน ก็เปลี่ยนมาทำคลินิกเดียวกับครูก้อย หลังเก็บไข่เปิ้ลได้ไข่สวยโตตามเกณฑ์ 20 - 22 มิล. เก็บไข่ได้ 17 ใบ เป็นไข่สุก 14 ใบ หลังการทำอิ๊กซี่ได้ ตัวอ่อน Day 1 ปฏิสนธิ 8 ตัว เลี้ยงจนถึง Day 3 เหลือ 5 ตัว และเลี้ยงถึง Day 5 เหลือ 5 ตัวเท่าเดิม ซึ่งครูก้อยบอกว่าตามสถิติแล้ว ตัวอ่อน Day3 ไปเป็น Day5 จะต้องถึงบลาสโตซีสท์ 50 % ก็ถือว่าดีมาก แต่ของเปิ้ลถึง 100% ครูก้อยบอกว่าสุดยอดมาก หลังจากนั้นใช้เวลาเตรียมผนังมดลูก อีก 1 รอบเดือนตามคัมภีร์ครูก้อย ใส่ตัวอ่อนครั้งแรกและติดเลยค่ะ และตัวอ่อนในวันนั้นก็เป็น "น้องจูนี่" ในวันนี้ ส่วน "น้องจูน่า" เปิ้ลชิลมากเตรียมผนังมดลูกตามคัมภีร์เตรียมตั้งครรภ์เหมือนเดิม และไปรับตัวอ่อนที่ฟรีซไว้ ใส่ครั้งเดียวติดเช่นกันค่ะ



ด้าน "เจม กาลย์กัลยา" ภรรยาของ "เชน – ธนาตรัยฉัตร" ได้เล่าถึงเส้นทาง กว่าจะเป็นคุณแม่ว่า ตอนนั้นเจมอายุ 29 และพี่เชนก็อายุ 30 ต้นๆ คิดว่าเราทั้งคู่ไม่น่าจะมีปัญหามีลูกยากหลังแต่งงานคิดว่าเที่ยวกัน2คนและฮันนีมูนกันก่อน แต่พออยากจะมีลูก ลูกก็ไม่มาสักทีพร้อมกับดูฤกษ์ไว้แล้ว ถ้าช้าก็จะหลุดปีนั้นไป ได้เจอกับ "พี่เจมส์ เรืองศักดิ์" ก็คุยกับพี่เจมส์ว่าหนูก็อยากมีลูก ปล่อยแล้วยังไม่มา แล้ว "พี่เจมส์"บอกให้มาคุยกับ "ครูก้อย" เพราะครูก้อยเขาเอ็กซ์เปิร์ทด้านนี้ไปแล้ว และก็ได้คุยกัน ตอนที่ไปตรวจเพื่อเตรียมเข้ากระบวนการทำเด็กหลอกแก้ว คุณหมอบอกว่า เจมมีปัญหาไข่น้อย เมื่อเทียบกับคนอายุเท่ากัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องยาก จึงปรึกษากับครูก้อยและ บำรุงตาม "คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" เพื่อเตรียมบำรุงไข่ให้มีคุณภาพก่อนเข้าสู่กระบวนการทำอิ๊กซี่ ซึ่งหลังจากการเตรียมตัวมาดีทำให้ไข่โตตามเกณฑ์ ได้ตัวอ่อนคุณภาพดีเกรด A และเตรียมผนังมดลูก 1 เดือนใส่ตัวอ่อนรอบเดียวติด แล้วก็ได้แบบ "น้องสเปซ" เลย สมบูรณ์มาก ส่วนลูกคนที่สอง "น้องสเตลล่า" คือตั้งใจไปทำอิ๊กซี่รอบ 2 แต่ปรากฏว่าหลังบำรุงมาดีตามคัมภีร์ครูก้อยน้องมาธรรมชาติค่ะ



ส่วน ครี - พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา และสามีนักธุรกิจ ประเสริฐ เวชมัชฌิมาบุญ คุณแม่ของน้อง"พิโนต์" เผยว่า รู้จักเพจครูก้อยจากเพื่อนแนะนำ เนื่องจากผิดหวังมาหลายครั้ง ทั้งวิธีธรรมชาติ นับวันตกไข่ กินยาจีน และฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) แต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย และมีปัญหา PCOS ไข่ใบเล็กจำนวนมาก ในรังไข่ พอเพื่อนแนะนำว่า ให้ลองไปติดตามครูก้อย babyandmom.co.th มีคนทำอิ๊กซี่ครั้งเดียวติด ด้วยพื้นฐานครีเป็นคนละเอียดทำอะไรจะศึกษาก่อน อ่านทุกอย่าง ดูทุกคลิป รอดูครูก้อยไลฟ์ ทุกอย่างมันเมคเช้นส์ และครูก้อยอธิบายละเอียดมาก ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ทุกอย่างคือวิทยาศาสตร์ และเริ่มปรึกษาครูก้อย และกินตาม"คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" และทำตามครูก้อยแนะนำอย่างจริงจัง ไปเที่ยวต่างประเทศยังโหลดอาหารบำรุงขึ้นเครื่องไปด้วย ใช้เวลาเตรียมตัวเข้ม 3 เดือน ได้ไข่สวย 20 ใบ เลี้ยงตัวอ่อน Day 3 ได้13ตัว และเลี้ยงถึง Day 5 ระยะบลาสต์โตซิส 13 ตัว ตัวอ่อนไม่ฝ่อเลย ทุบสถิติทางการแพทย์ เพราะปกติตามสถิติ ถึงบลาสต์ แค่ 50% "นักวิทยาศาสตร์ที่คลินิกบอกเลยว่า ตั้งแต่เปิดคลินิกมา ยังไม่เคยเห็นคนอายุ 37 ปี ได้ตัวอ่อนถึง บลาสต์ในDay 5 แบบ 100% เลย" หลังจากนั้นเตรียมผนังมดลูกสองรอบเดือน อัดโปรตีนทุกวัน ดื่มชาดอกคำฝอยขับประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง และทำ Castor oil pack บำบัดมดลูก ได้ผนังมดลูกหนา 12 มิล สวย เรียงสามชั้น ใส่ตัวอ่อนรอบเดียวติดเลยค่ะ



"บุ้ง -สะธี ใบหยก" ภรรยา "เวฟ- สาริน" คุณแม่ "น้องบุญ" ทายาทหมื่นล้านตึกใบหยก ได้เผยถึงเส้นทางก่อนจะมาปรึกษากับครูก้อยว่า คิดว่าถ้า 1 ปีไม่มีลูก ก็จะทำอิ๊กซี่ ปีนิดๆก็ยังไม่มี บุ้งก็เลยปรึกษาหมอค่ะ แต่พอฉีดยากระตุ้นไข่ หมอบอกว่าผนังมดลูกบุ้งเป็นคลื่น เดิมก็เป็นคนประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หลังกระตุ้นไข่ ได้ไข่ 20 ฟอง คัดโครโมโซมผ่าน10 ตัว ก่อนใส่ตัวอ่อนเลยปรึกษากับครูก้อย เตรียมผนังมดลูกตาม "คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" เน้นโปรตีนเพื่อให้ผนังมดลูกหนาฟู ใช้เวลาเตรียมผนังมดลูก2 เดือน หมอชมผนังหนาตามเกณฑ์ใส่ตัวอ่อน ทำอิ๊กซี่(ICSI) ครั้งเดียวติด บุ้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ บุ้งคิดว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมตัว บำรุงให้พร้อม และไม่เครียด"



ด้าน "บุ๋ม มินตยา" ภรรยา "ต๊ะ บอยสเก๊าท์" หรือ ต๊ะ–ฌานิศ ใหญ่เสมอ ที่ประสบปัญหาเรื่อง ซีสต์รังไข่ คุณภาพของไข่ จึงปรึกษากับครูก้อย และเตรียมบำรุงไข่ "คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" ของครูก้อย ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำอิ๊กซี่ แม้จะได้ตัวอ่อนเกรดบี แต่ก็คัดโครโมโซมผ่าน รวมถึงเตรียมผนังก่อนใส่ตัวอ่อนได้ผนังหนา 10 มิล. เรียง 3 ชั้นสวย ใส่ตัวอ่อนครั้งเดียวติด ได้ลูกสาว "น้องปิ๊งปิ๊ง" มาเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น



และคุณแม่ป้ายแดงที่เพิ่งประกาศข่าวดีตั้งครรภ์ไปเมื่อไม่นานมานี้ "บี-มาติกา" และ สามีนักธุรกิจหนุ่ม "กร กรกฤช" ได้แชร์ประสบการณ์มีลูกยากว่า บีมีปัญหาจำนวนไข่ตั้งต้นน้อยมาก ผลตรวจฮอร์โมนบอกจำนวนไข่ตั้งต้น AMH=0.18 ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 33 ปี และเคยกระตุ้นไข่มาแล้วหลายครั้ง และในทุกรอบ กระตุ้นไข่ได้แค่ 1-2 ใบ และไม่เคยได้ตัวอ่อนถึงบลาสโตซีสท์เลย ครูก้อยบอกบีว่า "ไม่เป็นไร มีไข่น้อย เราก็ต้องบำรุงให้มาก" บีตั้งใจมากส่งรายงานการกินตาม "คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน" ทุกวันเป็นเวลา 4 เดือนเต็ม บำรุงกระตุ้น บำรุงกระตุ้น จนได้ผลตอบสนองดีมาเรื่อยๆ เชื่อไหมว่า...หลังจากปรับหลักโภชนาการตามคัมภีร์ของครูก้อย บีได้ตัวอ่อนคัดโครโมโซมผ่านถึง 3 ตัว และใส่ครั้งเดียวติด



"ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์" ได้ฝากเคล็ดลับพิชิตเบบี๋ทำอิ๊กซี่ครั้งเดียวติดว่า สำหรับแม่ๆที่มีบุตรยากและวางแผนจะเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมทำเด็กหลอดแก้วหรือว่าอิ๊กซี่ แนะนำให้เตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เพราะโอกาสของความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพไข่ คุณภาพสเปิร์ม ความหนาตัวและความแข็งแรงของเยื่อบุโพรงมดมดลูก รวมถึงฮอร์โมนตั้งต้นที่สมดุล โดยสามารถติดตามเคล็ดลับเตรียมตั้งครรภ์ได้ที่ เว็บไซต์ เพจ หรือแอดไลน์มาสอบถามรายละเอียดได้ ภายใต้ชื่อเดียวกันที่ babyandmom.co.th
#10082
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#10083


ฌอน สตริคแลนด์ นักสู้ชาวอเมริกัน ยังคงรักษาฟอร์มเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังอาศัยทักษะชั้นเชิงการต่อสู้ โดยเฉพาะพลังหมัดเอาชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์ คู่ต่อกรชาวจาเมกาไปได้ ในการต่อสู้คู่เอกของศึก UFC FIGHT NIGHT: Hall VS Strickland เมือช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ไฮไลท์ของรายการเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นมิดเดิลเวต ระหว่าง "TARZAN" วัย 30 ปี ที่ยังไม่เคยแพ้แบบซับมิทชันให้กับผู้ใดและชนะมาแล้ว 4 ไฟต์ติดต่อกัน พบกับ "PRIMETIME" จอมโหดจากจาเมกาวัย 36 ปี เริ่มยกแรก สตริคแลนด์ ดูดีกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะจังหวะเดินออกหมัด ในขณะที่ ฮอลล์ รอกะระยะบวกหวังปิดบัญชีเร็วเช่นกัน ยก 2 TARZAN ยังคงมีอาวุธหมัดชุดไว้ทิ้งระยะไม่ให้ ฮอลล์ ที่เริ่มมีลูกเตะ ได้เข้าประชิด

ยกที่ 3 สตริคแลนด์ สบโอกาสเทคดาวน์ใส่ ฮอลล์ และเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้จนจบยก ยกที่ 4 สตริคแลนด์ ได้ใจเดินรุกไล่ทันทีหวังน็อคให้ได้แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ เข้าสู่ยกสุดท้าย ฮอลล์ รู้ตัวว่าเป็นรองเป็นฝ่ายเดินเข้าใส่ แต่เหมือนยิ่งเดินยิ่งเจ็บ เมื่อ สตริคแลนด์ มีแย็ปสกัดจังหวะการเข้าทำของ PRIMETIME สวยๆหลายครั้ง ครบ 5 ยก ฌอน สตริคแลนด์ ชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์ ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์

หลังเก็บชัยชนะ 5 ไฟต์ติดต่อกัน และยังเพิ่มสถิติเป็นชนะ 24 แพ้ 3 เจ้าของฉายา TARZAN ให้สัมภาษณ์กับ UFC ถึงฟอร์มของตัวเองว่า "ผมยังคงทำงานอย่างหนัก ทุกคนรู้ว่าไม่ใช่ไฟต์ง่าย มันก็สนุกดีนะ มันโคตรจะเหนื่อยเลยกับการต่อสู้แบบ 5 ยกและถึงตอนนี้ผมต้องมองไปที่คู่แข่งคนต่อไปแล้ว"

ในขณะที่รองคู่เอกเป็นการต่อสู้ในรุ่นสตรอว์เวตหญิงระหว่าง เชยานเน บายส์ สาวน้อยอเมริกันวัย 26 ปี เจ้าของสถิติชนะ 5 แพ้ 2 ขึ้นสังเวียนพบกับ กลอเรีย เด เปาลา คู่แข่งวัย 26 ปี จากบราซิล ที่มีสถิติชนะ 5 แพ้ 3 และไม่เคยถูกน็อคหรือแพ้ซับมิทชัน โดยการต่อสู้คู่นี้จบลงด้วยเวลาเพียงแค่นาทีแรกของยกที่ 1 เท่านั้น เมื่อ ชายาเน บายส์ ได้จังหวะวางแข้งซ้ายใส่ปลายคาง เด เปาลา ในจังหวะลุกขึ้นยืน ก่อนตามถล่มจนกรรมการสั่งยุติการต่อสู้

ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการศึก UFC FIGHT NIGHT: Hall VS Strickland

คู่หลักในรายการ

คู่เอก - รุ่นมิดเดิลเวต
ฌอน สตริคแลนด์ ชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์

รองคู่เอก - รุ่นสตรอว์เวตหญิง
เชยานเน บายส์ ชนะ TKO กลอเรีย เด เปาลา ยกที่ 1

รุ่นเวลเตอร์เวต
เจสัน วิตต์ ชนะคะแนน ไบรอัน บาร์เบเรนา

รุ่นเวลเตอร์เวต
จาเร็ด กูเดน ชนะ TKO นิคลาส สโตลเซ ยกที่ 1

รุ่นฟลายเวต
ซารุคห์ อดาเชฟ ชนะคะแนน ไรอัน เบอนัวต์

รุ่นเฟเธอร์เวต
เมลซิค บัคห์ดาซาร์ยาน ชนะ TKO คอลลิน แอนกลิน ยกที่ 2

รุ่นไลต์เวต
คริส กรูสซ์ตเซมัคเชอร์ ชนะคะแนน ราฟา การ์เซีย

รุ่นเฟเธอร์เวต
แดนนี ชาเวซ เสมอ ไค คามากา

รุ่นสตรอว์เวตหญิง
ยินห์ ยู เฟรย์ ชนะคะแนน แอชลีย์ โยเดอร์

รุ่นเวลเตอร์เวต
ฟิลิป โรว์ ชนะ TKO โอเรียน กอสซี ยกที่ 2
#10084


กสิกรไทย ออกแคมเปญแรง "ร่วมด้วย ช่วยเปย์" จ่ายมื้ออร่อยให้สูงสุด 100 บาท/ออเดอร์ แค่สั่งผ่าน Grab หรือ LINE MAN ช่วยกันอุดหนุนร้านค้าให้มีแรงสู้ต่อ

ธนาคารกสิกรไทย ระดมกำลังช่วยเหลือร้านอาหารกว่า 80,000 ร้านให้มีแรงสู้ต่อ เปิดตัวแคมเปญแรง "ร่วมด้วย ช่วยเปย์" คุณช่วยสั่ง เราช่วยจ่าย เพียงสั่งอาหารผ่าน Grab หรือ LINE MAN กสิกรไทยช่วยจ่ายมื้ออร่อยให้สูงสุด 100 บาท/ออเดอร์ ได้อิ่มท้องและอิ่มใจ ช่วยเติมกำลังให้ร้านอาหารเล็กๆ ได้มีแรงสู้ต่อ เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม – 31 สิงหาคม 2564 นี้

"ร่วมด้วย ช่วยเปย์" คุณช่วยสั่ง เราช่วยจ่าย สั่งอาหารผ่าน Grab หรือ LINE MAN

 *   จ่ายผ่านบัตรเดบิต/บัตรเครดิตกสิกรไทย, บัตรเดบิต LINE BK หรือ GrabPay Wallet
 *   ใส่โค้ด: KBANK
 *   กสิกรไทยช่วยจ่ายมื้ออร่อยให้สูงสุด 100 บาท/ออเดอร์ เมื่อสั่งขั้นต่ำ 100 บาท/ออเดอร์
 *   จำกัดท่านละ 2 สิทธิ์ต่อแอปพลิเคชัน ตลอดแคมเปญ สิทธิ์มีจำนวนจำกัดต่อวัน
#10085
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#10086


ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรง ทำให้มีความกังวลว่าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน อาจจะต้องเลื่อนเปิดให้บริการจากวันที่ 2 ส.ค. 2564 ออกไปก่อนหรือไม่ ซึ่ง "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รีบยืนยันว่ารถไฟสายสีแดงปักหมุดเปิดให้บริการ (Soft Opening) วันที่ 2 ส.ค. 2564 แน่นอน...ไม่เลื่อน โดยตามกำหนดการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดผ่านระบบออนไลน์ จากตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยจะให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรีเป็นเวลา 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค. 2564)

สำหรับรถไฟสายสีแดงถือเป็นตำนานโครงการรถไฟฟ้าที่ใช้ระยะเวลาก่อสร้างยาวนานมากที่สุดเส้นทางหนึ่ง และเป็นรถไฟฟ้าสายที่ประชาชนคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลจับตา และรอคอยสายหนึ่ง

โดยช่วงบางซื่อ-รังสิต หากนับจากวันที่เริ่มต้นสัญญาก่อสร้างงานโยธาเมื่อ 10 ก.พ. 2556 จนถึง 2 ส.ค. 2564 ที่รถไฟสายสีแดงขบวนแรกจะเปิดหวูดให้ประชาชนได้ทดลองนั่งฟรี ใช้ระยะเวลากว่า 8 ปี โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาโครงการมีปัญหาอุปสรรคมากมาย จนทำให้ต้องมีการขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง และปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างมาแล้ว 5 ครั้ง จากกรอบเริ่มต้น 52,220 ล้านบาท เป็น 93,950 ล้านบาท ซึ่งยังเหลือครั้งล่าสุดที่จะเสนอขอปรับอีก 10,345 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างเพิ่มเติม (Variation Order : VO) โดยจะทำให้กรอบวงเงินโครงการสายสีแดงรวมช่วงบางซื่อ-รังสิต เพิ่มเป็น 104,295 ล้านบาท


"ศักดิ์สยาม" ปักหมุดเปิดให้บริการ จี้ รฟท.เร่งแก้ปัญหาติดขัดทุกมิติ

ก่อนหน้านี้ รฟท.กำหนดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงอย่างไม่เป็นทางการในเดือน ม.ค. 2564 "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ประกาศนโยบายปักหมุดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงภายในปี 2564 หลังจากตรวจเช็กการก่อสร้างงานโยธา 2 สัญญา และความก้าวหน้าสัญญา 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล วางไทม์ไลน์ ปิดจ็อบ และเมื่อรถไฟฟ้า 2 ขบวนแรกเดินทางมาถึง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2562 และเข้าประจำการ ณ โรงซ่อมบำรุงสถานีกลางบางซื่อ ในเดือนพ.ย. 2562 รฟท.เดินหน้าเข้าสู่โหมดการทดสอบระบบตามขั้นตอน

นอกจากนี้ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ยังได้มีการติดตามการดำเนินการในทุกๆ ด้านอย่างใกล้ชิด โดยตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อจำนวน 5 คณะ ประกอบด้วย

1. ด้านการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทยทั้งระบบ รวมทั้งการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง 2. ด้านสถานี 3. ด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร 4. ด้านการสื่อสารสาธารณะ 5. ด้านการกำหนดจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า (Gateway/Hub)

นอกจากนี้ ยังมีคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และพื้นที่ช่วงสถานีกลางบางซื่อ และคณะอนุกรรมการด้านการพิจารณาดำเนินการขอพระราชทานชื่อโครงการ 2 สายทาง สายทางละ 3 ชื่อ ซึ่ง รฟท.ได้จัดทำหนังสือถึงสำนักงานราชบัณฑิตยสภาและกรมศิลปากรเพื่อพิจารณาชื่อที่จะขอพระราชทาน

โครงการสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) เสนอ 3 ชื่อ ได้แก่ เฉลิมมหามงคล อาทรวัฒนวิถี และสวัสดิลีลาศ

โครงการสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) เสนอ 3 ชื่อ ได้แก่ ฉลองมหานคร สิทธิรังสีรัถยา และ ประพาสภิรมย์



ช่วงทดลองให้บริการฟรี วิ่งความถี่ 15-30 นาที

รถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. มี 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ, สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี, สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 25 นาที ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟท.โดยบริษัท รฟฟท. จำกัด ได้มีการทดลองระบบการเดินรถ มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุต่างๆ ตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยวิศวกรที่ปรึกษาอิสระ (Independent Certification Engineer : ICE) ของโครงการได้เข้าตรวจสอบและออกใบรับรองให้แล้ว พร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนร่วมใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสารตามแผนงาน

ในช่วงทดลองตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.นี้จะกำหนดความถี่ในการให้บริการเวลาเร่งด่วน 15 นาที นอกเวลาเร่งด่วน 30 นาที วิ่งเฉลี่ย 78 เที่ยว/วัน ใช้รถประมาณ 12 ขบวน โดยสายบางซื่อ-รังสิตจะใช้รถแบบ 6 ตู้/ขบวน จำนวน 8 ขบวน สายบางซื่อ-ตลิ่งชันใช้รถแบบ 4 ตู้/ขบวน จำนวน 4 ขบวน

ตารางการเดินรถสายบางซื่อ-รังสิต เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกออกจากรังสิต เวลา 06.00 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากรังสิต เวลา 19.30 น.

สายบางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกออกจากตลิ่งชัน เวลา 06.06 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากตลิ่งชัน เวลา 19.36 น.



ระบบฟีดเดอร์เชื่อมเข้าสถานียังไม่สมบูรณ์

สำหรับการเดินทางเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อและสถานีรายทางนั้น ต้องยอมรับว่าการจัดระบบฟีดเดอร์และโครงสร้างพื้นฐานยังไม่สมบูรณ์ 100% ซึ่งคาดว่าก่อนจะถึงกำหนดเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์เดือน พ.ย.จะมีความพร้อมมากขึ้น

โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถเมล์ 4 สาย ได้แก่ สาย 49 สาย 67 สาย 79 และ สาย 522 ปรับปรุงเส้นทางเดินรถให้เชื่อมเข้าสถานีสายสีแดง

ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก่อสร้างทางเดินเชื่อมต่อกับบริเวณทางเดินชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 จุด คือ บริเวณทางเดินผู้โดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ และทางเดินเชื่อมต่อบริเวณชั้นจำหน่ายบัตรโดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ

"ขณะที่สถานีกลางบางซื่อนั้นมีลานจอดรถใต้ดินรองรับได้ถึง 1,600 คัน คาดว่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารในช่วงแรกที่คาดว่ายังมีไม่มากนัก"



เร่งปรับปรุงถนนเชื่อมเข้าสถานีรังสิต เกตเวย์ด้านเหนือ

สำหรับสถานีรังสิต ซึ่งเป็นเกตเวย์จุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายจุดเชื่อมต่อผู้โดยสารเสร็จแล้ว คือ ปรับปรุงถนนหน้าสถานี (ฝั่งตะวันตก) รฟท.ดำเนินการ และการปรับปรุงทางเข้าสถานีจาก ทล.346 (ทิศทางจากรังสิต) วงเงิน 4 แสนบาท (กรมทางหลวง ดำเนินการ)

ส่วนที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมอีกคือ ก่อสร้างสะพานกลับรถด้านทิศใต้ วงเงินรวม 206 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 12 เดือน คาดแล้วเสร็จเดือน มี.ค. 2566, ปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ทางเท้า และระบบระบายน้ำ (ทิศทางจากปทุมธานี) วงเงิน 4.6 ล้านบาท ดำเนินการช่วงปี 2565 โดยกรมทางหลวง (ทล.)

ในส่วนของการจ้างบริการเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี ประกอบด้วย 1. จ้างงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) และจราจร 2. จ้างบริการทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานี 3. งานบริหารจัดการงานอาคารและสถานที่บริเวณสถานี 4. จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและทำความสะอาดภายในอาคารและพื้นที่โดยรอบของโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีแดง (CT Depot) และทำความสะอาดขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง 5. จ้างติดตั้งระบบจัดการจราจรภายในบริเวณลานจอดรถสถานีกลางบางซื่อ และจัดเก็บค่าบริการจอดรถ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาตามขั้นตอน

ด้านการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ อยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศเชิญชวนเพื่อคัดเลือกเอกชนดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี คาดว่าจะเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาอนุมัติร่างทีโออาร์ในเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าจะได้เซ็นสัญญาและเริ่มดำเนินการในเดือน พ.ย. 64 โดยจะแบ่งเป็นเฟสเพื่อเปิดให้บริการได้รวดเร็วขึ้น

โดยมี 4 ฉบับ คือ 1. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

2. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการเช่าสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

3. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี

4. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการเช่าสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี



โจทย์สุดหิน...ห้ามขาดทุน

การให้บริการโครงการรถไฟฟ้ารายได้มาจาก 2 ส่วน คือ จากค่าโดยสาร และจากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งรายได้จากค่าโดยสารจะมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณผู้โดยสาร แต่... สถานการณ์ในปัจจุบัน ปริมาณการเดินทางลดลงไปอย่างมาก โดยล่าสุดพบว่าผู้โดยสารระบบรางทั้งระบบเหลือเพียง 98,453 คน/วันเท่านั้น หรือลดลงถึง 91.82% เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณผู้โดยสารช่วงปี 2562 ก่อนที่จะเกิดโรคโควิด-19 ที่ระบบรางมีผู้โดยสารรวมถึงกว่า 1.2 ล้านคน/วัน

ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารจะผันแปรโดยตรงกับรายได้ ซึ่งรถไฟสายสีแดงมี 13 สถานี ระยะทาง 41.56 กม. กำหนดอัตราเริ่มต้นที่ 12 บาท สูงสุด 42 เฉลี่ย 1.01 บาท/กม.

ทั้งนี้ ตามผลการศึกษาเดิม คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการเฉลี่ยที่ 86,620 คน/วัน โดยคาดว่าจะมีรายได้ในปีแรกรวมประมาณ 1,153 ล้านบาท โดยมาจากค่าโดยสารราว 673 ล้านบาท และมีรายได้เชิงพาณิชย์ 480 ล้านบาท

ส่วนรายจ่ายรวมอยู่ที่ 1,267 ล้านบาท หลักๆ จะเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรประมาณ 376.6 ล้านบาท ค่าไฟฟ้าประมาณ 327 ล้านบาท ค่าประปา 7.5 ล้านบา ค่ารักษาความปลอดภัยและรักษาความสะอาดอีกราว 284.1 ล้านบาท ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา 90.3 ล้านบาท

ภายใต้สมมติฐานรายรับ รายจ่ายนี้ เท่ากับในปีแรกสายสีแดงจะยังขาดทุนประมาณ 113 ล้านบาท โดยยังไม่หักค่าดอกเบี้ย เงินกู้งานไฟฟ้าและเครื่องกลอีกกว่า 317 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีผลขาดทุนสุทธิ 431 ล้านบาท

สำหรับประมาณการผู้โดยสารนั้น ในข้อเท็จจริงมีการปรับลดลงมากกว่าครึ่ง ประกอบกับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงหนักหน่วงเช่นนี้ คงไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารได้เลย ...คงได้แต่รอลุ้นว่าในเดือน พ.ย. 2564 ที่จะมีการเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ และเริ่มเก็บค่าโดยสารสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงแล้วหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์กลับคืนปกติ รฟท.คาดหวังว่าจะสามารถใช้โปรโมชันการปรับลดอัตราค่าโดยสาร การจัดทำตั๋วเดือน เข้ามาใช้เพื่อจูงใจให้เพิ่มผู้ใช้บริการรถไฟสายสีแดง

หากมีการเปิดประเทศ การเดินทางกลับสู่ปกติ สนามบินดอนเมืองเปิด สายการบินให้บริการนักท่องเที่ยวกลับมา คาดหมายว่าสนามบินดอนเมืองจะป้อนผู้โดยสารเข้าสายสีแดงอย่างน้อย 10,000 คน/วัน ขณะที่ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ทุบโต๊ะห้ามสีแดงขาดทุน...โจทย์สุดหิน! ที่ รฟท.ต้องหาคำตอบให้เจอ...

https:// m.mgronline.com/business/detail/9640000075315
#10087


"โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เปิดใจขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้างโดยเฉพาะพ่อ เพราะสิ่งนี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ปลดล็อคคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกได้สำเร็จในศึก "ไอเอสพีเอส ฮานดะ เวิลด์ อินวิเตชันแนล"

การแข่งขันกอล์ฟรายการไอเอสพีเอส ฮันดะ เวิลด์ อินวิเทชั่น ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านดอลลาร์หรือราว 46.5 ล้านบาท รายการร่วมของ แอลพีจีเอ ทัวร์ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ และ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2564 โดยสองรอบแรกแข่งขันที่สนาม กัลกอร์ม คาสเซิ่ล กอล์ฟ คลับ พาร์ 73 และ สนามมาสเซอรีน กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 หลังจากนั้นรอบ 3 และ 4 แข่งขันที่สนาม กัลกอร์ม คาสเซิ่ล กอล์ฟ คลับ ผ่านไปสามวันแรกนั้น "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ นำร่วม

วันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่่ 1 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ออกสตาร์ทในฐานะผู้นำร่วม และทำสามเบอร์ดี้ใน 3 หลุมแรกนำร่วมที่สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ แต่เธอไปพลาดออกทริปเปิ้ลโบกี้หลุม 6 พาร์ 4 เสียตำแหน่งผู้นำก่อนจะแก้กลับมาทำอีกเบอร์ดี้หลุม 8 และ 9 จากนั้นทำเบอร์ดี้หลุม 13 ขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ตามหลัง เจนนิเฟอร์ คุปโช โปรชาวอเมริกันผู้นำอยู่แค่สโตรกเดียว และทั้งคู่เสียโบกี้หลุม 16 คัพโช ยังคงนำเดี่ยว 16 อันเดอร์พาร์ ปาจรีย์ 15 อันเดอร์พาร์ เมื่อเหลือสองหลุมสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ปาจรีย์ ขึ้นไปนำร่วมหลังทำเบอร์ดี้หลุม 17 พาร์ 4 สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ โดยที่ คุปโช ทำพาร์ และเอ็มม่า ทัลเลย์ โปรชาวอเมริกันนำร่วมอีกคนเมื่อเธอทำเบอร์ดี้หลุมเดียวกัน และหลุม 18 คุปโช เสียโบกี้จบลงสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 276 จบลงอันดับ 3

ในขณะที่ ปาจรีย์ และ ทัลเลย์ ทำพาร์ สกอร์จบลง 3 อันเดอร์พาร์ 70 เหมือนกันสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 275 เท่ากัน ต้องไปเล่นเพลย์ออฟตัดสินแชมป์

การเล่นเพลย์ออฟหลุมแรกใช้หลุม 18 พาร์ 5 ทั้งสองต่างก็ทำพาร์ต้องไปเล่นต่อหลุมที่สองก็ใช้หลุม 18 เหมือนเดิมโดยที่ปาจรีย์ ทำพาร์หลังจาก ทัลเลย์ ออกโบกี้ทำให้ปาจรีย์ ชนะคว้าแชมป์ไปครองนับเป็นแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ รับเงินรางวัลไป 225,000 ดอลลาร์หรือราว 7.2 ล้านบาท

โปรสาววัย 22 ปี เผยหลังการคว้าแชมป์รายการแรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ ว่า"เมียวไม่รู้จะพูดอย่างไรดี แต่อยากจะขอบคุณทุกๆคนที่สนับสนุนเมียวมาตลอด และเชื่อมั่นเมียวมาระยะเวลายาวนานมันจะคงจะไม่มีวันนี้ได้หากไม่มีพวกเขา เมียว มีพี่โม พี่เม เป็นแบบอย่างก็ตั้งใจเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเมียวก็อยากจะเป็นคนไทยอีกคนหนึ่งที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ และเมียวจะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีทีสุดเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศเราด้วย"

และเธอ ยังได้กล่าวถึงคุณพ่อวีระพล ซึ่งเข้าไปแสดงความดีใจสุดหลังจากเธอคว้าแชมป์ว่า"คุณพ่ออยู่เคียงข้างฉันมาตั้งแต่เริ่มต้นการเล่นกอล์ฟของฉัน ดังนั้นฉันก็สามารถได้ร่วมแชร์ทุกสิ่งทุกอย่างทุกๆสิ่งที่พิเศษกับท่าน"

ปาจรีย์ กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ ต่อจาก ปภังกร ธวัชธนกิจ โมรียา-เอรียา จุฑานุกาล และยังเป็นคนไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์อาชีพในแอลพีจีเอ ทัวร์ ต่อจาก "โปรเม" เอรียา(12) และ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล(2) โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ(2) และ"โปรเหมียว" ปภังกร ธนวัชธนกิจ(1) ทำให้ขณะนี้นักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ ไปแล้ว 18 แชมป์

ไม่เพียงแค่นั้น ปาจรีย์ กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์อาชีพรายการแรกของตัวเองในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้ ต่อจาก ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์เอเอ็นเอ อินสปิเรชั่น(เมเจอร์) ซวี เว่ยหลิง จากจีนไทเปแชมป์เพียวร์ ซิลค์ แชมเปี้ยนชิพ ยูกะ ซาโสะ จากฟิลิปปินส์ แชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น(เมเจอร์) และมาทิลดา คาสเตรน จากฟินแลนด์แชมป์แอลพีจีเอ เมดีฮีล แชมเปี้ยนชิพ

และการคว้าแชมป์ของ ปาจรีย์ ในครั้งนี้จะให้เธอได้สิทธิ์เล่นในทัวร์ 2 ปี และได้สิทธิ์เล่นรายการไดมอนด์ส รีสอร์ท ทัวร์นาเมนส์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ รายการเปิดฤดูกาลของแอลพีเอ ทัวร์ฤดูกาล 2022 และ 2023

https:// m.mgronline.com/sport/detail/9640000075337
#10088



นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารที่ปลอดภัย ได้คุณภาพ และมุ่งตอบโจทย์ข้อกังวลทางด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้นายจุรินทร์นทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารไทยให้กับผู้ซื้อและผู้บริโภคทั่วโลก ในรูปแบบหนังสือรับรอง COVID-19 Prevention Best Practice สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าอาหารซึ่งเมื่อเดือนก.ย.2563 ที่ผ่านมานายจุรินทร์เป็นประธานสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย


ล่าสุดกรมประมงได้ออกหนังสือรับรองดังกล่าวให้แก่โรงงานอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง และโรงงานผลิตอาหารทะเลกระป๋อง ให้กับโรงงานผู้ส่งออกแล้ว กว่า 237 โรงงานแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขอหนังสือรับรองดังกล่าวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ สามารถติดต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนส่งออกไปยังผู้นำเข้าในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้


นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังติดตามการสร้างการตระหนักรับรู้ และตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าสินค้าอาหารไทยมีคุณภาพ และปลอดภัยในทุกๆ ขั้นการผลิตและการจัดส่งถือมือผู้บริโภคภายใต้แคมเปญ 'Thailand Delivers with Safety' ผ่านทูตพาณิชย์ที่เป็นเซลส์แมนประเทศ ซึ่งประจำการในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับภาพรวมการส่งออกสินค้าอาหาร ไม่รวมน้ำตาล โดยในช่วงครึ่งปีแรกตั้งแต่ม.ค. – มิ.ย. 2564 มูลค่ากว่า 441,014 ล้านบาท  โดยมีสินค้าประเภทผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่เข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลสด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป ไก่สดแช่แข็ง และแปรรูป และเครื่องดื่มทุกชนิด ที่ส่งออกมากที่สุดตามลำดับ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952206
#10089



คนรักเลขแห่ขอโชค มะพร้าวพญานาค 2 เศียร ไม่พลาดจุดธูปขอเลข ตะลึงได้ "เลขเด็ด" เหมือน "แม่น้ำหนึ่ง" เตรียมเสี่ยงโชคงวด 1/8/64

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหลังที่พักของ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองชัยนาท มีต้นมะพร้าวแตกแขนง แตกยอดออกมา คล้ายพญานาค 2 เศียร พอชาวบ้านและผู้อาศัยใกล้เคียงทราบข่าว ก็รีบนำน้ำแดง พวงมาลัย ธูป เทียน มาจุดขอโชคลาภ ขอพร ให้ถูกรางวัลกันยกใหญ่ โดยบอกกล่าวว่า หากถูกรางวัล ไม่ว่ารางวัลใดก็ตาม จะนำหัวหมูมาถวายให้อย่างแน่นอน


ทั้งนี้ ภายหลังจากกราบไหว้เสร็จ ก็ไม่พลาดที่จะจุดธูปขอเลขเด็ด ได้เป็นเลข 901 ซึ่งก็ไปตรงกับเลขเด็ดของแม่น้ำหนึ่ง 409 อย่างไม่น่าเชื่อ คือเลข 90, 09 ทำให้ทุกคนต่างก็รีบหยิบโทรศัพท์มาจด กลับไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลลุ้นโชคงวดวันที่ 1 ส.ค. 2564


อย่างไรก็ตาม ต้นมะพร้าวนั้น เป็นของเจ้าหน้าที่ในหน่วยฯ ปลูกมะพร้าวน้ำหอม เพราะเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ตั้งแต่ปลูกมาก็ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนทำให้คอหวยต่างก็เชื่อว่าต้องมาให้โชคลาภอย่างแน่นอน.
#10091
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อมต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น 1


#10092



เยลลี่ "ปีโป้" เป็นหนึ่งในสินค้าและแบรนด์เรือธวของ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญของตลาดขนม โดย "ปีโป้" มีฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยเด็ก วัยทีนหรือวัยรุ่น เป็นหลัก จะเห็นว่าในการสื่อสารการตลาด ช่วงเวลาที่แบรนด์จะยึดเพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้จะเป็นช่วงเวลาเช้า ที่มีรายการเด็ก โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ที่มีการ์ตูนเอาใจคุณหนูๆน้องๆเป็นส่วนใหญ่ 

ทว่า ปัจจุบันการดื่มด่ำตัวเลขเติบโตทางธุรกิจอยู่ในขอบเขตกลุ่มเป้าหมายหลักเดิมๆที่มี ไม่เพียงพอ และการทำตลาดโดยอาศัยจุดแข็งของแบรนด์ตนเองฝ่ายเดียวคงไม่ได้ หมดยุคโชว์เดี่ยวหรือ One Man Show อีกต่อไป ยิ่งในยุคโรคโควิด-19 ระบาด หลายธุรกิจ สินค้ายอดขายหดตัว ต้องหันมาประหยัดงบประมาณ ดูแลบริหารจัดการต้นทุนให้ดี หาก "ผนึกพันธมิตร" เพื่อแชร์ทรัพยากร สินทรัพย์ที่มี ต่อยอดธุรกิจ เกิด Win-win strategy ย่อมเป็นเรื่องดี 

"ปีโป้" เป็นอีกแบรนด์ที่เดินหน้าใช้กลยุทธ์ความร่วมมือ(Collaboration)กับแบรนด์สินค้าอื่นที่มีความแข็งแรง มีโจทย์และเป้าหมายธุรกิจเดียวกัน มาร่วมสร้างสีสันให้เกิดขึ้นในตลาด ล่าสุดกับการจับมือเครื่องดื่มชูกำลัง "M-150" ของค่าย "โอสถสภา" ออกเยลลี่ "ปีโป้กลิ่น M-150" เข้าทำตลาดแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น 

"ปีโป้ X M-150" จะเกิด Win-win อะไรบ้าง กรุงเทพธุรกิจ ชวนวิเคราะห์จุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ คือการเป็น "ผู้นำตลาด" ในเซ็กเมนต์ที่ตัวเองอยู่นั่นคือ เยลลี่และเครื่องดื่มชูกำลัง และมีฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่ "แตกต่างกัน" 

ผู้บริโภคเยลลี่ คือวัยเด็ก วัยรุ่น ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 เป็นวัยทำงาน โดยเฉพาะชนชั้นแรงงาน แต่หลายปีที่ผ่านมา แบรนด์เลือกพี่ตูน บอดี้สแลม เป็นพรีเซ็นเตอร์ ใช้กลยุทธ์การตลาดทางดนตรี(Music Marketing) รวมถึงการตลาดเชิงกีฬา(Sport Marketing) สร้างการรับรู้ ชูภาพลักษณ์แบรนด์สู่คนรุ่นใหม่ เป็นการขยายฐานที่กว้างขึ้น เมื่อ 2 แบรนด์โคจรมา Collaboration กัน จึงทำให้ช่วยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกับ "ปีโป้" สอดคล้องกับภารกิจแบรนด์ที่ย้ำว่าเป็นสินค้าไม่ว่าเจนเนอเรชั่นไหนก็อร่อยได้


แม้ทุกคนจะเคยผ่านวัยเด็ก วัยรุ่น และรับประทานเยลลี่ปีโป้มาก่อน แต่เมื่อเติบโตจนถึงวัยผู้ใหญ่ การบริโภคสินค้าดังกล่าวจะลดลง หันไปบริโภคสินค้าอื่นๆที่มีความหลากหลาย ตอบไลฟ์สไตล์ตามแต่ละช่วงอายุแตกต่างกันไป 


เมื่อทุกคนต่างรู้จัก รับรู้แบรนด์เยลลี่ ปีโป้ อย่างดี แต่การจะบริโภคทุกวัน ถี่เหมือนวันเด็ก วัยรุ่นคงไม่ได้ หากแบรนด์ต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาทานเยลลี่เหมือนวันวานต้องออกสินค้าใหม่สร้างความตื่นเต้น หนุนให้เกิดการ "ทดลอง" สินค้า ซึ่ง "ปีโป้ กลิ่น M-150" เป็นคำตอบที่แบรนด์เลือกทำตลาด เพราะวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ อาจต้องการย้อนสู่วัยใส 14 อีกครั้ง และไม่ต้องทานแค่ "ปีโป้" กลิ่น รสชาติทั่วไปที่มีในตลาด แต่ต้องเป็นสิ่งที่แบรนด์สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 

ส่วน M-150 ได้สร้างโอกาสใหม่ ในการขยายตลาดต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลัง แต่สามารถผสานในหมวดขนม หรืออาจเป็นหมวดอื่นๆได้ด้วย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์จะหา "ช่องว่างและโอกาส" ทางการตลาดให้เจอ เพื่อเพิ่มการขายสินค้าให้หลากหลาย ผลักดันการเติบโตต่อไป  

อย่างไรก็ตาม ก่อนสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ยูโรเปี้ยนฟู้ด ได้ปลุกกระแสนำร่องผ่านโลกออนไลน์ ถึงการ Collaboration กับพันธมิตรใหม่ เพื่อหยั่งเสียงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหลายคนตั้งตารอ ทันทีที่ปล่อยสินค้าออกมา ผลตอบรับถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี 

สำหรับ "ปีโป้ กลิ่น M-150" ผลิตจำหน่ายแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น ขนาดบรรจุ 50 ถ้วย ในราคา 99 บาท  จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ช้อปปี้ ลาซาด้า, เจดี, โรบินฮู้ด, ไลน์และเฟซบุ๊กของ ยูโรเปี้ยนฟู้ด เป็นต้น 

กระแสของ "ปีโป้" ไม่เคยจางหายไปจากตลาด เพราะผู้บริโภคที่เคยซื้อสินค้าจะรู้ดีว่า "ปีโป้" มี 5 สี ได้แก่ สีแดง (สตรอว์เบอร์รี) และสีส้ม (ส้ม) สีเขียว (แอปเปิ้ล), สีขาว (ลิ้นจี่), สีม่วง (องุ่น) แต่บางครั้งผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผสมกับเครื่องดื่มปั่นอื่นๆ มักจะอดทาน ปีโป้สีม่วง จนเกิดการทวีตบนทวิตเตอร์ เกิดไวรัส #saveปีโป้ม่วง ทำให้แบรนด์ยังอยู่ในสายตา การรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายเสมอ

 นอกจากการ Callaboration กับ M-150  ที่ผ่านมายังมี ปีโป้โยเกิร์ต สร้างสีสัน ความตื่นเต้นให้ตลาดเยลลี่ ยิ่งกว่านั้นกลยุทธ์ความร่วมมือยังปูทางสู่การผลักดันยอดขายให้เติบโตแก่ทั้ง 2 แบรนด์ด้วย 


นอกจากยูโรเปี้ยนฟู้ด จะมีปีโป้ เป็นแบรนด์เรือธง แต่พอร์ตโฟลิโอสินค้าที่บุกตลาดขนมมีมากมาย เช่น ลูกอม Hitto, เวเฟอร์ปักกิ่ง, เค้กเอลเซ่ และเวเฟอร์ชนิดแท่งสอดไส้ครีม โจโจ้ เป็นต้น 
#10093



สงครามต่อสู้กับโควิด-19 เปลี่ยนไป สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก จากคำกล่าวของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) ส่งสารอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการบังคับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนและกลับมาสวมหน้ากากโดยทั่วไป ท่ามกลางข้อมูลที่พบว่ามีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ(breakthrough cases) จำนวนมาก ในนั้นติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิตแล้วกว่า 6,500 ราย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงเอกสารภายในของซีดีซีระบุว่าตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียและตอนนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก สามารถติดต่อได้ง่ายพอ ๆ กับ โรคอีสุกอีใส และสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วและง่ายกว่าไข้หวัด มันสามารถแพร่กระจายเชื้อได้แม้กระทั่งจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว และอาจเป็นต้นตอของอาการป่วยหนักกว่าสายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

เอกสารที่มีชื่อว่า "ปรับปรุงการสื่อสารเกี่ยวกับเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อและประสิทธิภาพของวัคซีน (Improving communications around vaccine breakthrough and vaccine effectiveness)" ระบุว่าด้วยตัวกลายพันธุ์นี้ จำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่เพื่อช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงอันตราย ในนั้นรวมถึงส่งสารอย่างชัดเจนว่าบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 10 เท่า

"ยอมรับว่าสงครามเปลี่ยนไปแล้ว" เอกสารระบุ "ปรับปรุงการสื่อสารเกี่ยวกับความเสี่ยงรายบุคคลในหมู่คนฉีดวัคซีนแล้ว"

ในคำแนะนำด้านมาตรการป้องกันไว้ก่อนต่างๆนานานั้น รวมไปถึงการบังคับฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกอบอาชีพด้านสาธารณสุข เพื่อปกป้องกลุ่มคนอ่อนแอ และหวนกลับมาสวมหน้ากากป้องกันโดยทั่วไป

ซีดีซียอมรับว่าเอกสารฉบับนี้เป็นของจริง หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์นำเสนอรายงานข่าวนี้เป็นแห่งแรก

แม้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วมีความเป็นไปได้น้อยที่จะติดเชื้อ แต่ครั้งที่พวกเขาติดเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตาในลักษณะ breakthrough cases เวลานี้พวกเขาก็เหมือนๆกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ที่สามารถแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆได้เช่นกัน ซึ่งต่างจากตัวกลายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

กรณีนี้นับว่าน่ากังวลมาก เพราะผู้ที่ได้รับวีคซีนแล้วติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา คือกลุ่มที่เป็นตัวแปรสำคัญในการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แล้วได้รับเชื้อจากคนกลุ่มนี้ ยิ่งเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรง

เมื่อวันศุกร์(30ก.ค.) ซีดีซีเผยแพร่ข้อมูลจากผลการวิจัยหนึ่งซึ่งศึกษาการแพร่ระบาดในรัฐแมสซาชูเซตส์ พบว่า 3 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อ เป็นกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการตัดสินใจของซีดีซีเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่แนะนำให้บุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วกลับมาสวมหน้ากากในบางสถานการณ์ จากการเปิดเผยของโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซี

ซีดีซีรายงานว่าจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม มีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ(breakthrough cases)อาการหนักหรือเสียชีวิต 6,587 ราย ในขณะที่ซีดีซีหยุดรายงานเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้ออาการเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ในรายงานล่าสุด พวกเขาประมาณการว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อแบบแสดงอาการราวๆ 35,000 รายต่อสัปดาห์ในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามตัวเลขของซีดีซียังชี้ให้เห็นว่า วัคซีนนั้นยังมีความสามารถในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์เดลตา โดยที่นายจอห์น มัวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากนิวยอร์ก กล่าวว่า "โดยรวมแล้ว โควิดสายพันธุ์เดลตานั้นคือสายพันธุ์ที่สร้างความลำบากให้เรามากที่สุดเท่าที่เห็นมา แต่ฟ้าก็ยังไม่ถล่มเสียทีเดียว และวัคซีนนั้นก็ยังสามารถป้องกันไม่ให้สถานการณ์มันแย่ไปมากกว่านี้"

เวลานี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่สหรัฐฯเกือบ 1 ใน 3 ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว แต่พื้นที่ต่างๆที่มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำ พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เกรงว่าอีกไม่นานจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตจำเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์ คาดหวังว่าวัคซีน ซึ่งเวลานี้เพิ่งอยู่ในขั้นได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน จะเริ่มได้รับอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบโดยสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งมันน่าจะช่วยโน้มน้าวให้ประชาชนเข้าฉีดวัคซีนกันมากขึ้น

(ที่มา:รอยเตอร์/วอชิงตันโพสต์) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075092
#10094
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208

#10095
WFH กล้วยๆ ด้วย Zoom app downloadใครหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับการเรียน หรือ การทำงานแบบ work from home กันอยู่ช่วงนี้นะครับ ซึ่งไม่ยอมไม่ได้เลยว่า โปรแกรมสุดชอบระดับโลกนั่นก็คือ โปรแกรม ZOOM ซึ่งผมคิดว่า ไม่ต้องเอ่ยปากกันเยอะสำหรับโปรแกรมนี้ ที่มันจำเป็นจริงๆ
โดยปรกติ เราน่าจะสนิทสนมกับการใช้โปรแกรมนี้ผ่านคอมพิวเตอร์ สำหรับเรียน หรือ ทำงานกันบ้างแล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเกี่ยวกับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือเท่าใดนัก เนื่องจากว่า มันอาจไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ สำหรับงานดังกล่าว
แต่ก็มีการใช้งานบ่อยอยู่ครับ เนื่องจากบางทีเป็นการประชุมเร่งด่วนขณะอยู่บนรถ หรือ ขณะเที่ยว ซึ่งในอุปกรณ์มือถือ
จะต้องไปที่ Zoom app download ซึ่งมีอยู่ได้ทั้ง 2 ระบบ คือ IOS และ Andriod ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรี แต่อาจมีข้อจำกัด หากต้องการสร้างห้องประชุมเอง จะรองรับคนไม่เกิน 100 คน และ ไม่เกิน 40 นาทีเท่านั้น ซึ่งอาจต้องซื้อ Licensed เพื่อปลดล็อคเรื่องเหล่านี้ ซึ่งผมมองว่า มันคุ้มค่ามากเพราะในปัจจุบันยังไงเราก็ต้องใช้งานอยู่แล้ว

 โดยเข้าไปที่ App Stor หรือ Google play พิมพ์ค้นหาชื่อแอปว่า Zoom meeting แล้วดาวน์โหลดได้เลยครับหรือ จะเข้าไปดาวน์โหลดที่ลิงค์ของตัวแทนจำหน่ายก็ได้ เพื่อจะได้สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ ตามลิงค์ที่ผมแนบได้เลยครับ  (Zoom app download)



























  >> ดาวน์โหลดทีนี่Tag : Zoom  / Zoom app download