• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#2841
CIMBT แจงปี 64 กำไรโตพุ่ง 89.1% จากคุมค่าใช้จ่าย-ผลขาดทุนด้านเครดิตฯลดลง

นายพอล วอง ชี คิน สืบทอดตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่ม CIMBT ในปี 64 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,440.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,150 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 89.1% เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิปี 63 เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 8.1% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 25.7%

แม้ว่ารายได้จากการดำเนินงานจะมีจำนวน 14,347.4 ล้านบาท ลดลง 579.7 ล้านบาท หรือลดลง 3.9% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 63 เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 988.5 ล้านบาท หรือลดลง 9% เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้ออันเนื่องมาจากการขยายตัวของสินเชื่อลดลง กับการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 337.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.9% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นนายหน้าขายประกันและหน่วยลงทุน รายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 71.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.6% จากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 64 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 63 ลดลง 723.3 ล้านบาท หรือลดลง 8.1% เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.64 อยู่ที่ 57% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 63 อยู่ที่ 59.6%

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin ? NIM) สำหรับปี 64 อยู่ที่ 3.1% ลดลงจากงวดเดียวกันปี 63 อยู่ที่ 3.2% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ

ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 211.9 พันล้านบาท ลดลง 6.6% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ขณะที่กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 233.1 พันล้านบาท ลดลง 7.1% จากสิ้นปี 63 ซึ่งมีจำนวน 250.9 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 90.9% จาก 90.5%

สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.7% ลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นปี 63 อยู่ที่ 4.6% สาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 64 การบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงการบริหารคุณภาพสินทรัพย์และกระบวนการในการเก็บหนี้

และอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 อยู่ที่ 117.5% เพิ่มขึ้นจากปี 63 ซึ่งอยู่ที่ 93.3% โดยค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8.3 พันล้านบาท เป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท ส่วนเงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 31 ธ.ค. 64 มีจำนวน 54.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 22.4% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.3%
#2844
พฤกษาผุดแคมเปญ"กู้ปีนี้ผ่อนปีหน้า" กระตุ้นยอดขายทาวน์เฮ้าส์พร้อมอยู่

พฤกษาวิลล์ผนึกออมสินจัดแคมเปญ"กู้ปีนี้ผ่อนปีหน้า"จูงใจลูกค้าจองทาวน์โฮมพร้อมอยู่พฤกษาวิลล์ 13 ทำเลเด็ดทั่วประเทศ พร้อมรับดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ฟรีค่าทำนิติกรรมและค่าบริการสินเชื่อ ตั้งแต่วันนี้- 31 ธ.ค.64

นายธีระ ทองวิไล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า  บริษัทได้ผนึกกำลังกับธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นพันมิตรกับพฤกษาและเป็นธนาคารที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษเอาใจคนอยากมีบ้าน ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี "กู้ปีนี้ผ่อนปีหน้า"

สำหรับลูกค้าที่จองทาวน์โฮมพร้อมอยู่แบรนด์พฤกษาวิลล์ 13 ทำเลทั่วประเทศ รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ กู้ปีนี้ผ่อนปีหน้า พฤกษาวิลล์ใจดี ให้อยู่ก่อนผ่อนทีหลัง ปลอดเงินต้นและดอกเบี้ย 0% นานถึง 6 เดือน ฟรี! ค่าจัดทำนิติกรรมสัญญาและค่าบริการสินเชื่อ สำหรับลูกค้าธนาคารออมสิน รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาท กู้บ้าน ลุ้นล้านกับสลากดิจิทัล รับสิทธิพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ -31 ธันวาคม 2564 นี้ เท่านั้น สำหรับลูกค้าที่มีความกังวลในเรื่องการกู้ หรือไม่มั่นใจว่ามีรายได้เพียงพอที่จะซื้อบ้าน สามารถรับคำปรึกษากับทีม Financial Clinic ที่พร้อมดูแลเรื่องการกู้บ้านโดยเฉพาะ

ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้สอยที่กว้างเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ดีไซน์ทันสมัย พร้อมกับฟังช์ชั่นที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย  ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เพียงพอกับสมาชิกภายในบ้าน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกบนสังคมคุณภาพ มีให้เลือกหลายหลายทำเลศักยภาพที่เน้นให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก ใกล้สวนส่วนกลาง เฟสใหม่ด้านหน้าโครงการฯ  ทั้งโซนบางนา, พระราม 5, เพชรเกษม-ศาลายา และเชียงใหม่ พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้  ราคาเริ่มต้น  1.79 -3.09  ล้านบาท สิทธิพิเศษเพียงจอง  ทำสัญญา และโอนบ้านภายใน 31 ธ.ค. 2564 รับทันที ViMUT Family Card สำหรับใช้บริการด้านสุขภาพพร้อมโปรแกรมตรวจสุขภาพฟรีที่โรงพยาบาลวิมุต
#2845
จำหน่าย เครื่องเล่นหน้าขนหลังแขน นำเข้าจากต่างประเทศ

เครื่องเล่นหน้าแขนหลังแขน เป็นเครื่องที่ใช้สำหรับเล่นหน้าแขนหลังแขน เหมาะแก่การเพิ่มกล้ามเนื้อส่วนหน้าแขนและหลังแขน ทำให้มีความกระชับและกล้ามแขนดูสวยงาม เป็นเกรดคุณภาพฟิตเนส ขนาดเหล็กมีความหนา มากถึง 3.2MM  มีทั้งแบบ single machine และ duel machine เป็นสินค้านำเข้า จากประเทศ เยอรมัน และอเมริกา

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 
#2846

ซีแพนเนลติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพิ่มความรวดเร็ว – ขยายกำลังผลิตเพิ่ม 5-10% รองรับการฟื้นอสังหาฯ พร้อมรับมือปัญหาขาดแคลนแรงงาน ล่าสุดรับงานใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 199 ล้านบาท
ซีแพนเนลขยายกำลังผลิตรับการฟื้นอสังหาฯปี65

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน)  ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป เผยว่าผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 64 ที่ผ่านมาเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.19 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปี 63 อยู่ที่ 13.13 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/64 บริษัทมีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัญญาณฟื้นตัวในปี 65  และเป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพระบบการผลิต สามารถผลิต Precast Concrete ได้รวดเร็วมากขึ้น และสามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่ม        5-10% นอกจากนี้ยังคาดว่าจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

"ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 65 มองว่าจะสามารถเติบโตประมาณ 10-15% เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งระบายสต็อก และขยายการเติบโตตามหัวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก นอกจากนี้คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะทยอยฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคกลับมาในหลายพื้นที่ ส่งผลให้โครงการบ้านยังเป็นที่ต้องการ"

นายชาคริต   กล่าวว่า  จากแนวโน้มดังกล่าวคาดว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการจะยิ่งสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับกลยุทธ์ลดต้นทุนการก่อสร้าง ลดจำนวนแรงงาน บริหารความเสี่ยง ลดเวลาการก่อสร้าง รวมถึงใช้วัสดุที่ทำให้การก่อสร้างเสร็จเร็วมากขึ้น 

ซีแพนเนลขยายกำลังผลิตรับการฟื้นอสังหาฯปี65

ปัจจุบัน บริษัทรับงานใหม่จากลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่ 7 โครงการ อาทิ Motif Townhouse,สัมมากร คู้บอน, พาโน เซน, Victoria, แสนสิริ K- series อ่อนนุช, TMT Land และ กานดา ลำลูกกา คลอง 2 มูลค่ารวมกว่า 199  ล้านบาท อีกทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าประเภทแนวราบและแนวสูงอีกหลายราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆนี้ ทั้งนี้ มั่นใจว่าการดำเนินงานในปี 64 จะสามารถทำรายได้ตามเป้าที่ปรับใหม่ไม่ต่ำกว่า 35% และความสามารถการทำกำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
#2847

ไฟเซอร์ยื่นขอรับรองใช้ยาเม็ดต้านโควิด-19 ในญี่ปุ่น คาดอนุมัติเดือนก.พ.

บริษัทไฟเซอร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเพื่อขอการอนุมัติใช้ยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยาต้านโควิด-19 ชนิดรับประทานของไฟเซอร์ ซึ่งถ้าหากได้รับการรับรองจริง ก็จะทำให้ยาเม็ดต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์เป็นยาตัวที่ 2 ที่ได้รับการรับรองในญี่ปุ่นต่อจากยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ของบริษัทเมอร์ค

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การยื่นขอการรับรองครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเป็นระลอกที่ 6 อันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศแล้วว่า จะจัดซื้อยาดังกล่าวมากเพียงพอสำหรับผู้ป่วย 2 ล้านคน

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า คาดว่าจะมีการทำข้อตกลงกับบริษัทไฟเซอร์เสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนมกราคมนี้ โดยที่ตัวยาน่าจะได้รับการรับรองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นได้รับรองการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ไปเมื่อเดือนธันวาคม โดยชิเกะยูกิ โกโตะ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวว่า ยาเม็ดต้านโควิด-19 น่าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการเพียงเล็กน้อย

ทั้งนี้ ไฟเซอร์เปิดเผยผลการทดลองทางคลินิกระบุว่า ยาแพ็กซ์โลวิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้มากกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ โดยสามารถลดความเสี่ยงมากถึง 88% สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาภายใน 5 วันหลังจากเริ่มมีอาการ เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก
#2848
ผู้พิพากษาสหรัฐตัดสินยกเลิกคำสั่งไบเดนบังคับพนักงานรัฐฉีดวัคซีนกันโควิด

ผู้พิพากษาในรัฐเท็กซัสได้ตัดสินในวันศุกร์ (21 ม.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่สามารถกำหนดให้พนักงานของรัฐบาลกลางสหรัฐต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถลงโทษทางวินัยกับพนักงานของรัฐที่ไม่ฉีดวัคซีน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำตัดสินดังกล่าวส่งผลกระทบล่าสุดต่อความพยายามของทำเนียบขาวที่ต้องการให้แรงงานชาวอเมริกันกลุ่มต่าง ๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนได้ออกคำสั่งกำหนดให้พนักงานของรัฐบาลจำนวนราว 3.5 ล้านคน ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา มิฉะนั้นจะถูกลงโทษทางวินัยหรือถูกไล่ออก แต่มีข้อยกเว้นสำหรับเหตุผลด้านศาสนา และทางการแพทย์

เจฟฟรีย์ บราวน์ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐในกัลเวสตัน รัฐเท็กซัสระบุว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถปกป้องสุขภาพประชาชนได้ด้วยมาตรการที่รุกรานน้อยกว่า อาทิเช่น การใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม

ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า พนักงานของรัฐบาลกลางมากกว่า 93% ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม

 
#2850
สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคสมทบทุนจัดทำ 'กล่องรอดตาย' ช่วยผู้ป่วยโควิด-19

สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนจ.) ขอเชิญนิสิตเก่าจุฬาฯ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคยา เวชภัณฑ์ และร่วมสมทบทุนจัดทำกล่องรอดตาย กล่องละ 500 บาท ในภารกิจดูแลผู้ป่วยที่รักษาตัวแบบ Home Isolation (HI) พร้อมระบบติดตามอาการออนไลน์บนหอพักผู้ป่วยเสมือน (Virtual Ward) ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ 'กล่องรอดตาย' เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สนจ. สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค และภาคเอกชน โดย 1 ชุด จะบรรจุอุปกรณ์จำเป็นในการดูแลตนเองซึ่งเพียงพอสำหรับ 14 วัน ที่ได้รับการรับรองจากกรมควบคุมโรค พร้อมระบบติดตามอาการผู้ป่วย Home Isolation ผ่าน Virtual Ward โดยมีคุณศุภชัย ชุติกุศล ประธานสโมสร สนจ. คุณอธิศีล ธัญญ์ ณ ป้อมเพชร ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ สนจ. และคณะทำงานกล่องรอดตายเป็นผู้ดูแลการดำเนินงาน โดยที่ผ่านมา 'กล่องรอดตาย' สามารถเข้าถึงผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวไปแล้วนับหมื่นราย

ผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคอุปกรณ์ และร่วมสบทบทุนผ่าน มูลนิธิส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปไทย บัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 017-2-88191-2 (ส่งหลักฐานการบริจาคเพื่อขอลดหย่อนภาษีมาที่ LINE ID : @donatesurvivalbox) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 09-6991-6363 และ 09-3698-9336
#2852
บลจ.กรุงศรี มองหุ้นโลกปี 65 ผันผวนรับแรงกดดันเงินเฟ้อ ชูจีน-เอเชียเด่น

นายศิระ คล่องวิชา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2565 มีแนวโนมฟื้นตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในตลาดพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ด้านความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อาจมีน้อยลงจากอัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การพัฒนาวัคซีนและยารักษาโควิด-19 ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่อาจไม่เท่ากัน คาดว่าเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะทยอยปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเอเซียอย่างประเทศจีน เนื่องจากแนวโน้มการออกมาตรการควบคุมอุตสาหกรรมของทางการจีนจะมีน้อยลง และรัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณว่าจะกลับมาสนับสนุนสภาพคล่องให้กับเศรษฐกิจอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ตลาดโลกอาจมีความผันผวนมากขึ้น โดยปัจจัยที่ต้องจับตามองคืออัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่จะมีความตึงตัวมากขึ้น นำโดยประเทศสหรัฐที่เตรียมยกเลิกโครงการ QE ในเดือนมีนาคมเพื่อเตรียมขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในลำดับถัดไป ตลาดมองว่าเฟดอาจมีการขึ้นนโยบายการเงินได้ถึง 4 ครั้งในปี 2565 โดยอาจจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

"สำหรับภาพรวมของการลงทุนในตลาดหุ้นโลกนั้น บลจ.กรุงศรี มีมุมมองว่าความผันผวนของตลาดหุ้นอาจมีมากขึ้น ตามแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของทางธนาคารกลางทั่วโลก ขณะที่การฟื้นตัวของแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกัน โดยเราอาจเห็นกลุ่มหุ้นที่มีราคาสูงอย่างกลุ่มเทคโนโลยีถูกกดดัน ในขณะที่ตลาดที่เป็น laggards ทยอยฟื้นตัวโดยเฉพาะในตลาดเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น และจีน ทั้งนี้ ในช่วงที่ตลาดมีความเสี่ยงมากขึ้นการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่ม defensive จะช่วยลดความผันผวนให้กับพอร์ตการลงทุนได้"
สำหรับธีมการลงทุนในหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจได้แก่ การลงทุนในกลุ่ม Clean energy เนื่องจากปัจจุบันนโยบายเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน โดยทั้งหมดได้ตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้สำเร็จ และคาดว่าจะเห็นนโยบายสนับสนุนด้าน Clean energy ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลงทุนในธีม ESG ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุน อีกทั้งธีมการลงทุนในส่วนของ cyber securities ที่มีความจำเป็นมากขึ้นในปัจจุบันหลังจากเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นก็เป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจเช่นกัน

ขณะที่การลงทุนในตลาดจีนก็กลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลังท่าทีของรัฐบาลจีนที่มีต่อการออกกฎหมายควบคุมในหลายอุตสาหกรรมเริ่มลดลง โดยทางธนาคารกลางจีนได้กลับมาให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนสภาพคล่องให้กับตลาดอีกครั้ง นอกจากนั้นการลงทุนในกลุ่มตลาดที่เป็น laggards อย่างตลาดญี่ปุ่นและตลาดเอเซียก็ยังคงมีความน่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไปและมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ด้านเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ดีในปี 2565 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้เป็นปกติ โดยภาคการท่องเที่ยวคาดว่าจะทยอยเริ่มกลับมาหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้มากขึ้น ส่วนการส่งออกจะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลงเนื่องจากผลของฐานต่ำหมดไป ในขณะที่ภาคบริการจะเติบโตในอัตราสูงจากผลของฐานต่ำในปี 2564 ด้านการบริโภคคาดว่าจะกลับมาขยายตัวดีขึ้นแต่อาจไม่ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของไทยมีแนวโน้มผันผวนตามตัวเลขเศรษฐกิจและกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงตลอดปี 2565 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจะทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ส่วนอัตราผลตอบแทนระยะกลางถึงยาวอาจมีความผันผวนตามตลาดต่างประเทศที่คาดว่าจะถูกกดดันจากการปรับนโยบายการเงินของสหรัฐเป็นหลัก

ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้น บลจ.กรุงศรี มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นไทยในปี 2565 โดยคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนฯ จะสามารถเติบโตได้ในอัตราร้อยละ 11.5 จากการกลับมาเปิดประเทศ โดยคาดว่าการลงทุนในหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 12.5 อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามเรื่องโอมิครอนว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรือไม่ รวมถึงนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดมากเพียงใด

สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนในปี 2565 นั้นนักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์เพื่อลดความผันผวนและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำจัดสรรเงินลงทุนในตราสารหนี้ 35% หุ้นไทย 16.5% และหุ้นต่างประเทศ 48.5% ตัวอย่างกองทุนตราสารหนี้แนะนำ เช่น กองทุน KFSMART กองทุน KFAFIX-A กองทุนหุ้นไทยแนะนำ เช่น กองทุนKFTSTAR เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงโดยกองทุนมีการถือครองหลักทรัพย์กว่า 50 หลักทรัพย์ กองทุนKFDYNAMIC เหมาะสำหรับผู้ที่รับความผันผวนได้สูง โดยกองทุนถือครองหลักทรัพย์ประมาณ 20 -25 หลักทรัพย์ และกองทุนหุ้นต่างประเทศแนะนำ เช่น กองทุนKFCLIMA กองทุนKFESG ที่มาในธีม Climate Change และ ESG ที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐและความร่วมมือจากภาคเอกชนทั่วโลก

ทั้งนี้ การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายและลงทุนตามธีมที่โดดเด่นจะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างการเติบโตที่ดีของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
#2853
หอกใหม่ปืนใหญ่! ฟิออตกลงขายวลาโฮวิชให้อาร์เซน่อล

แฟน. เดอะ กันเนอร์ส รอกรี๊ด สื่ออิตาเลี่ยนยืนยัน ฟิออเรนติน่า สโมสรใน เซเรียอา ตกลงขาย ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าฝีเท้าฉกาจให้กับสโมสรในลอนดอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงค่าตัวนักเตะกันได้อย่างลุล่วง

          มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แสดงความปรารถนาต้องการได้หัวหอกทีม ม่วงมหากาฬ มาร่วมทัพในตลาดนักเตะเดือนม.ค.นี้ และล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่าทีมลูกหนังเมืองพิซซ่าเปิดทางให้นักเตะย้ายไปค้าเกือกใน พรีเมียร์ลีก แล้วหลังตอบรับข้อเสนอ 67 ล้านปอนด์ (ราว 3,053 ล้านบาท) จากทีม ปืนใหญ่

          สำหรับ วลาโฮวิช ศูนย์หน้าทีมชาติเซอร์เบียวัย 21 ปีตกเป็นที่กล่าวถึงอย่างหนักจากการสร้างผลงานสอยตาข่ายให้ต้นสังกัด 17 ประตูจาก 21 นัด และการย้ายสู่ทีม ปืนใหญ่ จะทำให้ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชแก้ปัญหาในแดนหน้าได้เนื่องจาก ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง กัปตันทีมจอมฉาวถูกดร็อปด้วยปัญหาทางด้านวินัย และลงเล่นเกมสุดท้ายให้สโมสรนัดบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในช่วงทดเวลาเมื่อเดือนธ.ค.โดยกองหน้าทีมชาติกาบองซึ่งมีปัญหาทางด้านสุขภาพเพิ่ม และกลับจากศึก แอฟริกาคัพ ออฟ เนชั่นส์ มารายงานตัวกับ เดอะ กันเนอร์ส แล้วถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองในห้านาทีสุดท้ายแทน อเล็กซงด์ ลากาแซ็ตต์

         "ฟิออเรนติน่า ตอบรับข้อเสนอจาก อาร์เซน่อล 80 ล้านยูโร (67ล้านปอนด์) บวกกับโบนัสแล้ว" โอเค กัลโช่ แมร์คาโต้ เผยเมื่อ 19 ม.ค.

         กระนั้นก็ดี สื่อเจ้าดังกล่าวเสริมว่า วลาโฮวิช ตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ใน เซเรียอา เช่นกันแบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญากับ วิโอล่า ท้ายซีซั่น 2022/23

          ต่อกรณีดังกล่าว คาดว่านักเตะจะยินดีจ่ายค่าปรับให้กับทีม ม้าลาย เพื่อยกเลิกข้อตกลงที่เคยลงน้ำหมึกเอาไว้เมื่อสามเดือนก่อน

          ทั้งนี้ อาร์เซน่อล กำลังจะประสบกับปัญหาไร้ศูนย์หน้าเนื่องจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ ลากาแซ็ตต์ กำลังจะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ซึ่งทำให้พวกเขาจะเหลือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เป็นหัวหอกขนานแท้แค่รายเดียวเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็จะต้องตกลงสัญญาส่วนตัวกับ วลาโฮวิช ให้ได้ด้วย แม้ ฟิออเรนติน่า จะยอมขายดาวดังให้แล้วก็ตาม
#2854


สื่อเมืองผู้ดีเผย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตัดสินใจเรื่องอนาคตค้าแข้งแล้ว หาก แมนฯ ยูไนเต็ด วืดตั๋วไป แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังส่งตัวแทนเข้าไปคุยกับซีอีโอคนใหม่

    คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส จะขออำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจบฤดูกาลนี้ หาก "ปีศาจแดง" ไม่สามารถคว้าโควตาไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ตามรายงานจากสื่ออังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา

    โรนัลโด้ วัย 36 ปี เพิ่งย้ายจาก ยูเวนตุส กลับมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รอบสองในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญาค้าแข้งที่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเวลา 2 ปี จนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2023 พร้อมเงื่อนไขสามารถขยายได้อีก 1 ปี

    รายงานระบุว่า ตัวแทนของ โรนัลโด้ และ ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอคนใหม่ของ "ปีศาจแดง" ได้มีการพูดคุยร่วมกันในสัปดาห์นี้ หลังทีมงานของดาวเตะฝอยทองกังวลกับแนวทางของสโมสรที่ช่วงหลังทำผลงานไม่ดีจนเวลานี้หล่นมารั้งอันดับ 7 ในตาราง พรีเมียร์ลีก แล้ว

    โรนัลโด้ ที่จะมีอายุ 37 ในเดือนหน้าต้องการค้าแข้งไปจนถึงอายุ 40 ปี และอยากได้แชมป์อีก รวมทั้งได้ลงเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป

    ก่อนหน้านี้ โรนัลโด้ เคยยอมรับว่า คงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ติด 3 อันดับแรกของตารางคะแนน

    "ผมไม่อยากมาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะเป็นอันดับ 6, อันดับ 7 หรืออันดับ 5 หรอกนะ ผมมาที่นี่เพื่อที่จะพยายามเป็นแชมป์ให้ได้ เพื่อที่จะได้ขับเคี่ยวอย่างดุเดือด"

    "ที่ผ่านมาผมคิดว่าเราต่อกรกับคู่แข่งได้ก็จริง แต่เราก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ดีที่สุดของเรา ถึงกระนั้นเราก็ยังมีเวลากันอีกเยอะเพื่อที่จะพัฒนาสิ่งต่างๆ และผมก็เชื่อว่าถ้าเราเปลี่ยนแนวคิดของเราแล้วล่ะก็ เราก็มีโอกาสที่จะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ได้" โรนัลโด้ เผย
#2855
รัฐบาลลดค่าจดทะเบียนการโอน-จำนองอสังหาฯ เหลือ 0.01% เริ่มมีผลวันนี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม 4 ฉบับ กำหนดให้มีการลดค่าการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% และค่าจดทะเบียนจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ซึ่งจะช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 รักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือให้ลูกหนี้มีสภาพคล่อง และผู้ประกอบการกลับมาประกอบธุรกิจได้เร็วขึ้น

สำหรับการปรับลดค่าจดทะเบียนโอนและจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งผ่านการอนุมัติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 กรณี

กรณีแรก เพื่อลดภาระให้กับประชาชนที่มีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยออกประกาศ 2 ฉบับ มีผลเป็นการลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดินกรณีอาคารที่อยู่อาศัย (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านแถว) หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว และห้องชุดในอาคารชุด ซึ่งจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด โดยราคาซื้อขายและประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท และมีการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน โดยในส่วนนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2565
โดยกระทรวงการคลังได้ประเมินว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายอสังหาฯ มูลค่าประมาณ 2.91 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มการบริโภคในประเทศได้ 7.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มการลงทุนประมาณ 1.35 แสนล้านบาท และส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.58%

"มาตรการในส่วนนี้ จะช่วยบรรเทาภาระให้ผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่ไม่สูงมาก รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาฯ ในสถานการณ์โควิด-19" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
กรณีที่ 2 เป็นมาตรการลดค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งส่วนนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศ 2 ฉบับ มีผลเป็นการลดค่าจดทะเบียนโอนและจดจำนองในอัตราเดียวกันกับกรณีแรก คือ เหลือ 0.01% สำหรับกรณีที่มีการโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างลูกหนี้ซึ่งรวมถึงผู้ค้ำประกัน กับสถาบันการเงินหรือกับบริษัทที่มิใช่สถาบันการเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต บริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพ บริษัทสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ธุรกิจให้เช่าซื้อ ให้เช่าแบบลีสซิ่ง เป็นต้น โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2565 -31 ธ.ค. 2569 เป็นเวลา 5 ปี
กระทรวงการคลังได้ประเมินว่า การดำเนินการมาตรการดังกล่าว จะช่วยเหลือให้ลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือจนมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และสามารถฟื้นฟูฐานะและกิจการ สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ส่วนเจ้าหนี้และระบบสถานบันการเงินในภาพรวม มีต้นทุนลดลงและสามารถให้สินเชื่อแก่ประชาชนและธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น
#2857
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของแคนาดาพุ่งทะลุ 2.8 ล้านราย

สถานีโทรทัศน์ CTV News ของแคนาดารายงานว่า แคนาดาตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 23,586 รายในวันจันทร์ (17 ม.ค.) ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศปรับตัวขึ้นสู่ 2,801,446 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 30,946 ราย

ทั้งนี้ รัฐออนแทรีโอ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศ รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,521 รายและเสียชีวิตอีก 22 รายในวันเดียวกัน ขณะที่ รัฐควิเบก ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของแคนาดา ยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,400 รายและเสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย

เด็กและวัยรุ่นอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนพุ่งขึ้นแบบต่อเนื่องทั่วประเทศ โรงพยาบาลหลายแห่งเผชิญการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ป่วยวัยเยาว์ที่ติดเชื้อไวรัสโอมิครอน

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ นักเรียนนักศึกษาหลายล้านคนของแคนาดาเริ่มไปโรงเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ ขณะที่ รัฐ 4 รัฐในแคนาดา ได้แก่ ออนแทรีโอ, ควิเบก, แมนิโทบา และโนวาสโกเชีย พยายามรักษาห้องเรียนให้ปลอดภัยจากความเสี่ยงของโควิด-19 และการขาดแคลนเจ้าหน้าที่เพราะไวรัสโอมิครอน

การเร่งตรวจหาเชื้อด้วยวิธีแอนติเจนและยกระดับคุณภาพอากาศในโรงเรียนถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่รัฐบาลระดับท้องถิ่นได้ดำเนินการ ก่อนการเปิดชั้นเรียนอีกครั้ง ขณะที่การทำงานบางส่วนยังคงดำเนินต่อไป

อย่างไรก็ดี เหล่าผู้ปกครองและสหภาพครูได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลว่า ความพยายามเหล่านี้อาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ชั้นเรียนปลอดภัยและรับประกันการเรียนการสอนในโรงเรียน

ขณะนี้ รัฐบาลแคนาดาพยายามเร่งหาหนทางรับมือกับโควิด-19 โดยเมื่อวันจันทร์ แคนาดาได้อนุมัติการใช้งานยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ชนิดเม็ดสำหรับรับประทานของบริษัทไฟเซอร์ เพื่อใช้รักษาบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ป่วยเล็กน้อยถึงปานกลางจากโควิด-19
#2858
'ลลิล พร็อพเพอร์ตี้' ประกาศแผนธุรกิจปี 65 เตรียมเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง 10 - 12 โครงการ มูลค่า 7,000 - 8,000 ล้านบาท

ลลิลฯ ประกาศแผนธุรกิจปี 2565 เดินหน้าขยายธุรกิจ มุ่งสู่การเป็น National Housing Company และผู้นำของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบของประเทศ ตั้งเป้าเติบโตโดดเด่นเหนือภาพรวมตลาดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยในปี 2565 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 10 - 12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 - 8,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ 8,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 7,200 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 10% จากผลงานที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา

สำหรับผลประกอบการปี 2564 แม้จะเป็นปีที่ต้องเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นหลายระลอก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมในวงกว้าง ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยมีการชะลอตัวลงจากปี 2563 ทั้งในแง่อุปสงค์และอุปทาน แต่สำหรับ ลลิลฯ ซึ่งเน้นการทำตลาดแนวราบที่เป็น Real Demand ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น ประกอบกับการนำเสนอโครงการที่เข้าถึง Customer Insight อย่างแท้จริง ทั้งการคัดสรรทำเลที่มีศักยภาพ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างความสามารถในการแข่งขันในด้านต่างๆ อย่างมุ่งมั่น ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อช่วงต้นปี 2564

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr.Chaiyan Chakarakul, Chairman of Executive Board, Lalin Property Plc.) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ที่ผ่านมาว่า เป็นปีที่เกิดรูปแบบการฟื้นตัวที่ขาดสมดุลขึ้น หรือการฟื้นตัวแบบ K-Shaped เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีการฟื้นตัวได้ดี โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2564 จะกลับมาขยายตัวได้ราว 5.9% จากที่หดตัว 3.1% ในปี 2563 ในขณะที่เศรษฐกิจของอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยมีการฟื้นตัวที่ช้า โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวได้เพียงเล็กน้อยที่ราว 1% จากที่หดตัวถึง 6.1% ในปี 2563 ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ากังวล

สำหรับปี 2565 นี้ คาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมของไทยจะขยายตัวได้ราว 3 - 4% ซึ่งถือว่ายังไม่กลับไปสู่ระดับปกติในช่วงก่อนเกิดการะบาด ทั้งนี้เศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงในเรื่องของการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ ตลอดจนการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก นำไปสู่การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศ ในขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศที่ยังอ่อนแอจากผลกระทบของการระบาด ระดับหนี้ครัวเรือนที่ทรงตัวในระดับสูง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดีภาคอสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่ได้มีการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าธรรมเนียมจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทออกไปจนถึงสิ้นปี 2565 การผ่อนปรนเกณฑ์ LTV จากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงตลาดแนวราบที่ยังได้แรงหนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวสูงมาเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ดีกว่าในยุค New Normal

ทั้งนี้มองว่าแม้สภาวะเศรษฐกิจ และสภาวะอุตสาหกรรม ในปี 2565 นี้จะยังไม่เอื้ออำนวยมากนัก แต่บริษัทฯ ยังมีความเชื่อมั่นในแผนกลยุทธ์ การบริหารงาน และความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในตลาดแนวราบของบริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะเป็นอีกปีที่จะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เดินหน้าสู่การเป็น National Housing Company และก้าวสู่การเป็น 1 ใน 5 แบรนด์แรกของผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงราคา 2 - 8 ล้านบาท โดยพร้อมขยายโครงการเพิ่มเติมอีก 10 - 12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 - 8,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายยอดขายสำหรับปี 2565 นี้ไว้ที่ 8,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 7,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่ทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมาย

ด้านนายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr. Churat Chakarakul, Managing Director, Lalin Plc.) กล่าวว่า ในปีนี้ ลลิลฯ จะมีการต่อยอดการใช้กลยุทธ์ด้าน Digital Marketing เพิ่มมากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างมีศักยภาพและตรงตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน โดยได้นำ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์เกี่ยวกับ Customer Insight เพื่อนำเสนอรูปแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่เข้าถึง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ รวมไปถึงการยกระดับการบริหารจัดการระบบสารสนเทศภายในองค์กร โดยนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานในทุกภาคส่วนในองค์กร เพื่อยกระดับสู่ Digital Company อย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2565 นี้ จะยังคงให้ความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มแนวราบที่เป็น Real Demand ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุค New Normal ได้ดีกว่า เพราะมีพื้นที่สีเขียวในการผ่อนคลาย และมีพื้นที่ใช้สอยที่รองรับการใช้ชีวิต ตอบสนองความต้องการในหลากหลายรูปแบบทั้งการ Work from Home และการเรียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ทั้งในเรื่องความสวยงามด้านการออกแบบ และฟังก์ชันการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ถือเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์รายแรกที่จุดกระแสนิยมในแบบบ้านสไตล์ฝรั่งเศสในประเทศไทยด้วยการออกแบบ French Colonial Style ที่นำความงดงามของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่เรียบหรูมาประยุกต์เข้ากับการสร้างสรรค์ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตสังคมเมือง บนทำเลศักยภาพในราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้

ทั้งนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ Lalin The Next เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เพื่อคนไทย พร้อมมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบใหม่ที่ดีกว่า ที่รวม 3 แนวทางหลักเพื่อสร้างการเติบโตจากปัจจุบันสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย Next Dynamic Sustainable การบริหารโดยยึดหลัก ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเป็นองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมองเห็นคุณค่าในการประหยัดพลังงาน มีการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีการสนับสนุนช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ทั้งยังดำเนินกิจการด้วยหลักจริยธรรม ยุติธรรม และโปร่งใส มีการดำเนินกิจการที่ดีเพื่อสร้างผลประกอบการที่ดี โดยมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความยั่งยืนต่อไป ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรต่างๆ รวมถึงตัวองค์กรเองด้วย Next Living Experience มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อลูกค้า เฟ้นหาที่ตั้งโครงการในทำเลศักยภาพ สร้างสรรค์การออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมและดีไซน์ที่ทันสมัยในวิสัยทัศน์แห่ง Trend setter เลือกสรรวัสดุคุณภาพในการก่อสร้างและตอบโจทย์ในเรื่องของฟังก์ชัน สะท้อนทุกๆการใช้ชีวิตในแบบที่ลูกค้าต้องการ พร้อมส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพ สร้างประสบการณ์ใหม่ในการอยู่อาศัย รวมทั้งใส่ใจการบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตอีกระดับให้กับครอบครัวลลิล โดยได้นำเสนอนวัตกรรมการอยู่อาศัย LI (Lalin Innovation for Living) ที่ครอบคลุม 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.LI-Smart & Security เสริมความสะดวกสบายและระบบรักษาความปลอดภัย 2.LI-Eco System ส่งมอบบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้าเพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน 3.LI-Lively & Healthy 'บ้านสุขภาพดี' ให้ความสำคัญต่อเรื่องการถ่ายเทอากาศ การคำนึงถึงทิศทางลมและแสงแดด และคัดสรรวัสดุที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการอยู่อาศัย และ Next Innovative Co-Creation เพราะตระหนักดีว่าสินทรัพย์ที่มีค่าสูงสุดคือ 'บุคลากร' ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในองค์กรอยู่เสมอ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ โดยมีการจัดตั้ง Lalin Academy แหล่งความรู้สนับสนุนบุคลากรในการทำงาน มีการ Training อย่างต่อเนื่อง ทั้ง New Skill, Re-Skill และ Up Skill เป็นการเตรียมพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีการใช้เทคโนโลยี Data Analytics ในการทำงานทั่วทั้งองค์กร ต่อยอดการทำงานในรูปแบบการตลาด Offline สู่ Online ได้เต็มรูปแบบ และทั้งนี้ยังนำมาปรับใช้ในเรื่องการทำงานยุค New normal ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

'ในส่วนภาพรวมสถานะด้านการเงิน กล่าวได้ว่าบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 1.4 - 1.5 เท่า รวมทั้งมีกระแสเงินสดสำรองเพื่อรองรับการขยายธุรกิจอีกกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ได้จัดสรรงบในการซื้อที่ดินไว้ประมาณ 1,100 - 1,300 ล้านบาท และพร้อมปรับเพิ่มให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจตามแผนงาน และการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ' นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวสรุป
#2859

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผันผวนในเช้าวันนี้ โดยบางแห่งถูกกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันพุธ (19 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่การปรับฐาน (Correction) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,401.43 จุด ลดลง 65.80 จุด หรือ -0.24%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,556.23 จุด ลดลง 1.95 จุด หรือ -0.05% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,263.15 จุด เพิ่มขึ้น 135.3 จุด หรือ +0.56%

ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดันหลังจากที่ดัชนี Nasdaq เข้าสู่การปรับฐานแล้วในวันพุธ เนื่องจากดัชนีทรุดตัวลง 10.7% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ซึ่งโดยปกติแล้วการปรับฐานจะเกิดขึ้นเมื่อดัชนีทรุดตัวลง 10% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งล่าสุด โดยดัชนี Nasdaq ร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.9% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

แจ็ค แอบลิน นักวิเคราะห์จากบริษัท Cresset Capital กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยและการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดส่งผลให้นักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากบริษัทในภาคส่วนนี้จำเป็นต้องพึ่งพาอัตราดอกเบี้ยต่ำในการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนด้านนวัตกรรม

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ของเกาหลีใต้, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนธ.ค. ของญี่ปุ่น และอัตราว่างงานเดือนธ.ค. ของออสเตรเลียในวันนี้
#2860
BRI เผยยอดพรีเซลปี 64 ทุบสถิติรับเปิดโครงการใหม่-ดีมานด์แนวราบแข็งแกร่ง

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงไตรมาส 4/64 ยังคงมีดีมานด์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้มีสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่จากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 2.01 พันล้านบาท ส่งผลให้มียอดพรีเซลรวมในปีที่ผ่านมาสูงกว่า 8.3 พันล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ

ปัจจัยที่สามารถทำยอดพรีเซลได้ดี มาจากการจัดแคมเปญเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบ 6 โครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ผ่านมา อาทิ โครงการไบรตัน บางปะกง, โครงการบริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น เป็นต้น ส่งผลให้สามารถทำยอดพรีเซลได้กว่า 500 ล้านบาท ในช่วง 2 วันของการจัดแคมเปญ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28% ของยอดขายทั้งหมดในช่วงไตรมาส 4/64 เนื่องจากศักยภาพโครงการใหม่ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีการพัฒนาแบบบ้านและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์วิถีชีวิต New Normal ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจพิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบในโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น รวมถึงภาครัฐได้ผ่อนปรนมาตรการ LTV (Loan to Value) หรือการกำหนดอัตราส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน

"ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราพบว่าผู้บริโภคสนใจเลือกซื้อบ้านและทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยโครงการของบริทาเนียได้พัฒนาแบบบ้าน ฟังก์ชัน พื้นที่ส่วนกลาง ให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภค" นางศุภลักษณ์ กล่าว
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันประเมินภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 65 ยังมีแนวโน้มเติบโตจากปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ภาคการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ เช่น การผ่อนปรนมาตรการ LTV มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง เป็นต้น จะส่งผลให้ผู้บริโภคมีความสามารถในการซื้อบ้านได้เพิ่มขึ้น และจากสถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นและมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างและความสามารถการทำกำไรของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการซัพพลายเชน ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัสดุก่อสร้างจากผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ในราคาที่สมเหตุสมผล จนถึงการดูแลการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการส่งมอบที่อยู่อาศัยแก่ลูกค้า

"แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดในประเทศยังมีความไม่แน่นอน แต่เรามองว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตและมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องพัฒนาแบบบ้านและฟังก์ชันให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิด Human Centric เน้นลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง มุ่งเน้นการศึกษาทำความเข้าใจพฤติกรรมและปัญหาในการอยู่อาศัย และนำสิ่งเหล่านั้นมาวิเคราะห์พัฒนาแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย มีฟังก์ชันใช้สอยที่สามารถตอบสนองความต้องการและช่วยแก้ไขปัญหาในการอยู่อาศัย รวมถึงมุ่งเน้นคัดเลือกที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ติดถนนใหญ่, ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น" นางศุภลักษณ์ กล่าว