• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Hanako5

#3401


ความคืบหน้ามาตรการเยียวยาล็อกดาวน์ เยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ประกอบด้วย

กลุ่ม 10 จังหวัดแรก ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและ สงขลา

กลุ่ม 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา

กลุ่ม 16 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี   สมุทรสงคราม  สุพรรณบุรี   เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์  ราชบุรี  อ่างทอง  นครนายก  ปราจีนบุรี  ลพบุรี  ระยอง สิงห์บุรี   สระบุรี  นครราชสีมา  เพชรบูรณ์  ตาก 

ภายใต้เงื่อนไขผู้ประกันตนมาตรา 33 ลูกจ้างและ นายจ้าง ต้องประกอบอาชีพใน 9 กลุ่มกิจการที่รัฐบาลประกาศให้หยุด ปิดสถานที่ ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 และ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องประกอบอาชีพอิสระในพื้นที่ 29 จังหวัดและจ่ายเงินสมทบครบถ้วนตามเงื่อนเวลาที่กำหนด 


สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยไทม์ไลน์จ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนกลุ่มต่างๆ ดังนี้  


ผู้ประกันตน ม.33 

16 จังหวัดหลัง ใน 9 กลุ่มอาชีพ โอนเงิน 20 ส.ค. 64 จำนวน 2,500

ผู้ประกันตน ม.39

10 จังหวัดแรก+3 จังหวัด โอนเงิน 23 ส.ค. 64 จำนวน 5,000

ผู้ประกันตน ม.40 

10 จังหวัดแรก+3 จังหวัด โอนเงิน 24 ส.ค. 64 จำนวน 5,000

ผู้ประกันตน ม.39-40 

16 จังหวัดหลัง โอนเงิน 24 ส.ค. 64 จำนวน 5,000
#3402


ไอสต็อค (iStock) เอาใจคนไทย เปิดให้สามารถค้นหาด้วยวลีภาษาไทยเช่น 'ชาไทย', 'ดอกบัว' และ 'กรุงเทพมหานคร' ได้แล้ว หลังจากที่รายการคำศัพท์ของ iStock ได้รับการแปลให้เป็นภาษาท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบ

แกรนท์ ฟาร์ฮอลล์ (Grant Farhall) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ iStock กล่าวว่าทุกภาษาล้วนมีบางคำหรือวลีที่ยากต่อการแปลเป็นภาษาอังกฤษอยู่เสมอ เช่นเดียวกับภาษาไทย บริษัทจึงพิจารณาความหมายโดยนัยที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของวลียอดนิยมต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างถี่ถ้วน และได้บรรจุวลีเหล่านี้ไว้ในรายการคำศัพท์ของ iStock การเล่าเรื่องด้วยภาพนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารแบบดิจิทัลและการสื่อสารผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในประเทศไทย สิ่งนี้ก่อให้เกิดการใช้งานรูปถ่ายและวิดีโอลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ธุรกิจไทยสามารถสร้างแรงดึงดูดในช่องทางโซเชียลมีเดียยอดนิยมต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ยิ่งกว่าเดิม

"ประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดสำหรับ iStock เรามุ่งมั่นที่จะเจาะตลาดในประเทศไทยให้ลึกยิ่งกว่าเดิม เพื่อทำให้ธุรกิจไทยสื่อสารกับลูกค้าของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยราคาที่จับต้องได้มากกว่าเดิม ซึ่งขั้นตอนต่อไปของเราก็คือการนำเสนอประสบการณ์ที่ปรับให้เข้ากับท้องถิ่นยิ่งกว่าเดิมผ่านการสนับสนุนและการวิเคราะห์ด้านภาษา"

iStock นิยามตัวเองเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทางภาพในราคาที่จับต้องได้ สำหรับเหล่านักสร้างสรรค์, ผู้ประกอบการ, นักศึกษา และธุรกิจขนาดย่อมต่าง ๆ นั้นได้ประกาศเปิดตัวเว็บไซต์ iStock ภาษาไทยในวันนี้ การนำเสนอบริการใหม่นี้สืบเนื่องมาจากการใช้รูปถ่ายและวิดีโอของธุรกิจไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มขึ้นของเหล่าบริษัทการสื่อสารทางภาพในเอเชีย

"iStock ได้รับฟังเสียงของลูกค้าและตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาการให้บริการในรูปแบบภาษาท้องถิ่นของบริษัท เพื่อทำให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถค้นหาภาพถ่ายสต็อก, คลิปวิดีโอ และองค์ประกอบด้านการออกแบบต่าง ๆ ได้ด้วยการใช้คำหรือวลีภาษาไทย ธุรกิจไทยจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมขณะทำการค้นหาภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพจาก iStock ด้วยการให้บริการเครื่องมือค้นหาที่ใช้งานได้ด้วยภาษาไทยอย่างแท้จริง" แถลงการณ์ระบุ

นอกจากความสามารถด้านภาษาแล้ว บริษัทระบุว่าฟังก์ชันการค้นหายังได้รับการปรับปรุงเพื่อให้รายงานผลลัพธ์ได้ตามรูปแบบการใช้งานของประเทศ การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ลูกค้า iStock นับหลายพันรายในประเทศไทยสามารถค้นหาองค์ประกอบงานสร้างสรรค์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าที่เคยเป็นมาจากรูปถ่าย, วิดีโอ และภาพประกอบพรีเมี่ยมนับล้าน

ปัจจุบัน iStock นำเสนอภาพถ่ายสต็อก, วิดีโอ และภาพประกอบกว่า 135 ล้านรายการจากกลุ่มคนต่าง ๆ และให้บริการด้วยการคิดค่าบริการที่เรียบง่ายและจับต้องได้ iStock ที่อาศัยความเชี่ยวชาญด้านภาพของ Getty Images นั้นได้ช่วยให้เหล่านักสร้างสรรค์กับธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่รายต่าง ๆ สามารถสร้างการสื่อสารที่งดงามได้ตามงบประมาณของตนเอง

เมื่อนับรวมการเปิดตัวครั้งนี้ iStock ได้รองรับ 18 ภาษานอกเหนือจากภาษาอังกฤษในขณะนี้ ซึ่งภาษาต่าง ๆ ที่รองรับนั้นได้แก่: เช็ก, ฝรั่งเศส, อิตาเลียน, เยอรมัน, สเปน, โปรตุเกส (โปรตุเกส), โปรตุเกส (บราซิล), โปแลนด์, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ดัตช์, สวีเดน, ตุรกี, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และจีนตัวเต็ม (ฮ่องกง).
#3403
โซฟา แต่ก่อนนั้นอาจจะมีหน้าที่เป็นแค่ไว้รับแขก สำหรับไว้ให้เพื่อนฝูงหรือใครไปใครมาไว้ สำหรับในการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ นั่งพูดคุยเป็นเพียงแค่เฟอร์นิเจอร์ในบ้านเราแต่เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เก้าอี้นั่งอย่างเดียวเท่านั้น เราสามารถที่จะปรับเปลี่ยน โซฟา ที่เป็นเพียงแค่เฟอร์นิเจอร์ธรรมดา ให้กลายเป็นอุปกรณ์ของตกแต่งบ้านที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่า ปัจจุบันนี้ โซฟาปรับนอน ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เรานั้นสามารถทำประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่อยู่คอนโด คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่สำหรับการจะมีห้องนอนไว้รองรับกับเพื่อนที่มาเที่ยวหรือผู้ที่พักผ่อนที่ห้องของเรา การเลือกเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ไว้ในห้องจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก

โซฟาเบด ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนใช้งานได้หลากหลายชนิด นอกจากจะเป็นเก้าอี้ในการนั่งรับรองแล้ว เรายังปรับเปลี่ยนให้เป็นที่นอนไว้สำหรับรองรับแขกผู้มาเยือนหรือผู้ที่มาเที่ยวที่บ้านหรือห้องเราได้ โดยปกติแล้วเราจะไม่ได้เตรียมห้องนอนไว้สำหรับรองรับแขกมากนัก โดยสถานที่ที่จำกัดและสถานที่ไม่เอื้ออำนวย การปรับเปลี่ยนห้องรับแขกเล็ก ๆ ของเราให้กลายเป็นห้องนอนไว้สำหรับบริการเพื่อนฝูงหรือคนทั่วไปได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และบางครั้งเราอาจจะใช้ โซฟาปรับนอน ในการพักผ่อนหย่อนใจสำหรับตัวเราเองได้อีกด้วย

การนอนดูทีวีที่ห้องรับแขกจะไม่ใช่เป็นเรื่องที่แปลกอีกต่อไป เราสามารถใช้ โซฟาเบด ในการปรับให้เหมาะสมกับตัวเรา ปัจจุบันทีวีขนาดจอใหญ่กลายเป็นชุดโฮมเธียเตอร์เล็ก ๆ สำหรับห้องเราไปเป็นที่เรียบร้อย จะนั่งดูทีวีแบบธรรมดาบนเก้าอี้โดยทั่วไปก็คงจะไม่ตอบโจทย์ให้กับชีวิตในวันพักผ่อนของเรามากนัก การเลือกใช้ โซฟาปรับนอน ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตของเราเป็นที่สุด

เลือกเฟอร์นิเจอร์หรือเลือกการตกแต่งบ้านทั้งที ควรเลือกให้ได้ประโยชน์หลายช่องทาง อย่างการเลือก โซฟาปรับนอน ก็ถือว่าเป็นการเลือกเฟอร์นิเจอร์มาไว้ที่บ้านอย่างชาญฉลาดด้วยเช่นกัน ยุคนี้สมัยนี้เขานิยมแบบนี้กันหมดแล้ว แถมด้วยราคาประหยัดและใช้งานได้ดี คุณเองก็ควรหา โซฟา แบบนี้มาติดบ้านไว้สักอันก็ดีไม่น้อย
#3404


ในยุคที่ผู้คนใช้เครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันจนคล้ายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้ว ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเวลาเข้านอน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ในภาวะที่การเดินทางระหว่างประเทศก็เป็นไปได้ยาก บางรายอาจไม่ทราบวิธีการเข้าถึงข้อมูลด้านการค้า ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน การมีข้อมูลที่มากกว่าจะช่วยให้เราสามารถวางแผน ตัดสินใจ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DITP Overseas เป็นบริการของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ โดยรวบรวมข้อมูลความรู้ด้านการค้า และเทรนด์สินค้าใหม่ๆ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 32 แห่ง ใน 6 ภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรป และCIS ภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลาง

โดยข้อมูลของ DITP Overseas เหล่านี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ ย่อย และนำเสนอให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเอกสารข้อมูล ภาพ เสียง และโมชั่นกราฟฟิก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้พิจารณาปัจจัยแวดล้อมของแต่ละตลาดสินค้าที่สนใจ สร้างโอกาสและต่อยอด เพื่อประโยชน์ด้านการค้าของตนเองต่อไป

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กำลังพัฒนาคู่มือการค้าของทั้ง 27 ประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจตลาดใน 6 ภูมิภาคนี้ ช่องทางในการค้นหาข้อมูลการค้าได้สะดวก โดยสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อสมัครสมาชิก และรับข่าวสารกิจกรรมด้านการค้าและรับสิทธิในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทางการค้าจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 32 แห่งได้ง่ายๆ ในรูปแบบกิจกรรมสัมมนาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญตลาดการค้าในแต่ละประเทศ หรือกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์

โดยระบบการจัดเก็บรายชื่อดังกล่าว ยังช่วยเอื้อประโยชน์ให้สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และสามารถนำเสนอข้อมูลต่อไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศที่สนใจได้โดยตรงอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลสำคัญด้านการค้าเหล่านี้ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์มได้ทาง

FB: DitpOverseas https:// www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube: DITP Overseas
Website: https:// ditp-overseas.com/
#3405


เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ (16 ส.ค.) นายณฐนนท์ ชลลัมพี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด ในฐานะผู้ผลิตละครเรื่อง ให้รักพิพากษาพร้อมด้วยนายกรรชัย กำเนิดพลอย และทีมงานผู้ผลิตละครเรื่องดังกล่าวได้เข้าพบ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด และนายบุญเกียรติ อุดมแสวงโชค ผู้ตรวจการอัยการ ที่ห้องรับรอง ชั้น 9 สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการผลิตละครเรื่อง ให้รักพิพากษา ซึ่งออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีสี ช่อง 3 ว่า ผู้สร้างมิได้มีเจตนาที่จะเขียนบทออกมาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพนักงานอัยการแต่อย่างใด หากแต่เป็นบทบาทที่บทละครใส่รายละเอียดลงไปให้ละครน่าติดตามมากยิ่งขึ้นเท่านั้น



ซึ่งอัยการสูงสุด ได้แจ้งกับ นายณฐนนท์ ชลลัมพี และทีมงานที่เข้าพบว่า ได้ดูคลิปบางช่วงบางตอนของละครเรื่องดังกล่าวแล้ว เห็นว่า มีบทละครที่นักแสดงผู้รับบทเป็นพนักงานอัยการที่แสดง ไม่ได้สอดคล้องกับหลักกฎหมายและระเบียบองค์กรอัยการ ซึ่งอาจส่งผลต่อสังคมให้เข้าใจผิดในบทบาทและภารกิจขององค์กรอัยการที่เป็นหน่วยงานหลักในกระบวนการยุติธรรม เมื่อทางผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตละครได้มาชี้แจงและหาทางแก้ไขร่วมกัน ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยเฉพาะบทบาทของพนักงานอัยการที่สำคัญประการหนึ่งคือการประนีประนอมไม่ให้มีข้อพิพาทในสังคมรวมอยู่ด้วย

ด้านนายณฐนนท์ ชลลัมพี ได้ชี้แจงต่ออัยการสูงสุด พร้อมฝากไปถึงพนักงานอัยการทุกท่านว่า หากบทละครสร้างความไม่สบายใจและสร้างความสับสนให้แก่ประชาชน ทางผู้ผลิตละครขอน้อมรับคำติชมและคำวิจารณ์ทุกอย่าง แต่เนื่องจากละครได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นทุกตอนแล้ว ทั้งอยู่ระหว่างมาตรการของรัฐไม่ให้ดำเนินการถ่ายทำละครอีก



ผู้ผลิตละครพร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการใส่ข้อความชี้แจงก่อนละครจะเผยแพร่ครั้งต่อไปว่า ตัวละคร และ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในละครเรื่อง ให้รักพิพากษา เป็นเรื่องราวสมมุติ ถูกเติมแต่ง และเป็นสถานการณ์เฉพาะบุคคล เพื่ออรรถรสของละคร โดยมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพใด ๆ และมิได้มีเจตนาชี้นำ ชักจูง และเกิดทัศนคติในทางลบต่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากบทละครหรือบทบาทการแสดงของนักแสดงกระทบต่อบทบาท ภาพลักษณ์ของพนักงานอัยการ และองค์กรอัยการ ทางผู้ผลิตละครถือโอกาสขอโทษมา ณ โอกาสนี้

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก อสส.เปิดเผยต่อว่าภายหลังเข้าพบอัยการสูงสุดเเล้ว ทีมผู้จัดละครยังได้เข้าพบ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)เพื่อชี้เเจงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวให้ นาย พชรในฐานะ ประธาน ก.อ.ได้รับทราบ ซึ่งเรื่องนี้นายพชรซึ่งได้รับคำชี้เเจงดังกล่าวเเล้วก็เข้าใจเเละทราบว่าเรื่องนี้เป็นเพียงละคร เเต่ในฐานะประธาน ก.อ.ซึ่งได้รับเสียงสะท้อนในผลกระทบจากน้องๆอัยการทั่วประเทศ เมื่อมีการมาพบพูดคุยกันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ซึ่งเมื่อมีข้อผิดพลาดมีปัญหาข้อขัดข้องก็ได้เข้ามาพูดคุยเเเละเข้าใจตรงกัน
#3406


นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.34% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128.57% จากระยะเวลาเดียวของปี 2563 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท โดยการเติบโตของกำไรสุทธิทั้งในไตรมาสที่ 2 และ 6 เดือนแรกของปีนี้ นอกจากจะมาจากการค่อยๆ ฟื้นตัวของรายได้ 3 ธุรกิจหลักแล้ว ยังมาจากการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

ทั้งนี้ CPL ประกอบธุรกิจ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสำเร็จรูป ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 61% ธุรกิจรับฟอกหนัง ซึ่งแบ่งเป็นการฟอกหนังวัวและการฟอกหนังหมู คิดเป็นสัดส่วน 3% ของรายได้รวม และธุรกิจการผลิตและจำหน่ายรองเท้านิรภัยและอุปกรณ์นิรภัย ภายใต้แบรนด์ "แพงโกลิน" (Pangolin) คิดเป็นสัดส่วน 36% ของรายได้รวม

"ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสำเร็จรูป ในไตรมาสที่ 2 มีรายได้ 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% จากปีก่อน ขณะที่ 6 เดือนแรกปี 2564 มีรายได้ 577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.70% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ลูกค้าสั่งซื้อหนังสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดขายยังไม่ได้เติบโตอย่างเต็มที่และยังมีความไม่แน่นอนในตลาด ทำให้ในไตรมาสนี้เรายังดำเนินนโยบายควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายต่างๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพในสายงานผลิต อย่างเคร่งครัด ทำให้ภาพรวมดูดีขึ้น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPL กล่าว

ทางด้านธุรกิจการฟอกหนัง ในส่วนของการฟอกหนังวัว ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ลูกค้ายังชะลอการนำเข้าเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ขณะที่การรับฟอกหนังหมูมีทิศทางที่ดี เนื่องจากมีการฟอกส่งไปยังประเทศจีนมากขึ้น โดยในไตรมาสนี้สามารถทำยอดได้สูงกว่างบประมาณที่วางไว้ แต่ยังคงต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์ในระยะยาวอย่างใกล้ชิด โดยในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจฟอกหนัง 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.50% และในงวด 6 เดือนแรก มีรายได้ 82 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 13.68% อย่างไรก็ตาม จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจฟอกหนังในไตรมาสที่ 2 ที่ 26 ล้านบาทและงวด 6 เดือนที่ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 225% และ 66.67% ตามลำดับ

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายรองเท้านิรภัยและอุปกรณ์นิรภัย หรือเซฟตี้ โปรดักต์ ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ มีรายได้จากรองเท้านิรภัยและอุปกรณ์นิรภัย 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.36% และงวด 6 เดือนมีรายได้ 337 ล้านบาท ลดลง 0.88% เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายของรองเท้านิรภัยลดลงกว่าแต่ก่อน ตามกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มหดตัวจากการปรับลดคนงาน รวมถึงนโยบายการประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ยอดขายของอุปกรณ์นิรภัยและงานบริการได้เพิ่มสูงขึ้นมากทำให้สามารถชดเชยการขาดหายไปของยอดขายรองเท้านิรภัยได้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPL กล่าวด้วยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา CPL ได้ขยายไปสู่การทำตลาดสินค้าในกลุ่มแฟชั่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผนึกกับพันธมิตรผลิตรองเท้าหนังแนวสตรีท แบรนด์ PLY ที่ทำตลาดได้ดีในกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ รวมถึงการนำใช้วัตถุดิบหนังจากโรงงานมาผลิตเป็นกระเป๋าแบรนด์ Galavela เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่นิยมกระเป๋าหนังที่มีสีสันสดใส ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้สร้างยอดขายอย่างมีนัยสำคัญให้ CPL เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านกำลังซื้อในตลาด แต่ถือเป็นการขยายตลาดไปสู่สินค้าที่เป็น End Product ด้วยวัตถุดิบและเทคโนโลยีการผลิตที่มีอยู่แล้ว และเป็นการฝึกทักษะด้านการขายและการทำตลาดใหม่ๆ ให้พนักงานอีกด้วย

สำหรับปัจจัยท้าทายในครึ่งหลังของปีนี้ยังคงต้องจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งหวังว่าแนวโน้มจะดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป เพราะจะทำให้ออเดอร์ผลิตหนังสำเร็จรูปกลับเข้ามาอีกครั้ง แม้จะยังไม่เรียกว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ตาม ขณะเดียวกัน แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกผลิตหนังสำเร็จรูปของ CPL แม้ว่าจะต้องนำเข้าวัตถุดิบ แต่เชื่อว่าจะสามารถควบคุมต้นทุนการนำเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"ส่วนความคืบหน้าหลังจาก CPL จัดตั้งบริษัท ซีพีแอล เวนเจอร์ พลัส ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ เพื่อศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ในการเข้าไปลงทุนเพื่อสร้าง New S-Curve ขณะนี้มีความคืบหน้าในหลายๆ ธุรกิจ ทั้งธุรกิจด้านนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้านเทคโนโลยี รวมถึงความร่วมมือกับศูนย์การเรียนรู้ด้านแพทย์แผนไทย ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการลงทุนในโครงการต่างๆ ได้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน และเตรียมงบประมาณลงทุนเบื้องต้นราว 50 ล้านบาทในเฟสแรก โดยคาดว่าภายในปี 2564 จะมีโครงการที่ซีพีแอล เวนเจอร์ พลัส เข้าไปลงทุนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" นายภูวสิษฏ์ กล่าว
#3407


นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน 1 ปี "ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs" หรือ บสย. F.A. Center ประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ให้คำปรึกษาช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจ จากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังขาดเงินทุนหมุนเวียน ต้องการสินเชื่อ มีปัญหาหนี้ ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ และพัฒนาธุรกิจ ให้สามารถยืนต่อได้ จำนวน 1,133 ราย (ณ 31 ก.ค. 2564) ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการขอสินเชื่อ จำนวน 782 ราย ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ธุรกิจ จำนวน 200 ราย และต้องการปรับปรุงธุรกิจ จำนวน 151 ราย



ปัจจัยความสำเร็จของศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs มาจากกลยุทธ์ คิดนอกกรอบ ยกระดับการบริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจาก "นายประกันสู่ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs" ที่มองเห็นปัญหาร่วมกัน ผสานนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ด้วย Business Model ที่ต่างไปจากเดิม โดย บสย. ได้จัดหาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน อดีตผู้บริหารระดับสูง ที่มีประสบการณ์จากสถาบันการเงินชั้นนำ คร่ำหวอดด้านการวิเคราะห์ธุรกิจผู้ขอสินเชื่อ การจัดทำบัญชีวิเคราะห์สินเชื่อ การวางแผนการเงิน บริหารสภาพคล่อง การบริหารจัดการหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมดีไซน์ รูปแบบการให้คำปรึกษาธุรกิจแบบเชิงลึก แบบเฉพาะตัว เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังประสบปัญหากู้ยาก ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ แก้โจทย์ธุรกิจ ปัญหาขาดสภาพคล่อง ได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริงและนำไปปรับปรุง วางแผนและพัฒนาธุรกิจของตนเองต่อไปได้ โดยศูนย์แห่งนี้ยังได้เปิดหลักสูตรอบรมด้านการเงินและธุรกิจ ที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ มากกว่า 50 หลักสูตร อาทิ ด้านธุรกิจ กฎหมาย การเงิน บัญชี การเตรียมตัวกู้เงิน ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านวิกฤต อย่างมั่นใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs เป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้ารับคำปรึกษาว่าสามารถช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้ นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานพันธมิตร หน่วยงานด้านกำกับดูแล ที่เกี่ยวข้องกับ SMEs และคณะผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าศึกษาดูงาน ในฐานะศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงิน SMEs แบบองค์รวม เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ด้านการให้คำปรึกษาทางการเงิน ช่วยผู้ประกอบการแก้หนี้ได้จริง ทั้งนี้ ได้เตรียมยกระดับการให้บริการ "ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs" โดยผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อร่วมให้คำปรึกษาแก้หนี้ เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs รอดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 ให้มากที่สุด

ผู้ประกอบธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาหนี้ สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษาฟรีกับ "บสย. F.A. Center" ที่ บสย. Call Center 0 2890 9999 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือติดต่อได้ที่สำนักงานเขต บสย. ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ หรือติดตามกิจกรรมการจัดหลักสูตรอบรมได้ที่หมอหนี้ บสย. ที่ Line @doctor.tcg และ www.facebook.com/tcg.or.th
#3408


วันนี้ (16 ส.ค.)​ นายสัคศิษฐ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เผยถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด -​19 ระลอก 3 ว่าได้ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะ​การท่องเที่ยวบนเกาะช้าง ที่ในวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 90% 

ส่วนที่เหลือแค่เพียง 10 % ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทีอาศัยอยู่ในประเทศไทย และลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนเท่านั้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการ​โรงแรมยังคงมีเท่าเดิม จนทำให้โรงแรมขนาดเล็ก และรีสอร์ทบางแห่ง รวมทั้งโฮมสเตย์ ต้องปิดตัวไปแล้วกว่า 40% ส่วนที่ปิดอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวเพียง 10-20 คนเท่านั้น



" แม้ในวันนี้จะมีชาวตราด ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียง1,340 คน แต่ด้วยมาตรการของ ศบค.ซึ่งผู้ประกอบการ​ท่องเที่ยวต้องปฎิบัติ​อย่างเคร่งครัดในหลายด้านก็ทำให้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย และล่าสุดสภอุาตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด จึงได้ว ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หามาตรการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวให้ลักลับคืนมาให้ได้เร็วที่สุด "

โดยเฉพาะในวันนี้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวใน อ. เกาะช้างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวไทยแม้จะเดินทางท่องเที่ยวได้แต่ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ ศบค.

" ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด พยายามที่ผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด เร่งสนับสนุนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.เกาะช้าง ให้ได้เกิน 70% ซึ่งก็ได้รับการตอบรับแล้ว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะได้หาวัคซีนเพิ่มจากหน่วยงานอื่นๆซึ่งก็ได้รับมาแล้วอย่างชิโนฟาร์ม"



นอกจากนั้นผู้กอบการยังได้สำรวจจำนวนประชากรแฝงทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าว ชาวต่างชาติ และชาวไทยที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เพื่อจะได้สร้างระบบ"SHA PLASE"ของเกาะช้าง รองรับการเปิดการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้สอดรับกับโครงการ"พัทยา มูฟออนน์"อีกด้วย
 
#3409


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนอ. (บอร์ด กนอ.) เมื่อ 11 ส.ค.ได้มีมติอนุมัติโครงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ภายใต้ชื่อนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ในรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกับ บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด พื้นที่โครงการอยู่ในตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ประมาณ 1,181 ไร่ มูลค่าการลงทุนโครงการ 4,856 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนาพื้นที่และระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกและเปิดให้บริการได้ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ เมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 33,200 ล้านบาท เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 8,300 คน

สำหรับพื้นที่โครงการอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 44 กิโลเมตร ท่าเรือแหลมฉบังประมาณ 60 กิโลเมตร และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดประมาณ 119 กิโลเมตร มุ่งเน้นรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและสมัยใหม่ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอุปกรณ์กักเก็บพลังงานไฟฟ้าประจุสูง รวมถึงกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วย

โครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ แบ่งเป็นพื้นที่ประกอบกิจการประมาณ 70% และเป็นพื้นที่สาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียวรวมประมาณ 30% โดยได้นำแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ การจัดให้มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่แนวกันชนเชิงนิเวศ (Eco-Belt) รอบพื้นที่โครงการฯ การจัดสรรพื้นที่สีเขียวภายในนิคมอุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 10% และการนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วมาปรับปรุงคุณภาพ ก่อนนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ภายในโครงการ

"เมื่อเปิดดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ แล้วคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในประเทศอีกประมาณ 33,200 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 8,300 คน ทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ โครงการฯ มีความเป็นไปได้ทางการตลาดสูง เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เป้าหมายคือพื้นที่อีอีซี โดยคาดว่าจะขายพื้นที่และให้เช่าพื้นที่ทั้งหมดได้ภายใน 4 ปี" ผู้ว่าการ กนอ.กล่าว
#3410


มาร์กอส อลอนโซ่ ซัดฟรีคิกสุดงามเบิกร่อง ช่วยให้ "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดหัวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซันใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดบ้านไล่ทุบ คริสตัล พาเลซ ไปแบบขาดลอย 3-0 ประเดิมสามแต้มแบบสบายๆ

ศึกฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 เป็นการลงสนามนัดแรกของฤดูกาล 2021/22 เกมที่น่าสนใจ "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดรับสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ

เชลซี เพิ่งได้แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2021 มาหมาดๆ จากการดวลจุดโทษชนะบียาร์รีล เกมนี้ยังไม่มีชื่อของ โรเมลู ลูกากู หัวหอกตัวใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งเปิดตัวกับทีมไปหมาดๆ ซึ่งยังไม่ได้ลงซ้อม โดย 11 คนแรก นำทัพโดย ติโม แวร์เนอร์, เมสัน เมาท์, มาร์กอส อลอนโซ่, จอร์จินโญ

ขณะที่ คริสตัล พาเลซ ของกุนซือ พาทริค วิเอร่า ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องล่าสุดเอาชนะ วัตฟอร์ด มา 3-1 เกมนี้นำทัพมาโดย วิลฟรีด ซาฮา, คริสเตียน เบนเตเก, นาธาเนียล ไคลน์, โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น

เจ้าถิ่นเปิดฉากบุกตั้งแต่เริ่ม และนาทีที่ 26 ความพยายามก็มาประสบผลสำเร็จ ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายของ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ปั่นโค้งๆ .เสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสุดงาม

น.40 เจ้าถิ่นนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ กระชาก.มาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลาง บิเซนเต กวยตา ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดเอาไว้ แต่.มาเข้าทาง คริสเตียน พูลิซิช วิ่งมาซ้ำดาบสองเข้าไป และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เชลซี ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และก็มาได้ประตูหนีห่าง 3-0 ในนาทีที่ 58 จากการซัดไกลสุดสวยระยะ 25 หลา ของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ปราการหลังดาวรุ่งวัย 22 ปี

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 เก็บสามคะแนนเปิดหัวพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2021/22 ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เอดูอาร์ด เมนดี (GK), เทรโวห์ ชาโลบาห์, อันเดรส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, จอร์จินโญ, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, ติโม แวร์เนอร์

คริสตัล พาเลซ : บิเซนเต กวยตา (GK), โจเอล วาร์ด, ชีคฮู คูยาเต, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์, เจฟฟรีย์ ชลุปป์, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, ไจโร ไรเดวาลด์, จอร์แดน อายิว, ฌอง-ฟิลิป มาเตตา, วิลฟรี ซาฮา


ผลฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 แมนฯ ยูไนเต็ด 5-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด
เบิร์นลีย์ 1-2 ไบร์ทตัน แอนด์ โฮล์ฟ อัลเบียน
เชลซี 3-0 คริสตัล พาเลซ
เอฟเวอร์ตัน 3-1 เซาแธมป์ตัน
วัตฟอร์ด 3-2 แอสตัน วิลล่า
#3411


เกิดเหตุวุ่นวายที่เมืองแฟรงคลิน รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังคณะกรรมการด้านการศึกษาวิลเลียมสัน เคาน์ตี ลงมติกลับมาบังคับทุกบุคคลในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่เกรด 1-12 ในนั้นรวมถึงครู ผู้บริหาร และนักเรียนกลับมาสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางเสียงคัดค้านของบรรดาผู้ปกครองและคนอื่นๆ

บรรดาผู้ปกครองของเด็กๆ ในเขตการศึกษาวิลเลียมสัน เคาน์ตี และชาวบ้านในรัฐเทนเนสซี ที่คัดค้านมาตรการบังคับสวมหน้ากาก พากันตะโกนขู่และด่าทอคณะกรรมการด้านการศึกษา ทั้งระหว่างและหลังการประชุมในประเด็นโต้เถียงดังกล่าว ตามรายงานข่าวของนิวยอร์กโพสต์

รายงานข่าวของเอ็มเอสเอ็นบีซีระบุว่า การประชุมครั้งนี้กินเวลานานถึง 4 ชั่วโมง ระหว่างนั้น 2 กลุ่มที่เห็นต่างกันได้โต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ส่วนคณะกรรมการด้านการศึกษาก็รับฟังความเห็นจากทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านบังคับสวมหน้ากาก ซึ่งสุดท้ายแล้วทางคณะกรรมการด้านการศึกษาก็ลงมติกลับมาบังคับทุกบุคคลในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

"ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร (10 ส.ค.) ในเมืองแฟรงคลิน ตอนคณะกรรมการด้านการศึกษาของวิลเลียมสัน เคาน์ตี ลงมติเห็นชอบบังคับสวมหน้ากากสำหรับโรงเรียนชั้นประถมศึกษา เนื่องจากขณะเดียวกันนั้นมีพวกผู้ประท้วงรวมตัวกันอยู่ด้านนอก" นิวยอร์กโพสต์ระบุอ้างอิงรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น



นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ระหว่างการโต้เถียงก่อนลงมติเห็นชอบมาตรการนี้ ผู้ปกครองตนเองรายหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าอดีตนาวิกโยธิน ดาเนียล จอห์นแดน บอกกับคณะกรรมการว่าเขา ผู้ปกครองคนอื่นๆ และชาวบ้านจะไล่ล่าสมาชิกคณะกรรมการในแนวทางที่ไม่ใช้ความรุนแรง "การกระทำต่างๆ มีผลลัพธ์ตามมาเสมอ หากคุณเลือกโหวตให้สิ่งนี้ เราจะไล่ล่าคุณ ในแนวทางที่ไม่ใช้ความรุนแรง" จอร์แดน กล่าว

ผู้ปกครองคนอื่นๆ ขู่ฟ้องเขตการศึกษาต่อมาตรการนี้ โดยบอกกับคณะกรรมการว่า "แล้วเจอกันในศาล" และเชื่อว่าคำสั่งบังคับสวมหน้ากากจะถูกตีตกในการยื่นคัดค้านทางกฎหมาย นอกจากนี้แล้วหลายคนได้เน้นย้ำว่าคณะกรรมการการศึกษามาจากการเลือกตั้งของชาวบ้าน ดังนั้น ก็จำเป็นต้องฟังเสียงผู้ปกครอง ซึ่งเป็นคนลงคะแนนโหวตให้พวกเขาเข้ามาทำงานบริหารจัดการเขตการศึกษา

อย่างไรก็ตาม มีผู้ปกครองอย่างน้อย 1 คน ซึ่งระบุตัวเองว่าเป็นแพทย์ดูแลผู้ป่วยหนัก แสดงความคิดเห็นสนับสนุนมาตรการบังคับสวมหน้ากาก "ในฐานะกุมารแพทย์ไอซียู เรากำลังเห็นเด็กๆ ที่มีสุขภาพแข็งแรงล้มป่วยจากภาวะการหายใจล้มเหลวและภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มากกว่าสายพันธุ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เด็กๆ ติดเชื้อกันมากขึ้น" เธอกล่าว "แนวโน้มนี้รังแต่จะแย่ลง หากว่าเราไม่ลงมือในตอนนี้"

ประเด็นโต้เถียงเริ่มร้อนแรงขึ้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยบรรเทาสถานการณ์ความตึงเครียด ร้องขอให้ผู้เข้าร่วมอยู่ในความสงบ ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ถึงขั้นต้องพาตัวบุคคลรายหนึ่งออกจากห้องประชุม

กระนั้นก็ตามความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกรอบภายนอกอาคารหลังเสร็จสิ้นการประชุม หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า พวกนักเคลื่อนไหวต่อต้านหน้ากาก พากันกรูไปยังลานจอดรถและเผชิญหน้ากับคณะกรรมการด้านการศึกษาบางคนอีกครั้ง "เรารู้ว่าคุณคือใคร" ผู้ปกครองรายหนึ่งพูดกับสมาชิกคณะกรรมการด้านการศึกษา "คุณสามารถออกไปอย่างอิสระในตอนนี้ แตเราจะหาตัวคุณเจอ"

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกคำแนะนำสวมหน้ากากยามอยู่ในโรงเรียนเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว บ่งชี้ว่าสืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาของโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วประเทศ ประชาชนทั้งหลายซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่พบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ควรสวมหน้ากากยามอยู่ในร่ม นอกจากนี้แล้วซีดีซียังแนะนำให้ทุกคนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่เกรด 1-12 สวมหน้ากาก โดยไม่พิจารณาว่าคนเหล่านั้นฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่

(ที่มา : เอ็มเอสเอ็นบีซี/นิวยอร์กโพสต์)
#3412


วันนี้ (15ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึง กล่าวถึงการจัดซื้อ Antigen test kit หรือ ATK ของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสปสช.จำนวน 8.5 ล้านชุด ให้กับคนไทยทั่วประเทศได้ตรวจฟรี ว่า ตนรู้สึกสนับสนุนในการนำงบประมาณมาใช้ในส่วนนี้ แต่กลับเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างชมรมแพทย์ชนบท องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเด็นข้อถกเถียงเรื่อง คุณภาพของชุดตรวจ ATK ที่ผลิตโดยบริษัท Beijing Lepu Medical Technology จากประเทศจีนที่ชนะการประกวดราคา ไม่ผ่านการรับรองของหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายต่างก็มีความปรารถนาดีต่อประเทศ แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นกับเรื่องเร่งด่วนที่ต้องตัดสินใจโดยเร็วที่สุด

"ผมขอเสนอทางออกให้นำชุดตรวจ ATK ของประเทศจีนที่ชนะการประกวดราคา จำนวน 1,000 ชุดมาทำการทดสอบใหม่โดยโรงพยาบาลของรัฐที่มีมาตรฐาน 5 รพ.ๆละ 200 ชุด เช่น รพ.จุฬา รพ.ศิริราช รพ.ธรรมศาสตร์ รพ.บำราศฯ และ รพ.วชิระ ให้ทำการทดสอบอย่างเร่งด่วน โดยตรวจควบคู่กับวิธี RT-PCR (Polymerase chain reaction) ผมคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 วันจะได้ผลตรวจทั้งหมด ถ้าพิสูจน์แล้วว่า ชุดตรวจ ATK มีคุณภาพ ก็สามารถสั่งซื้อตามขั้นตอนได้เลย และชมรมแพทย์ชนบทก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าคุณภาพชุดตรวจ ATK ของบริษัทนี้ไม่มีมาตรฐาน องค์การเภสัชก็ควรจะยกเลิกการประมูลในครั้งนี้ได้ โดยที่บริษัทจากจีนจะไม่สามารถฟ้องร้องได้"นพ.ระวี กล่าว
#3413


2 สิงหาคม 2564 เวลา 10.29 น. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการที่สถานีกลางบางซื่อ แบ่งเป็น 2 เส้นทาง ได้แก่ บางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร มี 10 สถานี และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร มี 3 สถานี

พร้อมกับ สถานีกลางบางซื่อ ที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางคมนาคมระบบรางที่ใหญ่ที่สุด รองรับทั้งรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในอนาคต

แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จะเปิดให้บริการจากสถานีกลางบางซื่อ เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.30 น. ตามมาตรการของภาครัฐ แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็มีแผนที่จะเปิดให้บริการไปถึงเวลา 24.00 น.

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงครั้งแรก แม้จะช้ากว่าคนอื่นบ้าง แต่ก็พยายามสังเกต และเก็บเล็กผสมน้อยเพื่อที่จะบอกเล่าคุณผู้อ่านให้ฟัง เป็นประโยชน์ในการเดินทางไม่มากก็น้อย

ถึงแม้ว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจะใช้เวลายาวนาน 12 ปี กว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง นับตั้งแต่ก่อสร้างงานโยธาช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันในปี 2552 แต่ยอมรับว่า กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทำการบ้านไว้ดีมาก

โดยเฉพาะปัญหาหลักคือ "เมื่อถึงปลายทางแล้วจะไปยังไงต่อ?" จำเป็นต้องมีระบบฟีดเดอร์ (Feeder) เชื่อมต่อกัน

นอกจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมสถานีกลางบางซื่อ กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อแล้ว องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยังเพิ่มเส้นทางรถเมล์ 4 สาย รองรับรถไฟฟ้าสายสีแดง

ขณะที่กระแสสังคม โดยเฉพาะบรรดาคนรักรถไฟ ต่างช่วยกันผลักดันรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วยกันสื่อสารและบอกต่อเพื่อให้ประชาชนสนใจทดลองใช้บริการ แม้ว่ามาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ จะทำให้ช่วงนี้ผู้โดยสารเดินทางไม่มากก็ตาม

น่าสนใจว่า รถไฟฟ้าสายสีแดงจะเติมเต็มการเดินทางและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร ขอพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง



เราตั้งต้นมาที่ สถานีชุมทางตลิ่งชัน ที่เป็นทั้งสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟทางไกลสายใต้ จากสถานีกรุงเทพและสถานีธนบุรี ถ้านั่งรถไฟจากภาคใต้หรือภาคตะวันตก ก็ลงที่สถานีนี้ และเปลี่ยนมานั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงได้

ส่วนรถประจำทาง ปัจจุบัน ขสมก. ได้เพิ่มเส้นทาง สาย 79 (เสริม) ออกจากอู่บรมราชชนนี ผ่านสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ผ่านสถานีตลิ่งชัน สถานีบางบำหรุ ไป MRT สิรินธร, MRT บางยี่ขัน สิ้นสุดที่สถานีขนส่งสายใต้เดิม (ปิ่นเกล้า)

แต่ถ้าไม่อยากรอรถเมล์นาน ยังมีอีกวิธีหนึ่ง คือ ลงรถเมล์ที่ ป้ายไปรษณีย์ตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนี เดินย้อนไปปากทางถนนฉิมพลี ก่อนถึงสะพานลอย แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างจะใกล้กว่าและเร็วกว่า

รถเมล์สายที่ผ่านป้ายไปรษณีย์ตลิ่งชัน ได้แก่ รถที่ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน (สาย 28, 35, 40, 66, 507, 511) จากถนนบรมราชชนนี (สาย 79, 123, 124, 515, 539, 556) ถนนกาญจนาภิเษก (สาย 127, 516)

รวมทั้งคนที่นั่งรถตู้จากบางบัวทองไปปิ่นเกล้า หรือรถตู้ บ.ข.ส. จากนครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี ฯลฯ ที่จะไปสายใต้เดิม ปิ่นเกล้า ก็บอกคนขับให้จอดที่ป้ายไปรษณีย์ตลิ่งชัน แล้วเดินย้อนมาที่ถนนฉิมพลี ต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้เช่นกัน

แต่สำหรับคนที่นั่งรถเมล์ สาย 515 ศาลายา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือ สาย 539 อ้อมน้อย-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แนะนำให้ใช้บริการสถานีบางบำหรุ จะสะดวกกว่า โดยลงรถเมล์ที่ ป้ายสถานีบางบำหรุ แล้วเดินย้อนไปที่สถานีไม่กี่ก้าวเท่านั้น

ส่วนคนที่ลงรถไฟที่สถานีชุมทางตลิ่งชัน สามารถรอรถเมล์สาย 79 (เสริม) ได้ที่จุดจอดรถเมล์ด้านหน้าสถานี ส่วนสถานีบางบำหรุ ป้ายรถเมล์จะอยู่ฝั่งถนนเลียบทางรถไฟ ใต้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก









ด้านในสถานีชุมทางตลิ่งชันจะมี เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ 7 เครื่อง เครื่องเติมเงินอัตโนมัติ (Add Value Machine) 1 เครื่อง น่าสังเกตว่าเติมเงินได้ทั้งเหรียญ ธนบัตร รวมทั้งบัตรเครดิตได้ด้วย แต่ช่วงนี้เครื่องทั้งหมดยังไม่เปิดให้บริการ

หลังสแกนไทยชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ตรงประตูกั้นอัตโนมัติ พนักงานจะให้สแกนคิวอาร์โค้ด เข้าสู่ Google Forms ตอบคำถามเพียงแค่จะไปลงที่สถานีไหนก็พอ ไม่ถามข้อมูลส่วนตัว เพื่อเก็บข้อมูลผู้โดยสารนำไปพัฒนาบริการ

เมื่อเข้าประตูกั้นอัตโนมัติแล้ว จะลงบันไดเลื่อนไปชั้นใต้ดิน ไปตามทางเดินเพื่อลอดอุโมงค์ไปยังชานชาลาที่ 1 แล้วขึ้นบันไดเลื่อนอีกครั้ง จะเห็นขบวนรถไฟฟ้าที่คนรักรถไฟเรียกกันว่า "หนูแดง" จอดอยู่

สัมผัสแรกที่พบเห็น พลันนึกถึง ตอนข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย นั่งรถไฟ กอมมูเตอร์ (Komuter) จากสถานีปาดังเบซาร์ ไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ระยะทาง 170 กิโลเมตร เป็นรถปรับอากาศขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า นั่งแล้วรู้สึกชอบมาก

เคยนึกฝันว่า ประเทศไทยน่าจะมีแบบนี้ วันนี้ได้เกิดขึ้นจริง แม้ระยะทางจะสั้นไปหน่อยก็ตาม









ด้านในขบวนรถจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เก้าอี้พลาสติกสีแดง ด้านบนจะมีชั้นวางของ มีป้ายบอกสถานี และหน้าจอบอกสถานะสถานีที่มาถึง เสียงแจ้งเตือนปิดประตูจะคล้ายกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ แต่เวลาปิดประตู เสียงจะดังน้อยกว่า

เมื่อนึกถึงเสียงประกาศบนรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินและสีม่วง แอ้ม-สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ประกาศข่าว จะออกแนวขึงขัง หนักแน่น ส่วนเสียงประกาศบนของรถไฟฟ้าบีทีเอส โหน่ง-พิมพ์ลักษณ์ กมลเพชร นักร้องชื่อดัง จะออกแนวหวานแหลม

แต่สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง ทราบว่าใช้เสียงของ แอน-นันทนา บุญหลง นักร้อง นักพากษ์ชื่อดัง และ นงอร มาสมบูรณ์ อดีตแอร์โฮสเตสสาว เสียงจะออกแนวหวานละมุนปนหนักแน่นเล็กน้อย







จากสถานีชุมทางตลิ่งชัน ใช้เวลาประมาณ 4 นาที แวะจอดที่สถานีบางบำหรุ ก่อนที่จะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แวะจอดที่สถานีบางซ่อน ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ เบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณ 15 นาทีพอดี

เมื่อลงจากขบวนรถ ทีแรกรู้สึกงงเล็กน้อยว่าจะไปทางไหน เพราะต้องการเปลี่ยนขบวนรถไปรังสิต ไม่ได้ต้องการออกจากสถานี กระทั่งตัดสินใจลงบันไดเลื่อนก็ถึงบางอ้อ มีป้ายบอกทาง "รถไฟฟ้าชานเมือง บางซื่อ-รังสิต ไปชานชาลา 3-4"

จำไว้ว่า ถ้าจะเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีกลางบางซื่อ ให้ลงบันไดเลื่อนแล้วสังเกตป้าย ก่อนขึ้นบันไดเลื่อนไปชานชาลาอีกครั้ง "รถไฟฟ้าชานเมือง บางซื่อ-รังสิต ไปชานชาลา 3-4" และ "รถไฟฟ้าชานเมือง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ไปชานชาลา 9-10"







ปัญหาอย่างหนึ่งของสถานีกลางบางซื่อ รวมถึงสถานีอื่นๆ คือ ป้ายบอกทางไม่มีความโดดเด่น สีกลืนกันหมด ทำให้เวลาอ่านมองไม่ชัด ถ้าเปลี่ยนรูปแบบให้ตัวหนังสือชัดเจนขึ้นก็จะดีกว่านี้

เราขึ้นมายังชานชาลา 3-4 ซึ่งเป็นชานชาลาขบวนรถที่จะมุ่งหน้าไปรังสิต ใช้เวลารอรถไฟเข้าสู่ชานชาลาประมาณ 10 นาที รถไฟฟ้าจากรังสิตก็มาถึง และเปิดให้ผู้โดยสารขึ้น-ลงจากขบวนรถ โดยไม่ต้องรอตรวจความเรียบร้อย

รถไฟจะจอดที่สถานีชุมทางบางซื่อประมาณ 5 นาที จากนั้นจะปิดประตู และเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังรังสิต สถานีแรกที่จอดคือสถานีจตุจักร ต่อด้วยสถานีวัดเสมียนนารี แนวเส้นทางจะขนานไปกับถนนวิภาวดีรังสิต

ผ่านสถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะ และ สถานีดอนเมือง ที่หากนับจากสถานีกลางบางซื่อ จะใช้เวลาประมาณ 18 นาที ต่อไปจะนั่งเครื่องบินไปต่างจังหวัด ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ที่สถานีนี้

โดยจะมีทางเชื่อมสกายวอล์ก ที่ทางออกหมายเลข 6 (ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก) จะเห็นทางเลื่อนใต้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ให้เดินเข้าไปตามป้ายบอกทาง ก็จะไปออกอาคารจอดรถ 7 ชั้น และอาคารผู้โดยสารในประเทศ (Terminal 2)







เดิมเวลาไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง ปกติจะขึ้นรถ A1 หรือ A2 ที่สถานีสวนจตุจักร เสียค่าโดยสาร 30 บาท รถจะขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปลงที่ทางลงสนามบินดอนเมือง จอดที่หน้าอาคาร 1 แล้วเดินเท้าไปเข้าอาคาร 2

นับจากนี้ คนที่นั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จะไปสนามบินดอนเมืองก็สะดวกขึ้น เพียงแค่ลงที่สถานีบางซื่อ ออกจากระบบแล้วเดินเข้าทางเชื่อมสถานีกลางบางซื่อ ซื้อตั๋วเข้าระบบเสร็จเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชานชาลา 3-4 แล้วรอรถได้เลย

แต่ต้องกะเวลาเดินทางสัก 2-3 ชั่วโมง เผื่อรถไฟฟ้าขัดข้อง และสกายวอล์กเดินไกลมาก แต่ถ้ามีเวลาเหลือ จะมีศูนย์อาหารราคาประหยัด Magic Food Point อยู่ตรงนั้น ถัดมามีร้านยาเอ็กซ์ตร้า กาแฟมวลชน และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

เมื่อออกจากสถานีดอนเมือง ขบวนรถจะลงมายังทางระดับดิน สังเกตได้ว่ารถไฟจะเร่งความเร็วขึ้น ผ่านตลาดสี่มุมเมือง ถึงสถานีหลักหก จุดนี้จะมีสกายวอล์กไปยังสะพานเอกทักษิณ มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเมืองเอก และมหาวิทยาลัยรังสิต

จากนั้นรถไฟจะไต่ระดับลอยฟ้าอย่างช้าๆ ข้ามถนนรังสิต-ปทุมธานี เข้าสู่ปลายทางสถานีรังสิต หากนับจากสถานีตลิ่งชันจะใช้เวลารวมกัน 55 นาทีเท่านั้น ซึ่งรวมเวลาเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีกลางบางซื่อด้วย



สถานีรังสิต เป็นทั้งสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟทางไกลสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแบ่งออกเป็นชานชาลาด้านล่างรถไฟทางไกล ชั้น 2 ห้องจำหน่ายตั๋ว และชั้น 3 ชานชาลารถไฟฟ้าสายสีแดง

บริเวณตรงข้ามประตูกั้นอัตโนมัติ จะมีห้องจำหน่ายตั๋วรถไฟทางไกล ถ้าจะนั่งรถไฟต่อไปอยุธยา ชุมทางบ้านภาชี หรือสถานีอื่นๆ สามารถซื้อตั๋วรถไฟแล้วลงไปที่ชั้นล่าง รวมทั้งมีตู้จำหน่ายตั๋วรถไฟอัตโนมัติสำหรับรถไฟชานเมืองอีกด้วย

เวลาคนที่นั่งรถไฟจากภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือมาจากลพบุรี ชุมทางแก่งคอย ชุมทางบ้านภาชี อยุธยา จะไปต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็ลงที่สถานีรังสิต แล้วขึ้นไปชั้น 2 เข้าระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง แล้วขึ้นไปชั้น 3 รอรถไฟที่ชานชาลาได้

เหมือนกับเวลานั่งรถไฟจากภาคตะวันออก หรือมาจากฉะเชิงเทรา จะไปต่อรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 ซื้อเหรียญหรือแตะบัตรโดยสาร แล้วขึ้นไปชั้น 3 แต่ที่ตั้งสถานีลาดกระบัง รถไฟธรรมดากับแอร์พอร์ตลิงก์จะแยกกัน

ทราบมาว่าในอนาคต รถไฟทางไกลสายเหนือและสายอีสาน มีแผนจะไปเริ่มต้นที่สถานีรังสิต โดยจะมีขบวนรถที่ให้บริการสถานีกลางบางซื่อ เฉพาะขบวนรถพาวเวอร์คาร์ (รถกำลังไฟฟ้า) มี 4 ขบวน ไป-กลับ รวม 8 ขบวน

ได้แก่ ขบวนรถอุตราวิถี (กรุงเทพ-เชียงใหม่) อีสานวัตนา (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) อีสานมรรคา (กรุงเทพ-หนองคาย) และทักษิณารัถย์ (กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่) เท่านั้น เพราะไม่มีปัญหาเรื่องควันรถและมลพิษในสถานี

อีกส่วนหนึ่งจะเป็นขบวนรถไฟชานเมือง ได้แก่ กรุงเทพ-ชุมทางบ้านภาชี, กรุงเทพ-ลพบุรี, กรุงเทพ-ชุมทางแก่งคอย จะใช้ทางรถไฟยกระดับ แต่จะไม่เข้าสถานีกลางบางซื่อ ลงมาระดับดินผ่านสถานีบางซื่อเก่า เพื่อไปยังสถานีหัวลำโพง

เรื่องนี้ต้องรอให้การรถไฟฯ ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่บอกไว้ก่อนเพื่อจะได้เตรียมตัว
#3414

 
วันนี้(14 ส.ค. 2564)​ นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงสิทธิประโยชน์และเงินทดแทนการขาดรายได้ จากกองทุนประกันสังคมในกรณีป่วยโควิด-19 แยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation ว่า สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลและแพทย์ผู้ดูแลรักษาพิจารณาแล้วว่าผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยใช้หลักเกณฑ์การจ่ายประเภทผู้ป่วยใน ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์


นอกจากนี้เมื่อผู้ประกันตนกรณีโรคโควิด-19 สามารถขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่รับผิดชอบการรักษาได้ หรือบันทึกภาพหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นใด ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับสถานพยาบาลที่รับการรักษาผู้ประกันตนในสถานที่กักตัว หรือสถานที่ดูแลรักษา และสำเนาเวชระเบียนที่ได้จากการบันทึกหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นๆ โดยมีรายละเอียดระบุวันที่เริ่มรักษา จนสิ้นสุดการรักษา รวมไปถึงการให้หยุดพักรักษาตัวต่อ เพื่อใช้ประกอบการเบิกเงินค่าทดแทนการขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคม

โฆษก สปส. กล่าวด้วยว่า สำหรับเงื่อนไขการเบิกค่าทดแทนการขาดรายได้นั้น ผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนใช้สิทธิ และพิจารณาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน คือกรณีผู้ประกันตนลาป่วย 30 วันแรกรับค่าจ้างจากนายจ้าง หากมีความจำเป็นต้องหยุดพักรักษาตัวนานเกินกว่า 30 วัน ผู้ประกันตนสามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมได้ ตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วยเป็นต้นไป ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง (จ่ายครั้งละไม่เกิน 90 วัน 1 ปีปฏิทิน แต่ไม่เกิน 180 วัน) ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถยื่นเบิกขาดรายได้ภายใน 2 ปี เมื่อรักษาหายจากอาการเจ็บป่วยแล้ว ให้ติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่งทั่วประเทศตามที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
#3415


วันนี้ (14 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นางสาวพัชรี ปราบชัย หรือ "ใหม่ พัชรี ไชยเลิศ" และนางสาวลักษิกา เคนหาราช ผู้จัดการส่วนตัว นำหลักฐานเป็นข้อความในเพจเฟซบุ๊ก และ ทาง เฟซบุ๊กส่วนตัวของใหม่ พัชรี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด หลังจากมีแฟนคลับที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เต้ย ชัยวิชา เข้ามาก่อกวน ทางโทรศัพท์ และข้อความแชตเฟซบุ๊ก ในลักษณะชื่นชอบผลงานการแสดง

จากนั้นกว่า 1 เดือน แฟนคลับคนดังกล่าวได้มาก่อกวนตลอด ทั้งโทรมาที่เบอร์ส่วนตัวของผู้จัดการ และตัวศิลปิน ซึ่งเป็นเบอร์ที่ใช้ติดต่องานในลักษณะชื่นชอบเป็นพิเศษ แต่มีการแสดงความไม่พอใจในขณะที่ศิลปินจะวางสาย ซึ่งอาการช่วงที่โทรมา มีลักษณะคล้ายกับอาการเมาสุราพูดจาวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง จึงเป็นเหตุผลต้องแจ้งความ เกรงจะได้รับอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สิน ซึ่งแฟนคลับคนดังกล่าวรู้บ้านพักของศิลปินเป็นอย่างดี


นางสาวพัชรี ปราบชัย หรือใหม่ พัชรีไชยเลิศ กล่าวว่า ที่ตนมาแจ้งความวันนี้เพื่อต้องการปกป้องตัวเองเพราะในฐานะศิลปินสร้างความสุข รอยยิ้มและความบันเทิงต่อสาธารณชน แต่ถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ต่างจากแฟนคลับคนอื่นๆ ทั้งยังข่มขู่ในลักษณะไม่พอใจที่ศิลปินปฏิเสธที่จะรับสายหรือคุยด้วย ตนกลัวเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นมากกว่านี้ถึงขั้นบุกรุกมายังบ้านพัก เพราะแฟนคลับคนดังกล่าวเป็นคนละแวกนี้และรู้จักบ้านศิลปินดี

สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทำให้งานแสดงถูกยกเลิก จึงได้ไลฟ์สดเล็กๆที่บ้านพัก มอบความสุขให้แฟนคลับผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรในกลุ่มปิด มาช่วยเหลือลูกน้องที่ตกงาน วอนผู้ไม่หวังดีและก่อกวน อย่าซ้ำเติมกัน นอกจากจะต้องมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในวงแล้ว ยังต้องคอยระวังเรื่องแบบนี้อีก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หากบุคคลดังกล่าวได้ประพฤติตนเช่นเดิมอีก ก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทันที
#3416
ราคาเพียง 12.9 ล้าน 
สนใจโครงการติดต่อสอบถาม 
064.593.6545 (คุณโอ)
094.639.6645 (คุณเซี้ยง)

ขาย บ้าน-โฮมออฟฟิต 5 ชั้น รีโนเวทใหม่ ถ.เจริญนคร ซอย16 ใกล้ BTS กรุงธน


ที่ตั้ง :: เจริญนครซอย 16 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม.

บ้าน-โฮมออฟฟิต เจริญนครซอย 16  ต่อเติมเต็มพื้นที่ 
ใกล้ไอคอนสยาม 700เมตร , BTS กรุงธน 350เมตร
โฮมออฟฟิต5ชั้น รีโนเวทใหม่
บ้าน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 จอดรถ 3 ห้องโถง 1ห้องนั่งเล่น 1ห้องครัว 
พื้นที่ใช้สอย : 325 ตร.ม.
เนื้อที่ดิน       : 29 ตร.ว.

- กล้องวงจรปิด4ตัว พร้อมจอ
- ไฟกิ่งเปิดปิดอัตโนมัติ หน้าบ้าน
- ฮูดดูควันพร้อมมอเตอร์ตัวใหญ่
- ถังน้ำ2ใบ ชั้นล่างและดาดฟ้า
- มอเตอร์ปั๊มน้ำ 2ตัว

สถานที่คำคัญใกล้เคียง
- ถ.เจริญนคร 150เมตร
- BTS กรุงธน 350เมตร 1นาที
- BTS เจริญนคร 720เมตร 
- เสนาเฟสท์ วิลล่ามาร์เก็ต 200เมตร
- ไอคอนสยาม 720เมตร
- ตลาดวงเวียนใหญ่ 10นาที
- ตลาดท่าดินแดง 10นาที
- ศูนย์การค้าริเวอร์ไซด์ พลาซ่า 12นาที
- PLATFORM 
 
ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 12.9 ล้าน 
สนใจโครงการติดต่อสอบถาม 
0645936545 (คุณโอ)
0946396645 (คุณเซี้ยง)

ทำเลที่ตั้ง
ปักหมุด
https://maps.app.goo.gl/nYKJZTJ57HLwDNjm8

โทร & Line : 094-6396645 , 097-4595925
เพจ : NP Home

------------------------------------------------------------

售價僅為1290萬。
對項目感興趣,請聯繫
064.593.6545(哦先生)
094.639.6645(祥女士)

待售房屋 - 家庭辦公室 5 層,新裝修,Charoen Nakhon 路,Soi 16,靠近 BTS Krungthon

地點:Charoennakorn Soi 16, Khlong Ton Sai Subdistrict, Khlong San District, Bangkok

Home-Home Office Charoennakorn Soi 16 填補該地區
近 Icon Siam 700 米,BTS Krungthon 350 米
5層家庭辦公室,全新裝修
房子有 4 間臥室、4 間浴室、2 個停車位、3 個大廳、1 間客廳、1 間廚房。
可用面積:325 平方米。
土地面積 : 29 sq.wa.

- 4 台帶屏幕的閉路電視攝像機
- 家門前的樹枝燈自動打開和關閉
- 帶大馬達的煙罩
- 2個水箱,底層和甲板
- 2個水泵電機

附近的地標
- Charoen Nakhon 路,150 米
- BTS Krungthon 350 米 1 分鐘
- BTS Charoen Nakhon 720 米
- Sena Fest 別墅市場 200 米
- Icon Siam 720 米
- Wongwian Yai 市場 10 分鐘
- Tha Din Daeng 市場 10 分鐘
- 濱江廣場購物中心 12 分鐘
- 平台
 
這一切只需要1290萬。
對項目感興趣,請聯繫
0645936545(哦先生)
0946396645(祥小姐)

地點
別針
https://maps.app.goo.gl/nYKJZTJ57HLwDNjm8

電話及專線 : 094-6396645 , 097-4595925
頁 : NP首頁

https://www.livingjoin.com/item/238057.html






























#3417


ทันทีที่ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ตัวเลขพุ่งกระฉูด รัฐประกาศ "ล็อกดาวน์" เต็มรูปแบบในพื้นที่สีแดงเข้ม ส่งผลให้ประชาชนแห่ซื้อสินค้าจำเป็น บะหมี่ฯ น้ำดื่ม น้ำอัดลม สินค้าดูแลสุขอนามัย ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ฯ ถูกตุนไว้มากขึ้น ผู้บริโภคหวังลดความถี่ออกนอกบ้าน ช่วยหยุดเชื้อเพื่อชาติ "มาม่า" ย้ำ 3 ส่วน ทำสินค้า "ขาดตลาด" เซเว่นอีเลฟเว่น ข้าวของจำเป็นเกลี้ยงเชลฟ์ "ไลอ้อนฯ" ยันกำลังผลิตเพียงพอ "อ้วยอันโอสถ" ป้อนฟ้าทะลายโจรไม่ทัน "ล็อกซเล่ย์" ชี้น้ำมันพืชแบบขวดขายดีมาก  "น้ำดื่มสิงห์" เร่งกระจายสินค้าให้ทันความต้องการ 

นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์สินคาอุปโภคบริโภคที่จำเป็นกำลังขาดตลาดเป็นบางช่วงบางเวลาเกิดจาก 3 ปัจจัย 1.ด้านปริมาณการผลิตหรือซัพพลายจากโรงงาน ซึ่งขณะนี้การแพร่ระบาดของโรโควิด-19 ส่งผลให้ในส่วนของผู้ผลิตต้องระมัดระวังการดูแลด้านสุขอนามัยของพนักงานมากขึ้น หากมีพนักงานออกจะไม่รับใหม่เพราะกังวลจะมีผู้ติดเชื้อเข้ามา 

นอกจากนี้ หากรับคนเข้าทำงานจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดและใช้เวลา 7 วัน เพื่อรอผลที่ชัดเจน หรือหากโรงงานใดพบญาติมีการติดเชื้อไวรัสจะแจ้งให้พนักงานหยุดงานทันที ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการผลิตสินค้า ทำให้ไม่สามารถใช้กำลังการผลิตได้ 100% 

2.ด้านความต้องการของผู้บริโภคหรือดีมานด์ ต้องยอมรับว่าหลังจากรัฐประกาศมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทำให้การซื้อสินค้ามีปริมาณมากขึ้น แต่ไม่ใช่การตื่นตระหนกซื้อเหมือนการล็อกดาวน์ในครั้งแรกเมื่อปี 2563 ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูง ทำให้ประชาชนซื้อสินค้าไว้ตุนไว้ เพื่อลดความเสี่ยง ความถี่ในการออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสินค้าบางรายการ บางแบรนด์หายไปจากชั้นวางหรือเชลฟ์ เป็นปกติที่พฤติกรรมผู้บริโภคจะหันไปซื้ออีกแบรนด์ 


นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ยังเกิดจากทุกภาคส่วนมีการซื้อสินค้าจำเป็นพื่อบริจาคให้กับผู้ป่วย หรือศูนย์ผู้ป่วย พักคอย หน่วยงานต่างๆมากขึ้น ซึ่งแต่ละครั้งเป็นการซื้อสินค้าในปริมาณค่อนข้างมาก เป็นต้น  

"ภาวะสินค้าขาดตลาดครั้งนี้ โรงงานผู้ผลิตมีการระมัดระวังด้านสุขอนามัยของพนักงานมากขึ้น จึงอาจส่งผลต่อการผลิต มีการผลิตน้อยลงบ้าง เช่น บริษัทที่ผ่านมาโรงงานบะหมี่ฯเส้นขาว ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หยุดการผลิตไปราว 2 สัปดาห์ กระทบกำลังการผลิตบะหมี่หึ่งสำเร็จรูปโดยรวมหายไป 2.5% เท่านั้น เพราะเส้นขาวคิดเป็นสัดส่วน 10% ของกำลังการผลิตทั้งหมด แต่บะหมี่ฯเส้นเหลืองมาม่าไม่หยุดผลิต"  

ส่วนที่ 3 ด้านการขนส่งและกระจายสินค้า มีการสะดุดไปบ้าง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ไม่ถึงกับเกิดภาวะ "ช็อต" ทั้งนี้ หากสินค้าผลิตและส่งจากโรงงานจะมีการเติมไปยังร้านค้าต่างๆตลอดเวลา หากวันรุ่งขึ้นไม่มีการเติมสินค้า นั่นเกิดจากโรงงานผลิตได้รับกระทบ อย่างไรก็ตาม บริษัทไทยเพรซิเดนท์ฯ มีการส่งบะหมี่ฯ ไปยังศูนย์กระจายสินค้าของพันธมิตรห้างค้าปลีกต่างๆ จากนั้นทางห้างจะเป็นผู้กระจายไปยังสาขาต่างๆเอง 


อย่างไรก็ตาม การเติมสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และเข้าสู่ภาวะปกติ อาจใช้เวลาอีกระยะ หรือราวเดือนกันยายนนี้ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องระวังคือกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง จะส่งผลปรมาณการสต๊อก และกำลังผลิตสินค้าอีกระลอก

"ยืนยันว่าการขาดแคลนสินค้าบนเชลฟ์ไม่ได้เกิดจากความตระหนกซื้อ และไม่เหมือนกับเหตุการณ์น้ำท่วม และคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติเดือนหน้า" 

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในส่วนการผลิตน้ำดื่มสิงห์ ขณะนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด บริษัทยังคงใช้กำลังการผลิตได้ตามปกติ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค แต่ในด้านการกระจายสินค้า อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวล่า เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส  

  

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังมีกำลังการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น กำลังการผลิตเหลือ 20% หรือ30% บ้าง ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า  แต่ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้ร้านค้าต่างๆ โดยฉพาะในต่างจังหวัด งดให้ตัวแทนจำหน่ายหรือเซลล์เข้าพบ เพื่อป้องกันและดูแลด้านสุขอนามัย 

ทั้งนี้ หากร้านค้าประสบภาวะขาดแคลนสินค้า สามารถติดต่อมายังบริษัทไลอ้อน หรือลบริษัท สหพัฒนพิบูลโดยตรง เพื่อประสานการแก้ปัญหาได้ตรงความต้องการมากขึ้น เช่น บริษัทจะติดต่อซัพพลายเออร์ หรือร้านค้าใกล้เคียงเพื่อป้อนสินค้าให้ ส่วนผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้

"เรายืนยันสินค้าดูแลสุขอนามัย และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆไม่ขาดตลาด ผู้บริโภคไม่ต้องตกใจ และบริษัทยังมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการ"  

นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้น  มีการทำกับข้าวเพื่อรับประทานเอง ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันพืชแบบขวดขายดีมาก อย่างบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายและกระจายน้ำมันพืชกุ๊ก พบว่ายอดขาย 6 เดือน มีอัตราการเติบโตเกือบ 100% รวมถึงสินค้ากะปิ น้ำปลา ผงปรุงรส ยอดขายเติบโตเช่นกัน  

นายชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยเฉพาะที่ผลิตจากกระชาย ฟ้าทะลายโจรฯ มีการขาดตลาดอย่างมาก เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมีสูง ซึ่งบริษัทส่งสินค้าป้อนร้านขายยา 7,000-8,000 แห่งทั่วประเทศ ได้รับคำสั่งซื้อหรือออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก แต่การส่งผลิตภัณฑ์ยังค้างอยู่หลักแสนรายการ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้างค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น จะพบสินค้าขาดตลาดค่อนข้างมาก ส่วนห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น เทสโก้ โลตัส ยังพบการขาดตลาดน้อย มีเพียงบางหมวดเท่านั้นที่หายจากเชลฟ์ ส่วนร้านขายยา นอกจากฟ้าทะลายโจรขาดตลาด น้ำยาอุทัยทิพย์ แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ขาดตลาดเช่นกัน
#3418
อาชีพนักเดินเรือ รายได้สูง ท่องเที่ยวรอบโลก
พวกเราคงทราบกันดีว่ามีหนึ่งอาชีพในประเทศไทยที่ค่าจ้างรายเดือนสูงอย่างยิ่ง ถ้าเกิดเปรียบเทียบกันในหลายๆสาขาวิชาชีพ นั่นคืออาชีพคนประจำเรือ หรือ พาณิชย์นาวี นั่นเอง เป็นต้นว่าค่าตอบแทนรายเดือนขั้นต่ำของลูกเรือ เริ่มต้นเงินเดือน ก็ถึง 25,000 บาท ไม่ต้องเอ่ยถึงระดับสูงๆนะ ว่าเท่าไร บางบริษัทกัปตันค่าจ้างรายเดือน 300,000 บาทต่อเดือน แถมในอาชีพนี้ดีถึงขั้นภาษีรายได้ไม่จำเป็นที่ต้องจ่ายกันเลย

เหตุผลใหญ่ๆของผู้เรียนและก็สนใจงานเรือสินค้า  คือ 1. รักแล้วก็ชอบงานเรือจริงๆ 2. รายได้สูงยิ่งกว่าการทำงานบก 3. ชอบเดินทางได้แวะท่องเที่ยวตามเมืองท่าหลักๆของโลก แอบกระซิบว่าบางคนเดินทางรอบโลกกันเป็นว่าเล่น





มาดูการเริ่มต้นอาชีพนักเดินเรือได้ง่ายๆในหลักสูตรนายท้าย ค่าใช้จ่ายไม่มาก ได้เริ่มทำงานเร็ว มีรายได้หลังจากเรียนจบทันที
มาดูๆ นักเรียนเค้าฝึกถือท้ายเรือใหญ่ด้วยเรือย่อขนาดเสมือนจริง เพื่อให้นักเรียนได้รู้อาการเรือ รวมทั้งฝึกฝนถือท้ายด้วยคำสั่งภาษาอังกฤษ พวกเค้าจะได้ต่อยอดไปเป็นนายท้ายอีกขั้น





รับสมัครรุ่น 4 เปิดเรียนตุลาคม นี้
ต้องการสมัครกดลิ้งค์ : https://lin.ee/VwT7dvr
เรียนกับเราสิแล้วคุณจะได้
ได้งานทำแน่นอน
ที่พักฟรี เอกสาร ตำราเรียนฟรี
ได้ฝึกกับอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัย
ได้เอกสารครบจบแล้วลงเรือได้เลย
ยื่นสอบรวมทั้งติวสอบตั๋ว(II/4) ฟรี
วางแผนทางต่อยอดเพื่อพัฒนาสู่ตำแหน่งนายประจำเรือ
มั่นใจได้ ว่ามีเรือลงปฏิบัติงานแน่นอน

(sure) เพราะสถานศึกษาของพวกเรามี บริษัท จัดหางาน ทีเอสทีซีไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดหาคนเรือไทย ให้กับสายการเดินเรือทั้งไทยรวมทั้งต่างชาติ เป็นบริษัทในเครือ (sure) https://m.facebook.com/tstcthai/ #tstc #งานเรือ #สมัครงานเรือ #ปฏิบัติงานเรือ #หางานเรือ #maritimeschool #seamanthai





คุณสมบัติผู้สมัคร เรียนเดินเรือ
1.เพศชาย อายุ 18- 40 ปี
2.จบการศึกษาระดับ มัธยม3/ ปวช. หรือเทียบเท่าขึ้นไป
3.ไม่มีรอยสัก ยกเว้นในร่มผ้า
4.สุขภาพต้องผ่านการตรวจรวมทั้งรับรองจากหมอ ดังต่อไปนี้
4.1 ตาไม่บอดสี
4.2 การได้ยินอยู่ในเกณฑ์ปกติ
4.3 ไม่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี
5.ใจพร้อม กายพร้อม

สอบถามเพิ่มเติม/สมัคร
Tel. 0661259598 (พี่จ๋า)
กดลิ้งค์เลย : https://lin.ee/VwT7dvr
ปรึกษาเรื่องเรียน
Tel. 0661299598 (กัปตันธนา)
กดลิ้งค์เลย : https://lin.ee/0CXmbYW
https://www.facebook.com/SpeedyNauticalSchool/
https://www.facebook.com/speedycruiseacademy
www.speedynautical.ac.th
www.speedycruise.net
     
#MaritmeSchool #งานเรือสินค้า #การขนส่งสินค้าทางทะเล #ลูกเรือ #นายประจำเรือ #การฝึกอบรม #ม3 #ม6 #การศึกษาต่อ #เรือสำราญ #STCW2010 #อาชีพนักเดินเรือ #การโรงแรม #เดินเรือ #ช่างกลเรือ #พาณิชย์นาวี #SeaMan #Seafarer #Maritime #Ship #Aboat #เชี่ยวชาญการศึกษาก้าวหน้าระดับสากล #ตารางฝึกอบรมคนประจำเรือ #คนประจำเรือ #คนเรือ #SpeedyNauticalSchool
#3419


ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2564 มีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,022 ล้านบาท หากไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,011 ล้านบาท เติบโต 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 56.5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้นสู่ 3,524 ล้านบาท เติบโต 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมีปัจจัยสำคัญจากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 47.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 831 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากหลายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ยางรถยนต์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 21.2 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 2/2564 หรือ 31.5 เมกะวัตต์ ในครึ่งปีแรก จากเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์ในปีนี้

นอกจากนี้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นยังเป็นผลจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาเมื่อเดือนธันวาคม 2563 และการเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 จำกัด (ABPR1) และบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 จำกัด (ABPR2) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 รวมถึงประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติได้ปรับตัวลดลง 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศ 7 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้สังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) เพื่อสร้างคุณค่าให้สังคมในรูปแบบของ Sustainable Utility Solution Provider ด้วยการผลิตพลังงานที่มีคุณภาพสูงและบริการแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร มีกำหนดการ COD ในเดือนสิงหาคม 2564

ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 48 โครงการ โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจาก 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 เป็นมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมุ่งสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 ด้วยมีเป้าหมายรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคม 2564 และวันที่จ่ายปันผล 10 กันยายน 2564
#3420


นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 Beyond COVID - 19 Crisis : A Decade of Health Transformation (ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูประบบสุขภาพ) ผ่านระบบประชุมทางไกล ในการประชุมดังกล่าว มีการประกาศผลรางวัลและเชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรดีเด่น โดย กฟผ. ได้รับรางวัลสูงสุด ประเภทองค์กรดีเด่น ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม Princess Health Award 2021 จากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะได้รับพระราชทานเหรียญรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในภายหลัง

นายบุญญนิตย์ กล่าวว่า รางวัลดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของทุกเครือข่าย นับตั้งแต่หน่วยงานกำกับดูแล ชุมชน สังคม สื่อมวลชนที่ได้ติดตามให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานของ กฟผ. ตลอดจนความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนการสร้างสุขภาวะที่ดีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับคนไทย ผ่านโครงการปลูกป่า กฟผ. โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยังยืน โครงการแว่นแก้ว รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่าง ๆ อาทิการจัดงานวิ่ง งานแข่งจักรยาน และการสนับสนุนกีฬาต่าง ๆ ในระดับประเทศ

โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา กฟผ. ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน สนับสนุนการกู้วิกฤตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ความพยายามลดการระบาดของโรค การป้องกัน การรักษา เยียวยา

โดยเริ่มจากการดูแลพนักงาน เน้นการรักษาตัวเพื่อรักษาหน้าที่ เพื่อให้สามารถนำศักยภาพขององค์กรมาเร่งสนับสนุนในทุก ๆ ด้านอย่างสุดกำลัง อาทิ ผลิตเจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. ผลิตตู้ตรวจโควิดกว่า 600 ตู้ ผลิตชุดหมวกป้องกันเชื้อ PAPR กว่า 1,000 ชุด

รวมทั้งจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม-ศูนย์พักคอย ระดมทุนจัดหาเตียงสนามและสิ่งของจำเป็นอีก 3,500 ชุด ร่วมสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน เป็นต้น เพื่อร่วมสร้างพลังให้ทุกภาคส่วนสามารถฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ทุกความมุ่งมั่นที่ กฟผ. ได้ดำเนินการเพื่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม ล้วนสำเร็จได้จากแรงกายแรงใจจากทุกภาคส่วน กฟผ. จึงขอขอบคุณและขอมอบรางวัลนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้มีส่วนร่วม ตลอดจนคนไทยทุกคนที่คอยเป็นแรงใจให้ กฟผ. ซึ่งเป็นของคนไทย ได้ทำเพื่อคนไทยทุกคน