• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - homepro.

#16
ลักษณะของตู้เก็บเอกสารที่ดี

เมื่อเราจะพูดถึงเอกสาร ก็คงนึกถึงสิ่งที่บันทึกข้อมูลต่างๆ ขององค์กรนั้น ๆ เอาไว้ ซึ่งเอกสารถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการดำเนินงานของทุกองค์กร ดังนั้นการหาวิธีเก็บรักษาข้อมูลสำคัญ จึงส่งผลทำให้เกิด ตู้เอกสาร ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่มากพอให้เราจัดเก็บเอกสารมากมายจัดเรียงไว้ในตู้ได้ ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากตามออฟฟิศหรือสำนักงานองค์กรต่างๆ


ตู้เก็บเอกสารในปัจจุบันนั้น ก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งที่เป็นแบบลิ้นชัก แบบตู้มีประตู หรือจะเป็นแบบชั้น ๆ ที่มีการจัดช่องเรียงเพื่อใส่แฟ้มเอกสาร โดยวัสดุที่ถูกนำมาสร้างมักจะเป็นเหล็กหรือโลหะ เพราะถือว่าเป็นวัสดุที่คงทนทานต่อแรงกระแทก การขีดข่วน และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี นั่นจึงทำให้ตู้เอกสารในปัจจุบันจึงมักเป็นตู้เอกสารเหล็กที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งตู้เอกสารเหล็กที่ได้รับความนิยมก็มีอยู่มากมาย เช่น ตู้เหล็กเก็บแฟ้มเอกสาร 40 ช่อง SURE S-666 สีเทา ที่จะแบ่งช่องเก็บแฟ้มเอกสารถึง 40 ช่อง ผ่านการล้างและพ่นกันสนิมมาเรียบร้อยแล้ว หรือจะเป็นตู้เอกสารบนกระจกล่างทึบ PRELUDE PK-301 สีเทา ที่จะมีการติดตั้งบานเลื่อนบนกระจก และแบ่งเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง โดยในแต่ละชั้นจะมีชั้นวางอยู่ 2 ชั้น เป็นต้น


นอกจากนี้ ไม่ว่าเราจะซื้อตู้เอกสารเหล็กชนิดไหนมาใช้ก็ตาม สิ่งที่เราควรจะคำนึงถึงก่อนที่จะเลือกซื้อตู้เอกสารแบบใดก็ตามคือ คุณภาพของตู้เอกสารนั้นเอง ซึ่งตู้เอกสารที่ดีควรมีความทนทานต่อแรงกระแทกและควรจะต้านทานไฟได้ราวๆ 1,700 ดีกรี พร้อมทั้งสามารถทนอุณหภูมิที่ร้อนได้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 350 F ภายในเวลา 1 ชั่วโมง นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ควรจะนึกถึงด้วยเช่นกันคือ ควรคำนวณพื้นที่และขนาดเพื่อที่จะเลือกซื้อตู้มาใช้งานได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงราคาของตู้เอกสารที่เราจะซื้อด้วย เพราะมันจะถือว่าเป็น    การลงทุนด้านความปลอดภัยในระยะยาว
#17
ใช้ถังขยะอย่างไร ให้ปลอดภัยและเกิดประโยชน์มากที่สุด

ในปัจจุบัน โลกของเรามีการเกิดขยะเพิ่มขึ้นมากมายในแต่ละวัน ซึ่งขยะเหล่านี้ต่างก็มีหลากหลายประเภท เช่น ขยะทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก ขยะเปียกซึ่งเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ง่าย ขยะอันตรายที่เป็นพวกสารเคมีหรือวัตถุมีพิษ และขยะรีไซเคิล ที่ที่สามารถนำมารียูสใช้ต่อใหม่ได้นั่นเอง ทั้งสี่ประเภทนี้ล้วนเป็นขยะที่มีการกำเนิดเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นขยะประเภทใด หากทิ้งมั่วซั่ว ทิ้งไม่ถูกที่ถูกทางมันอาจก่อเกิดมลพิษ หรือเชื้อโรคที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้ นั่นจึงทำให้วัตถุที่ช่วยรองรับขยะเหล่านี้อย่างถังขยะเกิดขึ้น นั่นเอง


ถังขยะ คือภาชนะที่ใช้นำขยะประเภทต่าง ๆ มาใส่เพื่อรวบรวมและนำไปกองทิ้งเพื่อทำการคัดแยกต่อไป ซึ่งในบางส่วนที่ใช้ต่อไม่ได้แล้วก็จะนำไปทำลาย หรืออาจจะใช้นำไปแปลงเป็นพลังงานรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งในระยะแรกถังขยะจะมีอยู่เพียงรูปแบบเดียวคือ "ถังขยะรวมที่ทิ้งขยะทุกประเภทรวมกัน" นั่นจึงทำให้ไม่มีใครคำนึงถึงการแยกขยะในตอนนั้นเลย จนกระทั่งได้มีการคิดถึงเรื่องการแยกขยะเกิดขึ้น เพื่อคัดแยกขยะที่ย่อยสลายได้และขยะที่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ออกจากขยะที่ต้องทำลายทิ้ง จึงได้มีการสร้างถังขยะแบบแยกประเภทออกมานั่นเอง


สำหรับถังขยะแยกประเภทนั้น จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ ขยะเปียก ขยะทั่วไป ขยะอันตราย และขยะรีไซเคิล ซึ่งการแบ่งถังขยะแบบนี้จะช่วยทำให้เกิดประโยชน์คือ ช่วยทำให้งานของผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับขยะทำงานได้ง่าย และยังสามารถช่วยทำให้การจัดการขยะเป็นไปได้ด้วยดี กล่าวคือสามารถแยกขยะที่ย่อยสลายได้ แยกขยะที่มีความอันตรายจากสารภายในให้แยกออกจากขยะชนิดอื่นเพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของสารเหล่านั้น และสามารถแยกขยะที่สามารถนำมาใช้ต่อได้ หรือก็คือ การรีไซเคิล นั่นเอง ซึ่งในส่วนของ ถังขยะรีไซเคิลนั้น ถือว่าเป็นขยะที่ก่อประโยชน์ได้อย่างมาก เพราะนอกจากจะสามารถลดจำนวนขยะได้แล้วนั้น มันยังสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้อีกด้วย เพราะสามารถนำมาซ่อมแซม ทำความสะอาด และนำกลับมาใช้ใหม่ได้นั่นเอง

ซึ่งการทำถังขยะแยกประเภทนั้น เราสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการซื้อถังขยะมาก่อนแล้ว แล้วค่อยใช้สติ๊กเกอร์ หรือการเขียนกำกับเพื่อแบ่งประเภทของขยะไว้ได้ ซึ่งถังขยะที่มักจะเป็นที่นิยมใช้แยกประเภทจะเป็นถังขยะขนาดใหญ่ อย่างถังขยะเหลี่ยมขาเหยียบ ฝาเปิด-ปิด MODERN 240L สีน้ำเงิน ที่ทำมาจากพลาสติกคุณภาพสูง คงทนต่อรังสีอุลตร้าไวโอเลต ฝาปิดติดที่จับไว้อย่างแข็งแรง และเคลื่อนย้ายได้ง่ายด้วยล้อเลื่อนพร้อมทั้งใช้ สติ๊กเกอร์แยกประเภทขยะ 4 แบบ ACCO 25x25cm ที่ผลิตจากวัสดุพลาสติก PP ที่เหนียบหนึบและไม่ฉีกขาดง่าย


และสิ่งหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงในการใช้ถังขยะ คือความปลอดภัยจากการสัมผัสถังขยะเพื่อที่จะทิ้งขยะนั่นเอง เพราะเมื่อมีการนำขยะลงไปทิ้งแล้ว อาจจะส่งผลทำให้ถังขยะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ทันที ดังนั้นความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงนั่นเอง นั่นจึงทำให้เกิดถังขยะอัจฉริยะที่สามารถเปิดฝาได้เองจากเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวเมื่อเราอยู่ในระยะไม่เกิน 30 ซม. ทำให้เราสามารถทิ้งขยะได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับถังขยะเลย ซึ่งในปัจจุบันถังขยะอัจฉริยะเป็นที่นิยมอย่างมาก มีการผลิตออกมาให้เลือกในหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือถังขยะอัจฉริยะ NINESTARS 7 ลิตร สีขาว ที่สามารถตรวจจับเซ็นเซอร์ในระยะไม่เกิน 30 ซม. และฝาจะเปิดภายใน 0.3 วินาที พร้อมปิดทันทีภายใน 3 วินาที

ดังนั้นแล้ว การรู้จักการใช้ถังขยะให้เกิดประโยชน์และปลอดภัยมากที่สุด เป็นสิ่งที่เราควรจะตระหนักอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการขยะที่ดีได้ และยังเป็นการสร้างความปลอดภัยจากเชื้อโรคหรือสารอันตรายให้กับเราได้อีกด้วย
#18
บรรจุภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือที่ดีและมีคุณภาพ ควรเป็นอย่างไร

ในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้การทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะส่วนมือซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ในการสัมผัสมากที่สุด ทำให้การทำความสะอาดมือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด ซึ่งวิธีการทำความสะอาดมือที่ง่ายที่สุดคือ การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพียงแต่วิธีนี้จำเป็นจะต้องทำในสถานที่ที่มีน้ำและสบู่พร้อมให้ล้างมือ ซึ่งต้องยอมรับว่ามันไม่สามารถทำได้ตลอดเวลานั่นจึงทำให้การทำความสะอาดมือจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์อย่างอื่นที่สามารถช่วยให้เราล้างมือได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา นั่นก็คือการใช้แอลกอฮอล์ล้างมือนั่นเอง

แอลกอฮอล์ เป็นสารเคมีที่มักถูกใช้ในการแพทย สำหรับการทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ติดตามร่างกาย มันจึงถูกนำมาใช้เพื่อการล้างแผลนั่นเอง และด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคนี้เอง จึงทำให้แอลกอฮอล์ถูกนำมาใช้ในรูปแบบของอุปกรณ์สำหรับการล้างมือ อย่างเช่น เจลล้างมือ สเปรย์แอลกอฮอล์นั่นเอง


ซึ่งเจลล้างมือในปัจจุบันมักบรรจุในขวดแบบหัวกด ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้แอลกอฮอล์ที่อยู่ในรูปแบบเจลมาทำความสะอาดมือได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเป็นสเปรย์แอลกอฮอล์ แบบขวดพกพาที่เพียงแค่กดตรงหัวฉีด ก็สามารถทำความสะอาดมือ หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเราได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังมาในรูปแบบของละอองน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นการประหยัดปริมาณของแอลกอฮอล์ได้มากเลยทีเดียว


ไมว่าจะเป็นเจลล้างมือ หรือสเปรย์แอลกอฮอล์นั้น เราก็สามารถเลือกใช้ได้ทั้งคู่ตามความสะดวกเลย เพียงแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างนี้ จำเป็นจะต้องดูส่วนผสมของปริมาณแอลกอฮอล์ที่ใช้ด้วยโดยจะต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ถึง 70% ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สามารถฆ่าเชื้อโรค และทำให้เชื้อโรคตายได้ทันทีนั่นเอง โดยแอลกอฮอล์ที่ใช้นั้นจะเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล, ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือไอโซโพรพานอล และเอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือเอ็น-โพรพานอล ก็ได้เพราะทั้งสามอย่างนี้ถือได้ว่าเป็นส่วนผสมเพื่อใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคได้ดีนั่นเอง โดยใน เจลแอลกอฮอล์ล้างมืออย่าง TAKE AND CARE 450ml ALOE VERA ก็จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ถึง 70% เลยทีเดียว ส่วนสเปรย์แอลกอฮอล์ อย่าง SPA CLEAN ขนาด 250 มล. ก็มีปริมาณแอลกอฮอล์ถึง 73% ซึ่งผลิตภัณฑ์ ทั้งสองอย่างนี้สามารถฆ่าแบคทีเรียได้ถึง 99.99% เลยทีเดียว

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าบรรจุแอลกอฮอล์ที่ดีควรใช้งานง่าย และพกพาสะดวกเพื่อให้สอดคล้องกับสถานะการณ์การระบาดในปัจจุบัน นอกจากนี้ปริมาณส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ใช้ควรมีถึง 70% และควรเป็นแอลกอฮอล์ที่ถูกใช้ในทางการแพทย์ด้วย เพราะถือว่าเป็นแอลกอฮอล์ที่มีประโยชน์อย่างสูงในการรักษาเพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อที่ดีนั่นเอง
#19
วัตถุกันซึมที่ดี ควรมีคุณสมบัติอย่างไร

ปัญหารอยซึมรอยรั่วตามกำแพง หรือเพดาน เป็นสิ่งที่เรามักจะได้พบเห็นได้เมื่อมีสิ่งที่ชำรุดอยู่ในบ้านหรือห้องนั้น ๆ และเพราะแบบนั้นนั่นเอง จึงทำให้วัตถุกันซึมได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาการรั่วซึมเหล่านี้ โดยวัตถุกันซึมจะมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้กำแพงหรือเพดานนั้นสามารถป้องกันการซึมออกมาได้ดี เพียงแต่การกันซึมจะต้องทำภายหลังการซ่อมแซมสิ่งชำรุดแล้ว หรือควรใช้ตั้งแต่แรกในขั้นตอนการหล่อปูนเพื่อสร้างบ้านเลย อย่างไรก็ตาม วัตถุกันซึมก็ได้กลายเป็นไอเทมยอดนิยมสำหรับช่าง หรือคนมีบ้านเลยทีเดียว

น้ำยากันซึมที่ดีควรเป็นอย่างไร?
วัตถุกันซึมในแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและวิธีใช้ที่หลากหลาย ซึ่งผลิตภัณฑ์วัตถุกันซึมที่เรารู้จักกันดีก็คือน้ำยากันซึมนั่นเอง ซึ่งน้ำยากันซึมนั้นเป็นน้ำยาที่จะช่วยในการกันซึมตามชื่อของมันเลย โดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่การนำไปผสมปูน จนไปถึงการใช้พ่นหรือทาตามกำแพงรวมถึงบนเพดานในภายหลังได้ ซึ่งน้ำยากันซึมก็มีหลากหลายชนิด เช่น อะคริลิค และโพริยูรีเทน

อะคริลิกกันซึม TOA 201 20 กก. สีเทา
https://www.homepro.co.th/p/277081

มาทำความรู้จักกับอย่างแรกกันก่อน นั่นก็คือน้ำยากันซึ่มแบบ อะคริลิค อย่างที่เรารู้กันดีว่าวัตถุกันซึมประเภทนี้เป็นสีที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอร์ มีคุณสมบัติช่วยปกปิดรอยแตกที่เกิดขึ้น รวมไปถึงป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือสารต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอะคริลิคที่ดีนั้น ควรจะมีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นสูง และทนทานต่ออุณหภูมิ สภาพอากาศ รวมถึงการขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย อย่าง อะคริลิกกันซึม TOA 201 20 กก. สีเทา ที่สามารถกันซึมตามหลังคา ดาดฟ้า หรือผนังที่มีรอยแตกได้อย่างดีเยี่ยม

โพลียูรีเทนทากันซึม SIKA SIKALASTIC-501 20 กิโลกรัม สีขาว
https://www.homepro.co.th/p/1103379

ส่วนอีกประเภท คือ โพลียูริเทน เป็นสารเคมีที่ถูกใช้เป็นน้ำยากันซึม และได้รับความนิยมอย่างมากอีกประเภทหนึ่ง โดยโพลียูริเทนมักถูกใช้เป็นวัสดุยาแนวที่ใช้สำหรับเชื่อมรอยรั่วที่ปรากฏออกมา หรือจะเป็นประเภททาที่สามารถปิดและป้องกันรอยรั่ว รวมถึงการซึมน้ำได้ดีเช่นกัน ซึ่งโพลียูริเทนที่ดีนั้น ควรมีคุณสมบัติความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขูดขีด รวมไปถึงการทนต่ออุณหภูมิ และสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดีอย่าง โพลียูรีเทนทากันซึม SIKA SIKALASTIC-501 20 กิโลกรัม สีขาว ที่ใช้ทาเคลือบหลังคาได้แบบไร้รอยต่อ

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าคุณสมบัติที่ดีของวัตถุกันซึม คือ ต้องมีความยืดหยุ่นสูง และทนต่ออุณหภูมิ สภาพอากาศ รวมไปถึงการป้องกันรอยขีดขูดได้ดี ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่บ่งบอกว่าวัตถุกันซึมนั้นสามารถป้องกันรอยรั่วได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 
#20
สิ่งที่ช่างต้องรู้ สว่านแบตที่ใช้งานกันอยู่แท้จริงมีกี่ประเภท ?


สำหรับช่างที่ต้องใช้สว่านในการเจาะ ทำงานช่างต่าง ๆ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเข้าสู่การทำงานใหม่ ๆ หรือต้องการซื้อมาติดบ้านไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันสว่านที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะเป็นสว่านแบต เพราะค่อนข้างใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่มีสายไฟมาเกะกะใด ๆ ทว่าอันที่จริงแล้วสว่านมีกี่ประเภท เพื่อให้เลือกใช้เหมาะสม เราไปศึกษากันหน่อยดีกว่า

ประเภทของสว่านแบต ใครจำเป็นต้องใช้งานควรศึกษา

1. สว่านแบบไฟฟ้า
หรือ Electric Drill มีรูปร่างคล้ายปืน สายไฟต่อกับตัวสว่าน จุดประสงค์การทำงานไว้ใช้เจาะเนื้อไม้ หรือแผ่นเหล็กที่เป็นแบบไม่หนามาก รวมถึงพลาสติก ส่วนใหญ่จะเป็นไฟฟ้าระบบตอนเดียว ใช้กำลังวัตต์ไม่สูงมาก ประมาณ 300 – 550 วัตต์ จึงไม่เหมาะกับการใช้เจาะผนังปูน หรืออะไรก็ตามที่มีความหนา สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาแบตหมดขาดช่วงตอน หรือต้องไปชาร์จแบตบ่อย

2. สว่านโรตารี่
หรือ Rotary Drill จะเหมาะกับงานที่ต้องเจาะกับสิ่งหนา ๆ อย่างคอนกรีตโดยเฉพาะ เบางชนิดคอนกรีตค่อนข้างอัดมาแข็งแรง เช่น ตามเสาอาคารเพื่อรองรับน้ำหนัก จึงแข็งแรงมาก การเลือกใช้สว่านปกติมักกระแทกไม่ลงเพราะต้องกดแรงหนัก แต่สว่านโรตารี่จะช่วยลดแรงทุ่นได้ดี เจาะง่ายขึ้น กำลังวัตต์ใช้งานที่ 600 วัตต์ มีแบบ 2 ระบบที่ไว้เจาะ กระแทก หรือแยกงานไม้เจาะเหล็กได้ด้วย หรือแบบ 3 ระบบ ที่จะเจาะ กระแทก หรือสกัด

3. สว่านกระแทก
หรือ Hammer Drill จะคล้ายกับสว่านไฟฟ้า แต่เป็นสว่านที่เพิ่มกำลังขึ้นมาอีก ใช้กำลังไฟที่ 550 – 720 วัตต์ การทำงานเป็นแบบ 2 ระบบ คือเจาะ และกระแทก ทำให้สามารถเจาะไม้ หรือแผ่นปูน แผ่นเหล็ก แผ่นพลาสติก อิฐได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการเจาะหลากหลาย เช่น เจาะผนังบ้านแขวนนาฬิกา กรอบรูป หรือผ้าม่าน

ซึ่งทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวมาจัดอยู่ในหมวดสว่านไร้สายด้วย หมายถึง จะไม่มีสายมาเกะกะระหว่างทำงาน ในทางกลับกันจะใช้พลังงานแบตเตอรี่ เหมาะกับงานนอกสถานที่ที่สายไฟไปไม่ถึง แต่ต้องดูให้ดี เพราะบางเครื่องก็เอาสายออกไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ใครที่กำลังมองหาสว่านแบบไร้สายอยู่แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน อย่างไร ขอแนะนำเป็นสว่านไร้สาย Makita รุ่น DF333DWYE 12 โวลต์ ที่มีคุณภาพระดับมาตรฐาน ขนาดกะทัดรัด จัดเก็บได้ง่าย ด้ามจับถนัดมือมาก ช่องระบายอากาศก็ดี ความร้อนออกหมดระหว่างใช้งานไม่มีปัญหา สามารถทำงานให้เสร็จได้ไว รับประกันสินค้า 6 เดือน เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานที่ซ่อมแซม ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ กับผนังทั่วไป หวังว่าการซื้อสว่านใช้งานจะเป็นเรื่องง่าย และราบรื่นมากขึ้น ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง
#21
วิธีดูแลรักษาความสะอาดเก้าอี้พับที่ทำจากวัสดุแต่ละประเภท


คงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันให้ดีเหมือนกัน เมื่อเก้าอี้พับสามารถผลิตได้จากวัสดุหลากชนิด ดังนั้นวิธีดูแลทำความสะอาดที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้คงอยู่กับผู้ใช้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละวัสดุก็จะมีวิธีที่แตกต่างกัน ใครยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะขอแนะนำทริคให้นำไปใช้กันแบบจัดเต็ม รับรองว่าเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำตามได้

การดูแลรักษาความสะอาดเก้าอี้พับที่ผลิตจากวัสดุแต่ละประเภท

1. วัสดุที่ทำจากพลาสติก
แม้เก้าอี้บางประเภทจะบอกว่าทนความร้อนได้ดี แต่กระนั้นก็อย่านิ่งนอนใจเอาเก้าอี้ไปวางตากแดดเอาไว้ทั้งวัน ทุกวัน เพราะการที่ทำแบบนั้นมีโอกาสที่วัสดุจะเกิดการสะสมความร้อนไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็กรอบ ชำรุดไม่ช้าก็เร็ว รวมทั้งการทำความสะอาดก็ไม่ควรใช้น้ำอุ่น + ฝอยขัดหม้อเพราะจะยิ่งทำให้เกิดรอยต่าง ๆ ได้ชัดเจน กรณีที่ใช้นั่งกินอาหารแล้วเกิดทำอาหารหกใส่ เกิดกลิ่น แนะนำว่าให้ใช้น้ำส้มสายชู หรือเอาเปลือกมะนาวมาถูที่เก้าอี้จากนั้นก็ใช้น้ำสะอาดล้างออก

2. วัสดุที่ทำจากหนัง
ปัจจุบันเก้าอี้พับได้นอกจากจะทำจากพลาสติกแล้ว ก็ยังมีแบบหนังเข้ามาเป็นส่วนประกอบร่วม หรือเป็นทั้งตัวเลยทีเดียว ควรต้องดูแลทำความสะอาดกันเป็นประจำ แนะนำให้ใช้ผ้าแห้งมาเช็ดอยู่บ่อย ๆ ป้องกันรอยสกปรกติดค้างจนไม่สามารถเช็ดออกได้ง่าย ทั้งนี้ ไม่ควรใช้น้ำมาร่วมถู เพราะจะยิ่งทำให้เก้าอี้ชำรุดง่ายกว่าเดิม อาจต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังโดยตรงมาเช็ดจะดีกว่า ซอกมุมต่าง ๆ ของเก้าอี้แนะนำว่าให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดออก น้ำยาต่าง ๆ ที่เป็นสารเคมีอย่าง น้ำยาขัดเงา น้ำมันสน ฯลฯ

3. วัสดุที่ทำจากอะลูมิเนียม
สุดท้ายก็คือการทำความสะอาดเก้าอี้ปิคนิค หรือเก้าอี้นั่งที่ทำจากอะลูมิเนียม ควรต้องทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดวัสดุผิวอะลูมิเนียมโดยเฉพาะ อย่าใช้แบบที่ขัดเครื่องเงิน หรือกรดไฮดรอลิก เพราะจะทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ ควรมีการกำจัดคราบเบื้องต้นก่อนที่จะไปกำจัดคราบฝังลึกครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นออกไม่หมดจดได้ เวลาทำความสะอาดต้องเริ่มต้นจากตัวที่อ่อนที่สุดก่อน แล้วทดลองให้ทำความสะอาดพื้นที่เล็ก ๆ ไปก่อนแล้วคอยจับตาดูผลลัพธ์

จริง ๆ แล้ววัสดุที่ใช้ทำเก้าอี้ประเภทยังมีทั้งแบบเหล็ก และแบบไม้ แต่ไม่ค่อยนิยมนัก ซึ่งการดูแลทำความสะอาดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างไรแล้วควรเลือกการทำความสะอาดที่เหมาะสมกับวัสดุนั้น ๆ ด้วย เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นต่อไป ไม่ต้องเสียเงินซ่อม หรือซื้อใหม่ไปได้ หวังว่าเก้าอี้ของคุณจะใหม่เอี่ยมใช้งานยาว ๆ อยู่เสมอ
#22
วิธีดูแลรักษาความสะอาดเก้าอี้พับที่ทำจากวัสดุแต่ละประเภท


คงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันให้ดีเหมือนกัน เมื่อเก้าอี้พับสามารถผลิตได้จากวัสดุหลากชนิด ดังนั้นวิธีดูแลทำความสะอาดที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้คงอยู่กับผู้ใช้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละวัสดุก็จะมีวิธีที่แตกต่างกัน ใครยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะขอแนะนำทริคให้นำไปใช้กันแบบจัดเต็ม รับรองว่าเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำตามได้

การดูแลรักษาความสะอาดเก้าอี้พับที่ผลิตจากวัสดุแต่ละประเภท

1. วัสดุที่ทำจากพลาสติก
แม้เก้าอี้บางประเภทจะบอกว่าทนความร้อนได้ดี แต่กระนั้นก็อย่านิ่งนอนใจเอาเก้าอี้ไปวางตากแดดเอาไว้ทั้งวัน ทุกวัน เพราะการที่ทำแบบนั้นมีโอกาสที่วัสดุจะเกิดการสะสมความร้อนไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็กรอบ ชำรุดไม่ช้าก็เร็ว รวมทั้งการทำความสะอาดก็ไม่ควรใช้น้ำอุ่น + ฝอยขัดหม้อเพราะจะยิ่งทำให้เกิดรอยต่าง ๆ ได้ชัดเจน กรณีที่ใช้นั่งกินอาหารแล้วเกิดทำอาหารหกใส่ เกิดกลิ่น แนะนำว่าให้ใช้น้ำส้มสายชู หรือเอาเปลือกมะนาวมาถูที่เก้าอี้จากนั้นก็ใช้น้ำสะอาดล้างออก

2. วัสดุที่ทำจากหนัง
ปัจจุบันเก้าอี้พับได้นอกจากจะทำจากพลาสติกแล้ว ก็ยังมีแบบหนังเข้ามาเป็นส่วนประกอบร่วม หรือเป็นทั้งตัวเลยทีเดียว ควรต้องดูแลทำความสะอาดกันเป็นประจำ แนะนำให้ใช้ผ้าแห้งมาเช็ดอยู่บ่อย ๆ ป้องกันรอยสกปรกติดค้างจนไม่สามารถเช็ดออกได้ง่าย ทั้งนี้ ไม่ควรใช้น้ำมาร่วมถู เพราะจะยิ่งทำให้เก้าอี้ชำรุดง่ายกว่าเดิม อาจต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังโดยตรงมาเช็ดจะดีกว่า ซอกมุมต่าง ๆ ของเก้าอี้แนะนำว่าให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดออก น้ำยาต่าง ๆ ที่เป็นสารเคมีอย่าง น้ำยาขัดเงา น้ำมันสน ฯลฯ

3. วัสดุที่ทำจากอะลูมิเนียม
สุดท้ายก็คือการทำความสะอาดเก้าอี้ปิคนิค หรือเก้าอี้นั่งที่ทำจากอะลูมิเนียม ควรต้องทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดวัสดุผิวอะลูมิเนียมโดยเฉพาะ อย่าใช้แบบที่ขัดเครื่องเงิน หรือกรดไฮดรอลิก เพราะจะทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ ควรมีการกำจัดคราบเบื้องต้นก่อนที่จะไปกำจัดคราบฝังลึกครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นออกไม่หมดจดได้ เวลาทำความสะอาดต้องเริ่มต้นจากตัวที่อ่อนที่สุดก่อน แล้วทดลองให้ทำความสะอาดพื้นที่เล็ก ๆ ไปก่อนแล้วคอยจับตาดูผลลัพธ์

จริง ๆ แล้ววัสดุที่ใช้ทำเก้าอี้ประเภทยังมีทั้งแบบเหล็ก และแบบไม้ แต่ไม่ค่อยนิยมนัก ซึ่งการดูแลทำความสะอาดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างไรแล้วควรเลือกการทำความสะอาดที่เหมาะสมกับวัสดุนั้น ๆ ด้วย เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นต่อไป ไม่ต้องเสียเงินซ่อม หรือซื้อใหม่ไปได้ หวังว่าเก้าอี้ของคุณจะใหม่เอี่ยมใช้งานยาว ๆ อยู่เสมอ
#23
ประโยชน์ของทิชชูที่มีดีกว่าเช็ดปาก บางอย่างก็คาดไม่ถึงเลยด้วย


ใครจะรู้ว่าทิชชู่ที่ใช้อยู่แท้จริงแล้วสามารถนำมาใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย นอกเหนือจากการเอาไปเช็ดปาก หรือเช็ดสิ่งสกปรกต่าง ๆ อธิบายมาแบบนี้คงเริ่มสนใจอยากรู้กันบ้างหรือยัง? ลองไปศึกษากันหน่อยดีกว่า เผื่อว่าจะเอามาใช้ทำประโยชน์ต่าง ๆ ได้ แอบบอกว่าบางอย่างก็คาดไม่ถึงเลยด้วยว่าจะทำประโยชน์ได้จริง

5 ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงของทิชชู่ที่มีดีมากกว่าเช็ดทำความสะอาด

1. ช่วยซับไขมันออกจากน้ำซุป
เวลาที่ต้มซุปที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ก็มักเห็นน้ำซุปลอยขึ้นเหนือน้ำตรงผิวด้านบน ซึ่งเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่เอาทัพพีมาตักออก แต่กระนั้นเราสามารถใช้กระดาษชำระมาซับออกได้ โดยเอาหม้อและกระชอนมาไว้ใกล้กัน นำกระดาษชนิดแผ่นหนามารองกระชอนจากนั้นเทหม้อน้ำซุปใส่กระชอน น้ำซุปจะไหลผ่านไปเหลือไว้แต่ความมันตกค้าง

2. ช่วยให้ขนมปังสดใหม่เสมอ
หลาย ๆ คนมักจะเอาขนมปังไปแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อหวังให้ความสดใหม่คงอยู่ ซึ่งจะพบว่ามีความฉ่ำอมอยู่ในเนื้อขนมปัง หลังจากนี้แนะนำว่าให้ใช้กระดาษชำระที่เป็นแผ่นหนามาใส่ไว้ในถุงขนมปังด้วย หรือวางรอบ ๆ ขนมปังก็ได้ ความชื่นจากไอเย็นจะถูกซับไปโดยปริยาย

3. ช่วยป้องกันไม่ให้กระทะเหล็กมีสนิมเกาะ
ต่อมาคือประโยชน์ที่คาดไม่ถึงก็คืออุปกรณ์ครัวที่ทำจากโลหะมักมีความเสี่ยงเกิดสนิม ยิ่งกระทะเหล็กยิ่งไม่ต้องพูดถึง สามารถป้องกันสนิมด้วยการดูแลได้อย่างดี หลังจากล้างทำความสะอาดแล้วให้ใช้กระดาษทิชชู่มาวางรอบ ๆ  เน้นตรงส่วนที่เป็นขอบเหล็กเพื่อซับเอาความชื้นออกไปจากกระทะให้หมด ทั้งนี้ ต้องใช้กระดาษทิชชูห่อกระทะเหล็กก่อนเสมอ

4. รักษาผักผลไม้ให้สดอยู่เสมอ
ใครที่อยากให้ผัก ผลไม้อยู่แบบสด ๆ ในตู้เย็นชนิดที่คงความสดใหม่อย่างยาวนาน ให้ใช้ทิชชู่เช็ดหน้า ​หรือแบบหนามาห่อผักและผลไม้เอาไว้ก่อนนำไปใส่ไว้ในตู้เย็น ซึ่งความชื้นจากไอน้ำจะถูกซับเอาไว้ ไม่ทำให้ผักและผลไม้เน่าเสียไปได้เพราะยังคงความเย็นอยู่เสมอ สามารถหยิบมากินได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ประโยชน์ของทิชชูยังมีอยู่อีกเพียบ ไม่ว่าจะเอาไปอบเบคอนแบบไร้น้ำมัน เอาไปเช็กเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ว่าหมดอายุหรือยัง โดยการเอากระดาษ 2 แผ่นไปชุบน้ำแล้วเอาเมล็ดมาวางไว้ เอากระดาษที่ชุบน้ำอีกแผ่นมาวางทับ รดน้ำให้ชุ่มเสมอ รอ 14 วันมาเปิดดู หรือทำความสะอาดที่เปิดกระป๋อง ฯลฯ ซึ่งหากใครเกิดต้องทำกิจกรรมที่กระดาษชำระสามารถช่วยได้ดีเยี่ยมก็คงจะรีบนำมาใช้อย่างถูกวิธี ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการเช็ดสิ่งต่าง ๆ แน่นอ
#24
ประโยชน์ของทิชชูที่มีดีกว่าเช็ดปาก บางอย่างก็คาดไม่ถึงเลยด้วย


ใครจะรู้ว่าทิชชู่ที่ใช้อยู่แท้จริงแล้วสามารถนำมาใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย นอกเหนือจากการเอาไปเช็ดปาก หรือเช็ดสิ่งสกปรกต่าง ๆ อธิบายมาแบบนี้คงเริ่มสนใจอยากรู้กันบ้างหรือยัง? ลองไปศึกษากันหน่อยดีกว่า เผื่อว่าจะเอามาใช้ทำประโยชน์ต่าง ๆ ได้ แอบบอกว่าบางอย่างก็คาดไม่ถึงเลยด้วยว่าจะทำประโยชน์ได้จริง

5 ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงของทิชชู่ที่มีดีมากกว่าเช็ดทำความสะอาด

1. ช่วยซับไขมันออกจากน้ำซุป
เวลาที่ต้มซุปที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ก็มักเห็นน้ำซุปลอยขึ้นเหนือน้ำตรงผิวด้านบน ซึ่งเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่เอาทัพพีมาตักออก แต่กระนั้นเราสามารถใช้กระดาษชำระมาซับออกได้ โดยเอาหม้อและกระชอนมาไว้ใกล้กัน นำกระดาษชนิดแผ่นหนามารองกระชอนจากนั้นเทหม้อน้ำซุปใส่กระชอน น้ำซุปจะไหลผ่านไปเหลือไว้แต่ความมันตกค้าง

2. ช่วยให้ขนมปังสดใหม่เสมอ
หลาย ๆ คนมักจะเอาขนมปังไปแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อหวังให้ความสดใหม่คงอยู่ ซึ่งจะพบว่ามีความฉ่ำอมอยู่ในเนื้อขนมปัง หลังจากนี้แนะนำว่าให้ใช้กระดาษชำระที่เป็นแผ่นหนามาใส่ไว้ในถุงขนมปังด้วย หรือวางรอบ ๆ ขนมปังก็ได้ ความชื่นจากไอเย็นจะถูกซับไปโดยปริยาย

3. ช่วยป้องกันไม่ให้กระทะเหล็กมีสนิมเกาะ
ต่อมาคือประโยชน์ที่คาดไม่ถึงก็คืออุปกรณ์ครัวที่ทำจากโลหะมักมีความเสี่ยงเกิดสนิม ยิ่งกระทะเหล็กยิ่งไม่ต้องพูดถึง สามารถป้องกันสนิมด้วยการดูแลได้อย่างดี หลังจากล้างทำความสะอาดแล้วให้ใช้กระดาษทิชชู่มาวางรอบ ๆ  เน้นตรงส่วนที่เป็นขอบเหล็กเพื่อซับเอาความชื้นออกไปจากกระทะให้หมด ทั้งนี้ ต้องใช้กระดาษทิชชูห่อกระทะเหล็กก่อนเสมอ

4. รักษาผักผลไม้ให้สดอยู่เสมอ
ใครที่อยากให้ผัก ผลไม้อยู่แบบสด ๆ ในตู้เย็นชนิดที่คงความสดใหม่อย่างยาวนาน ให้ใช้ทิชชู่เช็ดหน้า ​หรือแบบหนามาห่อผักและผลไม้เอาไว้ก่อนนำไปใส่ไว้ในตู้เย็น ซึ่งความชื้นจากไอน้ำจะถูกซับเอาไว้ ไม่ทำให้ผักและผลไม้เน่าเสียไปได้เพราะยังคงความเย็นอยู่เสมอ สามารถหยิบมากินได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ประโยชน์ของทิชชูยังมีอยู่อีกเพียบ ไม่ว่าจะเอาไปอบเบคอนแบบไร้น้ำมัน เอาไปเช็กเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ว่าหมดอายุหรือยัง โดยการเอากระดาษ 2 แผ่นไปชุบน้ำแล้วเอาเมล็ดมาวางไว้ เอากระดาษที่ชุบน้ำอีกแผ่นมาวางทับ รดน้ำให้ชุ่มเสมอ รอ 14 วันมาเปิดดู หรือทำความสะอาดที่เปิดกระป๋อง ฯลฯ ซึ่งหากใครเกิดต้องทำกิจกรรมที่กระดาษชำระสามารถช่วยได้ดีเยี่ยมก็คงจะรีบนำมาใช้อย่างถูกวิธี ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการเช็ดสิ่งต่าง ๆ แน่นอ
#25
กล่องรองเท้า อีหหนึ่งวิธีที่ช่วยเคลียร์ปัญหารองเท้าให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ง่ายๆ


"ถอดรองเท้าเกะกะเกลื่อนกลาดไปหมด" นี่คงเป็นปัญหาใหญ่ของคนที่มีรองเท้าหลายคู่แน่นอน ยิ่งพื้นที่ถอดมีอย่างจำกัด เช่น อยู่คอนโด หรือบ้านที่ต้องแชร์กันหลายคนด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ซึ่งจริง ๆ วิธีที่จะช่วยเคลียร์ปัญหากวนใจนี้ก็มีที่น่าสนใจอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือการเลือกเก็บไว้ใน "กล่องรองเท้า" จึงมีความน่าสนใจมาบอกต่อ รับรองว่าหลังจากนี้ไม่มีคำว่ารองเท้าเกะกะอีกเลย

เหตุผลที่เราควรเลือกใช้กล่องรองเท้าเก็บรองเท้าที่สวมใส่ใช้งาน

1. ช่วยให้รองเท้าเป็นระเบียบ
ต้องบอกเลยว่าการเลือกใช้งานกล่องเก็บรองเท้าจะสามารถจัดการรองเท้าที่ถอดไว้เกะกะให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ เพราะกล่องจะมีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าทรงขาวเพื่อใส่รองเท้า โดยจะเก็บรองเท้าไว้ในกล่องคู่ละ 1 กล่อง จากนั้นก็เอาไปจัดเรียงจนเป็นระเบียบได้ทันที จะวางแนวยาว หรือวางซ้อนกันขึ้นไปได้หมด

2. ช่วยให้คุณมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
อย่างที่ทราบกันดีว่าการเก็บรองเท้าไว้ในกล่องคือการนำ 1 คู่ไปใส่เอาไว้ แล้ววางกล่องนั้น ๆ ซ้อนสูงขึ้นไป หรือวางเรียงเป็นแนวแถวยาวได้หมด ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ทั้งยังสามารถใช้พื้นที่บนกล่องวางอย่างอื่นซ้อนไว้ได้ด้วย กลายเป็นอีกที่ใช้สอยไปโดยปริยาย

3. ตัวกล่องมีความแข็งแรง
ด้วยความที่กล่องใส่รองเท้าส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากพลาสติกที่มีความหนามาก สามารถใส่รองเท้าคู่ใหญ่ ๆ น้ำหนักเยอะได้หมด ทั้งการเอาไปวางซ้อนก็ยังไม่ทำให้เกิดความเสียหายได้เพราะด้วยความแข็งแรงที่มี จึงไม่ทำให้รองเท้าเสียทรงจากการถูกกล่องพับลงมาทับค้างนาน ๆ ได้

4. สามารถนำไปล้างได้ง่ายมาก
แน่นอนว่าการใส่รองเท้าไว้ในกล่องก็คงมีความสกปรกอยู่จากการสวมกับเท้าของตนเอง วันไหนเกิดไปเดินเหยียบแอ่งน้ำมาแล้วนำมาใส่ ไม่นานก็ต้องเอามาล้างอย่างเร็วไว ซึ่งกล่องนี้สามารถล้างได้ง่ายมาก แค่ใช้น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอกมาละลายในน้ำแล้วเอามาเช็ดถู รับรองว่าสะอาดปลอดภัยไร้เชื้อโรค

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าด้วยเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้กลายเป็นเหตุผลที่จะทำให้การเก็บรองเท้าของทุกคนง่ายขึ้น มีความเป็นระแบบเรียบร้อย เพียงแค่เลือกวิธีจัดเก็บด้วยอุปกรณ์ชั้นเยี่ยม แต่กระนั้นก็ยังมีวิธีเก็บรองเท้าอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น เอาไปแขวนไว้กับราวแขวน เก็บไว้ในกงล้อหมุน สอดไว้ในช่องแขวนผนัง ฯลฯ และหากใครต้องการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ไปบอกต่อให้การเก็บรองเท้าเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นจัดเลย
#26
ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม 3 ยี่ห้อดัง ที่หอมติดทนนาน


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวช่วยที่จะทำให้ผ้าหอมยาวนานติดตัว สวมใส่ไปไหนก็มีแต่คนชมชอบ คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดเองก็มีด้วยกันหลายยี่ห้อมาก ๆ อย่างไรก็ตามบทความนี้ก็จะมาบอกต่อความหอมของทั้ง 3 ยี่ห้อดัง เผื่อว่าก่อนหน้านี้ใครตัดสินใจไม่ได้หลังจากนี้จะได้ซื้อใช้ทันที รับรองประทับใจจนกลายเป็นลูกค้าประจำ

แนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม ความหอมคงนาน

1. ไฮยีน
ต้องบอกว่าปัจจุบันน้ำยาปรับผ้านุ่มไฮยีนได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร ซึ่งมีความหอมในแบบฉบับตนเอง เป็นสูตรที่ผลิตอย่างเข้มข้นพิเศษ มีกลิ่นให้เลือกเยอะมาก อย่างกลิ่นพีโอนี บลูม ที่มาจากดอกพีโอนี สื่อถึงฤดูร้อนที่ใกล้เข้ามาแล้ว หรือกลิ่นดอกดามัส โรสที่เป็นเอกลักษณ์ดอกไม้ยามเช้า รับพลังอัดเน้นยาวนาน อีกสูตรเข้มข้นพิเศษขั้นสุด หรืออีกกลิ่นซันไรส์ คิส รวมกลิ่นความหอมของดอกไม้ไฮยาซินจากฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

2. ดาวนี่
มาต่อกันที่น้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนี่สูตรความหอมละมุนยาวนาน แถมบางสูตรก็ไม่ต้องล้างหลายน้ำด้วย ครองใจคนไม่ชอบซักผ้าได้อย่างไร้ที่ติ อาทิ กลิ่นแดร์ริ่ง คอลเลคชั่นน้ำหอม ที่มีกลิ่นหอมยาวนาน ซึ่งหัวเชื้อน้ำหอมเข้มข้นสูง หลังจากที่เสื้อผ้าแห้ง ไมโครแคปซูลก็จะปล่อยกลิ่นมาเสมือนฉีดน้ำหอมทุก ๆ 3 วัน หรือสูตรแอนตี้แบคที่มีสารแอนตี้ช่วยขจัดกลิ่นอับชื้น หรือแบคทีเรียที่มาสะสมเมื่อตากผ้าไว้ในที่ร่ม พร้อมบ่งบอกความหอม รีดง่าย เรียบไว กลิ่นฟุ้งกระจายตลอดวัน มั่นใจเมื่อสวมใส่

3. คอมฟอร์ด
ปิดท้ายกันที่น้ำยาช่วยปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ดที่เป็นสูตรเข้มข้นมากกว่าปกติ 8 เท่า มีความหอมนุ่มละมุน ช่วยเพิ่มสีสันสดใส ผ้ามีความนุ่มมากขึ้น ไม่แข็งกระด้างเหมือนเคย ไร้กลิ่นอับชื้นตลอดการสวมใส่ 24 ชั่วโมง ใช้งานง่าย ๆ แค่ครึ่งฝาต่อผ้า 10 – 15 ชิ้นเท่านั้น แล้วเทลงในน้ำสุดท้ายของการซัก เท่านี้ก็เรียบร้อย

ทั้งนี้ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตามไม่ควรเทลงไปที่ผ้าโดยตรง เพราะจะทำให้ผ้าด่างได้ คำแนะนำเบื้องต้นคือ ควรผสมกับน้ำในอ่างก่อน แล้วจึงนำเสื้อผ้าลงไปแช่ ขณะที่ตอนเก็บหลังใช้งานควรอยู่ในที่พ้นมือเด็ก ป้องกันความเสี่ยงเด็กหยิบมากิน หรือเอามาเล่นจนเข้าตา หลีกเลี่ยงแสงแดดส่องถึงด้วย และกรณีที่น้ำยาเกิดเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที แต่หากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ลดอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
#27
เลือกชุดโต๊ะกินข้าวอย่างไรให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ย การงานดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น

หลายคนกล่าวว่าโต๊ะกินข้าวเปรียบเสมือนกับศูนย์รวมของคนในครอบครัวที่ต้องมานั่งอยู่รวมกันทำให้การเลือกชุดโต๊ะกินข้าวต้องอาศัยหลักของฮวงจุ้ยเข้ามารวมด้วย เพื่อช่วยเสริมดวงชีวิตและการงานให้ดีเยี่ยม ดังนั้น เรามาเลือกโต๊ะกินข้าวให้เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัวกันเถอะ เรามาปรับเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นยิ่งกว่าที่เคย

1.การจัดวางโต๊ะกินข้าว
การจัดวางโต๊ะกินข้าวที่เหมาะสมที่สุดควรวางไว้ใกล้กับห้องครัว โดยสามารถอยู่ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาของห้องครัวก็ได้ แต่เน้นตั้งไว้บริเวณที่มีลมพัดผ่าน มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพราะว่าจะส่งผลถึงความสัมพันธ์ของคนให้ครอบครัว ข้อควรระวัง คือห้ามวางโต๊ะกินข้าวไว้ในห้องครัว เพราะด้วยกลิ่น ควัน และความร้อน จะทำให้อึดอัด และห้ามตั้งโต๊ะกินข้าวไว้ใต้คานไม้เพราะอาจทำให้หงุดหงิดและเจ็บป่วยได้ง่าย

2.วัสดุของโต๊ะกินข้าว
โต๊ะกินข้าวที่ช่วยเสริมดวงจะเป็นโต๊ะกินข้าวไม้ แต่โดยทั่วไปโต๊ะกินข้าวที่ทำจากวัสดุแบบอื่นก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ควรใช้โต๊ะกินข้าวที่ทำจากกระจก เพราะนั่นหมายถึงความสัมพันธ์ที่เปราะบางไม่มั่นคงเฉกเช่นเดียวกับกระจกที่แตกและหักง่ายนั่นเอง

3.ขนาดที่เหมาะสมของโต๊ะกินข้าว
ขนาดที่เหมาะสมกับของโต๊ะกินข้าวคือขนาดที่พอดีกับสมาชิกภายในบ้าน โดยสามารถมีขนาดใหญ่กว่าจำนวนสมาชิกได้ แต่ห้ามซื้อโต๊ะกินข้าวที่มีขนาดเล็กหรือน้อยกว่าจำนวนสมาชิกภายในบ้านเพราะอาจทำให้อึดอัด และส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร โดยมีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ซื้อโต๊ะกินข้าวที่ใหญ่กว่าจำนวนสมาชิกในครอบครัวมากเกินไป ก็อาจส่งผลถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน เพราะฉะนั้นเลือกโต๊ะกินข้าวที่มีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนในครอบครัวจะดีมากที่สุด

4.ควรมีแจกันประดับโต๊ะกินข้าว
เพราะแจกันดอกไม้หมายถึงความอ่อนโยนภายในบ้าน ดังนั้นโต๊ะกินข้าวควรมีแจกันดอกไม้ตั้งอยู่ตรงกลางของโต๊ะ โดยควรเป็นดอกไม้สดเท่านั้น เพราะดอกไม้แห้งหมายถึงความเหนื่อยล้า โดยสามารถเลือกใช้กับผ้าปูโต๊ะสีอ่อนจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังบวกเพิ่มมากขึ้น

ปรับชีวิตง่าย ๆ ด้วยการปรับโต๊ะกินข้าว ซึ่งเป็นวิธีง่ายที่สามารถทำตามได้ แต่อย่างไรก็ตามหลักฮวงจุ้ยเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นใคร ที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ก็สามารถใช้หลักเหล่านี้ในการเพิ่มความสุขทางใจให้ตัวเองได้ แต่หากใครที่ไม่เชื่อก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลยค่ะ ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะนำหลักเหล่านี้ไปใช้ตามความเชื่อของตนเองได้อย่างไรและตามความเหมาะสมของตนเองได้เลย
#28
ข้อควรรู้เกี่ยวกับหน้ากากอนามัย แบบไหนกันฝุ่น แบบไหนกันไวรัส เดี๋ยวรู้กัน

สิ่งสำคัญที่ต้องมีกันทุกคนในช่วงนี้นั่นก็คือ หน้ากากอนามัย ที่เราต้องใช้ประจำในยามที่ออกจากบ้าน แต่หลายคนคงไม่ทราบว่าหน้ากากอนามัยบางชนิดหากใช้อย่างไม่ถูกต้องอาจไม่ช่วยกันอะไรเลย ดังนั้น เรามาดูกันว่าหน้ากากอนามัยนั้นมีชนิด และแต่ละชนิดช่วยกันอะไรได้บ้างมาติดตามกันค่ะ

1.หน้ากากทางการแพทย์
สำหรับหน้ากากทางการแพทย์ เป็นหน้ากากที่สามารถป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้มากถึง 99% และประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นและเกสรดอกได้จะลดลงมาเหลือ 66.37% โดยสามารถกันอนุภาคขนาดเล็กได้สูงสุด 3 ไมครอน

2.หน้ากาก N95
หน้ากาก N95 เป็นหน้ากากที่ฮิตมาก ๆ ในช่วงฝุ่นละออง PM 2.5  อย่างไรก็ตามหน้ากาก N95 สามารถป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กอย่างฝุ่น PM2.5 และ PM10 ไม่ต่ำกว่า 95%

3.หน้ากากผ้า
ในปัจจุบันตอนนี้หน้ากากผ้าที่หลายคนใช้อยู่มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน โดยแบบแรกคือหน้ากากผ้าที่ผลิตจากผ้าฝ่าย จึงสามารถป้องกันฝุ่นละลอง และสามารถป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลาย สำหรับแบบที่สองผลิตจากใย สังเคราะห์ซ้อนทบชั้นกัน จึงสามารถในการกรองฝุ่น รวมถึงป้องกันเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้

4.หน้ากากฟองน้ำ
คุณสมบัติที่โดดเด่นของหน้ากากฟองน้ำคือสามารถซักทำความสะอาดได้รวดเร็วและแห้งเร็วเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กยังไม่มีเลย จึงควรสวมเเป็นหน้ากากชั้นที่สอง

5.หน้ากากคาร์บอน
หน้ากากคาร์บอนมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับหน้ากากทางการแพทย์ โดยชั้นคาร์บอนของหน้ากากจะสามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ รวมถึงสามารถกรองเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 95% ยิ่งหากใส่สองชั้นจะสามารถป้องกันการติดต่อของเชื้อโรคและโรคโควิดได้

เมื่อทราบถึงประเภทของหน้ากากประเภทต่าง ๆ มาเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นทุกคนอย่าดูแล้วรีบไปปั่นวิวต่อพักผ่อนซักหน่อยก่อนดีกว่า เพราะเพลงดีมาก หรือแม้แต่ลองใส่หน้ากากอนามัยตามเอ็มวีเพื่อทำให้คนทั้งโลกรู้สึก BTS ในมุมมองที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม
#29
น้ำยาทำความสะอาดที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้ ปลอดภัยจากเชื้อโรคและโควิด-19

วิกฤติช่วงโควิด-19 ชีวิตต้องสะอาดไม่ว่าจะออกนอกบ้านหรืออยู่ภายในบ้านความสะอาดนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น เราเลยมาแนะนำการดูแลความสะอาดในช่วงโควิดกันบ้าง กับไอเทมสำคัญอย่างน้ำยาทำความสะอาดที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ เพื่อให้ตนเองและครอบครัวปลอดภัยจากเชื้อโรคและโควิด-19 ฉะนั้นมาดูกันค่ะว่าที่บ้านของคุณควรมีน้ำยาทำความสะอาดชนิดใดบ้าง

1.สเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์
สำหรับสเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์เป็นไอเทมแรกที่ทุกบ้านควรมี เนื่องจากสเปรย์ตัวนี้สามารถฉีดฆ่าเชื้อทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน อาทิ ลูกบิดประตู ของใช้ต่าง ๆ ของเล่น โถชักโครก ถึงพัสดุที่เราได้รับจากบริษัทขนส่งก็สามารถใช้สเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ฉีดพ่นเพื่อฆ่าเชื้อได้ โดยส่วนใหญ่สเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมจะเป็นสเปรย์ของเดทตอล เพราะสามารถยับยั้งเชื้อโรคได้มากกว่า 99.99%

2.น้ำยาฆ่าเชื้ออเนกประสงค์
ดูแลทุกส่วนของบ้านให้สะอาดมากยิ่งขึ้นกับน้ำยาฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวเรียบ ฝาผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนับล้านตัว รวมถึงสามารถใช้แทนน้ำยาถูบ้านเพื่อให้บ้านสะอาดอย่างแท้จริง และน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้รับความนิยมมีมากมายอย่าง เดทตอล ​DAIWA ก็สามารถนำมาใช้ฆ่าเชื้อที่อยู่ในบริเวณบ้านได้เช่นกัน

3.น้ำยาขจัดกลิ่นฆ่าเชื้อ
การอาศัยอยู่ในบ้านเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงกลิ่นสะสมต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับ กลิ่นอาหารที่มักอบอวลภายในบ้านและมักไปเกาะติดตามผนังหรือผ้าม่านและทำให้บ้านของเราไม่สะอาดหอมสดชื่น จึงจำเป็นต้องใช้น้ำยาขจัดกลิ่นฆ่าเชื้อ ที่สามารถดับกลิ่นต่าง ๆ บริเวณฝาผนัง พื้น และเครื่องสุขภัณฑ์ รวมถึงมีความสามารถในการฆ่าเชื้ออีกด้วย จึงทำให้บ้านสะอาดหอมสดชื่นขึ้น

4.น้ำยาขจัดคราบไขมันพื้นผิวในครัว
เหล่าแม่บ้านต้องการสิ่งนี้กับน้ำยาขจัดคราบไขมันพื้นผิวในครัว ที่มีคุณสมบัติช่วยในการขจัดคราบไขมันพื้นผิวในครัวที่มักเกาะติดตามผนังห้อง และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้ออกไป โดยสามารถใช้น้ำยาขจัดคราบไขมันพื้นผิวในครัวเช็ดทำความสะอาดได้ โดยน้ำยาขจัดคราบไขมันพื้นผิวในครัวสามารถใช้ได้บนพื้นผิวกระเบื้องยาง โลหะ สเตนเลส โครเมี่ยม เซรามิก และหิน เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่สะอาดปราศจากไขมันที่มักสะสมอยู่กันค่ะ

4 น้ำยาทำความสะอาดที่ทุกคนต้องมีติดบ้านเอาไว้ เพื่อดูแลความสะอาดภายในครอบครัวอย่างแท้จริง และช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
#30
เลือกไดร์เป่าผมแบบไหน ที่ช่วยดูแลสุขภาพเส้นผมและไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสีย

ไดร์เป่าผมหากใช้ทุกวันก็เจอปัญหาเส้นผมแห้งเสียบ้านเป็นธรรมดา แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสามารถมีเคล็ดลับการใช้ไดร์เป่าผมโดยที่ไม่ทำให้เส้นผมของคุณแห้งเสีย มาดูกันค่ะว่า ใช้ไดร์เป่าผมแบบใดที่ไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสียตามกันมาเลยค่ะ

1.เลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟเหมาะสม
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลือกซื้อไดร์เป่าผมจากกำลังไฟที่สูงเพื่อคิดว่าจะช่วยให้ผมนั้นแห้งไว หรือผมเป็นเส้นตรงง่ายกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามการที่ใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงอาจไม่เหมาะกับสภาพเส้นผมของทุก ๆ คน เพราะว่ายิ่งใช้กำลังไฟมากเท่าไหร่ยิ่งทำอันตรายกับเส้นผมมากเท่านั้น ฉะนั้นมาเลือกไดร์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเองกันดีกว่า โดยผู้ที่มีผมเส้นเล็กหรือผมบางคนใช้ไดร์เป่าที่มีกำลังไฟ 1,200 วัตต์ ส่วนผู้ที่มีเส้นผมปกติ สามารถใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟ 1,300 – 1,800 วัตต์ และสุดท้ายสำหรับคนที่มีผมเส้นใหม่ สามารถใช้ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงขึ้นที่ 1,800 วัตต์

2. เทคโนโลยีอัจฉริยะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทรกซึมในทุกอณูการใช้ชีวิตของมนุษย์ และทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ไดร์เป่าผมก็เหมือนกันค่ะเพราะว่าเค้ามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามามากมายอย่างระบบ ThermoProtect ของ ไดร์เป่าผม Philips ที่สามารถรักษาความชุ่มชื้นให้เส้นผมได้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Ionic Function ที่ช่วยลดความชื้นให้เส้นผม หรือไดร์เป่าผม Dyson ซึ่งเป็นไดร์เป่าผมแบบไร้ใบพัดซึ่งช่วยให้แรงลมมีความสม่ำเสมอ และไม่ทำร้ายเส้นผม 

3.ปรับความแรงลมและความร้อนได้
เพื่อป้องปกผมเสียจากความร้อนของไดร์เป่าผม ดังนั้น ไดร์เป่าผมที่ทุกคนเลือกควรเป็นไดร์เป่าผมที่สามารถปรับความแรงลมเพื่อป้องกันเส้นผมพันกันรวมถึงยังสามารถปรับอุณหภูมิได้ โดยควรมีทั้งลมร้อน ลมเย็นได้ เพื่อป้องกันผมเสีย หรือเลือกอุณหภูมิของไดร์เป่าผมให้เหมาะสมกับการใช้งานได้

4.มีปุ่ม Cool Shot
ปุ่ม Cool Shot เป็นปุ่มที่ช่วยในการรักษาเส้นผมและกักเก็บความชุ่มชื้นบนเส้นผมได้ โดยไม่ทำร้ายเส้นผม สามารถลดการเกิดรังแค และช่วยล็อกเส้นผมให้สวยอยู่ทรงได้ยาวนาน พร้อมกับทำให้เส้นผมชุ่มชื้นมีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย ทั้งยังทำให้ผมนุ่มเงางามมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

การดูแลเส้นผมง่าย ๆ เริ่มต้นจากการที่เราใช้ของที่มีคุณภาพ อย่างการใช้ไดร์เป่าผมที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ก็อย่าลืมบำรุงเส้นผมของตนเองด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมทุกครั้งก่อนที่เส้นผมของตนเองจะถูกความร้อน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการดูแลเส้นผมด้วยเช่นกันค่ะ