งานเจาะตรวจดิน (Soil Boring Test) เป็นกรรมวิธีสำคัญที่ช่วยทำให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วิศวกร และก็นักออกแบบส่วนประกอบรู้เรื่องลักษณะของดินในเขตก่อสร้างได้อย่างถ่องแท้ ข้อมูลที่ได้รับมาจากการสำรวจดินนี้มีบทบาทสำคัญสำหรับในการออกแบบโครงสร้างรองรับโครงสร้าง ช่วยลดการเสี่ยงจากปัญหาดินที่อาจส่งผลต่อความยั่งยืนรวมทั้งความปลอดภัยของตึกหรือโครงการต่างๆในบทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ขั้นตอนรวมทั้งกระบวนการเจาะสำรวจดินอย่างประณีต เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในงานก่อสร้าง
(https://xn--82ca0bu1cyat1crc0a8k9g.com/wp-content/uploads/2024/07/Wash-Boring-vs-Rotary-Drilling.jpg)
🛒✅🌏กรรมวิธีการเจาะสำรวจดิน
1.การวางแผนแล้วก็จัดเตรียมก่อนจะมีการเจาะตรวจดิน
ก่อนเริ่มงานเจาะตรวจสอบดิน การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการปฏิบัติการเป็นไปอย่างสะดวกรวมทั้งได้ข้อมูลที่มีคุณภาพสูง โดยจำเป็นต้องใคร่ครวญปัจจัยดังต่อไปนี้:
-กำหนดพื้นที่รวมทั้งจุดเจาะสำรวจ
การเลือกตำแหน่งสำหรับเพื่อการเจาะดินควรครอบคลุมพื้นที่ที่จะก่อสร้าง เพื่อได้ข้อมูลดินที่แท้จริงในทุกจุด
-ประเมินความลึกของการเจาะ
ความลึกของการเจาะตรวจจะขึ้นอยู่กับขนาดรวมทั้งน้ำหนักของส่วนประกอบที่คิดแผนจะก่อสร้าง
-เตรียมเครื่องใช้ไม้สอยและวัสดุ
อย่างเช่น เครื่องเจาะดิน ตัวอย่างดินใส่หลอดทดสอบ รวมทั้งเครื่องมือเสริมอื่นๆ
-------------------------------------------------------------
ให้บริการ เจาะสํารวจดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ Soil Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/ (https://www.facebook.com/exesoiltest/)
-------------------------------------------------------------
2.การสำรวจพื้นที่พื้นฐาน
การสำรวจพื้นฐานก่อนเริ่มเจาะช่วยให้คณะทำงานเข้าใจลักษณะทำเลที่ตั้ง เช่น ความลาดเอียง ระดับน้ำใต้ดิน รวมทั้งองค์ประกอบของดินข้างบน เพื่อประเมินความเหมาะสมสำหรับเพื่อการเจาะตรวจ
3.การเจาะตรวจและก็เก็บตัวอย่างดิน (Soil Sampling)
ขั้นตอนนี้นับว่าเป็นส่วนสำคัญของงานเจาะสำรวจดิน โดยใช้เครื่องเจาะพิเศษสำหรับการนำตัวอย่างดินออกมาทดสอบ มีวิธีการเก็บตัวอย่างดินดังนี้:
4.การเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างดินผิวหน้า (Surface Sampling)
ใช้สำหรับพินิจพิจารณาคุณสมบัติดินในชั้นตื้น อาทิเช่น การซึมผ่านของน้ำ ความชุ่มชื้น รวมทั้งการปนเปื้อน
5.การเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างดินลึก (Core Sampling)
ใช้สำหรับเรียนรู้รูปแบบของดินในชั้นลึก ยกตัวอย่างเช่น ดินเหนียว ดินทราย และดินหิน
6.การบันทึกข้อมูลรวมทั้งการตรวจดูพื้นฐาน
ระหว่างการเจาะ วิศวกรจะบันทึกข้อมูลที่สำคัญ เช่น ความลึกที่ดินแต่ละชั้นปรากฏ ความหนาแน่น แล้วก็ปริมาณน้ำใต้ดิน ข้อมูลนี้จะช่วยสำหรับเพื่อการตัดสินใจระหว่างการทำงาน
7.การวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
แบบอย่างดินที่เก็บมาจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อพินิจพิจารณาคุณลักษณะต่างๆได้แก่
-ค่าความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการรับน้ำหนัก (Bearing Capacity)
ใช้สำหรับในการดีไซน์รากฐาน
-ค่าการซึมผ่านของน้ำ (Permeability)
ใช้สำหรับเพื่อการคิดแผนระบายน้ำ
-ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH Value)
ช่วยให้คะแนนกระทบต่อสิ่งของที่ใช้ในองค์ประกอบ
📌⚡✅การจัดทำรายงานผลของการสำรวจดิน
ภายหลังการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการสำเร็จ วิศวกรจะทำรายงานที่สรุปข้อมูลทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งมี:
-เนื้อหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของดินแต่ละชั้น
-คำแนะนำสำหรับในการวางแบบรากฐาน
-การคาดการณ์ความเสี่ยงจากต้นเหตุดิน
🌏✨🛒กระบวนการเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้
1.การเจาะสำรวจด้วยแนวทางมือ (Hand Auger Drilling)
วิธีการแบบนี้เหมาะสำหรับงานเจาะตรวจขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง โดยใช้วัสดุเจาะดินซึ่งสามารถหมุนมือได้
2.การเจาะตรวจด้วยเครื่องจักร (Machine Drilling)
ใช้เครื่องเจาะดินที่มีระบบระเบียบไฮดรอลิกหรือระบบมอเตอร์ เหมาะกับการเจาะลึกและก็พื้นที่ขนาดใหญ่
3.การเจาะตรวจด้วยวิธี Wash Boring
ใช้สำหรับพื้นที่ที่มีชั้นดินเหนียวหรือชั้นดินทราย โดยใช้แรงดันน้ำช่วยสำหรับเพื่อการเจาะ
4.การเจาะตรวจด้วยวิธี Rotary Drilling
เป็นวิธีที่ใช้เครื่องเจาะแบบหมุนที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับการเจาะดินชั้นลึกและการสำรวจโครงงานขนาดใหญ่
📢🌏⚡ข้อควรระวังในการเจาะสำรวจดิน
-การเลือกตำแหน่งเจาะที่ไม่เหมาะสม
การเจาะตรวจในจุดที่ไม่ครอบคลุมเขตก่อสร้างอาจส่งผลให้ข้อมูลที่ได้ไม่ครบ
-การปล่อยทิ้งกระบวนการวิเคราะห์ดิน
หากข้ามขั้นในขณะนี้ไป บางทีอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและยั่งยืนของส่วนประกอบในอนาคต
-การใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสม
เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้ตัวอย่างดินที่เก็บได้มีความผิดสติไม่ดี
👉🦖✨ประโยชน์ซึ่งมาจากการกระทำตามขั้นตอนการเจาะตรวจสอบดินอย่างแม่นยำ
1.ช่วยทำให้การออกแบบฐานรากมีความเที่ยงตรง
ข้อมูลที่ได้จากการเจาะตรวจสอบช่วยให้วิศวกรสามารถดีไซน์โครงสร้างรองรับที่เหมาะสมกับภาวะดินในพื้นที่
2.ลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดปัญหาองค์ประกอบ
การรู้เรื่องคุณลักษณะของดินช่วยลดช่องทางที่ส่วนประกอบจะกำเนิดปัญหาทรุดหรือพังทลาย
3.เพิ่มความปลอดภัยในระยะยาว
แผนการที่ดำเนินการเจาะสำรวจดินอย่างแม่นยำจะมีความปลอดภัยรวมทั้งยืนยาวกว่างานที่ข้ามขั้นในช่วงเวลานี้
4.เกื้อหนุนการวางแผนโครงการอย่างยั่งยืน
การใช้ข้อมูลดินสำหรับเพื่อการตกลงใจช่วยทำให้โครงงานดำเนินไปอย่างยั่งยืนรวมทั้งลดผลพวงต่อสิ่งแวดล้อม
✨🌏✅สรุป
การเจาะตรวจสอบดินเป็นขั้นตอนการที่จำเป็นจะต้องสำหรับแผนการก่อสร้างทุกจำพวก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แจ้งชัดเกี่ยวกับคุณลักษณะของดินในพื้นที่ การกระทำตามกระบวนการเจาะสำรวจดินอย่างครบถ้วนช่วยให้โครงงานก่อสร้างดำเนินไปอย่างมุ่งมั่น ไม่มีอันตราย และมีคุณภาพ การวางเป้าหมายและก็การใช้ขั้นตอนการเจาะตรวจที่เหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้โครงสร้างในอนาคตมีความแข็งแรงและก็ยืนยาว
สำหรับนักปรับปรุงและวิศวกรที่กำลังคิดแผนโครงงาน การลงทุนในงานเจาะตรวจดินอย่างแม่นยำเป็นกุญแจสู่การบรรลุเป้าหมายของแผนการในระยะยาว แล้วก็เป็นการสร้างฐานรากป้อมคงสำหรับองค์ประกอบที่ปลอดภัยแล้วก็ยืนยงในโอกาสต่อไป
Tags :
บริษัท รับเจาะสํารวจดิน (https://medium.com/@soilboringtest)