• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#3301


จากการโอนเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 'อาชีพอิสระ' ให้แก่คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ใน 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ที่สมัครภายในวันที่ 31 กรกฎาคม และชำระเงินสมทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม

ผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ และตาก ที่มีสถานะเป็นผู้ประกันตนโดยสมบูรณ์ (สมัครและชำระเงินสมทบ) ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564

เรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่าผลการโอนเงินเยียวยาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (24- 26 สิงหาคม 2564) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 หรือ 'อาชีพอิสระ' คนละ 5,000 บาท ไปแล้วจำนวน 4,496,381 คน ปรากฏว่า โอนสำเร็จ จำนวน 4,096,790 คน และโอนไม่สำเร็จ จำนวน 399,591 คน


ส่วนใหญ่ที่โอนไม่สำเร็จมาจากสาเหตุ ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนสูงถึง 379,701 คน และสาเหตุอื่น ๆ จำนวน 19,890 คน ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทันในการโอนรอบนี้


รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใย และกำชับให้นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งประชาสัมพันธ์มายังผู้ประกันตน ที่ตกหล่นในการโอนเงิน หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน ท่านที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน หรือเปลี่ยนจากพร้อมเพย์เบอร์โทรศัพท์เป็นพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน

ส่วนท่านที่ไม่ได้รับเงินโอนเนื่องจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น บัญชีปิด หรือยังไม่เปิดบัญชี ก็ให้รีบไปติดต่อธนาคาร และดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ นายจ้างและ ผู้ประกันตน ทุกมาตรา ทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://www.sso.go.th/eform_news/ และในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 19 จังหวัดที่ขยายวันสมัครและชำระเงินถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เมื่อระบบประมวลผลข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งวันที่การโอนเงินให้ทราบต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#3302


นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอท่าแซะ เจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน ได้ออกกำจัดซากสุกรตายและสุกรเป็น ในพื้นที่ตำบลท่าข้าม หลังพบสุกรป่วยตายจำนวนมากมานานกว่า 2 สัปดาห์ จึงต้องเร่งกำจัดสุกรที่ชาวบ้านเลี้ยงตามครัวเรือนและตามฟาร์มต่างๆ ในรัศมีการแพร่ระบาด 3-5 กิโลเมตร

โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้านที่พบมีสุกรป่วยตายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำลายซากและสุกรที่ยังไม่ตายทั้งหมดเพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดที่เป็นไปอย่างรวดเร็วขณะนี้ โดยการใช้รถแมกโครขุดหลุมขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดจำนวน 8 จุด ในพื้นที่หมู่ 5, 7, 10, 13 ของพื้นที่ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ เพื่อผังกลบซากสุกรตายและสุกรเป็นที่ถูกกำจัด พร้อมทั้งฉีดยาพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่แพร่ระบาดดังกล่าว โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมีสุกรตายและถูกกำจัดไปแล้วหลายร้อยตัว

สำหรับสุกรป่วยตายดังกล่าวมีการแพร่ระบาดอยู่ในตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ และตำบลบางหมาก อ.เมืองชุมพร ซึ่งมีสุกรที่ป่วยตายและที่สุกรเป็นที่ต้องถูกกำจัดในรัศมี 3-5 กิโลเมตรของมีการแพร่ระบาด รวมแล้วเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกษตรกรที่เลี้ยงสุกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก


นายกฤษฏ์ กล่าวว่า สุกรป่วยตายในพื้นที่ตำบลรับร่อ ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว มีพื้นที่ระบาด 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 7, 5, 10, 13 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการกำจัดแหล่งแพร่เชื้อในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งได้ขอความร่วมมือกับชาวบ้านทุกรายในการกำจัด และขอความร่วมมือชาวบ้านและเจ้าของฟาร์มสุกรอย่าได้ปกปิดข้อมมูลเพื่อจะได้ป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งทุกรายที่ให้ความร่วมมือจะได้รับเงินชดเชยเยียวยาตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ


นายกฤษฏ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโรคระบาดในสุกรหมู่ดังกล่าวซึ่งตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ว่าเข้ามาในพื้นที่อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพราะการแพร่ระบาดทราบว่าเข้ามาได้หลายทางทั้งการขนส่ง การซื้อขาย การผสมพันธุ์ แหล่งอาหาร ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากอยู่แล้ว แต่ยังมีโรคมาแพร่ระบาดในสุกรอีกถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านให้เดือดร้อนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่เลี้ยงสุกรและเจ้าของฟาร์มทุกแห่งขอให้เปิดเผยความจริงอย่าปกปิด เพราะกลัวว่ารัฐจะกำจัดทำลายแล้วรีบชิงขายสุกรออกไปซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาลกลามมากขึ้น จึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย

"ขอฝากไปถึงชาวบ้านและผู้บริโภคเนื้อสุกรด้วย อย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ยังคงซื้อเนื้อสุกรบริโภคได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีการเคลื่อนย้ายสุกรออกจากพื้นที่แพร่ระบาดอย่างเด็ดขาด ขอให้มีควรมมั่นใจได้" นายก อบต.ท่าข้าม กล่าว

ด้าน นายอนนท์ บุญล้ำ อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ กล่าวว่า ลูกสาวตนเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี แต่ยังไม่มีงานทำจึงกลับมาอยู่บ้านในช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 และได้กู้เงินมาจาก ธ.ก.ส. และสหกรณ์ออมทรัพย์ ลงทุนเลี้ยงหมูจำนวน 24 ตัว ตอนนี้หมูมีน้ำหนักรวมราว 2 ตัน และอีกประมาณ 2 เดือนก็จะขายได้และช่วงนี้หมูมีคาคาดีกิโลกรัมละ 70-80 บาท ทำให้สูญเงินไปเกือบ 2 แสนบาท เงินเยียวยาที่จะได้รับจากทางราชการคงไม่คุ้มทุน จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สิ้นที่กูมาจากสถาบันการเงินให้ช่วยลดหย่อนดอกเบี้ยและพักชำระหนี้ไปก่อนสักระยะก่อน หากสถานกาณ์ดีขึ้นก็ว่ากันใหม่

ขณะที่ น.สพ.พิชัย โพธิ์กระสังข์ สัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร (ติดต่อโทรศัพท์) กล่าวว่าโรคระบาดในสุกรดังกล่าวคือโรค P R R S หรือ Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome เป็นโรคที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการทางระบบสืบพันธุ์แทรกซ้อนในสุกร และทางเดินหายใจ มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มีการพร่ระบาดในตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ และตำบลบางหมาก อำเภอเมืองชุมพร ซึ่งที่ผ่านมาเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วในหลายจังหวัดของประเทศไทย

น.สพ.พิชัย กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรหากพื้นที่ใดพบสุกรป่วยไม่สบายหรือตายขอให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอทันที เพื่อจะได้เข้าไปกำจัดและป้องการการแพร่ระบาด ซึ่งจะมีการชดเชยเยียวยาให้กับทุกคนอย่าได้ปกปิดข้อมูลเพราะจะส่งผลกระทบในวงกว้างกับผู้เลี้ยงสุกรเอง
#3303


ผลการศึกษาที่ชื่อ Mega Sales & Holiday 2021 จาก Facebook IQ เผยให้เห็นถึง 4 เทรนด์สำคัญสำหรับการชอปปิงช่วงปลายปีนี้ในประเทศไทยประกอบด้วย

1. เหล่านักช้อปให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวก่อนช้อปในเทศกาล Mega Sales Day เป็นอย่างมาก เหล่านักช้อปจะเตรียมตัวสำหรับ Mega Sales Day ล่วงหน้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ 

โดย 75% ของนักนักช้อปชาวไทยบอกว่าพวกเขาจะวางแผนสิ่งที่ต้องการจะซื้อล่วงหน้า โดยเดือนธันวาคมจัดเป็นช่วงเดือนที่นักช้อปมีการวางแผนมากที่สุด สะท้อนให้เห็นจากร้อยละ 54 ของนักช้อปชาวไทยบอกว่ามีการวางแผนช่วงนี้

นอกจากนี้ Mega Sales Day ยังเป็นช่วงที่การค้นหาสินค้านอกเหนือจากหมวดที่ได้รับความนิยมอย่าง เสื้อผ้า แฟชั่น และอาหาร เกิดขึ้นมาก โดยล 76% ของนักช้อปชาวไทยกล่าวว่าในช่วง Mega Sales Day พวกเขาซื้อสินค้าในหลากหลายหมวดหมู่มากกว่าช่วงปกติ และ 93% กล่าวว่าพวกเขาเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ไม่เคยซื้อมาก่อน 

แบรนด์ที่ถูกค้นพบในช่วงของ Mega Sales Day นี้มีแนวโน้มที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่มีความรักในแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วย 75% ของนักช้อปในประเทศไทยที่ซื้อของในช่วง Mega Sales Day นั้นมีแนวโน้มที่จะใช้และซื้อสินค้าที่พวกเขาค้นพบในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง มากกว่าที่จะกลับไปใช้แบรนด์เดิมๆ

2. แบรนด์ที่สามารถสร้างประสบการณ์การชอปปิงแบบไร้รอยต่อได้ จะมีความได้เปรียบ นักช้อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าเมื่อพวกเขามีความมั่นใจในคุณภาพ และรู้ว่ามีช่องทางติดต่อกับร้านค้า 

โดยจะชอบมากหากสินค้าได้รับการรีวิว (92%) มีรูปภาพคุณภาพสูงหรือวีดิโอที่มีคุณภาพสูง (88%) และความง่ายในการติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ (91%) ที่น่าสนใจกลุ่ม Gen X นั้น คาดหวังที่จะได้รับความสะดวกที่มากขึ้นไปอีก โดยพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่สามารถติดต่อผ่านการส่งข้อความได้มากกว่า

3. การค้าขายข้ามพรมแดนจะเข้ามาชดเชยรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อการเดินทางข้ามประเทศยังถูกจำกัดด้วยโรคระบาด เหล่านักช้อปในช่วง Mega Sales Day จึงหันมาซื้อของข้ามพรมแดนมากขึ้น เพราะว่าตอบโจทย์ในเรื่องความแปลกใหม่ และมีคุณค่าในตัวของมันเอง 

การที่พวกเขาสามารถค้นพบและเข้าถึงแบรนด์จากอีกมุมโลกได้ ทำให้การซื้อสินค้าข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยมีนักช้อปช่วง Mega Sales Day กว่า 55% ทำการซื้อสินค้าจากต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงวันหยุด โดยยอดขายนั้นส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Millennials และเสื้อผ้าเป็นกลุ่มที่มียอดขายสูงสุดสำหรับหมวดสินค้าต่างประเทศ

4. นักช้อปให้ความสำคัญกับความจริงใจของแบรนด์ ความเชื่อมั่นในแบรนด์เป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อในช่วง Mega Sales Day โดยลูกค้าต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อและปลอดภัย 

โดย 88% ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์และสินค้า ขณะที่  81% บอกว่าพวกเขาเชื่อเนื้อหาที่มีคนจริงๆ อยู่ในนั้น ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงนักช้อปและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ด้วยการร่วมมือกับเหล่าครีเอเตอร์ เพื่อช่วยบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในแบบที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในช่วง Mega Sales Day

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า ก้าวเข้ามาสู่ช่วงครึ่งปีหลังแล้ว และผู้คนจำนวนมากก็ยังคงใช้ช่องทางออนไลน์เป็นตัวเลือกหลักในการชอปปิง ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่แบรนด์ต่างๆ ควรประเมินว่าจะสร้าง engagement หรือปฏิสัมพันธ์กับเหล่านักช้อปอย่างไร 

โดยเฉพาะในเรื่องของการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าและมีความสามารถในการตอบโจทย์ตรงความต้องการเฉพาะส่วนบุคคลของผู้บริโภคในรูปแบบที่ดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมที่ดีกับตัวแบรนด์ด้วย เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่กำลังจะมาถึงในช่วงเทศกาลนี้
#3304


ขุนพลนักเตะคนตาบอดทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมแข่งขันพาราลิมปิกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเดิมสนามนัดแรก พ่าย 'กระทิงดุ' สเปน อดีตแชมป์โลก 2 สมัย แบบน่าเจ็บใจ 0-1 ในการแข่งขันฟุต.คนตาบอด กีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม

โดยทีมนักเตะตาบอดทีมชาติไทย เคยเจอกับ สเปน มาแล้ว 2 นัดในศึกปรีพาราลิมปิก 2020 ก่อนหน้านี้ โดยนัดแรก ไทย ชนะ 3-2 แต่ในนัดที่ 2 ซึ่งเป็นเกมรอบชิงอันดับ 3 ไทยแพ้ 0-1

'โค้ชก้อง' นายก้องเกียรติ ก้องแดนไพร หัวหน้าโค้ชแข้งตาบอดไทย จัดทีม 5 คนแรกลงสนาม ประกอบด้วย พรชัย กสิกรอุดมไพศาล (ผู้รักษาประตู), 'เต๋า' ปัญญาวุฒิ คุพันธ์, กิตติธัช วิมลวรรณ์, กิตติกร บัวดี และประครอง บัวใหญ่

ครึ่งแรก ทั้งสองทีมต่อเกมสู้กันอย่างสนุก แม้แข้งไทยจะเสียเปรียบรูปร่างแต่ใจสู้ นาทีที่ 8 ไทยได้ฟรีคิก กิตติกร บัวดี สับด้วยเท้าซ้าย.เกือบเสียบโคนเสา แต่ผู้รักษาประตูสเปนปัดออกมาได้
นาทีที่ 12 ไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ปัญญาวุฒิ ได้จังหวะสับไกด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษแต่นายทวารสเปนปัดออกมาได้อีกครั้ง จบครึ่งแรกยังประตูกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง ไทยเน้นเกมรับแน่นขึ้น หมุนเวียนนักเตะลงสนาม นาที 30 ประคอง ได้ลากไปซัดจากจังหวะฟรีคิก.ไปติดเซฟของนายทวารสเปน ถัดมานาทีเดียว สเปนได้ฟรีคิกแต่ยิงไปติดกำแพงทีมไทย

นาที 33 ไทยฟาวล์ครบตามโควต้าเลยเสียจุดโทษระยะที่ 2 แต่ อดอลโฟ่ โรดริเกรซ ยิงออกไป ถัดมา 2 นาที เซร์คิโอ้ อัลมาร์ ยิงไกลเดือดร้อน พรชัย นายทวารของไทยต้องออกแรงเซฟรอดพ้นการเสียประตูแบบหวุดหวิด

เหลืออีก 5 นาทีจะหมดเวลา ไทยเสียจุดโทษระยะที่ 2 อีกครั้ง แต่ ไกตัน กองหน้าสเปนยิงเฉี่ยวเสาออกไป

เหลือ 3 นาทีจะหมดเวลาไทยเฉียดได้ประตูชัย จากการลากแหวกไปของ กิตติกร บัวดี แต่ล้มตัวยิงไปติดนายทวารสเปน

ขณะเหลือเวลาอีก 44 วินาที ไทยมาเสียจุดโทษระยะที่ 2 และเป็น ไกตัน ยิงแบบฉีดยาเสยเพดานเข้าประตูไปช่วยให้สเปน ออกนำไทย 1-0 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

โปรแกรมเตะอีก 2 นัดที่เหลือของทีมฟุต.คนตาบอดไทย วันที่ 30 สิงหาคม พบ โมร็อกโก เวลา 14.30 น. ตามเวลาไทย / วันที่ 31 สิงหาคม ไทย พบ อาร์เจนติน่า เวลา 14.30 น. ตามเวลาไทย

สำหรับฟุต.คนตาบอด พาราลิมปิก โตเกียว 2020 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยจะคัดเอาอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย อยู่ร่วมกลุ่มบี กับ สเปน, โมร็อกโก และอาร์เจนติน่า ส่วนกลุ่มเอ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, บราซิล และจีน

ร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยสู้ศึก 'พาราลิมปิกเกมส์ 2020' ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม- 5 กันยายน 2564 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่าน AIS PLAY และสถานีทีวีกีฬา ทีสปอร์ต (T-SPORTS CHANNEL) ช่องทีวีดิจิตอลหมายเลข7
#3305


วานนี้ (28 ส.ค.) เวลาประมาณ 21.30 น. สถานทูตจีนประจำได้เผยแพร่ภาพการนำส่งวัคซีนซิโนฟาร์มอีก 2 ล้านโดส มายังสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง โดยระบุว่า ซิโนฟาร์มล็อตนี้ รัฐบาลทหารพม่าได้สั่งซื้อจากบริษัทเอกชนของจีน

สถานทูตจีนเปิดเผยข้อมูลว่า นับแต่พม่าเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 จีนได้ส่งวัคซีนให้พม่าแล้วทั้งสิ้น 7.6 ล้านโดส ในนี้เป็นวัคซีนที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ 2.9 ล้านโดส และเป็นยอดที่รัฐบาลพม่าสั่งซื้อจากบริษัทเอกชนจีนอีก 4.7 ล้านโดส

ซิโนฟาร์มอีก 2 ล้านโดสที่เพิ่งถูกส่งมาถึงพม่าเมื่อเย็นวานนี้ (28 ส.ค.)
ซิโนฟาร์มอีก 2 ล้านโดสที่เพิ่งถูกส่งมาถึงพม่าเมื่อเย็นวานนี้ (28 ส.ค.)

พม่าเริ่มเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ประมาณปลายเดือนมิถุนายน และตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมเป็นต้นมา จีนได้เร่งส่งวัคซีนให้พม่าแล้วหลายครั้ง โดยวัคซีนที่ได้รับบริจาคทั้งหมดเป็นซิโนฟาร์ม ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลทหารสั่งซื้อ คละกันทั้งซิโนฟาร์มกับซิโนแวค และจากข่าวที่ปรากฏใน 1 เดือนมานี้ มีวัคซีนซิโนแวคอย่างน้อย 2 ล้านโดส ถูกส่งมาถึงพม่าแล้ว

ก่อนหน้าการระบาดระลอก 3 กระทรวงสาธารณสุขพม่าได้ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปแล้วประมาณ 1.8 ล้านโดส วัคซีนส่วนใหญ่เป็น Covishied ที่ได้รับมาจากอินเดีย แต่หลังเกิดการระบาดระลอก 3 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม โดยวัคซีนที่นำมาฉีดรอบหลังนี้เป็นวัคซีนจากจีนทั้งหมด

เฉพาะวัคซีนที่เพิ่งนำมาฉีดรอบใหม่นั้น กระทรวงสาธารณสุขพม่าสรุปยอดล่าสุด ณ วันที่ 24 สิงหาคม มีผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนแล้วทั้งสิ้น 4,542,363 คน เป็นผู้ที่เพิ่งฉีดเข็มแรก 2,744,813 คน และได้ฉีดเข็ม 2 แล้ว 1,797,550 คน และเมื่อรวมกับยอดของผู้ที่ได้ฉีดก่อนการระบาดระลอก 3 มีชาวพม่าได้ฉีดวัคซีนแล้วรวม 6,339,913 คน คิดเป็น 11.8% ของประชากรรวมทั้งประเทศที่มีประมาณ 54 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม แม้กระทรวงสาธารณสุขพม่า พยายามกระจายวัคซีนเพื่อฉีดให้ครอบคลุมประชาชนได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้มากที่สุด แต่ตามบริเวณชายแดน โดยเฉพาะด้านตะวันตกที่ติดกับอินเดีย ยังคงมีกระบวนการลักลอบนำวัคซีน Covishied และยา Remdesivir ปลอมเข้ามาขายเป็นจำนวนมาก

ยา Remdesivir ปลอม ที่ตำรวจอินเดียเพิ่งจับได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนถูกส่งข้ามชายแดนมาขายในพม่า
ยา Remdesivir ปลอม ที่ตำรวจอินเดียเพิ่งจับได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนถูกส่งข้ามชายแดนมาขายในพม่า

สำนักข่าว NDTV ของอินเดีย รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ตำรวจเมืองอิมพาล ได้จับกุมชาย 3 คน พร้อมของกลาง คือ วัคซีน Covishied และยา Remdesivir ปลอม รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์อีกเป็นจำนวนมาก ของกลางทั้งหมดกำลังเตรียมส่งข้ามชายแดนเข้าไปขายในพม่า

อิมพาลเป็นเมืองหลวงของรัฐมณีปุระ รัฐทางตะวันออกของอินเดียซึ่งมีชายแดนติดกับภาคสะกายและรัฐชิน โดยอิมพาลอยู่ห่างจากด่านชายแดนโมเร ที่เป็นประตูการค้าสำคัญของพม่า-อินเดีย ประมาณ 140 กิโลเมตร

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ตำรวจอิมพาลก็ได้จับผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นยา DESREM ปลอมขนาดขวด 100 มิลลิกรัม จำนวน 441 ขวด ที่กำลังเตรียมจะส่งผ่านด่านชายแดนมาขายในพม่า โดย DESREM เป็นชื่อทางการค้าของยา Remdesivir ที่ใช้รักษาโควิด-19 อยู่ในอินเดีย

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม หนังสือพิมพ์ The Global New Light of Myanmar เพิ่งพิมพ์คำเตือนของกระทรวงสาธารณสุข ที่แจ้งต่อประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะตรวจพบว่ามีการวางขายวัคซีน Covishied ปลอมในพม่า ดังนั้น จึงห้ามประชาชนซื้อวัคซีนมาฉีดเองโดยเด็ดขาด และหากพบคลินิกเอกชน โรงพยาบาลเอกชน ร้านขายยา รวมทั้งประชาชนทั่วไปรายใดนำวัคซีนปลอมมาจำหน่าย จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด.
#3306


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ภายใต้นโยบาย "MTL Trusted Lifetime Partner" และด้วยสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมดูแลลูกค้าคนสำคัญ เพื่อให้สามารถผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

โดยบริษัทฯ ขอมอบความอุ่นใจสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยความคุ้มครองการรักษาผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา 337 แห่ง รวมถึงหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ที่เครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา เปิดให้บริการ และโรงพยาบาลสนาม (Field Hospital) ตามเกณฑ์การส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทางและได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยให้คุ้มครองกรณีการเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ตามผลประโยชน์ความคุ้มครอง ทั้งประกันสุขภาพรายบุคคลและรายกลุ่ม ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

สำหรับผู้ป่วยโรคทั่วไป บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมทีมงาน "MTL Health Buddy" ซึ่งเป็นบริการผู้ช่วยด้านสุขภาพครบวงจร สิทธิพิเศษที่มอบให้เฉพาะลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ที่พร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ ค้นหาศูนย์แพทย์เฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค ทำการ นัดหมาย ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสิทธิพิเศษแบบเหนือระดับอีกมากมาย เพียงโทรเข้ามาที่ 02-290-2424 จากนั้นแจ้งข้อมูลและความต้องการใช้บริการหรือข้อมูลด้านสุขภาพที่ต้องการแก่ MTL Health Buddy ได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มี Hospitel ให้บริการ ได้ที่ www.muangthai.co.th หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญาได้โดยตรง

หมายเหตุ:
- การพิจารณาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และ Hospitel เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และได้รับการประเมินอาการโดยสถานพยาบาลต้นทางแต่ละแห่ง
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
#3307


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังหมายเลข 7 โพสต์ข้อความอำลาแฟน. ยูเวนตุส ยักษ์แห่ง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งถือเป็นความในใจแรกของเจ้าตัวหลังเก็บของย้ายกลับไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โรนัลโด้ ย้ายมาสวมเสื้อลายขาว-ดำ ของพลพรรค 'ม้าลาย' เมื่อปี 2018 และประสบความสำเร็จซิวถ้วยแชมป์ 5 ใบคือ กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย, โคปปา อิตาลี 1 สมัย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเมื่อเจ้าตัวกลับไปเล่นกับ 'ผีแดง' สโมสรที่พาแจ้งเกิดบนสังเวียนระดับโลก

เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่าเมื่อจากลาก็ต้องมีการร่ำลา และนักเตะวัย 36 ปี ก็ตัดสินใจบอกลาโค้ช ทีมงาน และแฟน.ทุกคนผ่าน โซเชียล มีเดีย มีใจความดังต่อไปนี้

'วันนี้ผมต้องเดินออกจากสโมสรที่น่าทึ่ง ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลี และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผมมอบหัวใจและจิตวิญญาณให้แก่ ยูเวนตุส และผมจะรักเมืองตูรินไปจนวันสุดท้าย แฟน.ของเรา ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี ให้การยอมรับผมเสมอมา ผมจึงพยายามขอบคุณด้วยการต่อสู้เพื่อพวกเขาในทุกเกม ทุกฤดูกาล และทุกการแข่งขัน'

ในท้ายที่สุด เราทุกคนสามารถมองย้อนกลับไป และระลึกได้ว่าเราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้ไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการ แต่เราก็ได้เขียนเรื่องราวที่สวยงามไปด้วยกัน'

"Juve, storia di un grande amore
Bianco che abbraccia il nero
Coro che si alza davvero
Juve per sempre sara..."

'ผมจะเป็นหนึ่งเดียวกับคุณเสมอ คุณเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของผม และผมรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ อิตาลี, ยูเว, ตูริน, ทิฟโฟซี เบียงโคเนรี คุณจะอยู่ในใจผมเสมอ'
#3308
ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ฟรี! 
รับฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้านระยะสั้น และยาว : มืออาชีพ ปล่อยเร็ว





ทำไมต้องฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน?
ฝากขายบ้าน : ปล่อยบ้านไว ทีมงานพาชมบ้าน พร้อมทำสัญญา และพาโอนกรรมสิทธิ์
ฝากปล่อยเช่าบ้าน : หาผู้เช่าได้เร็ว ทีมงานพาชมบ้าน พร้อมทำสัญญา และดูแลตลอดสัญญา





ขั้นตอนการฝากขายบ้าน 
1.จัดเตรียมข้อมูล รายละเอียดบ้าน
2.ถ่ายรูปบ้าน และตกแต่งบ้านให้สวยงาม
3.จัดเตรียมเบอร์โทร, Line และอีเมล์ เจ้าของบ้านที่ติดต่อได้สะดวก (สำคัญ)
4.ลงข้อมูลบ้านด้วยตนเอง หรือ ฝากทีมงานลงข้อมูลฝากขายบ้าน
5.หลังลูกค้าสนใจ ทีมงานติดต่อเจ้าของบ้าน
6.นัดหมายเข้าชมบ้าน พร้อมทำสัญญา
7.ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน





 จุดเด่นของการ ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน กับ Propso.com 

ปัจจุบัน การสื่อสารได้มีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จาก 2G สู่ 3G มาถึง 4G และกำลังขยับเข้าสู่ 5G ซึ่งรูปแบบการฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน นั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น ประกาศขายบ้านผ่านช่องทางส่วนตัว ประกาศปล่อยเช่าบ้านผ่านนายหน้า ประกาศขายบ้านในเวปไซต์ หรือ ประกาศเช่าบ้านผ่าน Social Media ต่างๆ ซึ่งในแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันไป ถ้ามองในมุมมองของลูกค้าที่ต้องการขายบ้าน หรือ ต้องการเช่าบ้านแล้ว ช่องทางไหนที่สะดวก หรือ มีบ้านเช่าที่ถูกใจ ตรงกับงบประมาณ รูปสวย ชัดเจนทุกมุม จะช่วยให้การฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว 

Propso.com เข้าใจและทราบถึงความยุ่งยากของฝากเจ้าของบ้าน ในการให้ข้อมูลการฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ต้องสามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และที่สำคัญคือต้องปล่อยขายบ้านให้ได้ไว ด้วยการตลาดในรูปแบบ Referral Marketing โดยให้ทีม Co-Agent ของ Propso หรือ Partner ของ Propsoช่วยหาลูกค้า ทำให้บรรดาเจ้าของบ้านเช่าทั้งหลายต่างไว้วางใจ Propso เป็นอย่างมาก 

ในมุมของลูกค้า สิ่งที่ต้องการมากที่สุด คือ ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ต้องเป็นรูปจริง ข้อมูลอัพเดท และมีราคาที่เหมาะสม รวมถึงถ้าได้รับการแนะนำจากคนที่เราไว้ใจอย่าง Co-Agent ของ Propso หรือ Partner ของ Propso แล้ว ยิ่งสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น 

ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยว่า ด้วยแผนการตลาดของ Propso นี้จึงทำให้เจ้าของบ้านหลายท่านมั่นใจ และยินดีที่จะ ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน กับทางเรา นอกจากปล่อยขายบ้าน/ปล่อยเช่าบ้านได้เร็วแล้ว ยังมีบริการเสริมต่างๆ อีกมากมายเช่น บริการทวงถามค่าเช่าบ้าน, บริการ Call Center ทุกวัน 9:00-22:00 น., บริการตรวจบ้าน และประเมินความเสียหายหลังสิ้นสุดสัญญา เป็นต้นYoutube : https://youtu.be/QGzLKZP-MUs 

สนใจบริการ Propso : ฝากขายบ้าน | ฝากขายคอนโด | ฝากขายทาวน์โฮม | ฝากขายอาคารพาณิชย์ | ฝากขายโฮมออฟฟิศ
#3309


วันที่ 27 ส.ค.64 ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กระทรวงวัฒนธรรม จัดงานประกาศผลรางวัลโครงการสื่อสร้างสรรค์คุณธรรมอวอร์ด ปี 2563 (Moral Media Awards 2020) โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลและโล่เกียรติคุณ พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยจัดขึ้นในรูปแบบ Virtual Live ผ่านเฟซบุ๊กเพจศูนย์คุณธรรม Moral Center Thailand และเฟซบุ๊กกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติครั้งที่ 11



นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันการสื่อสารมีความจำเป็นและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกระจายข่าวสารและความรู้ให้สังคมได้รับรู้รับทราบ และช่วงนี้เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันเพื่อช่วยกันระงับยับยั้งการแพร่ระบาด สำหรับโครงการสื่อสร้างสรรค์คุณธรรมอวอร์ดนี้เป็นครั้งแรกที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติผู้ผลิตสื่อทั้งในส่วนของบุคคล คณะบุคคล หน่วยงานต่างๆ ด้านคุณธรรมจริยธรรม สิ่งที่เป็นวิกฤติจะได้เป็นโอกาส ซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ได้ร่วมกันจัดทำโครงการฯ และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำให้เกิดการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในวงกว้าง เพื่อให้สังคมได้รับสื่อที่มีคุณภาพ จะได้เป็นแรงบันดาลใจในการผลิตสื่อที่ดี
มีคุณภาพในปีต่อ ๆ ไป

นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คณะกรรมการปฎิรูปด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดทำโครงการสื่อสร้างสรรค์คุณธรรมอวอร์ด ปี 2563 (Moral Media Awards 2020) ขึ้นเป็นปีแรก โดยคัดเลือกสื่อที่มีผลงานสร้างสรรค์คุณธรรม ซึ่งมีแนวคิด เนื้อหา รูปแบบการถ่ายทอด นำเสนอสู่สาธารณะที่แสดงถึงการส่งเสริมคุณธรรม ที่มุ่งเน้นให้ผู้รับรู้สื่อมีพฤติกรรมด้านคุณธรรม หรือวิถีวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคมไทย จำนวน 9 ประเภท เพื่อประกาศยกย่อง บุคคล หน่วยงานที่ผลิต และนำแง่มุมที่เกี่ยวข้องด้านคุณธรรมที่ส่งผลกระทบต่อจิตสำนึกและเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม โดยมีผู้ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมมากถึง 315 ผลงาน แบ่งเป็น ประเภทละคร 25 ผลงาน ประเภทภาพยนตร์ 18 ผลงาน ประเภทคลิปวิดีโอสั้นที่เผยแพร่ทางโซเซียลมีเดีย 93 ผลงาน ประเภทโฆษณา 27 ผลงาน ประเภทบทเพลง 25 ผลงาน ประเภทรายการวิทยุ 6 ผลงาน ประเภทรายการโทรทัศน์ 38 ผลงาน ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ 47 ผลงาน และประเภทสื่อดิจิทัล 36 ผลงาน

สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือก ได้แก่ 1.เป็นสื่อสร้างสรรค์คุณธรรม ที่มีเนื้อหาแง่มุมเกี่ยวข้องด้านคุณธรรม หรือสื่อสารเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกด้านคุณธรรม ส่งเสริมให้ผู้รับรู้มีพฤติกรรมด้านคุณธรรมพอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และหรือ คุณธรรมอื่น ๆ 2.เป็นสื่อสร้างสรรรค์คุณธรรมประเภทต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ในสื่อช่องทางต่างๆ แล้วภายในปี 2562 - 2563 3.เป็นสื่อที่ไม่ขัดต่อศีลธรรม จริยธรรม ไม่สื่อถึงการยุยง ปลุกปั่น หรือเป็นการละเมิดต่อผู้อื่น และไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง และ 4.รายละเอียดเกณฑ์การพิจารณาอื่น ๆ ให้เป็นไปตามความเห็นหรือมติของคณะทำงานคัดเลือกแต่ละประเภทกำหนด



ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มีวัตถุประสงค์รณรงค์ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หนึ่งในภารกิจที่สำคัญมากคือสนับสนุนสื่อที่ส่งเสริมให้เกิดคุณธรรมจริยธรรม ปีนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ได้จัดขึ้นเป็นปีแรก เราอยากเห็นการใช้สื่อเพื่อส่งเสริมสิ่งที่ดีงาม เป็นความดีของคนในสังคมและทำให้ได้รับการขยายผล ถ่ายทอดไปสู่สาธารณชนต่อไป

โดยผลการคัดเลือกสื่อสร้างสรรค์คุณธรรมอวอร์ด ปี 2563 ทั้ง 9 ประเภท มีดังนี้

1.ประเภทละคร จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ ปลายจวัก โดย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส, ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง โดยสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2 โดย สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 

2.ประเภทภาพยนตร์ จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ โดย บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, รักนะซุปซุป โดย บริษัท มณวิจิตร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, หัวใจทองคำ โดย บริษัท สยามแพนโดร่า จำกัด 

3.ประเภทคลิปวิดีโอสั้นที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ จนแต่มีน้ำใจ โดย กุลิ ฟิล์ม, ท่านจงมีน้ำใจต่อกัน โดย บางรัก ชาแนล, Blood Hero กลุ่มฮีโร่ หลั่งเลือดจากชมรมผู้บริจาคโลหิต ๑๐๐ ครั้ง สภากาชาด โดยเพจมนุษย์ต่างวัย



4.ประเภทโฆษณา จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ ไฟ-ฟ้า by TMB / เด็กธรรมดา...คือสิ่งที่สวยงาม โดย ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) , คุณเคย bully ใครหรือเปล่า? | ความสุขประเทศไทย โดย ความสุขประเทศไทยและธนาคารจิตอาสา, โปรโมชั่นที่ดีที่สุด | Air Asia โดย JourneyD/ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด 

5.ประเภทบทเพลง จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ แสงศรัทธา โดย ส่วนประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, ด้วยใจรัก โดย นายวีระ มนตรีวงษ์, เชิญอริยมรรค จากโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม โดย หน่วยงานทรูปลูกปัญญา บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

6.ประเภทรายการวิทยุ จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ รายการ GIVE NEVER STOP มอบอุปกรณ์ช่วยชีวิต โดย บริษัท วิไลเซ็นเตอร์แอนด์ซันส์ จำกัด ผู้ผลิตรายการข่าวจราจร สวพ.FM91 และผู้สนับสนุน รายการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน), รายการห้องรับเเขก สวีท
เอฟเอ็ม โดย FM 89.5 MHz., รายการสโมสรวัฒนธรรม โดย สถานีวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 
AM981 KHz

7.ประเภทรายการโทรทัศน์ จำนวน 3 ผลงาน โดยมีการจัดอันดับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ รายการสามเณรปลูกปัญญาธรรม ปี 8 จากโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม โดย หน่วยงานทรูปลูกปัญญา บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), รองชนะเลิศอันดับที่ 1 รายการชัวร์ก่อนแชร์ โดยศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท, รองชนะเลิศอันดับที่ 2 รายการท้าให้อ่าน The Reading Hero โดย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส 

8.ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ จำนวน 3 ผลงาน โดยมีการจัดอันดับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ หนังสือ Water Wide Web พายเรือเก็บขยะ 7 ประเทศ ผู้แต่ง ปริญญา เทวานฤมิตรกุล จากสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 หนังสือ เด็กชายชาวดง ผู้แต่ง มาลา คำจันทร์ จากสำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง จำกัด, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 หนังสือ หอมกลิ่นความดี ผู้แต่ง ประสาร มฤคพิทักษ์ จากสำนักพิมพ์ศยาม และ 

9.ประเภทสื่อดิจิทัล จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ สารคดี หัวใจตื่นรู้ โดย มูลนิธิสหธรรมิกชน, ธรรมlife โดย มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ, เปิดใจ - แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ครูเข้าถึงหัวใจวัยรุ่นได้มากกว่าที่เคย โดย บริษัท มายด์เซ็ทเมคเกอร์ จำกัด
#3310


วันนี้ (27 ส.ค. 64) นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมมือกับ 'ShopeePay' (ช้อปปี้เพย์) ผู้ให้บริการด้านการชำระผ่าน Mobile Wallet เพิ่มช่องการให้บริการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคมผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพิ่มเติมอีก 1 ช่องทาง ผ่านแอปพลิเคชั่น 'Shopee' (ช้อปปี้) พร้อมเปิดให้บริการแล้ว

ขั้นตอนการชำระผ่าน Shopee "ผู้ประกันตน ม.40"
1. ผู้ประกันตนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Shopee 

2. "Top-up Bill & Movies"

3. แล้วไปที่เมนู "บิลประกัน และประกันสังคม"

4. จากนั้นเลือกเมนู "ประกันสังคมมาตรา 40"

ผู้ประกันตนก็สามารถชำระเงินสมทบและเงินสมทบเพิ่มเติม (ถ้ามี) งวดเดือนปัจจุบัน และชำระเงินสมทบงวดเดือนล่วงหน้าไม่เกิน 12 งวดเดือน รวมชำระเงินสมทบ ได้ไม่เกิน 13 งวดเดือน กรณีเงินสมทบเพิ่มเติมชำระได้ไม่เกินละ 1,000 บาท และไม่สามารถชำระเงินสมทบและเงินสมทบเพิ่มเติมงวดเดือนย้อนหลังได้ พร้อมฟรีค่าธรรมเนียม

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถพิมพ์ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ได้ด้วยตนเองบนเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th/erc ในวันถัดไปจากวันที่ชำระเงินตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป 

'ฤกษ์ไหว้' ขอขมาฟ้าดินใน 'วันฟ้าอภัย' หรือ 'วันเทียงเสี่ยยิก' 28 สิงหาคม 2564 โดย อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
ผู้ประกันตน ม. 40 ชำระเงินสมทบ ผ่าน 'Shopee' ได้แล้ววันนี้
กางหลักเกณฑ์ 'สินบน-เงินรางวัล' รถหรู
ผู้ประกันตน สามารถติดต่อสอบถามการสมัครใช้บริการหรือแจ้งปัญหาได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ของบริษัทฯ ผ่าน Call Center เบอร์โทรศัพท์ 02-017-8399 e-mail : help@support.shopee.co.th และกรอกแบบฟอร์มเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับที่ https://help.shopee.co.th/s/contactusform

หากผู้ประกันตนตามมาตรา 40 มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลสำนักงานประกันสังคมโทรศัพท์ 1506 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ
#3311


เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน ประกาศว่าหลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ควบคุมได้แล้ว เป้าหมายต่อไปของสหรัฐอเมริกาคือจะทำทุกวิถีทางที่จะอวสานโรคมะเร็งให้ได้

เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวอยู่บ้าง เพราะลูกชายของเขา บิว ไบเดน (Beau Biden) ก็เสียชีวิตลงไปด้วยโรคมะเร็งร้ายตั้งแต่อายุเพียงแค่ 46 ปี

ไบเดนตั้ง ดร. อีริค แลนเดอร์ (Eric Lander) ศาสตราจารย์ทางด้านพันธุศาสตร์และคณิตศาสตร์ จากเอ็มไอที หนึ่งในผู้บุกเบิกโครงการจีโนมมนุษย์ ขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาหลักทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีเพื่อผลักดันนโยบายวิจัยให้ตอบโจทย์นี้ให้ได้

แม้ว่าสหรัฐจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบนิเวศน์ที่สนับสนุนการผลักดันงานวิจัยออกไปสู่ธุรกิจนวัตกรรมออกมาได้อย่างน่าประทับใจจนหลายคนมองว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นดินแดนแห่งโอกาส ​แต่ทว่าในมุมมองของนักบริหาร การผลักดันงานวิจัยจากห้องทดลองสู่การใช้งานจริงนั้นยังเกิดขึ้นน้อยกว่าที่คาดหวังไปมาก ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการให้ทุนแบบระมัดระวังเกินไป จนนวัตกรรมแบบไอเดียพลิกโลกนั้นแทบจะไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้นมา

ไบเดนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับแนวคิดในเรื่องการให้ทุนของสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหม (Defense Advance Research Projects Agency, DARPA) หรือที่หลายๆ คนเรียกกันติดปากว่าดาร์พา

ดาร์พาตั้งขึ้นเมื่อปี 1958 หลังจากที่สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตส่งดาวเทียมสปุตนิก 1 (sputnik1) ขึ้นไปสู่วงโคจรของโลกได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสหรัฐอเมริกาจะยังคงฐานะเป็นผู้นำโลกทางด้านเทคโนโลยีอยู่


เพราะระบบการให้ทุนที่ไม่เหมือนใครของดาร์พาที่เน้นโครงการเสี่ยงสูง กำไงาม​ (high risk high rewards) จึงทำให้โครงการประหลาดๆ ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมแบบสุดโต่งที่เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีไปอย่ามหาศาล ตั้งแต่อินเตอร์เน็ต จีพีเอส โดรน ไปจนถึงวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ

โดยปกติแล้วกลไกการให้ทุนของแหล่งทุนทั่วๆ ไปคือจะจัดตั้งทีมผู้ทรงคุณวุฒิมานั่งอ่านแบบเสนอโครงการ ถามคำถาม ให้ความเห็นว่าจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนแล้วจบ อย่างมากก็อาจจะมีกลับมาอ่านอีกรอบเพื่อประเมินความก้าวหน้ารายปีแค่นั้น แต่ดาร์พาจะมีกลไกที่ต่างออกไป โดยทางดาร์พาเองจะไปยืมเอาตัวผู้เชี่ยวชาญศักยภาพสูงนับร้อยคนมาจากมหาวิทยาลัยหรือภาคอุตสาหกรรมมาเป็นผู้จัดการโครงการส่วนใหญ่ก็ระยะเวลาสามถึงห้าปี ผู้จัดการโครงการแต่ละคนจะต้องเกาะติดเรียกว่าเเทบจะเป็นหนึ่งในทีมวิจัยเลยก็ว่าได้ ทั้งต้องช่วยประสานงาน ขจัดอุปสรรคที่อาจจะมาขัดขวางการทำงาน ​กำหนดเดดไลน์และเข้าไปติดตามความก้าวหน้าของงานอยู่ตลอดเพื่อประเมินความก้าวหน้าและความเสี่ยงว่ามีโอกาสสำเร็จมากเพียงไร และควรจะให้การสนับสนุนต่อไปหรือไม่ โดยมีไกด์ไลน์ในการประเมินที่ชัดเจนที่เขียนขึ้นมาโดยอดีตผู้อำนวยการดาร์พา จอร์จ เฮลเมเออร์ เรียกว่า "ชุดคำถามของเฮลเมเออร์​ (Heilmeier Catechism)"

เนื่องจากทุนของดาร์พาส่วนใหญ่เป็นแบบเสี่ยงสูง ประเด็นสำคัญคือผู้จัดการโครงการจะต้องมีช่องให้ล้มเหลว เพราะเมื่อไรที่ทุกคนกลัวว่าโครงการจะไปไม่รอด โครงการแบบเสี่ยงสูงแต่ให้ผลพลิกโลกจะไม่มีโอกาสได้เกิด โครงการที่บางทีดูล้ำจนหลายๆ คนอาจจะมองว่าเป็นไปได้ยาก จนแหล่งทุนทั่วไปไม่กล้าให้เงิน ก็ยังอาจจะมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากดาร์พาได้

จินตนาการ คือ มีผู้บริหารโครงการที่รู้จริงและเข้าใจมาช่วยตรวจสอบและผลักดันโครงการให้เป็นไปตามที่จะเป็น โอกาสที่จะดึงเอางานวิจัยขึ้นหิ้งให้ลงมาสู่ห้างก็อาจจะเป็นไปได้ และถ้ามีผู้จัดการโครงการที่เก่งและมีวิสัยทัศน์สูงๆ รู้ว่าเทคโนโลยีนี้จะตอบโจทย์เอกชนยังไงและใครจะเป็นพาร์ทเนอร์ในเชิงธุรกิจ งานวิจัยจะไม่จบแค่องค์ความรู้พื้นฐาน แต่จะถูกผลักดันให้กลายมาเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน หรือแม้แต่ออกมาสู้กับวิกฤตต่างๆ ได้

ไบเดนมีแผนจะตั้งอาร์พา-เอช (ARPA-H) เพื่องานวิจัยด้านสุขภาพ ภายใต้ร่มของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ (National Institute of Health, NIH) เพราะมีพันธกิจตรงกันคือ "เพื่อค้นหาองค์ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติและพฤติกรรมของระบบชีวิตและการประยุกต์ใช้องค์ความรู้นั้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เพิ่มอายุขัย และลดการเจ็บป่วยและพิการ" โดยในปี 2022 นี้จะมีแผนการจะสนับสนุนงบประมาณจำนวน 6.5 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ เกือบๆ สองแสนสองหมื่นล้านบาทเพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์แบบล้ำยุค อย่างวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอต้านมะเร็ง อุปกรณ์สวมใส่(wearable) เพื่อติดตามอาการโรคเบาหวานและอัลไซเมอร์แบบเรียลไทม์ ระบบพัฒนาวัคซีนภายใน 100 วัน และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งก็คงต้องลุ้นต่อไปว่าจะแนวคิดการบริหารจัดการโครงการวิจัยแบบนี้จะไปได้ไกลถึงฝั่งฝันอย่างทีดาร์พาเคยทำไว้ได้หรือเปล่า

"การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในช่วงสิบปีข้างหน้าจะเห็นได้ชัดเจนกว่าที่เคยพบเจอมาในช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมารวมกันเสียอีก เห็นได้จากความไวในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และอีกหลายๆ เทคโนโลยี" ไบเดน กล่าว "ผมไม่เห็นการลงทุนอะไรที่จะคุ้มค่ามากไปกว่านี้ และผมก็นึกไม่ออกว่าจะมีอะไรที่ทุกฝ่ายจะเห็นชอบร่วมกันได้แบบนี้อีก และมันอยู่ในขอบข่ายที่เราจะทำได้"

นอกจากอาร์พา-เอช เพื่อสุขภาพแล้ว สหรัฐยังมีโครงการอาร์พา-อี (ARPA-E) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน และอาร์พา-ซี (ARPA-C) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มต้นได้อย่างสวยงามและดูมีอนาคตไกล แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน แล้วจะมีอุปสรรคอะไร อย่างไรบ้าง คงต้องติดตามดูต่อไป

ในเวลานี้ หลายประเทศได้ริเริ่มองค์กรให้ทุนเพื่อสร้างระบบนิเวศน์งานวิจัยใหม่แนวๆ เสี่ยงสูง กำไรงามแบบเดียวกับดาร์พากันบ้างเเล้ว เช่นสำนักงานวิจัยและประดิษฐ์ขั้นสูง (Advanced Research and Invention Agency) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าเอเรีย (ARIA) ในสหราชอาณาจักร โครงการมูนช๊อต (moonshot) ของญี่ปุ่น และโครงการ SPRIN-D ของเยอรมนี

นี่อาจจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจในการผลักดันเทคโนโลยีดีปเทคให้ไปได้ไกลกว่าที่เคยทำมา การสร้างระบบนิเวศน์วิจัยและวิชาการที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการผลักดันงานวิจัยนวัตกรรมให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีใหม่อุตสาหกรรม
#3312


"ประเทศอิตาลี" เมืองท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน นอกจากความเป็นเลิศทางสถาปัตยกรรมแล้ว อาหารอิตาเลียนก็สร้างชื่อไปทั่วโลก เพราะเป็นอาหารชั้นเลิศที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ "เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ออนไลน์" ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) จึงขอพาทุกท่านเปิดประตูไปสัมผัสกับวัฒนธรรมการกินแบบฉบับชาวอิตาเลียโนขนานแท้ กับ "4 เมนูเอ็กซ์คลูซีฟ" ที่รังสรรค์โดยเชฟจาก "เซ็นทรัล อีทเทอรี" (Central Eatery) พร้อมช้อปสินค้าอิตาลีเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดัง ลดสูงสุด 20% ในเทศกาลอาหารอิตาเลียน (Italian Fair) ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม - 7 กันยายน 2564 ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา และ www.tops.co.th ช้อปสินค้านำเข้าจากประเทศอิตาลีกว่า 100 แบรนด์ดัง กับสินค้ามากกว่า 870 รายการ และสินค้านำเข้าใหม่ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสินค้าอิตาลีเอ็กซ์คลูซีฟ ลดสูงสุด 20% เช่น

แกลลอพขนมเค้กผสมสตรอเบอร์รี่เคลือบด้วยไอซิ่งอาเซลนัท 100 กรัม (Galup La Merenda Fragoline 100g.) พิเศษเพียง 119 บาท สแน็คแบรนด์โปรดที่ต้องมีไว้ติดบ้าน รสชาติอบอวลไปด้วยสตรอว์เบอร์รี่ ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาปลายฤดูใบไม้ผลิ ต้นฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี
โดโมริดาร์กช็อกโกแลตไส้ส้ม 40 กรัม (DOMORI CANDIED ORANGE CUBES COVERED WITH DARK CHOCOLATE 40G) ดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้ส้มพิเศษ 85 บาท ช็อกโกแลตสูตรดั้งเดิมที่ใช้ทำจากช็อกโกแลตแท้ 100% ความเข้มข้น และความหอมเฉพาะตัวของโกโก้ตัดกับรสเปรี้ยวหวานของส้มได้อย่างลงตัว



คารันดินีออร์แกนิคน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 500มล. (Carandini Organic Apple Cider Vinegar with Mother๗) พิเศษ 175 บาท ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่น หมักจากแอปเปิลออร์แกนิกคุณภาพสูงที่คัดสรรมาอย่างดีอุดมไปด้วยโปรตีน เอนไซม์ที่ดีต่อสุขภาพ
พาร์ม่าแฮมหมูสไลซ์ แพค 70 กรัม พิเศษ 99 บาท (Bonta Italiane Prosciutto) พาร์ม่าแฮมคุณภาพดี รสชาติเข้มข้น สามารถนำไปทำเมนูได้อย่างหลากหลาย

มูราจเลียน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นขวดเซรามิค 250มล. พิเศษ 990 บาท (Muraglia Rainbow Intense Fruity Extra Virgin Olive Oil Ceramic Jar) น้ำมันมะกอกจากเมือง Apulia แบรนด์ดังที่ผสานศิลปะให้อยู่ร่วมกับอาหารได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยขวดเซรามิกแฮนด์เมด ปั้นใบต่อใบ ทุกขวดจึงมีชิ้นเดียวในโลก ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา
มูราจเลียน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นรมควันไม้ขวดเซรามิค 250มล. พิเศษ 715 บาท น้ำมันมะกอกที่รมด้วยควันจากไม้พื้นเมือง ให้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ จนสามารถเนรมิตให้ทุกจานอาหารโดดเด่นไม่เหมือนใคร แม้แต่ผัดผักธรรมดาก็ชวนให้คิดว่าเป็นเชฟมืออาชีพได้



เฟอร์รารินีพาร์มิเจียโนริเนียเอโนชีส (Ferrarini Parmigiano Reggiano) พิเศษ 140 บาท/100 กรัม ชีสพาร์มิจิอาโน่ เรคจิอาโน่ เป็น Hard Cheese ที่ทำมาจากนมวัวสดแท้จาก Frisona และ Jersey ซึ่งเป็นฟาร์มดั้งเดิมของ Ferrarini ในประเทศอิตาลี ผ่านการบ่มเป็นเวลา 16-18 เดือน เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความมีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร เป็นราชาแห่งชีสมีกลิ่นหอมอร่อยรสชาติเป็นเอกลักษณ์

ดิมาร์ติโนดอลเช่กาบาน่าลิงกวิเนพาสต้าเส้นกลม 500 กรัม ราคาพิเศษ 109 บาท (Di Martino Dolce and Gabbana Pasta Linguine) พาสต้าต้นตำหรับจากอิตาลี ทำจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่แป้งสาลีคุณภาพสูง แหล่งน้ำจากภูเขา Lattari และเคล็ดลับพิเศษเฉพาะตัว จนออกมาเป็นเส้นพาสต้าที่มีกลิ่นและเนื้อสัมผัสที่ครองใจคนทั้งโลก

นอกจากสินค้าส่งตรงจากประเทศอิตาลีแล้ว ต้องไม่พลาดสัมผัสอรรถรสแห่งความอร่อยกับ 4 เมนูพิเศษแบบฉบับอิตาลีขนานแท้ รังสรรเมนูโดยเชฟประจำ "เซ็นทรัล อีทเทอรี" (Central Eatery) ที่ปรุงด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ปรุงอย่างพิถีพิถัน จนได้รสชาติที่ถูกปากทั้งคนไทยและต่างชาติ ใครที่อยากลิ้มลองเมนูเหล่านี้ สามารถแวะไปได้ที่เซ็นทรัล อีทเทอรี แอท เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ หรือสั่งความอร่อยส่งตรงถึงที่บ้านเพียงสั่งผ่าน Grab Food เลือก Central Eatery



ประเดิมเมนูแรกกันด้วย Porchetta Set (พอร์เคตต้า เซ็ต) เซตหมูกรอบสไตล์อิตาเลียนเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งอบและผักย่าง หมูสามชั้นคุณภาพดีอบพร้อมเครื่องเทศอิตาเลียนจนหนังกรอบ แต่เนื้อข้างในยังนุ่ม ชุ่มฉ่ำ รสชาติเข้มข้นทุกคำ ตัดกับความหวานของผักย่าง และมันบดเนื้อเนียนได้อย่างลงตัว พิเศษ! ราคาพิเศษ เพียง 225 บาทเท่านั้น
ต่อกันด้วยเมนูที่ 2 Chicken Florentine (ชิคเก้น ฟลอเรนทีน) หรือ อกไก่ไส้ผักโขมซอสครีมเห็ด เมนูเลื่องชื่อแห่งเมืองฟลอเรนซ์ ต้นกำเนิดของศิลปะยุคเรเนอซองต์ เชฟคัดสรรอกไก่เนื้อแน่นนำมายัดไส้ด้วยผักโขม ราดด้วยซอสครีมเห็ด และพาเมซานชีส ก่อนนำไปอบอีกครั้ง ได้รสชาติเข้ากันอย่างยอดเยี่ยมจับคู่กับเครื่องดื่มสุดโปรด เพียงเท่านี้ก็ได้ดินเนอร์มื้อหรูโดยไม่ต้องออกไปทานที่ร้านแล้ว เมนูนี้ราคาโปรโมชั่นเพียง 120 บาท สำหรับขนาด 300 กรัม

สำหรับเมนูที่ 3 คือ Grilled Salmon & Tagliatelle Puttanesca (กริลด์ แซลม่อน แอนด์ ทาญเลียเตลเล พุตตาเนสก้า) หรือ แซลมอนนอร์เวย์ย่างเสิร์ฟพร้อมพาสต้าพุตตาเนสก้า ในเมื่ออิตาลีคือเมืองหลวงของพาสต้า เชฟจึงเลือกเอาพาสต้าดั้งเดิมของแคว้นเอมิเลีย-โรมัญญาอย่าง "Tagliatelle" ​​(ทาญเลียเตลเล) ที่มีลักษณะเป็นเส้นแบนยาว นำมาผัดกับโอลีฟ แองโชวี่ และเคเปอร์ในสไตล์ดั้งเดิม ออกมาเป็นพุตตาเนสก้ารสชาติยอดเยี่ยม เสิร์ฟคู่กับแซลมอนนอร์เวย์ย่างด้วยความสุกที่พอดิบพอดี ทั้งหมดนี้ในราคาโปรโมชั่นเพียง 175 บาทเท่านั้น



และเมนูปิดท้าย Chicken Fettuccine Alfredo (ชิคเก้น เฟตตูชินี่ อัลเฟรโด) หรือ เฟตตูชินี่ครีมซอสอัลเฟรโดไก่และถั่วลันเตา เมนูฮาร์ทเมดที่รสชาติอบอุ่นแบบโฮมเมดเหมือนเชฟไปทำให้ถึงบ้าน เชฟนำเนื้อไก่ไปย่างจนหอม แล้วนำมาผัดกับเส้นเฟตตูชินี่และซอสอัลเฟรโด จนความเข้มข้นของครีมและชีสเคลือบเส้น ทานคู่กับถั่วลันเตา เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมสำหรับคนรักอาหารอิตาเลียน จานนี้ราคาโปรโมชั่นเพียง 175 บาท

ช้อปสารพันอาหารแสนอร่อยส่งตรงจากอิตาลีมาให้ทุกท่านเลือกช้อป และดื่มด่ำกับรสชาติสไตล์ อิตาเลียโนที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ทุกสาขา หรือ www.tops.co.th ได้แล้ววันนี้ - 7 ก.ย. 64 แล้วพบกัน..กราเซีย
#3313


นายพงษ์เทพ วิชัยกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL)  เปิดเผยว่า   บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับบริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET เพื่อใช้บริการขนส่งทางเรือจาก NCL โดยเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 200 ตู้ต่อเดือนโดยประมาณ เป็นเวลา 12 เดือน (อ้างอิงค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต ตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีมูลค่าประมาณประมาณ 680,000 บาท ต่อตู้ เพื่อจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศของบริษัท DIMET   โดยราคาตู้คอนเทนเนอร์จะแปรผันตามราคาตลาดโลก DIMET ยังได้ตกลงจะเช่ารถบรรทุกขนาดเล็กจาก NCL เพื่อใช้ในการขนส่งภายในราชอาณาจักรไทยอีกด้วย

 ทั้งนี้ ในส่วนของ  NCL มีความประสงค์จะพิจารณาใช้บริการขนส่งทางอากาศจากบริษัทพันธมิตรของ DIMET หรือ บริษัทที่ DIMET แนะนำมา ซึ่งเป็นการขนส่งจากราชอาณาจักรไทยไปสู่ประเทศไต้หวัน และจากประเทศไต้หวันไปสู่ประเทศอื่นทั่วโลก  

 "การร่วมมือทางธุรกิจกันในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ อีกทั้งเป็นการนำจุดแข็งทางธุรกิจของพันธมิตรแต่ละฝ่ายมาร่วมกำลังครั้งสำคัญ เพื่อสร้างปรากฎการใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า NCL ตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาในการวางแผน และจัดหาวิธีขนส่งที่เหมาะสมที่สุด ที่สำคัญทำให้ลูกค้าสามารถขนส่งได้ตรงตามกำหนดเวลาภายใต้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด  ผมต้องขอขอบคุณ DIMET ที่ให้ความไว้วางใจเลือก NCL ซึ่งบริษัทฯ ให้คำมั่นจะดูแลและเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป" นาย พงษ์เทพ กล่าว
#3314


บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ร่วมกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างร้านอินทนิลกับสินค้า Puff & Pie ร่วมพัฒนาแผนธุรกิจเพื่อการจัดจำหน่ายทั้งในรูปแบบ Grab & Go และ Shop in Shop รวม 50 สาขาภายในปีนี้ และตั้งเป้าขยายให้ครบ 100 สาขาภายปีหน้า โดยมีนายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในพิธีลงนามออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564

นายเสรี อนุพันธนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กล่าวว่า ร้านอินทนิลเป็นมากกว่าร้านกาแฟ และไม่ได้ต้องการจำหน่ายเพียงเครื่องดื่ม ดังนั้นจึงมองหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้อินทนิลเป็นร้านที่ลูกค้าสามารถอิ่มอร่อยในมื้อง่ายๆ ได้ด้วยเบเกอรีคุณภาพที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในราคาที่เป็นมิตรต่อลูกค้าทั้งระดับ Mass ถึง Premium Mass โดยในอนาคตเรามองถึงการขยายสู่อาหารพร้อมรับประทานในสาขาที่เหมาะสม และ Puff & Pie จากครัวการบินไทยก็เป็นพันธมิตรที่ตอบโจทย์เป้าหมายนี้ของอินทนิลได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของ Product และ Operation โดยความร่วมมือในเฟสแรกจำนวน 15 สาขา

ปัจจุบันร้านอินทนิลเปิดให้บริการมาแล้วมากกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยที่ผ่านมาอินทนิลได้ส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ผ่าน 5 Good Experiences Strategy ทั้ง Good Taste / Good Service / Good Design / Good Health และ Good Society โดยในด้าน Good Taste อินทนิลเลือกเสิร์ฟกาแฟคุณภาพให้ลูกค้า ด้วยเมล็ดกาแฟอะราบิกาแท้ 100% สำหรับกลุ่ม Coffee และมีโกโก้อินทนิลที่เข้มข้นถูกใจมหาชน จนเป็น Hero Product ในกลุ่ม Non Coffee อยู่แล้ว

นายสมัชชา ศรีทองสุข กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบางจาก รีเทลได้มอบความไว้วางใจให้ฝ่ายครัวการบินไทยนำสินค้า Puff & Pie ทดลองวางจำหน่ายในร้านอินทนิลตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้พัฒนาความร่วมมือโดยมุ่งเน้นการใช้จุดแข็งและศักยภาพของทั้ง 2 แบรนด์ในการต่อยอดธุรกิจสู่การจำหน่ายผ่านร้านอินทนิลในรูปแบบ Grab & Go เพิ่มเป็น 13 สาขา และในรูปแบบ Shop in Shop ที่ร้านอินทนิลสาขาสถานีบริการน้ำมันบางจาก ถนนบรมราชชนนี กม.10 และสาขา Summer Point สุขุมวิท อีก 2 สาขา รวมเป็น 15 สาขาในปัจจุบัน

ในอนาคต Puff & Pie มีแผนจะขยายการจัดจำหน่ายในร้านอินทนิลให้ครอบคลุมสาขาในทุกพื้นที่ รวมถึงพัฒนาสินค้าพิเศษสำหรับร้านอินทนิล และรายการส่งเสริมการขายพิเศษร่วมกันอีกด้วย ทั้งนี้ สินค้า Puff & Pie ที่จำหน่ายในร้านอินทนิลเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม เช่น ชิกเกนโรล, ครัวซองต์ไส้กรอก, ครัวซองต์แฮมชีส, พายสับปะรด, เดนิสครีมเพสตรี เป็นต้น
#3315
ข้าวออแกนิกปลอดสารแท้ 100%ขายข้าวอินทรีย์  ข้าวหอมมะลิออแกนิคส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวมะลินิลออร์แกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




 ข้าวหอมมะลิออร์แกนิคข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคคือเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิคคือ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf1bev6bzbun6ssb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4.  ขายข้าวสารหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์7.  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 
 
#3316


นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรมการข้าวอยู่ระหว่างดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขึ้น วงเงิน 1,601 ล้านบาท  เพื่อยกระดับการผลิตเมล็ดพันธุ์จากเดิม กรมการข้าวสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ 86,000 – 96,000 ตัน ให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 34,000 ตัน รวมได้เป้าหมายการผลิตใหม่เป็น 120,000 ตัน

 แผนการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จะประกอบด้วย 1. ชุดเครื่องชั่งบรรจุ พร้อมระบบจัดเรียงแบบอัตโนมัติ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานเพิ่มศักยภาพ จำนวน 20 ศูนย์ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ลำปาง ลพบุรี พัทลุง เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อุดรธานี กาฬสินธุ์ แพร่ นครสวรรค์ สุรินทร์ ขอนแก่น สกลนคร ชลบุรี ราชบุรี สุโขทัย และสุราษฎร์ธานี

ปรับปรุงระบบไฟฟ้าควบคุมเครื่องจักร พร้อมอุปกรณ์ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานเพิ่มศักยภาพ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ลำปาง พัทลุง เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อุดรธานี กาฬสินธุ์ แพร่ นครสวรรค์ สุรินทร์ ขอนแก่น สกลนคร ราชบุรี สุโขทัย และสุราษฎร์ธานี

ปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์โรงงาน OECE จำนวน 5 ชุด ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร ร้อยเอ็ด แพร่ นครสวรรค์ และราชบุรี 4.จ้างก่อสร้างอาคารปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานใหม่ จำนวน 4 แห่ง ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก นครราชสีมา ชัยนาท และสุโขทัยจัดซื้อและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานใหม่ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก นครราชสีมา ชัยนาท และสุโขทัย

โครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จะเข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์ ผ่านเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ ที่จะทำให้กรมการข้าวบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้


รวมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19  ให้สามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ต่อไป โดยปัจจุบันไทยมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวทั้งประเทศเป็นจำนวนถึง 1,373,000 ตัน โดยแบ่งเป็น เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรเก็บไว้ใช้เองปีละ 686,400 ตัน และเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรต้องการใช้ ซื้อนอกเหนือจากที่เก็บไว้ใช้เองปีละ 686,600 ตัน

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่าเพื่อแก้ปัญหาเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่เพียงพอ กรมการข้าวได้หารือ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ศูนย์ข้าวชุมชน ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ อาทิ สมาคมรวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อหาแนวทางการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดข้าว โดยแบ่งข้าวออกเป็น 5 ประเภท คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมไทย ข้าวเจ้าพื้นนุ่ม ข้าวเจ้าพื้นแข็ง และข้าวเหนียว

สำหรับแผนการปลูกข้าวของกรมการข้าวบนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 60 ล้านไร่นั้น ตามหลักแล้วจะต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 15 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ รวมมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ 900,000 ตันโดยประมาณ  แบ่งเป็น ข้าวหอมมะลิมีจำนวน 27 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 405,000 ตัน   ข้าวหอมไทยจำนวน 2.3 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 34,500 ตัน ข้าวเจ้าพื้นนุ่มจำนวน 2 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 30,000 ตันข้าวเจ้าพื้นแข็งจำนวน 17 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 255,000 ตันและข้าวเหนียวจำนวน 17 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 255,000 ตัน
#3317


นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 มีมติอนุมัติให้ บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนใน บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด ( GTG) โดยการซื้อหุ้นสามัญเดิม GTG จากบุคคลจำนวนรวม 5 ราย ประกอบด้วย นางสาว กนกพร ศีตวรรัตน์, นางสาวพลอย ปิ่นแสง ,นายวิรุณ ชาญวิทยารมณ์ ,นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ และนางสาวสุภารัตน์ สง่าเมือง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของ GTG จำนวนรวมทั้งสิ้น 940,767 หุ้น คิดเป็น 10.63% ในราคา 226.09 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็นมูลค่ารวม 212.70 ล้านบาท และภายหลังจากการทำรายการในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด จะถือหุ้นทั้งหมดใน GTG คิดเป็นสัดส่วน 14.62 % ของทุนจดทะเบียนของ GTG จากเดิมถือหุ้น 3.98 % ปัจจุบัน

สำหรับ GTG ยังคงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทฯ ในอนาคต ประกอบกับบริษัทฯ มีความสัมพันธ์อันดีกับ GTG และผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อเสนอขายหุ้นของ GTG ให้กับบริษัทฯ ในราคา 226.09 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่า ราคาเสนอขายในรายการซื้อหุ้น GTG ในครั้งก่อนหน้านี้

" การเข้าลงทุนใน GTG ได้มีการปรับวิธีการลงทุน เนื่องจากการเจรจากับผู้ถือหุ้นที่เป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบางราย ได้ปฏิเสธข้อเสนอการซื้อหุ้นสามัญของ GTG ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถซื้อหุ้นของ GTG ได้ในสัดส่วน 96.49 %ของทุนจดทะเบียน ดังนั้นจึงส่งให้ บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของUPA ซึ่งปัจจุบันได้ถือหุ้นใน GTG อยู่แล้ว 3.98% เข้าไปซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายบุคคล ทำให้หลังการทำรายการจะถือหุ้นรวม 14.62% และยังคงทำให้มีสิทธิในการเข้าร่วมลงทุน (Joint Venture) กับ GTG ในธุรกิจเพาะปลูกกัญชง กัญชา เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจทางการแพทย์ตามเป้าหมายเดิม" นายกวิน กล่าว

อนึ่ง บริษัท แคนนา แคร์ จำกัด ลงทุนในบริษัทหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาและลงทุนในพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย ซึ่งรวมถึง กัญชง และกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดย UPA ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100
#3318


รอยเตอร์ - เวียดนามจะส่งทหารไปประจำการที่จ.บิ่งเซวือง (Binh Duong) ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตหลักของประเทศ เพื่อช่วยควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในพื้นที่อีก 50,000 คน ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า รัฐบาลระบุวันนี้ (26)

จ.บิ่งเซวือง อยู่ติดกับนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัส และจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 81,000 คน โดย 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อตรวจพบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม

จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายสิบบริษัท ที่รวมทั้งบริษัท Kumho Tire ของเกาหลีใต้ และ Tetra Pak บริษัทบรรจุภัณฑ์อาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก

จ.บิ่งเซวือง ยังเป็นที่ตั้งของซัพพลายเออร์หลายรายของบริษัท Samsung Electronics และบริษัท Pegatron ที่เป็นซัพพลายเออร์หลักของบริษัท Apple และเป็นหนึ่งในผู้รับการลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ถัดจากนครโฮจิมินห์ และกรุงฮานอย

เจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ที่อาจมีผู้ป่วยติดเชื้อเกินกว่า 150,000 คน รัฐบาลระบุในคำแถลงบนเว็บไซต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่อ้างถึงในแผนรับมือฉุกเฉิน ไม่ใช่การคาดการณ์

คำแถลงของรัฐบาลยังระบุว่าจะส่งทหาร 2,000 นาย ไปยังจ.บิ่งเซวือง เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโควิด-19 พร้อมด้วยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 50 จุด และรถพยาบาล 15 คัน

เวียดนามได้ส่งทหารไปประจำตามถนนสายต่างๆ ของนครโฮจิมินห์ เพื่อช่วยบังคับใช้มาตรการควบคุมการเคลื่อนไหวที่เข้มงวดที่สุด ที่ไม่ให้ประชาชนออกจากบ้าน แม้กระทั่งการหาซื้ออาหาร โดยทหารจะเป็นผู้ออกแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง สำหรับผู้อยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องการเดินทางในกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ยังคงสามารถทำได้

หลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ในช่วงปีที่ผ่านมา เวลานี้เวียดนามกำลังต่อสู้กับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ปัจจุบันประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 381,000 คน โดยผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ตรวจพบในนครโฮจิมินห์ และจังหวัดโดยรอบ ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในเอเชีย โดยมีเพียง 2% จากประชากรทั้งหมด 98 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน.
#3319


Messenger จาก Facebook ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อสร้างความตื่นเต้นแลสนุกสนานให้กับผู้คน ขณะที่เชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์ม

Messenger สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า ชุมชนบนโลกอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่การแชทแบบเรียลไทม์เกิดขึ้น และ Messenger ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมากมายนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์และนวัตกรรมรุ่นใหม่ๆ สำหรับการพูดคุยผ่านวีดิโอ และวิธีการอื่นๆ ในการเชื่อมต่อผู้คนขณะที่อยู่ห่างไกลกัน

รายงานด้านการตลาดประจำปี 2564 โดย SimpleTexting ระบุว่า 78% ของผู้บริโภคกล่าวว่าการเช็ค ส่ง และตอบกลับข้อความ เป็นกิจกรรมที่พวกเขาทำมากที่สุดในแต่ละวันบนสมาร์ทโฟน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ (early adopter) ที่เปิดรับเทคโนโลยีการส่งข้อความด้วยเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ที่ใช้งานฟีเจอร์การส่งข้อความเสียงมากที่สุด เช่นเดียวกับประเทศกัมพูชา บราซิล เม็กซิโก และสหรัฐ



Messenger ยังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจและชุมชนในประเทศไทย โดย 92% ของผู้บริโภคชาวไทยได้ติดต่อธุรกิจท้องถิ่นผ่านแอrพลิเคชั่นส่งข้อความ และ 4 ใน 5 กล่าวว่าการสนทนาผ่านการแชทช่วยให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โซลูชั่นตัวช่วยโฆษณาของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ Click-to-Messenger ads ก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ช่วยสร้างให้ธุรกิจเติบโตผ่านการค้นหากลุ่มเป้าหมาย (leads) เพื่อเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ในที่สุด 

Messenger ฉลองก้าวสำคัญในวันนี้ ด้วยการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานในอนาคต ตามพันธกิจในการช่วยเชื่อมต่อผู้คนให้ใกล้ชิดกับคนที่มีความหมายสำหรับพวกเขาผ่านฟีเจอร์ต่างๆ 

แนวทางการดำเนินงานในครั้งนี้รวมไปถึงการสร้างแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบสำหรับอนาคต ด้วยการพัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์มเพื่อให้ทั้งครีเอเตอร์และธุรกิจได้เชื่อมต่อกับแฟนๆ และลูกค้า รวมถึงสานต่อความมุ่งมั่นด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย พร้อมฉลองและขอบคุณผู้คนที่ให้ความไว้วางใจใช้งาน

เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Messenger ได้เปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ อย่างเป็นทางการสำหรับทุกคนที่ใช้งานแอพพลิเคชั่น ได้แก่

ชุดสติ๊กเกอร์ "ยอดนิยม" ("Greatest Hits" Sticker Pack) ชุดสติ๊กเกอร์ที่ถูกคัดเลือกจากสติ๊กเกอร์ยอดนิยมตลอดกาลของ Messenger
การแชร์ข้อมูลการติดต่อ (Contact Sharing) ผู้ใช้งานสามารถแนะนำเพื่อนของเพื่อนให้กันได้แล้วอย่างไร้รอยต่อผ่าน Messenger
เอฟเฟกต์ AR สำหรับวันเกิด (Birthday AR Effects) เอฟเฟกต์ AR ใหม่ล่าสุดสำหรับวันเกิดและการเฉลิมฉลอง
พื้นหลังแบบ 360 องศาสำหรับวันเกิด (Birthday 360 Background) พื้นหลังแบบ 360 องศารูปแบบใหม่เพื่อฉลองวันเกิด
ธีมแชทวันเกิด (Birthday Chat Theme) ฉลองวันเกิดของคุณและของเพื่อนด้วยธีมแชทใหม่
ซาวด์โมจิวันเกิด (Birthday Soundmoji) มีการเพิ่มซาวด์โมจิหรืออิโมจิมีเสียงในธีมวันเกิดในคอลเลคชัน (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์คำ (Word Effects) ความสามารถในการตั้งค่าอิโมจิสำหรับคำและวลีที่ต้องการ โดยเมื่อคำหรือวลีนั้นถูกส่งในแชทก็จะมีอิโมจิโปรยลงมาบนหน้าจอ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์ข้อความ (Message Effects) เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตกแต่งข้อความด้วยเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ เช่น พลุกระดาษหรือกล่องของขวัญผูกโบว์ เป็นต้น (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เกมส์โพลล์ (Poll Games) ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างโพลล์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกม "เป็นไปได้มากที่สุดที่จะ" (most likely to) ได้ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
การจ่ายเงินเป็นของขวัญวันเกิด (Birthday Gift Payments) ผู้ใช้สามารถส่งเงินเป็นของขวัญเพื่อฉลองวันเกิดผ่าน Facebook Pay บน Messenger ได้แล้ว (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
#3320


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ที่สมัครภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และชำระเงินสมทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ และตาก ที่มีสถานะเป็นผู้ประกันตนโดยสมบูรณ์ (สมัครและชำระเงินสมทบ) ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564

จะเริ่มโอนเงินเยียวยาในวันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2564 วันละ 2 ล้านคน และวันที่ 26 สิงหาคม 2564 โอนให้อีก จำนวน 496,381 คน รวม 3 วัน จำนวน 4,496,381 คน โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับเงินโอนผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน คนละ 5,000 บาท ผลการโอนเงินเยียวยาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม 2564) ซึ่งเป็นวันแรก โอนสำเร็จ 1,842,343 คน คิดเป็น 92.12 % ส่วนที่ยังโอนไม่สำเร็จส่วนใหญ่เกิดจากผู้ประกันตนมาตรา 40 ยังไม่ผูกพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนสูงถึง 147,286 คน ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทันในการโอนเมื่อวานนี้ และในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 19 จังหวัดที่ขยายวันสมัครและชำระเงินถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เมื่อระบบประมวลผลข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งวันที่การโอนเงินให้ทราบต่อไป


ทางด้านเรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา รองโฆษกสำนักงานประกันสังคมได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ได้รับสิทธิในพื้นที่ 29 จังหวัด ที่จะได้รับเงินเยียวยา ในวันที 24-26 สิงหาคม 2564 และรวมถึงผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ตกหล่นจากรอบการโอน ที่ผ่านมา ให้ท่านเร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน ท่านที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน หรือเปลี่ยนจากผูกพร้อมเพย์เบอร์โทรศัพท์เป็นพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา


ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เปิดให้นายจ้างและผู้ประกันตนทุกมาตรา ทั้ง มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://www.sso.go.th/eform_news/