• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chanapot

#3361


'บรรยากาศการเดินทางที่ท่าอากาศยานดอนเมืองหลังจากผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ผู้โดยสารเดินทางค่อนข้างบางตา ด้านผู้อำนวยการสนามบินดอนเมืองคาดว่าแนวโน้มผู้โดยสารจะเริ่มกลับมาช่วงปลายปีอยู่ที่ 3-4 หมื่นคนต่อวัน หากสถานการณ์การระบาดเริ่มคลี่คลาย'


หลังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยประกาศอนุญาตให้ทำการบินได้ภายใต้มาตรการที่กำหนดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 64 หลายสายการบินเริ่มกลับมาทยอยเปิดทำการบินภายในประเทศ ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศภายในท่าอากาศยานดอนเมืองพบว่า ผู้โดยสารยังค่อนข้างบางตา ร้านค้า ร้านอาหารภายในสนามบินยังเปิดให้บริการไม่ครบ 100%

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ระบุ ตั้งแต่เริ่มเปิดบินเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ผู้โดยสารวันแรกยังไม่มากอยู่ที่ 1,000 คน หลังจากนั้นผู้โดยสารมากขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000-4,000 คนต่อวัน จำนวนเที่ยวบิน 50-60 ไฟลท์ต่อวัน โดยมีสายการบินให้บริการแล้ว 3 สายการบิน คือ นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยแอร์เอเซีย ซึ่งทางสายการบินกำลังพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินหากมีแนวโน้มผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีที่เป็นไฮซีซั่น และเริ่มทยอยเปิดประเทศ

สำหรับจำนวนผู้โดยสารก่อนหน้าสถานการณ์การระบาดโควิดครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 1-1.2 แสนคนต่อวัน จำนวนเที่ยวบิน 700 ไฟลท์รวมทั้งในและต่างประเทศ จำนวนผู้โดยสารในประเทศประมาณ 6-7 หมื่นคนต่อวัน ช่วงปลายปี 2563 ผู้โดยสารอยู่ที่ 4 หมื่นคนต่อวัน เกือบ 80% ของภาวะปกติ และหลังจากการระบาดระลอก 2 ที่สมุทรสาครเหลือผู้โดยสารไม่ถึง 1 หมื่นคน จนถึงหยุดบินไปเมื่อปลาย ก.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แม้มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางแล้ว แต่จังหวัดปลายทาง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีมาตรการเข้มงวดการเดินทางสูงสุด และจังหวัดอื่นๆ มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่ปลายทางเมื่อเดินทางมาถึง มีเงื่อนไขในการตรวจและความต้องการเอกสารที่แตกต่างกัน เช่น บางจังหวัดระบุเรื่องการฉีดวัคซีนครบถ้วน 2 เข็ม บางจังหวัดมีเงื่อนไขที่จะต้องมีการกักตัว ซึ่งผู้โดยสารจะต้องตรวจสอบเงื่อนไขการคัดกรองที่จังหวัดปลายทางให้ดี ขณะที่สายการบินก็ต้องตรวจเอกสารเข้ม เนื่องจากหากเดินทางไปถึงแล้วไม่สามารถผ่านการตรวจสายการบินจะต้องรับภาระ ส่งผู้โดยสารกลับมาที่ต้นทางเดิม

นอกจากนี้ ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นจากเดิม ก่อนขึ้นเครื่องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง โดยอาจจะต้องเพิ่มขึ้นอีก 30-45 นาที เนื่องจากขณะนี้สายการบินจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจเอกสารเพิ่มเติมอย่างมาก
#3362


Solar-Corporate PPA (Power Purchase Agreement) เป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการจะทำการลงทุนติดตั้งและผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ ตามความต้องการของลูกค้า (ผู้ใช้ไฟฟ้า) ก่อน แล้วจึงเรียกเก็บค่าไฟฟ้าภายหลัง ซึ่งมีโอกาสเติบโตตามกระแส Green Economyโดยทาง Bloomberg NEF ประเมินว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของธุรกิจ Corporate Ruay PPA ทั่วโลก (ส่วนมากเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์และลม) จะเพิ่มเป็น 116.7 พันเมกะวัตต์ในปี 2573 จากปี 2563 อยู่ที่ 23.7 พันเมกะวัตต์ หรือขยายตัวสูงถึง 5 เท่า

Solar-Corporate PPA มีโมเดลธุรกิจที่นิยมใช้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) Synthetic เป็นการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ภายนอกสถานที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า โดยอาศัยตัวกลางหรือผู้จัดจำหน่ายไฟฟ้าในการกระจายไฟ และมีตลาดกลางการซื้อขายไฟฟ้า เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบปริมาณการผลิตและการนำจ่ายไฟฟ้าให้ครบตามสัญญา ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้ในสหรัฐฯ 2) Sleeved เป็นการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ภายนอกสถานที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า โดยสามารถเช่าสายส่งไฟฟ้าจากภาครัฐ เพื่อส่งไฟฟ้าไปให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้โดยตรง ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้ในสหราชอาณาจักร และ 3) Private wire เป็นรูปแบบการติดตั้งโซลาร์เซลล์และจ่ายไฟฟ้าภายในสถานที่ของผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง

สำหรับโมเดลธุรกิจที่ไทยนำมาใช้เป็นแบบ Private wire เนื่องจากการตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าภายนอกสถานที่ของผู้ใช้ไฟฟ้าในไทยยังมีข้อจำกัดด้านการนำจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งภาครัฐไทยยังไม่อนุญาตให้เช่าสายส่งไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ไทยยังไม่มีตลาดกลางการซื้อขายไฟฟ้าที่จะช่วยให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบปริมาณผลิตไฟฟ้าจาก Solar-Corporate PPA ได้

ธุรกิจ Solar-Corporate PPA ในไทยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้เกิดการลงทุนธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง โดยใน ปี 2563 กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ซึ่ง Solar-Corporate PPA เป็นหนึ่งในนั้น มีมูลค่าขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอที่ 34,812 ล้านบาท ซึ่งเติบโตสูงถึง 66% จากปี 2562 ที่มีมูลค่า 20,958 ล้านบาท และคาดว่าผู้ประกอบการธุรกิจนี้จะสนใจขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เพิ่มต่อไป โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าเพื่อส่งออก ซึ่งมักตั้งโรงงานในพื้นที่ EEC ทำให้การใช้บริการ Solar-Corporate PPA ในพื้นที่ EEC จะขยายตัวตาม ทั้งนี้ ธุรกิจนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและมิใช่ภาษีจากบีโอไอเพิ่มเติม หากลงทุนในพื้นที่ EEC ยกตัวอย่างเช่น หากลงทุนในเขตนวัตกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ผู้ประกอบการจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 2 ปี เพิ่มเติมจากการได้รับยกเว้นภาษีนิติบุคคลที่สูงสุดถึง 8 ปี

นอกจากภาคอุตสาหกรรมแล้ว ความต้องการใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในภาคครัวเรือนมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน เห็นได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาของอาคารมากขึ้น ทั้งหมดนี้ ทำให้ Krungthai COMPASS คาดว่ารายได้ของธุรกิจนี้มีศักยภาพเติบโตสูงเป็น 37.7-118.2 พันล้านบาท ในปี 2580 จากปี 2563 ที่มีรายได้เพียง 2.2 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดี ธุรกิจนี้จะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ หากภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมเพิ่มเติม ได้แก่ 1) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเพิ่มเติม เช่น สมาร์ทมิเตอร์และสมาร์ทกริด เพื่อให้มีเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบปริมาณการผลิตและการนำจ่ายไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง 2) การเพิ่มโควตาการรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์จากทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ที่ปัจจุบันภาครัฐกำลังจัดเตรียมแผนนี้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจนี้สามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น และ 3) การพิจารณา ผ่อนคลายกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการผลิตและนำส่งไฟฟ้า เช่น การอนุญาตให้เช่าสายส่งไฟฟ้าของภาครัฐในพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาสนำจ่ายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าได้หลายรายในเวลาเดียวกัน
#3363
ซื้อทั้งที ซื้อของดีไปเลย ...
ปลาฉิ้งฉ้างแห้งแกะ ทะเลอ่าวไทย ปลาฉิ้งฉั้ง ปลาจิ้งจั้งแห้ง ปลาอ่าวไทย
สุราษฎร์ธานี 150 กรัม
สินค้ายอดนิยม ที่มีคะแนนเรทติ้งถึง 83 คะแนน
--------------------------------------------------------
ราคา 49 บาท
--------------------------------------------------------
สั่งซื้อได้เลยที่นี่ >>https://bit.ly/3kVQ4qN
#3364


          นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.บลูบิค กรุ๊ป ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับแล้ว  

          ล่าสุด บมจ.บลูบิค กรุ๊ป จึงกำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 18 บาท จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 8 – 10 กันยายนนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยการเสนอขาย IPO ดังกล่าว  คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก บมจ.บลูบิค กรุ๊ป มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจ        ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย มีคณะผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มีบริการ        ที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หลากหลาย สามารถตอบสนองลูกค้าองค์กรที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน    

          นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า บมจ.บลูบิค กรุ๊ป นับเป็นหุ้น IPO ที่ดำเนินธุรกิจคอนซัลต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันตัวแรกในประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Ruay Economy) และจะได้รับประโยชน์จากความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของลูกค้าองค์กรซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรชั้นนำในภาคธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานที่เติบโตก้าวกระโดด

          ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ของ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป จะเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ โดยมีวัตถุประสงค์ของการระดมทุนเพื่อขยายทีมงานและเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานในองค์กร ขยายพื้นที่สำนักงาน ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มบริษัทฯ
#3365


กรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีหลังจากจัดระเบียบผาตรอมใจ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงจากกระแสไวรัลไข่เจียวหมีฟีเวอร์ ขณะเดียวกันก็ยังมีช้างป่าจำนวนเกือบ 20 ตัว ออกมาเดินอวดโฉมชมบนถนนเขาใหญ่ บริเวณฝั่งขาลงจังหวัดปราจีนบุรี สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงผลการจัดระเบียบผาตรอมใจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังเกิดกระแสไข่เจียวหมีฟีเวอร์จนมีคนเดินทางไปเที่ยวผาตรอมใจเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนล้นทะลัก

โดย เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานว่า

...อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จัดระเบียบการท่องเที่ยวลดความแออัดในพื้นที่ หลังนักท่องเที่ยวสนใจเข้าชมสัตว์ป่าและธรรมชาติที่สวยงามเป็นจำนวนมาก

ช้างป่าข้ามถนนบนเขาใหญ่ (ภาพ : จากคลิป เพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
ช้างป่าข้ามถนนบนเขาใหญ่ (ภาพ : จากคลิป เพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

จากกรณีที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวชมผาตรอมใจ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีรายงานเขาเขียว กองทัพอากาศ โดยการจำกัดจำนวนยานพาหนะ เพื่อลดปัญหาความแออัดของนักท่องเที่ยว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมขึ้นไปรับประทานข้าวไข่เจียวและรอชมหมี ตามกระแสไวรัลในโซเชียลที่แชร์ต่อกันมา

ซึ่งการจัดระเบียบขึ้นชมผาตรอมใจก็ได้รับความร่วมมือจากท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ในขณะที่ช่วงเย็นที่ผ่านมา (4ก.ย.64) เวลาประมาณ 17.40 น. ได้มีช้างป่าจำนวนเกือบ 20 ตัว ออกมาอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชมบนถนน บริเวณฝั่งขาลงจังหวัดปราจีนบุรี สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คอยเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวตลอดเวลา

ช้างป่าข้ามถนนบนเขาใหญ่ (ภาพ : จากคลิป เพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
ช้างป่าข้ามถนนบนเขาใหญ่ (ภาพ : จากคลิป เพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

ด้านนายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้เปิดเผยแนวทางการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวแออัด บริเวณผาตรอมใจ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของสถานีรายงานเขาเขียว กองทัพอากาศ ว่าภายหลังจากที่ได้มีการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปเมื่อวันพุธที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยได้ข้อสรุปว่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะดำเนินการจำกัดปริมาณยานพาหนะ ที่ขึ้นไปท่องเที่ยวบริเวณผาตรอมใจ โดยการตั้งด่านตรวจบริเวณจุดตรวจป้อมเขาเขียว ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีการจำกัดจำนวนยานพาหนะต่อรอบรถยนต์ไม่เกิน 30 คันรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 50 คัน และรถจักรยาน ไม่เกิน 30 คัน ซึ่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ทดลองควบคุมจำกัดปริมาณยานพาหนะ และวานนี้ (4 ก.ย. 2564) ได้ดำเนินการเข้มงวดในการจำกัดควบคุมยานพาหนะอย่างจริงจัง ปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

ไข่เจียวหมีผาตรอมใจ กระแสแรง ดันคนเที่ยวเขาใหญ่ล้นทะลัก
ไข่เจียวหมีผาตรอมใจ กระแสแรง ดันคนเที่ยวเขาใหญ่ล้นทะลัก

ทั้งนี้ผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แสดงความห่วงใย ต่อกรณีความแออัดของนักท่องเที่ยวบริเวณผาตรอมใจ ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารอากาศ สถานีรายงานเขาเขียว และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการจำกัดปริมาณยานพาหนะ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี สามารถลดปัญหาความแออัดของนักท่องเที่ยวบริเวณผาตรอมใจ ได้เป็นผลสำเร็จ

สำหรับเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 มีนักท่องเที่ยว ที่ขึ้นมาบนเขาใหญ่ จำนวนทั้งสิ้น 7,937 คน โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถบริหารจัดการดูแลความเรียบร้อยของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี มีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ในขณะซื้อบัตรค่าบริการฯ โดยการตั้งป้ายเตือนบริเวณหน้ารถของนักท่องเที่ยว มีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย มีการตั้งจุดบริการนักท่องเที่ยวบริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร และมีสายตรวจเจ้าหน้าที่ออกดูแลความเรียบร้อยของนักท่องเที่ยวตลอดเวลา จึงมั่นใจว่านักท่องเที่ยวทุกคน จะทราบถึงแนวทางปฏิบัติในการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ในขณะเดียวกันอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง

นอกจากนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวซึ่งนิยมการถ่ายภาพนกกก ขึ้นมาท่องเที่ยวบริเวณจุดชมวิว ก.ม.ที่ 30 เป็นจำนวนมาก เนื่องจากนกกกและนกชนิดต่างๆจะมาอาศัยกินลูกไทรสุกบริเวณดังกล่าว เป็นที่ชื่นชอบและตื่นตาตื่นใจสำหรับช่างภาพ และนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป
#3366


กลุ่มสื่อจีนรายงาน ในวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนักอัยการประชาชนสูงสุแห่งจีนได้ประกาศบังคับใช้บทลงโทษของสำนักอัยการเมืองซั่งเหราซึ่งได้ตัดสินลงโทษชายแซ่จางและพวกสามคน ได้แก่ ปรับเงิน 6,000,00 หยวน หรือราว 30.2 ล้านบาท ฐานก่อความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเจตนาสร้างความเสียหายให้กับยอดเขาจี้ว์เหมิ่ง(巨蟒峰) หรือ "ยอดเขางูเหลือมยักษ์" ในเขตทัศนียภาพซันชิงซัน มณฑลเจียงซี โดยการใช้อุปกรณ์ปีนหน้าผาสร้างความเสียหายร้ายแรงอย่างมิอาจซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้

นอกจากนี้นักปีนเขาทั้งสามยังต้องรับผิดชอบค่าประเมินของผู้เชี่ยวชาญ 150,000 หยวน หรือ 755,235 บาท อีกทั้งต้องลงประกาศในสื่อทั่วประเทศขอโทษต่อสาธารณะ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ปี 2017 ชาวจีนแซ่จาง แซ่เหมา และแซ่จาง (อีกคน) ได้ไปปีนหน้าผางูเหลือมยักษ์ โดยอุปกรณ์ได้แก่ สว่านไฟฟ้าเจาะรู ตะปูเจาะหิน และเชือกปีนขึ้นไปยังยอดเขา จากการตรวจสอบทั้งสามได้ใช้ตะปูเหล็กเจาะหินทั้งหมด 26 ตัว ทำให้เกิดรอยแตกที่หินซึ่งถือเป็นความเสียหายถาวร ทำลายมรดกโลกทางธรรมชาติ

นักปีนเขาตอกตะปูเจาะหิน 26 ตัว ต้องจ่ายค่าเสียหายสิ่งแวดล้อม 6 ล้านหยวน หรือราว 30.2 ล้านบาท
นักปีนเขาตอกตะปูเจาะหิน 26 ตัว ต้องจ่ายค่าเสียหายสิ่งแวดล้อม 6 ล้านหยวน หรือราว 30.2 ล้านบาท

ตำรวจได้ส่งฟ้องไปยังสำนักอัยการเมืองซั่งเหรา มีการตัดสินโทษจำคุกนายจาง และนายเหมา 1 ปี และ 6 เดือน ตามลำดับ และปรับเงิน 100,000 หยวน กับ 50,000 หยวน ตามลำดับ นายจางได้รับการยกเว้นโทษ

ต่อมาสำนักอันการเมืองซั่งเหราได้พิจารณาว่าการสร้างความเสียหายแก่ยอดเขางูเหลือมของทั้งสามเข้าข่ายทำลายสาธารณะประโยชน์ของสังคมอีกด้วย

ในปี 2019 สำนักอัยการระดับกลางได้ตัดสินให้ทั้งสามจ่ายค่าชดเชยความเสียหายทรัพยากรสิ่งแวดล้อม 6,000,000 หยวน อีกทั้งต้องรับผิดชอบค่าประเมินของผู้เชี่ยวชาญ 150,000 หยวน หรือ 755,235 บาท นอกจากนี้ยังต้องลงประกาศในสื่อทั่วประเทศขอโทษต่อสาธารณะ

ทั้งสามได้ยื่นอุทธรณ์ ในเดือนพ.ค. ปี 2020 ศาลตัดสินยืนคำตัดสินเดิม ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนักอัยการประชาชนสูงสุดประกาศบังคับใช้คำตัดสินฯ
#3367
  ทีดินยานนาวาสาทรขายถูกกว่าทั่วไปมาก  ขายที่ดินเจริญราษฏร์ซอย2 เนื้อที่ 575 ตรว ขายถูกกว่าทั่วไปมาก

ขายถูกมากทีดินยานนาวาเขตสาทร    ขายถูกสาทรทำเลทองใจกลางเมือง ขายที่ดินเจริญราษฏร์ซอย2 เนื้อที่ 575 ตรว ขายถูกกว่าทั่วไปมาก เพียง ตรวละ 104,307 บ ขายตามราคาประเมินกรมที่ดิน ขายที่ดินซอยเจริญราษฏร์2ยานนาวา

  ขายถูกสาทรทำเลทองใจกลางเมือง  ขายที่ดินเจริญราษฏร์ซอย2 ที่ดิน เนื้อที่ 575 ตารางวา ราคา 60,000,000 บาท ที่ดินรูปขวาน หน้ากว้างติดถนนใหญ่ 40 เมตร / กว้างติดถนนซอย 16 เมตร ทำเลทองใจกลางเมือง ทำเหมาะธุริกจได้หลากหลาย ขายถูกมาก เพียง ตรวละ 104307 บ (โดยทั่วไปที่ดินย่านนี้ขายตรวละ 300,000.-บาท)

 ขายที่ดินซอยเจริญราษฏร์2ยานนาวา  สถานที่สำคัญใกล้เคียง
โรงเรียน : Shewsbury , อัสสัมชัญ , กรุงเทพคริสเตียน , เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ , อัสสัมชัญ คอนแวนต์ , พระแม่มารี ห้างสรรพสินค้า : เซ็นทรัลพระราม 3 , Homepro พระราม 3 , Asiatique ,Icon Siam โรงพยาบาล : เซ็นต์หลุยส์ , BNH,BTS – สถานีสุรศักดิ์


ทำเลที่ตั้ง ซอย เจริญราษฏร์2 แขวง ยานนาวา เขต สาทร กรุงเทพมหานคร 10120
สนใจติดต่อ Contact
คุณ ณัฐพัชร์ โชติอัครสินทบ (Nan)
TEl : 084-694-8888 (แนน)
line ID. : 0846948888
My Web : condonearbts.myweb.in.th
email :  preeyanon31@gmail.com

รับฝากขาย
รับฝากขาย
**(รหัสทรัพย์No 8901451)
รับฝากขาย-เช่า บ้าน คอนโด อพาร์ทเม้นท์
โรงแรม ที่ดิน โรงงาน อสังหา ทุกชนิด

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://tdin.online/?p=2573

คำค้น
ขายถูกมากทีดินยานนาวาเขตสาทร, ขายที่ดินซอยเจริญราษฏร์2ยานนาวา,ทีดินยานนาวาเขตสาทรขายถูกกว่าทั่วไปมาก, ขายถูกเขตสาทรขายตามราคาประเมินกรมที่ดิน, ขายถูกขายถูกสาทรทำเลทองใจกลางเมือง
#3368
ข้าวออร์แกนิกคุณภาพดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์  เครือข่ายข้าวอินทรีย์สุรินทร์ โครงการนาข้าวอินทรีย์  การผลิตข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค (ปลูกข้าวออแกนิค)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  ข้าวออร์แกนิค " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.  ข้าวหอมมะลิorganic, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  , ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5. ข้าวกล้องปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวหอมปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวผกาอำปึล, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
3.  ข้าวปะกาอำปึลorganic  กลุ่มข้าวผกาอำปึลอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค 6.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์
7.  ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิค  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3369


โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่เพิ่มลงทุนหลังจากที่บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด หรือเดิมชื่อ บริษัทรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มซีพี) ได้ลงพื้นที่เตรียมการก่อสร้างแล้ว

การส่งมอบพื้นที่ในระยะแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร จะดำเนินการได้ในเดือน ต.ค.2564 รวมทั้งจะถ่ายโอนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ ได้ในเดือน ต.ค.2564 และจะส่งมอบพื้นที่ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง และช่วงพญาไท-บางซื่อ ได้ในเดือน ต.ค.2566

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 ได้พิจารณา แก้ปัญหาซ้อนทับโครงการรถไฟความเร็วเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ในช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งใช้โครงสร้างโยธาร่วมกัน แต่เวลาการก่อสร้างและมาตรฐานเทคนิคไม่สอดคล้องกัน

ทั้งนี้ การพิจารณาแก้ปัญหาการซ้อนทับของโครงการในเรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นจากงานโยธาในช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ที่ตามแผนจะต้องมีการก่อสร้างทางรถไฟ 4 แทร็ค รองรับการให้บริการของรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จำนวน 2 แทร็ค และรถไฟไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน 2 แทร็ค โดยจากผลการศึกษาพบว่าควรก่อสร้างในครั้งเดียว เพื่อลดผลกระทบและประหยัดเวลา


ดังนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หน่วยงานเจ้าของโครงการ จึงกำหนดในสัญญาร่วมทุนโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากในการหารือร่างสัญญาในขณะนั้นพบว่าโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน เอกชนคู่สัญญามีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการอยู่แล้ว

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อมีการลงสำรวจพื้นที่ และทำสัญญาส่งมอบพื้นที่นั้น กลับพบว่าพื้นที่ช่วงพญาไท-ดอนเมือง ของโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ยังไม่สามารถส่งมอบให้เอกชนคู่สัญญานำไปพัฒนาโครงการได้ เพราะยังติดปัญหารื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยเฉพาะท่อน้ำมันในช่วงพญาไท ทำให้ข้อกำหนดของการส่งมอบพื้นที่ของโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน จึงกำหนดให้มีการส่งมอบพื้นที่ช่วงพญาไท-ดอนเมือง แล้วเสร็จภายใน 4 ปี หลังจากลงนามสัญญา

"ตอนแรกการรถไฟฯ มอบหมายให้ทางเอกชนของไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน เป็นผู้ก่อสร้างแทร็คช่วงทับซ้อนกับรถไฟไทย-จีน เพราะเอกชนมีความพร้อม แต่พอทำจริงไม่สามารถส่งมอบพื้นที่พญาไท-ดอนเมืองได้ เอกชนจึงยังมีเวลาที่จะไปสร้างช่วงอื่นก่อน ส่วนช่วงพญาไท-ดอนเมือง ตามกรอบต้องส่งมอบแล้วเสร็จใน 4 ปี เอกชนจึงยังมีเวลาอีก 4 ปีค่อยมาก่อสร้างช่วงนี้ ซึ่งก็รวมช่วงทับซ้อนของไทยจีนด้วย ทำให้เป็นปัญหา"

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า จากปัญหาของการรื้อย้ายสาธารณูปโภคช่วงพญาไทที่ต้องใช้เวลานั้น เป็นผลกระทบต่อโครงการไฮสปีดเทรนไทย-จีน ที่เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง และเหลือช่วงของการพัฒนาเพียงพื้นที่ทับซ้อนช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ทำให้ต้องการมีหารือร่วมกับเอกชนคู่สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินขของกลุ่มซีพี เพื่อปรับแก้สัญญาให้กลุ่มซีพีดำเนินการก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ในพื้นที่ทับซ้อนนี้ก่อน โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน ก.ค. 2569

ทั้งนี้ จากการปรับแก้สัญญาดังกล่าว มีข้อกำหนดให้ทางกลุ่มซีพีดำเนินการลงทุนก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง โดยให้จัดสรรวงเงินลงทุนไปล่วงหน้า และระหว่างการก่อสร้างนั้น สกพอ.จะดำเนินการทยอยจ่ายเงินลงทุน ซึ่งจะเป็นการนำวงเงินลงทุนจากโครงการไฮสปีดเทรน 3 สนามบินที่สัญญาก่อนหน้านี้กำหนดว่า สกพอ.จะอุดหนุนเงินลงทุนก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ภายใน 4 ปีหลังลงนามสัญญา และเงินก่อสร้างอีกส่วนจะเป็นเงินลงทุนของโครงการรถไฟไทยจีน เพื่อนำมาจ่ายชดเชยให้กลุ่มซีพี

"ทางออกตอนนี้เพื่อเร่งก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองให้ทันต่อการใช้งานของไฮสปีดเทรนไทยจีน ทางกลุ่มซีพียอมที่จะจัดหางบประมาณมาก่อสร้างให้ก่อน และระหว่างนั้น สกพอ.จะทยอยเบิกจ่ายงบประมาณมาชดเชยให้ ซึ่งเป็นเงินก้อนส่วนของงานก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ตามกรอบกำหนด แต่เป็นการเบิกจ่ายมาลงทุนก่อน และค่าก่อสร้างอีกส่วน ก็จะมาจากสัญญารถไฟไทยจีน"

สำหรับความคืบหน้าของการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันได้ ร.ฟ.ท.ได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนคู่สัญญามีความคืบหน้า 86% รวม 5,521 ไร่ และพร้อมส่งมอบส่วนแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ทั้งหมดภายในเดือน ก.ย.2564 คู่ขนานไปกับการยกระดับแอร์พอร์ต เรลลิงก์ โฉมใหม่ ที่ผู้โดยสารจะได้รับบริการ ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยจะโอนสิทธิ์ในการบริหารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ภายในเดือน ต.ค.นี้

ด้านกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้างานสำคัญที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย 

1.การเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ร.ฟ.ท.ได้ทำสัญญาซื้อขายแล้ว 634 สัญญา มูลค่า 3,599 ล้านบาท จากจำนวน 737 สัญญา มูลค่า 4,121 ล้านบาท 

2.การโยกย้ายผู้บุกรุก ที่กีดขวางการก่อสร้างช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภา ได้ดำเนินการโยกย้ายแล้วเสร็จ 100%

3.งานรื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยหน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคได้ดำเนินการรื้อย้ายสาธารณูโภคช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภาแล้วเสร็จ 257 จุด และอยู่ระหว่างการรื้อย้าย 396 จุด ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินงาน เพื่อให้แล้วเสร็จทันตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ คือ ภายในเดือน ก.ย. 2564
#3370


"เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม" คือคำขวัญจังหวัดสมุทรสงครามที่ใครหลายคนทราบกันดี แต่หลังจากไปเยือนสถานที่แห่งนี้ ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่ง "ของดี" เมืองแม่กลองกับ "คาเฟ่มุมมองใหม่" ที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าขนาดย่อม เพราะมากไปกว่าการนั่งกินนั่งดื่มกาแฟ ที่นี่ยังช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงท้องผ่านธรรมชาติ และความอร่อยจากสวนสู่จานที่ "พิเศษ" ไม่เหมือนใคร

เรากำลังพูดถึงร้าน "สมดุล" (Somdul Agroforestry Home) คาเฟ่ริมน้ำแม่กลองที่ช่วยบาลานซ์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติให้อยู่ตรงกลาง ดื่มกินผลผลิตที่มาจากธรรมชาติ ทุกเมนูรังสรรค์ด้วยความใส่ใจ ใช้พลังงานสะอาด แสดงจุดยืนใส่ใจสุขภาพและการอนุรักษ์ไปพร้อมๆ กัน

สำหรับที่นี่ เริ่มต้นมาจากเด็กชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเอแบค 6 คน (เอี่ยม-อติคุณ ทองแตง, เม-เมธาพร ทองแตง, อู๋-บุญชู อู๋, กันต์-กันต์ คงสินทรัพย์, ไอซ์-รังสิมันตุ์ ตันติวุฒิ และเจมส์-พงศกร โควะวินทวีวัฒน์) ซึ่งมีความสนใจในงานด้านอนุรักษ์เหมือนกัน และใช้พื้นที่ที่มีทำการเกษตรแบบพึ่งพาตัวเองจนมาจบที่ "วนเกษตร" นั่นก็คือการเกษตรบนพื้นที่ป่า ก่อนจะขยายมาเป็นศูนย์การเรียนรู้โดยมีร้านกาแฟ และความอร่อยจากสวนสู่จาน เป็นตัวดึงคนให้เข้ามาใช้ชีวิตสมดุลร่วมกัน

เม-เอี่ยม พร้อมด้วยเจ้าบานอฟฟี่
เม-เอี่ยม พร้อมด้วยเจ้าบานอฟฟี่

ดังนั้น ร้านนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ชวนให้ทุกๆ คนมากินดื่มผลผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ ในบรรยากาศสุดฟิน พร้อมๆ ไปกับเรียนรู้ และซึมซับวิถีวนเกษตร ปลูกผักกินเอง โดย "เอี่ยม-อติคุณ และเม-เมธาพร ทองแตง" บอกว่า เรากินในสิ่งที่ปลูกและปลูกในสิ่งที่กิน ทุกเมนูจึงรังสรรค์ขึ้นมาเป็นเมนูเฉพาะ เลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติทั้งจากสวน และเครือข่ายวนเกษตรด้วยกัน

เช่นเดียวกับกาแฟ ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกในระบบ Shade-Grown หรือการปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ ดังนั้นมากกว่ากาแฟที่ให้รสชาตินุ่มลึก และมีมิติแล้ว ยังปลอดภัย ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ความหลากหลายทางชีวภาพก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย







(ซ้าย) Stingless Bee Honey and Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็น+น้ำผึ้งชันโรง ราคา 140 บาท (ขวา) 0.00 AM Coco หรือกาแฟสลัดเย็น+น้ำมะพร้าว ราคา 85 บาท 
(ซ้าย) Stingless Bee Honey and Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็น+น้ำผึ้งชันโรง ราคา 140 บาท (ขวา) 0.00 AM Coco หรือกาแฟสลัดเย็น+น้ำมะพร้าว ราคา 85 บาท

Stingless Bee Honey and Cold Brew คือกาแฟที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอมากๆ แก้วนี้ "เอี่ยม" บอกว่า มี "น้ำผึ้งชันโรง" เป็นตัวชูโรง ซึ่งเขาเป็นคนคิดเมนูนี้ รสชาติต้องบอกว่าไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน เปรี้ยวอมหวาน ให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า กาแฟใช้วิธีการชงแบบ Cold Brew Coffee คือขบวนการที่แช่กาแฟบดในน้ำอุณภูมิปกติหรือน้ำเย็นในระยะเวลาที่นาน กาแฟที่ได้จะมีความหวาน และแทบไม่มีความขมอยู่เลย คนที่ไม่เคยดื่มกาแฟสามารถดื่มได้อย่างลื่นคอ

ดื่มกาแฟจนชื่นคอชื่นใจแล้ว มาต่อกันที่สลัดในชื่อ "Somdul Salad Season 1" เป็นสลัดออร์แกนิกที่หากินที่ไหนไม่ได้ ผักสลัดปลูกเอง เช่น เรดโอ๊ค, กรีนโอ๊ค, ฟินเลย์ และบัตเตอร์เฮค ส่วนน้ำสลัดเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน มีเลม่อนจากสวนพสุธารา จ.ราชบุรี และน้ำผึ้งชันโรงที่เลี้ยงไว้ในสวนเป็นตัวชูโรง นำมาคลุกเคล้ากินกับผักชนิดต่างๆ แล้ว อร่อยเปรี้ยวหวานลงตัวสุดๆ

สลัดออแกนิก+น้ำสลัดสูตรพิเศษ (Somdul Salad Season 1) ราคา 95 บาท
สลัดออแกนิก+น้ำสลัดสูตรพิเศษ (Somdul Salad Season 1) ราคา 95 บาท

โรตีห่อสลัดซีซ่าไก่ ราคา 100 บาท
โรตีห่อสลัดซีซ่าไก่ ราคา 100 บาท

อีกเมนูที่ต่อยอดจากสลัดคือ "โรตีห่อสลัดซีซ่าไก่" ทางร้านนำสลัดซีซาร์ Homemade ปราศจากความเลี่ยน มาคลุกเคล้ากับสันในไก่ต้มลีนๆ ห่อกับแป้งโรตีที่ย่างไว้แล้วแน่นๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดรสสัมผัสเนียนนุ่ม เติมเต็มจานนี้ให้อร่อยยิ่งขึ้น

เมนูข้าว ต้องยกให้พระเอกจานนี้ "ข้าวผัดกะเพราปลาทู" ทางร้านเลือกใช้ปลาทูแม่กลอง ของดีท้องถิ่นที่เนื้อแน่น มัน อร่อย เอามาผัดใส่กะเพราแดงที่ปลูกในสวนผักอินทรีย์ ให้ความหอมเย้ายวนและเด่นชัด นับเป็นความอร่อยที่อยากแนะนำให้ไปลอง

ข้าวไก่ทอดซอสเขียวหวาน ราคา 120 บาท
ข้าวไก่ทอดซอสเขียวหวาน ราคา 120 บาท

รองลงมาเป็น "ข้าวไก่ทอดซอสเขียวหวาน" เน้นวัตถุดิบโฮมเมด และผักอินทรีย์ที่ปลูกเองเกือบทั้งหมด รสชาติถึงเครื่องแกง อร่อยไม่ซับซ้อน เช่นเดียวกับเมนูง่ายๆ "ข้าวไข่ข้นแฮมเบค่อน" หอมนุ่มละมุนลิ้น ไข่ไก่ที่ใช้เป็นไข่ไก่อินทรีย์เก็บสดๆ จากฟาร์มแม่ไก่อารมณ์ดี นำทำปรุงรสทำอาหารยิ่งอร่อย จานนี้โรยด้วยเบค่อนกรอบๆ กับแฮมสโมคอ่อนๆ กินได้เพลินๆ ไม่มีเบื่อ

ข้าวไช่ข้นแฮมเบค่อน
ข้าวไช่ข้นแฮมเบค่อน

สปาเก็ตตี้หอยลายโหระพา ราคา 150 บาท
สปาเก็ตตี้หอยลายโหระพา ราคา 150 บาท

ถ้าใครชอบกินเผ็ด ต้อง "สปาเก็ตตี้หอยลายโหระพา" ทางร้านคัดหอยลายสดใหม่ ตัวใหญ่ๆ ล้างด้วยความละเมียดละไม สะอาด ไม่มีกลิ่นคาว โดยวิธีการทำนั้น จะนำหอยทั้งแบบที่ติดเปลือก และเนื้อที่แกะแล้ว ลงไปผัดกับเส้นสปาเก็ตตี้ และใบโหระพา เอาให้พอสะดุ้งไฟแรงๆ ถึงจะเผ็ดร้อนแต่อร่อยถึงใจ ตัวเส้นก็เหนียวหนึบกำลังดี

ไอศกรีมโฮมเมด
ไอศกรีมโฮมเมด

ส่วนเมนูของหวาน ที่นี่เด่นเรื่อง "ไอศกรีมโฮมเมด" ทำเองเกือบทุกรสชาติ บางรสชาติอย่าง "ไอศรีมกะทิ" การันตีความสดใหม่ ใช้มะพร้ามอินทรีย์เก็บสดจากสวน "เก็บเช้า คั้นเช้า แล้วปั่นบ่ายในวันนั้นเลย" เนื้อไอศกรีมกะทิเป็นเจลาโต เนียนนุ่ม และเหนียวกำลังดี ส่วนอีกตัวเป็นไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอม ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมล้วนๆ ได้ความสดใหม่ที่ทางร้านกล้าพูดได้เลยว่า หาสดกว่านี้ยาก นอกจากนั้นยังมีหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง หอมอร่อยชื่นใจไม่แพ้กัน

บานอฟฟี่คาราเมลโฮมเมด ราคา 120 บาท
บานอฟฟี่คาราเมลโฮมเมด ราคา 120 บาท

ปิดท้ายกันที่ "บานอฟฟี่" เมนูขายดี รสชาติไม่หวานมาก ฐานคุกกี้อบกรอบกับช็อกโกแลตกานาจชั้นดี กินพร้อมกับกล้วยหอมและซอสคาราเมลโฮมเมด ส่วนเนื้อครีมละมุนมาก อร่อยชุ่มฉ่ำฟินๆ แบบไร้ไขมันทรานส์ ไม่มีเนยขาว ไม่มีมาการีน

อย่างไรก็ดี นอกจาก "บานอฟฟี่" ในชื่อของหวานแล้ว ทางร้านยังมีสิ่งมีชีวิตอันเป็นที่รักของลูกค้าในชื่อเดียวกันก็คือ "เจ้าบานอฟฟี่" สุนัขนักบำบัดที่เสมือนพนักงานต้อนรับในโซนคาเฟ่ ผ่านหลักสูตรสุนัขบำบัดแห่งประเทศไทย หรือ Therapy Dog Thailand ไม่แปลกที่จะกลายเป็นที่รักของคนทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ กลายเป็นเซเลปที่แย่งซีนภาพอาหารและเครื่องดื่มไปเลยทีเดียว
#3371


แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ นักมวยหญิงแกร่งชาวไทย ล้างแค้นนักสู้สาวยูเครนได้สำเร็จในศึก วัน แชมเปียนชิพ รายการ ONE: EMPOWER ที่สิงคโปร์ หลังโชว์ความสามารถแกะท่าล็อกฝั่งตรงข้ามหนีได้ถึง 2 หน แล้วกลับมาเป็นผู้ชนะอย่างสุดมัน

ศึกมวยกรง วัน แชมเปียนชิพ รายการ ONE: EMPOWER ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา มีการแข่งขัน มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตหญิง รุ่นอะตอมเวต เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ รอบ 8 คนสุดท้าย หาผู้ชนะ 4 คนไปลุยต่อรอบรองชนะเลิศ

คู่ที่แฟนหมัดมวยชาวไทยจับตามอง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ อดีตแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยของ ONE ขึ้นสังเวียนเจอกับ อาลีโอน่า ราสโซฮินา คู่ปรับจากยูเครน ที่เคยดวลกันมาแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์แล้ว แสตมป์ เป็นฝ่ายแพ้อย่างน่ากังขา เสียสถิติชนะรวด 5 ไฟต์ในมวยกรง

แต่กลับมารอบนี้ไม่เหมือนเดิม อาลีโอน่า พยายามดึงนักสู้สาวไทยนอนพื้นตลอด 3 ยก โดยมีจังหวะที่สาวยูเครน จับแสตมป์ เข้าท่ากิโยติน โช้ก กับอาร์มบาร์ ในยก 1 กับ 3 แต่ แสตมป์ แก้ทางได้ยอดเยี่ยม สลัดหนีท่าล็อกก่อนขึ้นคร่อมต่อย และหาช่องโจมตีด้วยหมัดกับขาเป็นระยะ

สุดท้ายครบ 3 ยก กรรมการตัดสินให้ แสตมป์ ชนะคะแนน 2-1 เสียง ส่งผลให้นักมวยสาวปากแดง ล้างแค้นสำเร็จ ก่อนเข้ารอบรองชนะเลิศไป ซึ่งหากเธอฝ่าด่านไปเป็นผู้ชนะทัวร์นาเมนต์นี้ ก็จะได้สิทธิชิงเข็มขัดแชมป์รุ่นอะตอมเวทกับ แองเจล่า ลี นักสู้หญิงเบอร์ 1 ของสิงคโปร์ ที่ถือครองแชมป์อยู่

ส่วนผลคู่เอก ชิงเข็มขัดแชมป์รุ่นสตรอว์เวท "เดอะ แพนด้า" ซง จิง หนาน ยอดนักสู้หญิงจากเมืองจีน โชว์ฟอร์มชนะ มิเชลล์ นิโคลินี ผู้ท้าชิงดีกรีจ้าวแห่งสไตล์บราซิเลียนยิวยิตสู หลังสู้กัน 5 ยก แล้วกรรมการตัดสินให้นักสู้จากเมืองจีน ชนะเอกฉันท์ รักษาเข็มขัดไว้ได้ต่อไป

สรุปผลการแข่งขันศึก ONE: Empower
- ซง จิง หนาน ชนะคะแนน มิเชลล์ นิโคลินี อย่างเป็นเอกฉันท์ (ชิงแชมป์โลก MMA รุ่นสตรอว์เวต)
- ซอ ฮี ฮาม ชนะคะแนน เดนิส แซมโบอันกา อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ชนะคะแนน อาลีโอนา ราสโซฮินา อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- ริตู โฟกาต ชนะคะแนน เมงโบ อย่างเป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- อิตซูกิ ฮิราตะ ชนะคะแนน อลิส แอนเดอร์สัน อย่างเป็นเอกฉันท์ (เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ MMA รุ่นอะตอมเวต)
- อนิสสา เม็กเซน ชนะทีเคโอ. คริสตินา โมราเลส นาทีที่ 2.27 ของยกที่สอง (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต)
- แจ็กกี บุนตัน ชนะคะแนน แดนิลา โลเปซ อย่างเป็นเอกฉันท์ (มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต)
- จูลี เมซาบาร์บา ชนะคะแนน เม ยามากูชิ อย่างเป็นเอกฉันท์ (คู่สำรอง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์)
#3372


กรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และ วิสาหกิจชุมชน เตรียมจัดงานท่องเที่ยวยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนรมิตแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมเก่าแก่ของประเทศไทย ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสบนโลกเสมือนจริงแบบ "Virtual Tour" ระหว่างวันที่ 11-19 กันยายน ศกนี้ พร้อมชอปดีลท่องเที่ยวสุดพิเศษ และลุ้นรับรางวัลใหญ่ตลอดการเข้าร่วมชมงาน มุ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังวิกฤตโควิด-19

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และ วิสาหกิจชุมชน ได้จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี (9 เส้นทาง 9 ตำบลมรดกวัฒนธรรมท่องเที่ยววิถีไทย) ครั้งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด "เที่ยวชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีทั่วไทย" ซึ่งได้เนรมิตรูปแบบการท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tour) ที่ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ทั้ง ชม ชิล ช้อป แชร์ รวมถึงยังได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของวิถีชุมชนทั้ง 9 เส้นทางตำนานมรดกวัฒนธรรม

สำหรับความโดดเด่นของงานครั้งนี้ อยู่ที่การนำเอาวัฒนธรรมทั้ง 9 อารยธรรมบนผืนแผ่นดิน มาสร้างอัตลักษณ์ให้กับการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งได้แก่ อารยธรรมบ้านเชียง, อารยธรรมทวารวดี, อารยธรรมศรีโคตรบูรณ์-ล้านช้าง, อารยธรรมลพบุรี, อารยธรรมศรีวิชัย, อารยธรรมล้านนา, อารยธรรมสุโขทัย, อารยธรรมอยุธยา, และ อารยุธรรมธนบุรี-รัตนโกสินทร์ ซึ่งแต่ละอารยธรรม ต่างมีความโดดเด่นด้านวิถีชีวิต ตามภูมิภาคและ กาลเวลา รวมถึงยังปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมและการสืบสานวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่อง มาพัฒนาเป็นรูปแบบ Virtual Tour เสมือนจริงบนโลกออนไลน์ ตลอดจนกิจกรรมต่างๆที่ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสเสมือนไปท่องเที่ยวด้วยตัวเอง อาทิ จุดถ่ายรูปเชคอิน กิจกรรม Workshop เป็นต้น ซึ่งการเก็บประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ หรือ New Normal นี้จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงานอย่างแน่นอน

นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดและร่วมงานได้ที่ www.virtualotoptour.com ระหว่างวันที่ 11-19 กันยายน 2564 ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ซึ่งนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชุมชนท่องเที่ยว OTOP ทั้ง 9 เส้นทางแล้ว ผู้เข้าชมยังมีสิทธิ์ลุ้นรับ "สร้อยคอทองคำ" จำนวน 3 เส้นต่อวัน และลุ้นรับรางวัลใหญ่ "ทองคำแท่งหนัก 1 บาท" อีกด้วย
#3373


หลังจาก พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย สามารถคว้า 3 เหรียญทอง "พาราลิมปิกเกมส์ 2020" ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจว่า มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ที่คว้าเหรียญทอง ในรายการ 800 ม.มาครองได้อีกเหรียญ และเป็นเหรียญที่ 3 ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าก่อนมาผมไม่ตั้งความหวังไว้ว่าจะได้มากขนาดนี้ เพราะก่อนมาผมตั้งเป้าหมายไว้แค่ต้องการเหรียญทอง และขอทำลายสถิติโลก รายการ 400 ม. ซึ่งเป็นรายการความหวังของผมแค่นั้นก็พอ แต่มาได้ถึง 3 เหรียญทองต้องบอกว่ามั่นคุ้มค่ามากๆ กับการฝึกซ้อมมานานเป็นปี

"การฝึกซ้อมที่ยาวนานต่อเนื่องทำให้ผมมีความรู้สึกอัดอั้นมากๆเพราะฝึกซ้อมอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปแข่งขันในรายการต่างประเทศเลยในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่ามีความกระหายอยากที่ลงแข่งขันและอยากชนะในทุกๆ รายการที่ลงแข่งขัน ทำให้ครั้งนี้เลยมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าทุกครั้ง แต่อย่างไรก็ดีคนที่ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้คือ โค้ช,พี่ๆ น้องๆ ทีมวีลแชร์เรซซิ่ง รวมถึงครอบครัวผม ที่เป็นกำลังใจให้กับผมมาตลอด และที่ขาดไม่ได้คือ สิงห์ คอร์เปอชั่น พาราลิมปิกไทย, สมาคมกีฬาคนพิการฯ รวมไปถึงแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้พวกเรามาตลอด"

ทั้งนี้ พงศกร แปยอ เป็นนักกีฬาพาราไทย คนแรก ที่สามารถคว้าเหรียญทอง ได้ถึง 3 เหรียญทอง จากการแข่งขันพาราลิมปิก ครั้งเดียว ทำให้ยอดเหรียญทองพาราลิมปิก ของพงศกร เพิ่มเป็น 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน จากการแข่งขันพาราลิมปิกเพียงสองครั้ง
#3374


องค์การเภสัชกรรมได้รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) 92.84 คะแนน เกรด A ระดับดีมาก ประจำปีงบประมาณ 2564 จากสำนักงาน ป.ป.ช. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แสดงถึงการเป็นองค์กรที่ดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส มีคุณธรรมและจริยธรรมในการบริหารงานอย่างสูง มาโดยตลอด

โดยในส่วนของคะแนนด้านการป้องกันการทุจริต และการเปิดเผยข้อมูล นั้น มีความโดดเด่นมาก โดยได้คะแนนการประเมินสูงสุดถึง 100 คะแนนเต็ม ซึ่งถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่มีความสำคัญมากสำหรับการประเมินคะแนนในครั้งนี้

ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า องค์การฯดำเนินงานด้วย เจตนารมณ์ ความมุ่งมั่น ตามหลักการธรรมาภิบาล และแนวคิดคุณธรรม นำการพัฒนา ร่วมสร้างความเข้มแข็งจากภายในตามหลักระเบิดจากข้างใน เพื่อร่วมสร้างสรรรค์สังคมคุณธรรม และผู้ปฏิบัติงานทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนคุณธรรมที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม โดยนำแนวทางการดำเนินงานของศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ภายใต้แนวคิด 6 ป มาใช้ในการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1. ปลุกคิดให้ทุกคนเห็นความสำคัญ และเรียนรู้ร่วมกัน ทำความเข้าใจกัน 2. ประมวลพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ที่พึงประสงค์และไม่พึงประสงค์จากทุกระดับแล้วสรุปร่วมกัน 3. เปลี่ยนพฤติกรรมเป็นข้อกำหนดคุณธรรม 3 ข้อ เพื่อเป็นพื้นฐานในการทำงานร่วมกัน 4.แปลงจากข้อกำหนดคุณธรรม 3 ข้อ เป็นพฤติกรรมบ่งชี้ในระดับต่างๆ 5. ประกาศปฏิญานก่อนลงมือปฏิบัติ และ 6.ประเมินผลจากความสำเร็จของผลการดำเนินงานตามแผนการสร้างองค์กรคุณธรรมและการประเมินองค์กร

นอกจากนี้องค์การฯยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการประกวดคลิปวีดิทัศน์นำเสนอผลการดำเนินงานองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่จัดโดย ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) กระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย

"ต้องขอขอบคุณผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาองค์กร สร้างคุณธรรม จริยธรรม และความโปร่งใสในองค์กรอันเป็นที่รัก ตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และความโปร่งใสในองค์กรที่ควรประพฤติปฏิบัติจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเรื่อยมา" ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมกล่าว
#3375
newnormal ในยุค โควิด ต้องนี่เลย สเปรย์แอลกอฮอล์ สูตรออแกร์นิค 40ml

ฟรี #สบู่แผ่น ล้างมือ (ใช้ได้50ครั้ง)
-กลิ่นมิ้นต์หอมสดชื่น -กลิ่นแคนดี้หอมหวาน
เซตละ 99 บาท (ส่งฟรีจ้า *ของแถมจำนวนจำกัด) คุ้มมากกกกกกกกกแถมน่ารักมากกกกอีกด้วย แค่หยิบมาใช้ใครๆก็มอง บอกเลยแม่...
IG : littlejinny_shop 
ID : @littlejinny 
Tel : 0859092391

รับตัวแทน สต้อคแน่น ฮิตสุดๆ แพคเกจไม่เหมือนใคร






























#3376

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้รับรายงานการได้มา หุ้นของ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดย บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 52.1492% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 52.1492% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนจำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 52.1492% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 56.2577% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

สำหรับรายละเอียดราคาซื้อขายอยู่ที่ 12.00 บาทต่อหุ้น จำนวน 1,111,781,388 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 13,341.37 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) จากกลุ่มเมเจอร์ กลุ่มนายนพพร กลุ่มนายพงศ์กิจ กลุ่มนายสมนึก

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังได้รับรายงานการจำหน่าย หุ้นของ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดย บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR Huay ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 30 ส.ค. จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 30.3556% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 30.3556% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

สำหรับรายละเอียดราคาซื้อขาย จำนวน 647,158,471 หุ้น โดยเป็นการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด บนกระดานบิ๊กล็อต

ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวเป็นไปตามแผนของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ในการเข้าซื้อหุ้น SF จาก MAJOR จำนวน 1,111,781,388 หุ้น หรือ 52.15% มูลค่าการซื้อขายรวม 13,341,376,656 บาท

นอกจากนี้ CPN ซึ่งเป็นบุคคลตามมาตรา 258 ของผู้ประกาศเจตนายังมีการถือหุ้นใน SF จำนวน 87,589,200 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.11% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SF ทำให้ผู้ประกาศเจตนาและบุคคลตามมาตรา 258 ของผู้ประกาศเจตนา มีสัดส่วนการถือหุ้นใน SF รวมเป็นจำนวน 1,199,370,588 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 56.26% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SF

ผู้ประกาศเจตนาจึงมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของ SF (Mandatory Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นของ SF ทุกราย จำนวน 932.550.343 หุ้น คิดเป็น 43.74% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วแล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SF
#3377

MAKRO ราคาปิดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 19.05% ขานรับการควบรวมกับโลตัสส์ บล.กรุงศรี อยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำ คาดราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากราคา tender offer ที่ 43.5 บาทต่อหุ้นในช่วงนี้

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)หรือ MAKRO วานนี้ (1 ก.ย.)ปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด ระหว่างวันทำจุดสูงสุดที่ 52.25 บาท ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 19.05% ขานรับการควบรวมกับโลตัสส์

ด้านบล.กรุงศรี ระบุ จากการประชุมนักวิเคราะห์ร่วมในประเด็นรายการการโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ของLotus's ให้ MAKRO  ในฝั่ง MAKRO Huay บริษัทจะได้หุ้น 100% ของ CPRD (Lotus Asia) จาก CPRH ซึ่ง MAKRO จะจ่ายดีลด้วยการออกหุ้นใหม่ 5,010ล้านหุ้นที่ราคา 43.5บาทต่อหุ้น และ CPRH จะยกเลิกกิจการและโอนหุ้นใหม่ของ MAKRO ไปยังผู้ถือหุ้นของ CPRH (CPALL 40%/ CPG 40%/ CPF 20%)

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
ทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้น MAKRO เปลี่ยนไปเป็น CPALL/CPF/CPH/รายย่อย : 66%/10%/20%/4% และเข้าเกณฑ์การทำ Tender offer ตามกฏโดย CPF และ CPG หลังการทำ Tender Offer MAKRO จะทำ PO จำนวน 1.3พันหุ้น เพื่อเพิ่ม float เป็น 15% เพื่อให้ง่ายกับการรวมเข้า SET50 ของ MAKRO

 
MAKRO จะรวมงบ Lotus Asia หลังรายการ EBT ภายในต.ค.

จากข้อมูลของบริษัท คาดรายการ EBT จะแล้วเสร็จในปลายต.ค. (1-3 สัปดาห์หลัง EGM) ทำให้ MAKRO ต้องรวมงบ Lotus's เข้ามา โดย Sssg ของไฮเปอร์มาร์เกต ที่ยังไม่ดี, รายได้ค่าเช่า, และรายจ่ายดอกเบี้ยจะกดดันผลประกอบการของ MAKRO ในระยะสั้น

 

จากความซับซ้อนของดีลและความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของ Lotus's รวมถึงโอกาสการเกิดซินเนอร์ยี เราเชื่อว่าตลาดจะใช้เวลาสักพักในการรับรู้ผลของดีล

อย่างไรก็ตามเป้าหมาขของ lotus's ในการเน้นไปที่อาหารสดจะทำให้เกิดการซินเนอยีระหว่างกลุ่มขึ้น จากการขายอาหารเป็นจุดแข็งหลักของ MAKRO เราอยู่ระหว่างการทบทวนคำแนะนำ เราคาดราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากราคา tender offer ที่ 43.5บาทต่อหุ้นในช่วงนี้
#3378


ซินหวา - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกัมพูชากล่าวว่า เที่ยวบินที่บรรทุกวัคซีนซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดส เดินทางถึงกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชาแล้ววานนี้ (31) โดยวัคซีนที่กัมพูชาจัดซื้อจากจีนล็อตนี้จะช่วยเพิ่มการขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนของประเทศ

จีนเป็นผู้จัดส่งวัคซีนรายใหญ่ของกัมพูชา และจนถึงปัจจุบัน กัมพูชาได้รับวัคซีนจากมิตรประเทศและโครงการโคแว็กซ์ขององค์การอนามัยโลกรวม 27 ล้านโดส โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่มาจากจีนถึง 24.3 ล้านโดส

กัมพูชาเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่เดือ นก.พ. โดยตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 12 ล้านคน หรือ 75% ของประชากร 16 ล้านคนของประเทศภายในสิ้นปีนี้ และจนถึงวันที่ 30 ส.ค. มีประชาชน 10.69 ล้านคน หรือ 66.8% ของประชากรทั้งหมด ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม และจากจำนวนดังกล่าวมี 8.45 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม กระทรวงสาธารณสุขระบุ

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตจากโควิดลดลงมากในกรุงพนมเปญ และ จ.กันดาล ที่อยู่ติดกัน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเกิดภูมิคุ้นกันหมู่

ผู้นำเขมรได้แนะนำให้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเปิดโรงเรียนในพื้นที่ที่ไม่ติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท

"เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่พบในเขตเมืองและพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ขณะที่พื้นที่ชนบทพบผู้ป่วยน้อยมาก ผมขอแนะนำให้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเทศบาลเปิดโรงเรียนในพื้นที่ที่ไม่มีการติดเชื้อ" ฮุนเซน กล่าว

กัมพูชาสั่งปิดโรงเรียนมาตั้งแต่เดือน ก.พ. หลังการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ปะทุขึ้น

กัมพูชายืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 439 คน เมื่อวันอังคาร (31) ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมรวมอยู่ที่ 93,055 คน และจากจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 1,916 คน กระทรวงสาธารณสุขระบุ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,903 คน และหายป่วยสะสมที่ 88,786 คน
#3379


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เผยถึงความรู้สึกเป็นครั้งแรก หลังคอนเฟิร์มย้ายมาร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยจะเซ็นสัญญา 2 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี

'ทุกๆ คนที่รู้จักผม พวกเขารู้เรื่องความรักที่ไม่มีวันหมดสิ้นที่ผมมีให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงเวลาหลายปีที่ผมใช้ภายในสโมสรแห่งนี้ สถานที่ซึ่งเส้นทางที่พวกเราสร้างขึ้นมาร่วมกันได้ถูกจารึกด้วยตัวอักษรสีทองลงในประวัติศาสตร์ของสถาบันที่ยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมที่นี่' หัวหอกโปรตุกีส เริ่มกล่าว

'ผมไม่สามารถเริ่มต้นบรรยายความรู้สึกของผมในตอนนี้ได้เลยหลังจากได้เห็นการกลับมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดของผมถูกประกาศก้องไปทั่วโลก'

'มันคือความฝันที่กลายเป็นจริง หลังจากช่วงเวลาทั้งหมดที่ผมกลับไปเผชิญหน้ากับแมนฯ ยูไนเต็ด แม้กระทั่งในฐานะคู่แข่ง การได้สัมผัสถึงความรักและความเคารพจากแฟน.บนอัฒจันทร์ นี่คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความฝันแน่นอน 100%'

'ถ้วยแชมป์ลีกในประเทศใบแรกของผม แชมป์ฟุต.ถ้วยใบแรกของผม การถูกเรียกตัวติดทีมชาติโปรตุเกสครั้งแรก ถ้วยแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกใบแรก รองเท้าทองคำอันแรก และบัลลงดอร์สมัยแรก ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากสายสัมพันธ์สุดพิเศษระหว่างผมกับปีศาจแดง'

'ประวัติศาสตร์เคยถูกขีดเขียนไว้ในอดีต และประวัติศาสตร์จะถูกขีดเขียนขึ้นใหม่อีกครั้ง! ผมสัญญา!'

'ผมกลับมาที่นี่!, ผมกลับมาที่ที่ผมควรอยู่!, มาช่วยทำให้มันเกิดขึ้นกันอีกครั้ง!'

'ปล.เซอร์ อเล็กซ์ สิ่งนี้เพื่อคุณ' โรนัลโด้ ร่ายยาวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว
#3380


ความเห็นของ นพ.ฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป ที่มีขึ้นในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 ส.ค.) เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) แสดงให้เห็นถึงการประเมินของ WHO ที่เป็นไปในทางบวกมากขึ้น ขณะที่หลายประเทศได้มีการฉีดเข็มสามแล้ว 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ข้อมูลการฉีดบูสเตอร์โดสยังไม่แน่ชัด และก่อนหน้านี้ WHO บอกว่า ประเทศที่ฉีดเข็มสามควรหยุด และควรให้ความสำคัญกับประเทศยากจนได้ฉีดวัคซีนก่อน 

นพ.คลูจ กล่าวว่า มีการศึกษาเพิ่มเติมได้แสดงให้เห็นว่า การฉีดโดสสามช่วยปกป้องกลุ่มเปราะบาง และสุขภาพอ่อนแอ 

"การฉีดเข็มที่สาม ไม่ใช่วัคซีนกระตุ้นที่ชิงไปจากผู้ที่กำลังรอวัคซีนโดสแรก แต่เป็นวิธีที่ปกป้องกลุ่มเปราะบางได้ดีที่สุด" ผอ.องค์การอนามัยโลก ประจำภูมิภาคยุโรป ระบุ และกล่าวว่า ยังต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศในยุโรป แบ่งปันวัคซีนโควิด-19 เกินสต็อกให้กับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรปตะวันออก และแอฟริกา

นพ.คลูจ กล่าวด้วยว่า อัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บางประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนช้าลง ทำให้เกิดความกังวลอย่างยิ่ง