[Jenny937]

 พิมพ์นามบัตร
การพิมพ์นามบัตรนั้นแรกเริ่มถูกใช้เพื่อสำหรับในการแนะนำตัวของตนให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกฝ่ายสามารถจำตัวเองเจริญขึ้น และทำให้อีกข้างรู้โปรไฟล์ของเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ในการพิมพ์นามบัตรแจกนั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากในสมัยก่อนในสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
เนื่องจากว่าหากอยากได้จดเบอร์โทรศัพท์ต้องใช้การจดลงสมุดแล้วจำเป็นต้องไต่ถามรายละเอียดจากบุคคลนั้น ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่
สะดวกแล้วก็ถ่วงเวลาอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ามีการประชุมหรือพบปะสนทนาคนอื่นๆด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรก็เลยนับเป็น
สิ่งที่ต้องการอย่างเสียมิได้
ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยสำหรับการแนะนำตนเองแล้วก็โปรไฟล์ได้หลากหลายแนวทาง แต่ว่าหากว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงแต่เป็น "Name Card" แม้กระนั้นแปลงเป็น "Business Card" ซึ่งสื่อความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับการติดต่อธุรกิจกับคนอื่นๆนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งที่ต้องการมากในตอนนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นค่าความนิยมของประเทศญี่ปุ่นนั้นนับว่าให้พกนามบัตรประจำตัวตลอดเวลารวมทั้งให้ความเอาใจใส่มาก
กว่ากระเป๋าสตางค์อีกด้วย เนื่องจากถ้ามีการพบเห็นบุคคลภายนอกจนถึงเกิดการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรถือว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น โดยเหตุนั้นการพิมพ์นามบัตรก็เลยมีความจำเป็นอย่างที่สุดไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะในเชิงธุรกิจแต่ว่ารวมถึงบุคคลทั่วไปด้วย รูปแบบของนามบัตรนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามจุดหมายการใช้แรงงาน ตัวอย่างเช่น ใช้ชี้แนะเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ ฯลฯ โดยเนื้อหาข้อมูลสำหรับการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างออกไป โดยธรรมดาข้อมูลรากฐานที่จะต้องมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนเป็น1.ชื่อ – สกุลของผู้ครอบครองบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อโดยจะเป็นแนวทางใดก็ได้ประการใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้ตามแต่สะดวก ซึ่งในขณะนี้นอกจากกำหนดเบอร์โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ บางทีอาจจะเพิ่มเติมที่อยู่อีเมล
facebook LineID เสริมเติมเป็นต้น แต่แม้เป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ต้องมีเพิ่มเติมอีกในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และอาจจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมถึงการใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์บางครั้งอาจจะควรจะเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
วางใจเป็นต้น
สิ่งพิมพ์นามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งพอควร ไม่ควรบางหรืออ่อนตัวจนเกินความจำเป็น ซึ่ง
ขนาดอาจจะมีไม่เหมือนกันออกไปบ้างเล็กน้อยแต่ไม่สมควรไม่เหมือนกับขนาดมาตรฐานมากเท่าไรนัก โน่นคือ 3.5 x 2.125 นิ้ว เนื่องจากขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่วางแบบมาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่เข้ากับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ควรจะมีความหนา
260 มึงรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยเดี๋ยวนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะมักจะเจาะจงเนื้อหาเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งแล้วก็ภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งนับว่าเหมาะสำหรับการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคนประเทศอื่นรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้มีความสวยสดงดงามนั้นมีความจำเป็นเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ สำหรับ
คนที่ไม่รู้ท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวถ้าได้มองเห็นนามบัตรที่มองภูมิฐานก็จะมีผลให้เชื่อมั่นว่าบริษัทท่านจำต้องดูน่าไว้ใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มเติมในกับนามบัตรจึงเป็นที่นิยมกันอย่างมากมาย เช่น การเคลือบ UV เคลือบเงา ฉาบด้าน ฉาบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทองคำ รวมทั้งฯลฯขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง