• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

มวยสากล

Started by Tawanida, October 17, 2023, 01:21:14 PM

Previous topic - Next topic

Tawanida

มวยสากล เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาแต่โบราณ โดยเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของทหารในสนามรบ และกลายเป็นเกมกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิคยุคโบราณ โดยที่นักมวยในยุคนั้นไม่มีการจำกัดน้ำหนัก ไม่สวมเครื่องป้องกันตัว และไม่จำกัดว่าต้องใช้ได้เพียงหมัด สามารถกัดหรือถองคู่ต่อสู้ได้ โดยไม่มีกติกามากนัก เพียงแต่นักมวยทั้งคู่ต้องถอดเสื้อผ้าให้หมดทั้งตัว เพื่อไม่ให้ซ่อนอาวุธเอาไว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2236 เจมส์ ฟิกก์  ผู้ชนะเลิศการต่อสู้ด้วยมือเปล่าชาวอังกฤษได้กำหนดกฎกติกาในการชก จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น "บิดาแห่งมวยสากล" และต่อมาก็ได้มีผู้สร้างนวมขึ้นมา แต่ยังไม่มีการใช้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2432 จอห์น แอล ซัลลิแวน  ผู้ชนะเลิศการชิงแชมป์มวยด้วยมือเปล่า ประกาศว่าจะไม่ขอขึ้นชกด้วยมือเปล่าอีกต่อไป เป็นจุดเริ่มต้นของการชกด้วยการสวมนวม และได้พัฒนาจนมาเป็นเกมกีฬาที่มีกติกาชัดเจนเช่นในปัจจุบัน การชั่งน้ำหนัก ให้กระทำภายในเวลา ๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ถ้าน้ำหนักเกินมีสิทธิ์ไปวิ่งลดน้ำหนักแล้วกลับมาชั่งได้อีกภายในเวลาที่กำหนด  การแข่งขันจะต้องไม่เริ่มขึ้นก่อน ๓ ชั่วโมงเต็มหลังจากกำหนดเวลาชั่งน้ำหนักสิ้นสุดลง

         จำนวนยกในการแข่งขัน ถ้าเป็นมวยสมัครเล่นอาจชก ๓ ยก (บางแห่งอาจชก ๕  ยก)  ยกหนึ่งใช้เวลา ๓ นาที หยุดพักระหว่างยก ๑ นาที นักมวยอาชีพอาจชก ๑๐  ๑๒  หรือ  ๑๕  ยก แต่ระยะหลังไม่ค่อยชก ๑๕ ยกกันแล้วเพราะนักมวยเหนื่อย ชกไม่ไหว

         กรรมการ  การชกมวยสมัครเล่นมีกรรมการ ๕ คน มวยสากลมี ๓ คน บางหนกรรมการห้ามบนเวทีก็มีสิทธิ์ให้คะแนนด้วย

         การตัดสิน  

         - ชนะโดยน็อกเอาต์  คือ  เมื่อทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงกับพื้นเวที  หรือยืนพับหมดสติอยู่กับเชือก ไม่สามารถที่จะชกหรือป้องกันตัวต่อไปได้อีกภายใน ๑๐ วินาที คือกรรมการได้นับ ๑  ถึง ๑๐ แล้ว  กรณีที่นักมวยผู้ล้มสามารถลุกขึ้นได้ก่อนที่กรรมการจะนับ ๑๐ และพร้อมที่จะชกต่อไปได้ กรรมการจะนับต่อไปจนถึง๘ เสียก่อนจึงให้ชกต่อ

         - ชนะเทคนิเกิลน็อกเอาต์ หมายถึง ทำให้คู่ต่อสู้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก และกรรมการผู้ชี้ขาดเห็นว่าไม่มีทางจะเอาชนะได้  หรือนักมวยคนใดไม่สามารถจะชกต่อไปได้อีกภายหลังที่ได้หยุดพักระหว่างยกแล้ว  หรือถ้านักมวยได้รับบาดเจ็บมีแผลฉกรรจ์  ผู้ชี้ขาดเห็นว่าถ้าชกต่อไปจะเป็นอันตรายร้ายแรง สำหรับกรณีนี้ กรรมการอาจปรึกษานายแพทย์สนาม

         การให้คะแนน  ยกหนึ่ง  ๆ  มี  ๑๐ คะแนน เมื่อหมดยกกรรมการจะให้คะแนนแก่นักมวยที่ชกดีกว่า ๑๐ คะแนน และให้คะแนนผู้เสียเปรียบลดน้อยไปตามลำดับความเสียเปรียบ  ถ้าชกได้สูสีกันให้คนละ ๑๐ คะแนน  นอกจากนั้นยังมีหลักเกณฑ์พอสรุปได้ดังนี้

         เมื่อกรรมการเตือนนักมวยคนใดที่ทำฟาวล์ ให้หักคะแนนผู้นั้น ๑ คะแนน โดยให้สัญญาณมือแก่กรรมการผู้ให้คะแนน