[luktan1479]

ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นเยี่ยมในส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนกรรมวิธีการผลิตและจัดการให้เป็นไปอย่างสบายและก็มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบสายส่งไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า ตู้เมนเบรกเกอร์ มอเตอร์ควบคุม หรืออุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติต่างๆล้วนจำเป็นต้องพึ่งพิงระบบกระแสไฟฟ้าสำหรับในการทำงานโดยตลอด ถ้าหากระบบเหล่านี้เกิดความขัดข้องเพียงจุดเดียว อาจทำให้เกิดผลเสียต่อทั้งยังสายการผลิต กระตุ้นให้เกิดการสูญเสียที่ประมาณคุณค่ามิได้ ทั้งในด้านของเวลา รายจ่าย แล้วก็ความเสียหายต่อเครื่องจักรหรือผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดแจงระบบไฟฟ้าอย่างมีคุณภาพก็เลยไม่ใช่เพียงแต่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ว่ายังเกี่ยวโยงกับความมั่นคงยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจในระยะยาวด้วย



เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> pm ระบบไฟฟ้า https://thermoscaninfrared.co.th/our-service/

การบำรุงรักษาเชิงคุ้มครอง หรือที่เรียกกันว่า PM ระบบกระแสไฟฟ้า (Preventive Maintenance) คือขั้นตอนสำรวจและดูแลระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้กำเนิดปัญหาหรือความเสียหายที่บางทีอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการผลิต การทำงานในรูปแบบนี้ช่วยทำให้สามารถตรวจพบสัญญาณความผิดปกติของระบบได้ก่อนจะแพร่กระจายเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนสะสมที่ขั้วสายไฟ ค่าแรงดันที่ไม่ปกติ การสลายตัวของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือการใช้งานเกินพิกัด การสำรวจด้วยตาเปล่าอาจน้อยเกินไปในยุคที่เทคโนโลยีและก็ลักษณะการทำงานของโรงงานมีความซับซ้อนและอยากได้ความแม่นยำสูง ด้วยเหตุนี้ การใช้เครื่องมือและก็แนวทางที่ทันสมัย ได้แก่ กล้องที่มีไว้ถ่ายภาพความร้อน การตรวจวัดค่าโหลดกระแสไฟฟ้า รวมทั้งการสำรวจระบบเกรียวกราวด์จึงเข้ามามีหน้าที่สำคัญ

หนึ่งในประโยชน์หลักของกระบวนการทำ PM ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม คือการลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ ซึ่งเกิดอันตรายเป็นอย่างมากต่อชีวิตรวมทั้งเงินทองของพนักงานแล้วก็องค์กร ระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้รับการพิจารณาอย่างสม่ำเสมออาจมีจุดสลายตัวที่ไม่อาจจะเห็นได้ แม้กระนั้นเมื่อกำเนิดความร้อนสูงจากไฟฟ้าที่ไหลไม่ดีเหมือนปกติ อาจก่อให้ฉนวนย่อยสลายและแปลงเป็นแหล่งไฟได้ทันที การบำรุงรักษาเชิงคุ้มครองปกป้องจึงเป็นการปิดช่องโหว่ของการเสี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆช่วยให้หน่วยงานสามารถคุมสถานการณ์ได้ก่อนจะเกิดความทรุดโทรม

อีกหนึ่งใจความสำคัญที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของการประหยัดพลังงาน ระบบกระแสไฟฟ้าที่ทำงานเปลี่ยนไปจากปกติหรือหมดสภาพชอบใช้พลังงานมากกว่าธรรมดา ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น การตรวจสอบรวมทั้งปรับตั้งระบบกระแสไฟฟ้าให้สมควรจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ลดการสูญเสีย แล้วก็ยังเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของการดำเนินการที่ยืนนานตามหนทางขององค์กรที่เอาใจใส่สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีสายการผลิตซับซ้อน การหยุดผลิตหากแม้เพียงแต่ไม่กี่ชั่วโมงก็อาจทำให้สูญเสียรายได้เป็นอันมาก ดังนั้นการวางเป้าหมาย PM ระบบกระแสไฟฟ้าอย่างระมัดระวังก็เลยเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้สามารถปฏิบัติงานได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงานสถานที่สำหรับทำงานตลอด 1 วัน การวางแผนทะนุบำรุงเวลาที่ไม่กระทบต่อการผลิตเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องปฏิบัติการร่วมกับผู้ที่มีความชำนาญที่มีความเข้าใจทั้งในด้านวิศวกรรมไฟฟ้าแล้วก็การจัดการขั้นตอนการผลิต เพื่อสามารถควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีคุณภาพและไม่กระทบต่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ

การปฏิบัติงาน PM ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมควรเริ่มต้นจากการวางเป้าหมายแล้วก็ทำตารางการตรวจทานอย่างชัดเจน โดยกำหนดตอนที่สมควรสำหรับแต่ละเครื่องไม้เครื่องมือ ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ตู้กระแสไฟฟ้าและเบรกเกอร์ทุก 6 เดือน การตรวจทานระบบสายดินปีละ 1 ครั้ง หรือการตรวจจับความร้อนของเครื่องใช้ไม้สอยสำคัญทุก 3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำพวกของโรงงาน ลักษณะการใช้งาน และสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ดำเนินการ ซึ่งผู้ที่มีความชำนาญด้านระบบกระแสไฟฟ้าจะสามารถประเมินและให้คำปรึกษาที่สมควรสำหรับแต่ละหน่วยงานได้

การเลือกบริษัทที่ให้บริการ PM ระบบไฟฟ้าอย่างมืออาชีพก็เลยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่สมควรมองข้าม ผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์รวมทั้งมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ล้ำสมัยจะสามารถตรวจวัด วิเคราะห์ และก็จัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ได้อย่างครบถ้วนและก็แม่น ทำให้ผู้บริหารสามารถตกลงใจเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องมือได้ทันตามเวลา นอกนั้น การจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังอย่างเป็นระบบยังช่วยทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของปัญหารวมทั้งคิดแผนบำรุงรักษาในระยะยาวได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น

สรุปได้ว่า ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมคือโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่อาจจะปล่อยปละละเลยได้ การดำเนินการตรวจดูและบำรุงรักษาอย่างเป็นระบบผ่านแนวทางการทำ PM ระบบไฟฟ้า เป็นหนทางสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาความปลอดภัย ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อการผลิต และก็ควบคุมเงินลงทุนพลังงานได้อย่างยั่งยืน การลงทุนในงานทำนุบำรุงเชิงปกป้องถึงแม้บางทีอาจดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายในระยะสั้น แต่ว่าถ้าหากพิจารณาถึงคุณประโยชน์ในระยะยาวแล้ว ย่อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ารวมทั้งเป็นการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับทุกโรงงานอุตสาหกรรมในยุคที่จำต้องแข่งขันด้วยประสิทธิภาพ ความเร็ว แล้วก็ความปลอดภัยอย่างแท้จริง



ขอขอบคุณบทความ บทความ ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม https://thermoscaninfrared.co.th/our-service/