• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำอย่างไรดี?

Started by luktan1479, April 03, 2022, 02:59:34 AM

Previous topic - Next topic

luktan1479

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?



เอาไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความหวาดกลัวถือเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ อาทิเช่น การกลัวการเจ็บปวด กลัวคนที่ไม่รู้จัก ความหวาดกลัวเหตุการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยประสบมาก่อน ซึ่งความหวาดกลัวจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตแค่นั้น โดย ความหวาดกลัวนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กอีกครั้งว่าเด็กนั้นก่อนหน้าที่ผ่านมาพ่อแม่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีต้นเหตุที่ทำให้เด็กกลัว ทันตแพทย์เด็กหรือกลัวการดูแลรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก อย่างเช่น ประสบการณ์การดูแลและรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในสมัยที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเด็กเข้าการดูแลและรักษาฟันตอนที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน และก็อาจจะเป็นผลให้เด็กทั้งเจ็บแล้วกลัวรวมทั้งฝังลึกในใจเลยนำไปสู่ความหวาดกลัว และอาจจะเป็นผลให้เด็กกลัวหมอที่สวมชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมต่างๆแล้วก็การฟังจากคำบอกเล่าจากญาติ ลูกพี่ลูกน้อง สหาย รวมทั้งเด็กบางทีก็อาจจะรับทราบได้จากพฤติกรรมบางอย่าง หรือจากสีหน้าที่มีความกังวลที่พ่อแม่แสดงออกมาโดยไม่รู้สึกตัว ฯลฯ

การจัดเตรียมลูก สำหรับในการมาเจอแพทย์ฟันหนแรก

ทันตกรรมเด็กกับการจัดเตรียมเด็กที่ดีนั้นมีผลเป็นอย่างมากต่อความประพฤติปฏิบัติของเด็กและการบรรลุเป้าหมายสำหรับการรักษา โดยเหตุนี้คุณพ่อและก็คุณแม่ควรต้องหลบหลีกคำกล่าวที่น่าสะพรึงกลัวหรือแสดงความไม่สาบายใจเกี่ยวกับทันตแพทย์เด็กที่ให้บริการทัตนกรรมเด็ก และไม่ควรใช้ทันตแพทย์หรือแนวทางการทำฟันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการข่มขู่ลูก ตัวอย่างเช่น "ถ้าไม่ยินยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งดวงใจแล้วก็กลัวทันตแพทย์เยอะขึ้น ดังนี้คุณพ่อและก็คุณแม่อาจช่วยส่งเสริมทัศนคติในทางบวกต่อวิธีการทำฟันให้แก่ลูก ดังเช่นว่า "คุณหมอจะช่วยให้หนูมีฟันงามแล้วก็แข็งแรง" ยิ่งกว่านั้นเมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรพาลูกมาทำฟันตั้งแต่เวลาที่ยังไม่มีลักษณะของการปวด ถ้าหากรอคอยให้มีลักษณะอาการปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความรู้สึกกังวลในการทำฟันมากยิ่งขึ้น

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว ถ้าลูกกลัวหมอฟัน ไม่ให้ความร่วมมือผู้ปกครองและก็หมอฟัน ควรทำเช่นไร

เด็กแต่ละคนที่มีความกลัวก็จะแสดงกริยาที่แตกต่างกันออกไป เด็กที่มีความกลัวและไม่ร่วมมือ จำเป็นมากที่ทันตแพทย์ควรต้องพินิจพิจารณาหาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบสำหรับเพื่อการพินิจเลือกใช้กระบวนการจัดการพฤติกรรม ซึ่งพ่อแม่จะมีส่วนช่วยอย่างใหญ่โตสำหรับการให้ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ ภายหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้แนวทางปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อให้เด็กให้ลดความหวาดกลัว ความกลุ้มอกกลุ้มใจ และยินยอมให้ความร่วมแรงร่วมมือสำหรับในการทำฟันเด็ก โดยวิธีที่ใช้เยอะที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการคุย ปลอบประโลม ชมเชย ผลักดันให้กำลังใจ การเอนเอียง ความพอใจ หรือการแยกผู้ดูแล ดังนี้ขึ้นอยู่อายุของเด็ก ระดับของความร่วมแรงร่วมใจ และก็ปริมาณงานหรือ ความรีบของการดูแลและรักษาด้วย อย่างเช่น ในเด็กเล็กต่ำลงมากยิ่งกว่า 3 ขวบ ที่ยังสนทนาสื่อสารกันไม่เข้าใจ หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมมืออย่างมาก หมอฟันก็อาจจะจำเป็นจะต้องขอใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากเพิ่มขึ้น หรือบางครั้งก็อาจจะพรีเซ็นท์ทางเลือกการดูแลและรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการสูดยาสลบให้แก่ผู้ดูแลเป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวทันตแพทย์เด็ก

สิ่งที่เหมาะสมที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวหมอฟันคือ การดูแลช่องปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือข้างในขวบปีแรก แล้วก็ตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็มักจะไม่กลัวทันตแพทย์ แต่ว่าเมื่อลูกมีฟันผุแล้วคุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่ก็ควรอดทนที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ แม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อทราบดีว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อลูกของคุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ก็ดีแล้วก็จะช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย